เมื่อตั้งใจลดน้ำหนัก ผลคือ...

2 17
เอ...กระทู้นี้ไม่รู้จะตั้งในหมวดไหนดี จะ How to, Review, หรือขี้เห่อกับน้ำหนักที่ลดลงดี สุดท้ายเพื่อความชัวร์ ลงเอยที่ นอกเรื่อง นี่ล่ะ


นอกเรื่องมานาน เริ่มเข้าเรื่องกันดีกว่า บอกไว้ตั้งแต่ต้นเลยนะคะ เราสูง 165 cm. โครงร่างค่อนข้างใหญ่ 

เรื่องลดน้ำหนักกับเรานี่ลองมา 108 ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยา, บอดีเชพ, สูตรลดอ้วนในเน็ต, ฟิตเนส ฯลฯ

ที่เห็นผลมากที่สุดคือช่วงที่เข้าฟิตเนสสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ เราเล่นที่ Fitness First ประมาณ 1 ปีได้ ไม่ได้ควบคุมเรื่องการกินอะไรมาก กินแค่พอดีๆ แต่ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่หุ่น Fit & Firm มากที่สุด น้ำหนักอยู่ที่ 55 Kg. ค่ะ

แต่นั่นก็ผ่านมาหลายปีมากแล้วค่ะ (เอ๊ะ...พูดอย่างนี้ดูแก่แฮะ)


สองปีที่แล้วน้ำหนักเราอยู่ที่ 58-59 Kg. ค่ะ ส่วนที่ดูอ้วนมากที่สุดคือมีพุง แต่ยังดีที่แขนและขาเล็กเสมอ แต่ว่าตั้งแต่นั้นเราก็มาเรียนอยู่ที่ญีปุ่นค่ะ เค้กและเบเกอรี่ของที่นี่อร่อยมาก นอกจากนั้นใกล้ๆ หอยังมีบุฟเฟต์เค้กในราคาที่ค่อนข้างถูกอีกต่างหาก เลยกินเอาๆ จนขึ้นมาเป็น 65 kg. ภายในเวลาเกือบๆ สองปีนี่ล่ะค่ะ


แต่สิ้นเดือนมี.ค.นี้จะเรียนจบและกลับบ้านกันสักทีต้องลดด่วนๆ ค่ะ มีเวลา 3 เดือน เราเริ่มต้นตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมาค่ะ อ๋อ...เกือบลืมก่อนหน้านี้ได้ลองพยามลดดูเหมือนกัน ลองไปซื้ออาหารเสริมของ DHC มากิน หมดเงินไปหลายทีเดียว แต่ก็ไม่เห็นผลอะไรเล๊ยยยยย เซ็งวุ้ย 
 มาคราวนี้เลยลดด้วยตัวเองนี่ล่ะ

สัดส่วนตอนวันปีใหม่ที่วัดเอาไว้นะคะคือ

สูง 165 cm.
หนัก 65 kg.
รอบเอว 77 cm.
รอบสะโพก 96 cm.

วิธีของเราคือ
  1. ตื่นให้เช้าขึ้นเพื่อที่จะมาทำข้าวเช้ากินทุกเช้า ข้าวเช้าเราจะเป็นมื้อที่หนักที่สุดและจะต้องครบหมู่ให้ได้มากที่สุด เช่น สปาเก็ตตี้ ข้าวราดแกง ข้าวต้ม ฯลฯ กินอะไรก็ได้ที่คิดว่าจะไม่ทำให้เราหิวไปจนกว่าจะเที่ยงน่ะค่ะ ก่อนมื้อเที่ยงประมาณครึ่งชม. เราจะกินน้ำแก้วใหญ่ๆ ประมาณ 2 แก้ว แล้วมื้อเที่ยงเราจะกินเพียงครึ่งเดียวของมื้อเช้า ไม่กำหนดอีกเหมือนกันว่าจะเป็นอะไร ขอเพียงแค่กินแล้วไม่ได้น้อยไปที่จะไปทำอะไรต่อตอนบ่ายๆ ไม่ไหว ให้หยุดกินก่อนที่เราจะรู้สึกอิ่มค่ะ ให้เหลือท้องไว้กินน้ำตามได้อีกแก้วนึงได้โดยที่เราไม่รู้สึกอิ่มเกินไปหรือว่าจุกนะคะ ส่วนมื้อเย็นเราจะทานให้เสร็จก่อน 6 โมงเย็นค่ะ หรือถ้าช้าที่สุดคือ 1 ทุ่ม มื้อเย็นนี่เราจะกินเป็นสลัด, ผลไม้หรือไม่ก็โยเกิร์ต 1 ถ้วย เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งสลับๆ กันไปในแต่ละวันจะได้ไม่เบื่อนะ
  2. ระหว่างมื้ออาหารแต่ละมื้อถ้าหิวกินน้ำค่ะ โดยเฉลี่ยแล้ววันนึงเราจะกินน้ำประมาณ 3 ลิตรกว่าๆ
  3. โดยปกติแล้วเราไม่กินน้ำอัดลมและพวกน้ำรถเข็น (น้ำรถเข็นคือพวก กาแฟเย็น, นมเย็น, ชาเย็น ฯลฯ) ถ้ากินเราก็จะชงชากินไปเลยโดยไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มค่ะ แต่ถ้ากินกาแฟเรากินกาแฟใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล)
  4. ตลอดช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เรายังคงไปกินบุฟเฟต์กับเพื่อนอยู่ค่ะ มีไปกินบุฟเฟต์เค้ก 1 ครั้ง (กินเค้กไปทั้งหมด 4 ชิ้นตอนประมาณบ่าย3 ก่อนหน้าที่จะลดน้ำหนักเรากินครั้งละ 8 ชิ้นค่ะ
) กินบุฟเฟต์เนื้อย่างอีก 2 หน (ประมาณบ่าย2) และมีซื้อไอติมกินบ้างในบางวันและมีอีกวันที่อยากกินเค้กเลยซื้อมากินเป็นมื้อเช้าไปเลย (เช้าวันนั้นกินเค้กไป 2 ชิ้น) เราเป็นคนชอบกินของหวานโดยเฉพาะช่วงใกล้ๆ ที่ประจำเดือนจะมาจะยิ่งอยากกินค่ะ เพราะงั้นจะให้เรางดขนมไปเลยคงไม่ได้ ขาดใจตายไปก่อน เราเลยใช้วิธีว่าถ้าวันนี้กินเยอะ วันรุ่งขึ้นต้องออกกำลังกายให้เยอะขึ้นค่ะ หรือเปลี่ยนจากที่ซื้อเค้กมากินเป็นขนมมื้อเย็นก็เปลี่ยนเอามากินเป็นข้าวเช้าไปเลย อย่างน้อยๆ ทั้งวันเราก็ใช้พลังงานหมดไป และถ้าบ่ายวันไหนกินบุฟเฟต์ มื้อเย็นของวันนั้นจะงดไปเลยค่ะ แบบว่าจุกอ่ะ
  • เราออกกำลังกายให้เยอะที่สุดที่จะทำได้ค่ะ เริ่มด้วยเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินไปซื้อของแทนการนั่งรถและขี่จักรยาน (อยู่ญี่ปุ่นขี่จักรยานเอาค่ะ ประหยัดค่ารถ) เดินช็อปปิ้งอัพเดทข่าวสาร(เป็นอะไรที่เพลินมาก) วิ่งจ๊อกกิ้ง 4 ครั้งต่ออาทิตย์ (ไม่ได้จับเวลานะคะ เราใช้นับจำนวนเพลงเอา อย่างน้อยที่สุดสำหรับวันที่ขี้เกียจคือ 4 เพลงค่ะ) และเต้นแอรโรบิค 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ สุดท้ายคือซิทอัพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำไหวค่ะ
  • นอนให้เร็วขึ้น เราเปลี่ยนมาเข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม เพื่อที่จะได้ไม่หิว ยิ่งอยู่ดึกนานๆ ก็ยิ่งหิวนะคะ กินก่อนนอนก็ยิ่งอ้วน รีบๆ นอนแล้วตอนเช้าค่อยตื่นมากินจะดีกว่า แถมเข้านอนเร็วก็จะทำให้ไม่แก่ด้วย จะมีคืนที่นอนดึกคือวันที่กินบุฟเฟต์ค่ะ นอนเร็วแล้วอึดอัด รอให้มันย่อยๆ ไปให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อน
  • ชั่งน้ำหนักแค่วันที่เรามั่นใจหรือไม่ก็กำหนดไว้เลยว่าเราจะชั่งวันไหนค่ะ ไม่ต้องชั่งทุกวัน ชั่งทุกวันแล้วนอยด์ว่าทำไมไม่ลด แล้วก็ไม่ชั่งในวันที่ถัดจากวันที่กินเยอะๆ ด้วยนะคะ อ๋อ...ไม่ชั่งช่วงที่ใกล้ๆ และกำลังมีประจำเดือนค่ะ ช่วงมีประจำเดือนนี่เรางดทุกสิ่งค่ะ ไม่ออกกำลังกายด้วย ให้ร่างกายพักหน่อย
  • ผลลัพท์ที่ได้จากการที่พยามทำมาทั้งหมดตลอด 1 เดือนคือ

    สูง 165 cm.
    หนัก 62 kg. ลดลง 3 kg.
    รอบเอว 75 cm. ลดลง 2 cm.
    รอบสะโพก 94 cm. ลดลง 2 cm.

    ตอนนี้น้ำหนักคงที่อยู่ที่ 62 kg. มา 1 อาทิตย์ค่ะ จริงๆ แล้วตั้งเป้าไว้ว่าเดือนนี้จะทำให้ได้ 60-61 kg. แต่ได้เท่าดีก็ดีใจมากแล้วค่ะ เดือนหน้าอยากได้ประมาณ 58 kg. จะพยามๆ นะคะ
     อ๋อ...เป้าหมายของเราอีกอย่างคือเอวเหลือ 70 cm. ค่ะ ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ฮาๆๆ พอดีเสื้อผ้าไซส์ใหญ่สุดที่จะหาได้ง่ายๆ ที่ญี่ปุ่นมันขนาดเอว 70 cm. น่ะ เลยอยากใส่ได้แบบนั้นบ้าง จะได้ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าคนอ้วนมาใส่

    เขียนเท่าที่คิดออกไว้แล้วนะคะ แต่ใครมีข้อสงสัยอะไรถามได้ค่า..เดี๋ยวมาตอบให้นะจ๊ะ




    anbrosia

    anbrosia

    อีกแค่สองเดือนก็จะลาจากญี่ปุ่นแล้ว อยากไปทะเลจังน๊า...

    FULL PROFILE