ศึกล้างตา cleansing water ตัวไหนเริ่ดสุด ฮูเล่!

38 26

ฮัลโหลสาวๆ วันนี้เป็นวันว่างๆของเราอ่านะคะ นาน นานนนน จะว่างสักที

ส่วนรีวิวนี้เราก็ทำ สต็อก เก็บไว้นานมากๆ แล้ว คือ...วันนี้เราจะมารีวิวประเดิมศึกล้างตากัน จริงๆก็ศึกล้างหน้านั่นแหละ ช่วงนี้เราเห็นว่า cleansing water ออกใหม่หลายแบรนด์มากๆ อีกอย่างเราเองก็กำลังอินกับคลีนซิ่งวอเตอร์อยู่ สอยมาหลายแบรนด์มาก ออกแนวชอบลอง ซึ่งตอนนี้ที่เรามีอยู่ มีทั้งหมด 6 แบรนด์ด้วยกัน เลยคิดว่ามันน่าจะสนุกนะถ้าเอามาเปรียบเทียบกันไปเลยว่าอันไหนเวริค์ (ในความรู้สึกของเรามากที่สุด)

มาดูดีกว่าว่าทั้งหมด 6 แบรนด์มีอะไรบ้าง

Biore

Bifesta

Nivea

Dermaction

Pure vivi

Biodermat

เราไม่ขอลงดีเทลตัวโปรดักส์เยอะแล้วกันเนอะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

คู่แรก Biore VS Bifesta

Biore product claim: Cleansing Water ที่มีคุณค่าจากน้ำแร่ธรรมชาติ อ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว เช็ดเมคอัพได้สะอาดหมดจดโดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ ด้วย Watery Micelle Technology ช่วยกระชับผิวด้วยคุณค่าของ Witch Hazel พร้อมผสานคุณค่าบำรุงผิวให้เนียนนุ่มกระจ่างใส ด้วย Collagen และ ผ่านการทดสอบการแพ้จากผู้เชี่ยวชาญ

Bifesta product claim : ลบเมคอัพสะอาดหมดจด อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื่นกับผิว ไม่เหนี่ยวเนอะหนะOil-free ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสารกันเสียชนิด parabenเหมาะกับผิวแพ้ง่าย

ที่นี้วิธีเปรียบเทียบ เราจะขอเปรียบเทียบไปทีละส่วนเนอะ ตา แก้ม ปาก แล้วก็ทั้งหน้า

บอกก่อนเลยว่า รีวิวนี้ไม่ได้ทำภายในวันเดียวนะจ้ะ ก็เค้ามีแค่หนึ่งหน้า กะสองตาอ่ะ เลยต้องทำสต็อกไว้ 3 วัน แล้วก็แต่งหน้าแบบเดียวกัน ใช้เครื่องสำอางเซ็ตเดียวกันทั้ง 3 วัน

อันนี้เป็นลุคที่แต่งทั้ง 3 วันจ้า

ส่วนด้านล่างนี้เป็นเครื่องสำอางที่ใช้แต่งทั้ง 3 วัน ส่วนใหญ่เราจะเน้นใช้เมคอัพที่ติดทน เพื่อให้มันอยู่ยันเย็น เพราะว่าเราเป็นคนหน้าค่อนข้างมัน

คู่แรกเริ่ม...เช็ดกันที่ละส่วน ....ปั๊ปกันในปริมาณที่เท่ากัน ประมาณ 1-2 ปั๊ม ต่อหนึ่งสำลี แล้วทิ้งไว้ที่ตานับ 1 – 5 เท่ากัน

แล้วก็เช็ดออกมาป๊าดดด

ซ้าย : Biore cleansing water/ ขวา : Bifesta

จากสำลี เราว่าบิโอเร เอาเมคอัพตาออกได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดนะ สำลีดำเชียว มาดูที่ตากันบ้างดีกว่า

ซ้าย : Biore cleansing water/ ขวา : Bifesta

ส่วนตัวเราว่า Biore โอเคเลย เอาอายไลน์เนอร์ แล้วก็เอามาสคาร่าออกได้เกือบหมดใน 1 ที ในขณะที่ Bifesta ยังเหลือคราบ อายไลน์เนอร์ และมาสคาร่าอยู่พอสมควร อีกอย่างคือพอเราเอา Bifesta มาเช็ดตาต่อเราแอบรู้สึกแสบตาเช็ดต่อไม่ได้จริงๆ ส่วน Biore เราเช็ดต่อได้นะไม่รู้สึกแสบตาหรืออะไร แล้วก็เอาออกจนหมด

ที่นี้มาต่อกันที่แก้ม กับ ปาก กันบ้างว่า ใน ปั้มออกมาปริมาณที่เท่ากันเช่นเดิม ปาด 1 ที จะออกมากน้อยแค่ไหน

แก้ม

ปาก

แผ่นสุดท้ายเช็ดทั้งหน้า กดมาอย่างละ 2 ปั๊ม อิ๊ววววว สำลีไม่เยินมาก

ไหนๆมาดูหน้ากันสิ เกลี้ยงแค่ไหนนนน

ความรู้สึกส่วนตัว :

Biore จะเหนอะน้อยกว่า และที่สำคัญคือ ไม่แสบตา และที่เราชอบอีกอย่าง คือ สามารถเช็ดพวกมาสคาร่า และก็อายไลน์เนอร์ออกได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว และก็เอาออกได้ค่อนข้างดี ไม่ต้องออกแรงเช็ดมาก

Bifesta เราว่าของเค้าก็ดีนะ แต่เราติดที่ว่าใช้เช็ดตาไม่น่าจะเวริค์เพราะว่า เราใช้แล้วเราแสบ และก็หลังเช็ดแล้วเราแอบรู้สึกมันเหนอะๆนิดนึง อาจเพราะเราใช้สูตรมอยส์ด้วย แต่ว่าเราเองก็เคยใช้สูตรอื่นๆนะ เราว่า bifesta moist เอาเครื่องสำอางออกดีสุด ไม่ต้องออกแรงเช็ดมาก ยกเว้นถ้าจะเช็ดตา มันออกอยู่ แต่ไม่หมด แต่ถ้าเมื่อเทียบกะ biore แล้ว เราชอบ biore มากกว่า

มาต่อกันที่คู่ที่ 2 Nivea VS Dermaction

Nivea product claim: …. เมคอัพรีมูฟเวอร์สูตรน้ำ ที่ช่วยสลายสิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางจากเมคอัพจัดหนัก ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเองและอุดตัน 5 ชนิด (สีสังเคราะห์ น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน) แตกต่างด้วยเทคโนโลยี Micellar นวัตกรรมของนีเวีย ที่ทำความสะอาดแม้คราบเมคอัพจัดหนักโดยไม่ทิ้งคราบ

Dermaction product claim: …. คลีนซิ่ง ที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาได้อย่างง่ายดาย สะอาดหมดจด โดยไม่ต้องล้างออก ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า พร้อมบำรุงผิวให้แลดูสุขภาพดียิ่งขึ้น สารสกัดแบล็คทีอุดมด้วยสารโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ตามธรรมชาติ และไฮยาลูโรนิคแอซิด ซึ่งช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า

จากสำลี จะเห็นได้ว่า Dermaction เอาเครื่องสำอางออกมาได้มากกว่า Nivea (อันนี้เป็นการเช็ดหนึ่งครั้งนะ)

ซ้าย : Nivea/ ขวา : Dermaction

ส่วนตัวเราคิดว่า Dermaction ทำได้ดีกว่านะ ค่อนข้างที่จะเกลี้ยงกว่า Nivea แต่ว่าทั้งคู่ก็ยังเหลือคราบอายแชโดว์ใต้ตาอยู่ แล้วก็เหลืออายไลน์เนอร์ที่หางตาอีกเล็กน้อย แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่า Dermaction สามารถเอาเมคอัพออกได้ดีกว่า Nivea อยู่นิดนึง

มาต่อกันที่แก้ม กับ ปากเหมือนเดิมฮับว่า ใน 1 เช็ด แบรนด์ไหนที่เอาออกได้มากกว่ากัน

แก้ม

ปาก

แผ่นสุดท้ายเช็ดทั้งหน้า กด และเท ออกมาคนละ 2 ปั๊ม สำลีฝั่ง Nivea สภาพเยินมากๆ ฮ่าๆๆ

มาดูที่หน้ากันดีกว่า

ความรู้สึกส่วนตัว :

Nivea เราว่าพอใช้ได้นะ แต่ถ้าเป็นไปได้เราคงไม่ซื้ออีก แฮ่...เช็ดหน้าได้เกลี้ยงอยู่ แต่เอาจริงๆเราก็ต้องแอบถูพอสมควร ส่วนเช็ดตาไม่ต้องพูดถึง เราต้องขยี้พอตัว และก็แอบแสบตานิดๆด้วย ถ้าดูในรูปข้างบนก็จะเห็นนะว่าขอบตาล่างยังเหลือคราบอายแชโดว์ และ มาสคาร่า อยู่พอสมควรเลย

Dermaction อันนี้เราว่าดีกว่า Nivea นิดนึง สะดวกตรงที่หัวปั๊ม แล้วก็ไม่ต้องออกแรงเช็ดเยอะเท่า Nivea แต่ในส่วนเมคอัพตา ก็พอๆกัน ยังเหลือคราบอายแชโดว์ใต้ตาอยู่แต่ก็ไม่เยอะเท่า Nivea

มาต่อกันที่คู่ที่ 3 Bioderma และ pure Vivi

Pure Vivi product claim : …. Purevivi Cleansing Lotion โลชั่นเช็ดเครื่องสำอางสูตรอ่อนโยน

Bioderma product claim : ...ทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน ขจัดน้ำมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง Non-comedogenic ไม่ทำให้อุดตันเหมาะกับผิวผสม – ผิวมัน หรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย ผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้างในสูตรนี้จะมีส่วนผสมของธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องการคุมต่อมไขมัน

เช็ดตาหนึ่งครั้ง จะเห็นได้ว่า Pure Vivi สามารถเอามาสคาร่า ออกมาได้ด้วย แต่ว่า Bioderma ออกมาแต่อายแชโดว์

ซ้าย : Pure Vivi/ ขวา : Bioderma

ส่วนตัวเราคิดว่า Pure Vivi โอเคกว่า Bioderma นะ แม้ว่าจะไม่เกลี้ยงทั้งคู่ แต่อย่างน้อย Pure Vivi ก็ยังเอามาสคาร่า กับอายไลน์เนอร์ออกมาได้บ้างส่วน แต่ว่า Bioderma ยังเห็นอายไลน์เนอร์เค้าอยู่เลยยยย

มาต่อกันที่แก้ม กับ ปากเหมือนเดิมฮับว่า ใน 1 เช็ด แบรนด์ไหนที่เอาออกได้มากกว่ากัน

แก้ม

ปาก

เช็ดทั้งหน้า เทออกมาคนละ 2 ครั้งเท่ากัน สภาพสำลีดูไม่ได้อย่างแรง เยินเชียว

มาดูที่หน้ากันบ้าง

ความรู้สึกส่วนตัว :

Pure Vivi เราโอเคนะ แต่ที่ไม่ชอบเลยคือ มันต้องเท คือมันแอบเลอะเทอะ แล้วแถมบางทีมันคุมปริมาณการเทลำบากอ่ะ เช็ดหน้าได้ดี พอเอาเครื่องสำอางที่ตาออกได้บ้าง แต่ยังไงก็ยังมีคราบมาสคาร่าเหลืออยู่ดี กะคราบใต้ตา แต่ก็แอบต้องออกแรงเช็ดอยู่เหมือนกันนะถึงจะออก ก็แอบแสบตาเล็กน้อย

Bioderma อันนี้เราโอเคสำหรับเช็คหน้าเหมือนกัน และที่ไม่ชอบมากๆก็คือ ต้องเทเนี่ยแหละ ใช้เช็ดตาได้ แต่อาจจะต้องออกแรงถูนิดนึงถึงจะออก แต่มันก็ยังไม่ค่อยหมด ยังเหลืองคราบมาสคาร่าอีกอยู่ดี

เรามาสรุปกันเลยดีกว่า ว่าทั้งหมด 6 แบรนด์นั้นเป็นอย่างไร เริ่มจากตากันก่อนเลยเนอะ

ป.ล. แสงอาจจะเพี้ยนๆไปบ้างนะคะ เพราะว่าถ่ายกันคนละวันอ่ะ เซ็ตแสงไม่เคยเท่ากัน วันที่ 2-3 เค้าลืมปรับ white balance กล้อง แฮ่

ผลสรุปความพอใจของแต่ละแบรนด์ โดยเปรียบเทียบเป็น เต็ม 5 ให้กี่คะแนน โดยเรียบตามความพอใจจากมากไปน้อย

Biore เต็ม 5 : ตัวนี้เราชอบที่มันไม่แสบตาเลย ซึ่งส่วนตัวเราเป็นคนชอบคลีนซิ่งที่ ขวดเดียวจบ ไม่ต้องต่อขวดอื่นๆต่อ แล้วมันตอบโจทย์เราตรงที่บางครั้งเรากลับบ้านเหนื่อยๆ ตัวนี้ ตัวเดียวเอาอยู่ขวดเดียวจบ เพราะว่าไม่มันเหนอะหน้าหลังเช็ดด้วย เลยชอบมาก หาซื้อไม่ยาก แต่แค่ไม่มีรีฟิว

Bifesta 4.5 : ตัวนี้เราชอบที่เช็ดได้เกลี้ยง พอกันกับ บิโอเร นั่นแหละ ติดที่ว่ามันใช้เช็ดตาไม่เวริค์ คือเอาเมคอัพตาออกได้อยู่ แม้ว่าจะไม่หมด แต่คือมันแสบตา เช็ดต่อกันไม่ไหวหรอกจริงๆ แต่อันนี้ดีตรงมี รีฟิว

Bioderma 4 : ตัวนี้เราว่ามันเช็ดผิวหน้าได้เกลี้ยงดี แม้ว่าจะด้อยในเครื่องเมคอัพตรงบริเวณตา พวกมาสคาร่า เอาไม่ค่อยออก ต้องออกแรงถูอยู่พอตัว ที่ไม่โอเลยคือราคา แพงไปนะเราว่า

Pure Vivi 4 : ตัวนี้จริงๆก็ดี แต่เราว่ามันแอบเช็ดไม่สะอาดนิดนึง ตรงบริเวณซอกจมูกอ่ะ อาจจะต้องเป็นขวดต้องเท มันทำให้กะปริมาณที่พอดีในการเช็ดยาก เทออกมาเยอะแฉะไป เวลาเช็ดก็เป็นคราบ เทมาน้อย ไม่พอเช็ดอีก ส่วนเมคอัพตา ก็คล้ายใบโอเดอร์มา คือเอามาสคาร่าไม่ค่อยออก ต้องถูพอสมควร

Dermaction 3.5 : เช็ดหน้าได้โอเคค่ะ แต่ว่าตรงตาไม่โอเคเท่าไหร่ ไม่ค่อยออก เหลือคราบ แล้วที่สำคัญคือเราแสบตาอ่ะ ส่วนตรงบริเวณอื่นๆ แก้ม หรือปากเอาออกได้ใช้ได้ค่ะ

Nivea 3 : อันนี้คือ เราว่ามันก็ออกนะ แต่ต้องออกแรงถูพอสมควร ส่วนเรื่องเมคอัพตาอันนี้ไม่ต้องพูดถึง เหลือคราบมาสคาร่า บานค่ะ คือมันเอาไม่ค่อยออกเลยจริงๆ แถมยังเหลือคราบใต้ตาอีกด้วย

จบแล้วจ้า.....หวังว่าคงจะมีประโยชน์สำหรับสาวๆกันนะจ้ะ สำหรับใครที่ love cleansing water แบบเรา

ป.ล. ทั้งหมดนี้คือความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วยจ้า

ไปละ xoxo บายยยย เจอกันรีวิวหน้าฮับ


Chidsom

Chidsom

คลั่งเมคอัพ
ชอบแต่งหน้า

FULL PROFILE