【Review】ประสบการณ์เสริมจมูก@สมชายคลีนิค

หลังจากเคยเข้ามาตั้งกระทู้ในหัวข้อ  ====>
เสริมจมูก VS จัดฟัน >>ทำพร้อมกันได้มั้ย??  https://www.jeban.com/viewtopic.php?t=70363
เสียงส่วนใหญ่บอกว่าแนะนำให้จัดฟันเสร็จก่อนค่อยเสริมจมูกจะดีกว่า...ทำพร้อมกันเสี่ยงต่อการจมูกเบี้ยว
ลังเลอยู่พักนึงในที่สุดก็ตัดสินใจเสี่ยงค่ะ (ความอยากบังตา...555++)


ก่อนตัดสินใจทำก็นั่งหาข้อมูลมาเป็นปีๆเลยล่ะ
ดูพวก Review เสริมจมูกของหมอต่างๆมาเยอะก็ไปถูกใจอยู่ 2 ที่คือ "หมอคมกริช" และ "หมอบุญถิ่น
แต่พอตัดสินใจได้ว่าจะทำ....โทรไปจองคิวปรากฎว่าคิวยาวเกือบ 2 เดือนทั้ง 2 ท่านเลยล่ะ
อารมณ์คนมันอยากจะอัพสวยมันรอได้ที่ไหนกันล่ะ
เลยตัดสินใจทำที่ "สมชายคลีนิค" ใกล้บ้าน....ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าเห็นคนนั่งรอเยอะดี

ดูรูป Before ก่อนเสริมดั้ง + ยังไม่จัดฟันจะเห็นว่าไม่มีดั้งเลย....หน้าก็กลมเป็นซาลาเปา
เพิ่งจัดฟันได้ 7 เดือน ก็ไปเสริมดั้งต่อเลย


ทุกอย่างมันเป็นไปแบบรวดเร็วมาก...ตัดสินใจได้ก็โทรไปจองคิวคืนนั้นเลย (คลีนิคเค้าเปิดกลางคืน)
พนักงานก็นัดไปตรวจเลือดวันรุ่งขึ้น....จ่าย ค่าตรวจเลือดไป 300 บาท + ค่ามัดจำ 1000
1 อาทิตย์ต่อมาก็ได้มาขึ้นเขียงสมใจซักที
ได้คิวตอนตี 2....ไปถึงคลีนิคพนักงานเค้าจะให้กินยาประเภทแก้อักเสบเป็นกำ
จ่ายค่าเสียหายที่เหลืออีก 9000 บาท แล้วก็นั่งรอคิว
รอ~รอ~รอ....ช่วงที่รอมันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก (มีแอบถอดใจอยากหนีกลับบ้านด้วย)
และแล้วก็ได้ขึ้นเขียง เอ๊ย!! ขึ้นเตียงนอนรอหมอตอนประมาณตี 5
เป็นการศัลยกรรมที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเพราะไม่ได้ปรึกษาและตกลงทำความเข้าใจกับหมอมาก่อน
รูปดาราเกาหลีที่ถือไปเยอะแยะก็ไม่ได้เอาออกมาโชว์หมอเลย


เพราะเดินเข้าห้องปุ๊บ พนักงานบอกให้ขึ้นเตียง เช็ดทำความสะอาดจมูกแบบสุดๆ แล้วก็ฉีดยาชาเลย (ที่นี่ไม่ใช้ยาสลบ)
จิ้มจึ๊กๆ อยู่หลายที มันเจ็บจี๊ดๆจนน้ำตาไหลเลยแหละ....เข็ดแล้วค่า ไม่เอาอีก
พอ "หมอนก" เดินเข้ามายาชาเริ่มออกฤทธิ์...สรุปเลยไม่ได้ตกลงกะหมอเลย เฮ้อออออ (>_<")
หมอเห็นหน้าซีดๆเลยปลอบใจว่า "ไม่ต้องกลัวค่ะ ไม่เจ็บเลย แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว"
พอหมอพิจารณาดูหน้าเราเท่านั้นล่ะ หับไปบอกพี่ผู้ช่วยว่า...."ขอรุ่นโด่งพิเศษเลยนะ"
แอบฮาอ่ะ.....หมอคงเห็นเราดั้งแบนสนิทอ่ะ 55555+++
เราเลยรีบยกมือห้ามหมอพร้อมพูดอู้ๆอี้ๆแบบไม่ชัดว่า "ขอโด่งธรรมชาติก็พอค่ะ" คุณหมอเค้าก็โอเค
แล้วก็เริ่มลงมือกรีดที่ปลายจมูก....ตอนนี้แหละที่เริ่มเจ็บจี๊ดๆอีกละ....พอๆกะตอนฉีดยาชามั้ง
แล้วหมอเค้าก็เอาซิลิโคนมายัดๆๆ แล้วก็ขยับๆๆให้มันพอดี
จากนั้นก็เย็บๆๆ เสียง กึดๆๆ....ตอนเย็บนี่สยองน้อยกว่าตาม Review ที่เราเคยอ่านในเน็ต (ค่อยยังชั่ว)
ตอนทำนี่ยาชาแอบซึมมาปนกับน้ำลาย...ขมได้ใจจริงๆ
แป๊บเดียวเสร็จค่ะ ซัก 10 นาทีได้มั้ง


กลับบ้านปุ๊บรีบไรนิดหน่อยแล้วก็กินยาแก้บวมน้ำตามที่หมอกำชับมา
แล้วก็เอาหมอนมาซ้อนกันหลายๆใบ นั่งหลับไปจนบ่ายถึงได้ตื่นมากินยาอีกรอบ
ลางานได้ 5 วันเอง....คิดๆอยู่ว่ามันจะหายบวมทันรึป่าว
สภาพหน้าตาช่วงนี้นดูไม่ได้เลย....หน้าตาบวมเป็นสิงโต....แอบช้ำใต้ตานิดๆแต่ไม่น่ากลัวเท่าที่เคยเห็นในเน็ต
ล้างหน้าก็ไม่ได้เพราะกลัวแผลจะโดนน้ำ...ต้องเอาน้ำอุ่น + โทนเน่อร์เช็ดๆเอา
จะหลับจะนอนก็ต้องนั่งหลับตลอด กลัวจมูกจะเบี้ยว....อาหารการกินก็ต้องระวังสุดๆ
เล่นเอาน้ำหนักลดไปเลยเพราะกินไรไม่ค่อยได้ อ้าปากก็ไม่ค่อยถนัด มันตึงๆ
7 วันก็ได้กำหนดตัดไหม...พี่ผู้ช่วยหมอชมว่าดูแลแผลดีมาก...แผลแห้งเร็วดี
ตัดไหมแล้วโล่งสุดๆเลยล่ะ

นี่คือสภาพ 1 อาทิตย์หลังตัดไหม
จะเห็นว่ายังบวมๆทู่ๆยังไงแปลกๆ...ยังไม่ชินกับหน้าตัวเองเลย
บางเสียงบอกว่าไม่โด่งเลย...บางเสียงบอกว่ามีดั้งนิดๆแบบนี้ดีแล้ว

สภาพหลังตัดไหม 2 อาทิตย์...เริ่มยุบแล้ว
ดั้งเหลืออยู่หน่อยนึง 5555+++

ปัจจุบันทำจมูกมาประมาณ 9 เดือน + จัดฟันปีกว่าแล้วค่ะ
ยุบลงๆๆๆๆ ....เหลือเท่าที่เห็น
หลายๆเสียงบอกว่าธรรมชาติดี....ไม่โด่งเว่อร์
แต่เราแอบๆคิดอยู่ว่าอยากไปตัดปีกอ่ะ....รูจมูกใหญ่ไป 5555++
ตรงปลายจมูกมันก็สั้นๆไปหน่อย....ได้แค่คิดแต่คงไม่ไปแก้....ไม่อยากเจ็บตัวหลายรอบ
ฝากไว้เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวๆที่กำลังหาข้อมูลในการทำจมูกนะคะ

^_________^