{Mini Review & Haul} เห่อรวบยอด ของขวัญ 4 ชิ้นจากจีบัน Biore, Olay, Liese, Virgo

5 2

สวัสดีค่า หนุ่มสาวชาวจีบันทุกคน

แนะนำตัวกันก่อนเนอะ ชื่อ แนน นะคะ อายุ 19 ปี

วันนี้ก็ตามชื่อกระทู้เลย จะมาเห่อ และรีวิวเครื่องสำอาง ฯ ที่ได้มาจากจีบันในช่วงปีนี้

ไม่ได้ทำกระทู้แยกตอนที่ได้มาแต่ละชิ้น วันนี้เลยเอามารวมเป็นกระทู้เดียวไปเลยยยย :D

สภาพผิว : ผิวผสม มันมากช่วงจมูก หน้าผากและคางมันเล็กน้อย

ผิวมักแห้งลอกบริเวณจมูกและคาง

ผิวหน้าไม่ค่อยมีปัญหา ไม่มีรอยแผลเป็นอะไรมากมาย

แต่สีผิวไม่สม่ำเสมอ บริเวณหน้าผากจะคล้ำกว่าส่วนอื่นของหน้า

สีผิวค่อนข้างขาวเหลือง เหงื่อออกง่าย

นานๆทีสิวจะขึ้น และไม่ค่อยแพ้ผลิตภัณฑ์อะไรเท่าไหร่ค่ะ

PS.กระทู้ยาวนิดนึง รูปเยอะหน่อยนะคะ

(รูปทั้งหมดถ่ายจากกล้องหลัง iPhone6 ไม่มีการปรับสีใดๆทั้งสิ้น ใช้แสงจากหน้าต่างและแสงไฟห้องสีขาวค่ะ)

เวลาได้ของขวัญจากจีบันก็จะมาในกล่องแบบนี้ และมีการ์ดน่ารักๆแบบนี้ค่ะ

รูปรวมของทั้งหมดสี่ชิ้นที่ได้มาค่า

Olay White Radiance CC Cover & Correct Cream SPF 15 UVA/UVB

ขนาด : 50 ML

สีที่ใช้ : Light (มี 2 สี คือ Light กับ Medium)

กลิ่น : ตามแบบฉบับของ Olay เลยค่ะ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ส่วนตัวเราไม่ชอบเท่าไหร่ ไม่เหม็น ไม่หอมค่ะ

คำเคลม : ผลิตภัณฑ์รองพื้นและบำรุงผิวหน้าผสมสารป้องกันแสงแดด

โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ คัฟเวอร์ แอนด์ คอร์เร็ค ครีม ไม่เพียงให้คุณแลดูสวยอย่างไร้ที่ติ

แต่ยังซึมซาบสู่ภายในผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดีขึ้น เพื่อให้ผิวยังคงแลดูสวยเมื่อเวลาผ่านไป

(จากเว็บไซต์ www.olay.co.th)

แพคเกจ : ขวดพลาสติกใส ค่อนข้างแข็งแรง มีหัวปั๊ม เนื้อ CC Cream จะเป็น whirl สวยงามรวมอยู่กับส่วนที่เป็นครีมบำรุง

ราคา : 1350 บาท (แต่อะไรเอ่ย ได้มาฟรีจากจีบันค่า ><)

ความรู้สึกหลังใช้ : เวลากดออกมาจากขวดเนื้อมันก็จะผสมกันออกมาเลย สีที่เราได้มาคือสี Light แต่คิดว่าก็ยังค่อนข้างเข้ม และออกโทนชมพู แต่ไม่มีผลอะไรมากนะคะเพราะสีมันไม่ได้ pigmented ขนาดนั้น เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย แต่ก็ต้องใช้เวลานิดนึงกว่าที่มันจะเนียนไปกับผิว เกลี่ยไม่ดีอาจเป็นคราบได้ค่ะ ทาแล้ว หน้าจะรู้สึกเหนอะๆ แต่ก็รู้สึกชุ่มชื้นอยู่เหมือนกัน คนหน้ามันควรต้องลงแป้งทับอีกครั้ง ไม่ได้ช่วยเรื่องปรับสีผิว SPF ที่ใส่มาก็ค่อนข้างน้อยอยู่น้า แต่ดีที่ป้องกันรังสี UVB ได้ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนมากยังไม่มี

สรุป : เราไม่ค่อยปลื้มตัวนี้เท่าไหร่ค่ะ ด้วยความที่เป็นคนชอบผลิตภัณฑ์พวกเบส รองพื้น ถึงหน้าจะไม่มีปัญหามาก แต่ก็ยังชอบอะไรที่ให้การปกปิดได้บ้าง เจ้าตัวนี้เคลมว่าเป็น "รองพื้น"

แต่ส่วนตัวก็คิดว่า มันก็คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแต่มีสีนิด ๆ เท่านั้นเองค่ะ ที่สำคัญ ราคาแพงมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ผลระยะยาวในเรื่องความกระจ่างใส เราไม่เห็นผลเนื่องจากใช้ไปไม่กี่ครั้งเองค่ะ

คำแนะนำ : เหมาะกับคนหน้าแห้ง หน้าไม่มีปัญหา และคนที่ต้องการบำรุงผิว + ปรับสีผิวนิ๊ดดดดหน่อย ควรใช้แป้งตามเพื่อการปกปิดเพิ่มเติม

คะแนน : 2/5

Biore UV Color Control CC Milk SPF 50+ PA++++

ขนาด : 30 ML

สีที่ใช้ : มีสีเดียว สีเบจกลางๆ

กลิ่น : หอมอ่อนๆ สดชื่นๆ แต่ถ้ายังไม่เกลี่ยแล้วไปดมใกล้ๆจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ (บีโอเรนี่เนอะ L เยอะอยู่แล้ว)

คำเคลม : Biore UV CC Milk เป็นการรวบรวมทั้ง Base Makeup กันแดด และรองพื้น พูดง่ายๆ ทั้ง "ปกปิดและปกป้อง"

  • ปกปิด รอยดำจากสิว เนื้อบางเบา ทาแล้วไม่เหนอะหนะ
  • ปกป้อง UV ได้สูง ทั้ง UVA และ UVB SPF50+ PA++++ ช่วยให้ผิวไม่หมองคล้ำจากแดด ป้องกันริ้วรอย
แพคเกจ : ขวดพลาสติกทึบสีส้มอ่อนๆ แข็งแรง ปากขวดเป็นรูเล็กๆ ควบคุมปริมาณได้ง่าย

ราคา : 290 บาท (แต่ได้มาฟรีอีกแล้ว)

ความรู้สึกหลังใช้ : ชอบที่มันเป็นลิควิด เกลี่ยง่ายมาก ค่อนข้าง pigmented ปกปิดได้ระดับหนึ่งเลย (3.8 จาก 5) ถ้าใครมีรอยดำต่างๆ ยังต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยนะคะ ถึงมันจะมีสีเดียวแต่ว่าสำหรับเราพอเกลี่ยเรียบร้อยแล้ว ซักพักก็กลืนไปกับหน้าเลย ไม่วอก ไม่ลอย ไม่หนา หน้าดูสว่างดีค่ะ

ถือว่าเป็น semi-matte finish สำหรับเรานะ ไม่ต้องลงแป้งตามก็ยังพอได้ แต่เพื่อความสบายใจก็ลงแป้งฝุ่นตามนิดนึงค่ะ

วันนั้นทาตัวนี้ตัวเดียว ตามด้วยแป้งฝุ่นแล้วไปทำนู่นนี่ เหงื่อออกบริเวณหน้าผากเยอะมาก ก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับ ปรากฏว่าไม่มีอะไรติดผ้าเช็ดหน้าออกมาเลยค่ะ แค่ซับๆเหงื่อออกแล้วตบแป้งนิดหน่อยก็ผ่องเหมือนเดิม

สิ่งที่ไม่ชอบคือ ตอนใช้ครั้งแรก เรามีขุยๆที่จมูก กันแดดตัวนี้มันดันไปเน้นให้รอยมันเห็นเด่นชัดขึ้นเยอะมาก น่าเกลียดมาก รับไม่ได้ ต้องไปล้างออก

สรุป : ชอบค่ะ ราคาถูก ติดทน รวดเร็ว และเหมาะกับคนขี้เกียจหรือเร่งรีบมากๆ SPF ก็สูงน้า กันได้ทั้ง UVA/UVB ถือว่าทำได้ตามคำที่เคลมไว้เลย

คำแนะนำ : ใช้ตัวนี้ตัวเดียวอยู่ ไม่ต้องตามด้วยรองพื้นก็ยังได้ คนผิวแห้ง (หรือผิวมันที่ขาดน้ำก็ตาม) ควรบำรุงให้ดีก่อนใช้ อย่าให้มีขุยๆ หรือส่วนที่แห้งผาก ไม่งั้นอาจไม่ work นะคะ คนที่ผิวเข้มอาจจะต้องทดสอบก่อนว่าทาแล้วลอยมั้ยนะคะ

คะแนน : 4.5/5 (หักที่ไปเน้นส่วนแห้งบนหน้า)

ต่อไปจะเป็นการเห่อค่ะ เพราะยังไม่ได้ลองใช้จริงจังเลย

ชิ้นที่สามแล้วค่า

Liese Creamy Bubble Color

ในกล่องประกอบด้วย :

สีที่ได้มา : Platinum Beige เบจประกายเงิน (มีทั้งหมด 15 เฉดสี)

คำเคลม : โฟมครีมเข้มข้น ให้สีผมสวยเด่นชัด ติดทนนาน

ราคา : 200-300 บาท

สำหรับตัวนี้ยังไม่ได้ใช้เลยค่ะ แต่สีที่ได้มาคือถูกใจมาก ออกน้ำตาลเทาๆ เราเองยังไม่เคยทำสีผม (และแม่ก็ยังไม่ให้ทำ) ไว้หาโอกาสเหมาะๆคงจะได้ลองใช้ค่ะ ไปดูชาร์จสีข้างกล่องกันว่าผมสีไหนจะออกมาเป็นสีประมาณไหน

ตัวสุดท้าย พึ่งได้มาวันนี้เลย กลับมาจากมหาวิทยาลัยก็เจอกล่องพัสดุจากจีบันวางอยู่

ดีใจมากกกก รู้เลยว่าจะได้ของดีอีกแล้ว ^^

VIrgo BB Soft Compact/ SPF 30 PA+++ Powder Plus Foundation

ขนาด : 11.25 g/ 0.39 oz

สีที่ได้มา : NO.3 Sand Beige สีเข้มสุด (มีทั้งหมด 3 เบอร์)

ราคา : 1250 บาท (แพงจัง TT)

แพคเกจ : ตลับสีดำด้าน หนากำลังดี สกรีนชื่อแบรนด์ด้านบนสวยงาม ข้างในแยกชั้นแป้ง และชั้นวางพัฟ กระจกใหญ่เต็มตลับ ใช้ได้จริง

คำเคลม : แป้งพัฟเนื้อดินน้ำมัน นวัตกรรมใหม่ปฎิวัติวงการแป้งพัฟ แป้งดินน้ำมันในฝันของสาวๆ ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มทำให้ไม่ว่าจะพกตลับแป้งไว้ในกระเป๋าหรือทำตลับแป้งตกพื้น เนื้อแป้งจะไม่แตก พร้อมคุณสมบัติ 3 in 1 เป็นทั้งรองพื้น กันแดด และแป้งฝุ่น ช่วยลบเรือนริ้วรอย จุดด่างดำและรูขุมขน ทาแล้วไม่ทำให้ดูหนา ป้องกันแสงแดดด้วย SPF30 PA+++ กันน้ำ เหงื่อออกไม่เป็นคราบ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์และพาราเบนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ คุมความมัน ไม่อุดตัน เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่าย ตลับแป้งหรูหรามาคู่กับพัฟแป้งเกรดพรีเมี่ยม พร้อมหน้าที่พิเศษเป็นครีมบำรุงเสริมในตัว

ความรู้สึกแรกที่ได้จับและลองปาด : ชอบตั้งแต่กล่องเลยค่ะ มันไม่ใช่แบบกล่องคสอธรรมดาแต่เป็นกล่องแบบประกบที่แข็งแรงและดูดีนะ ตลับแป้งเรียบๆแต่ดูดี ถามว่าก๊องแก๊งมั้ย ก็ไม่มากนะคะ แต่เหมือนพอปิดตลับแล้วมันก็ยังเคลื่อนได้อยู่นิดนึง (ให้ 4/5)

เนื้อแป้งคือเหมือนดินน้ำมันจริงๆค่ะ กดลงไปมันก็จะบุ๋มไปเลย แต่จะเกลี่ยๆให้มันเรียบเหมือนเดิมก็ได้ง่ายมากๆ พัฟที่ให้มาก็นุ่ม ไม่บางเกินไป จับเนื้อแป้งขึ้นมาได้กำลังดี อันนี้คือยังไม่ได้ลองบนหน้าจริงจังนะคะ แต่ลองปาดแถวกรามแล้ว พอดีกับสีผิวมาก (จีบันเหมือนรู้ใจเลยยย <3)

ลองปาดบริเวณข้อมือแล้วไปผ่านน้ำและใช้ทิชชู่ซับดู ก็ไม่มีอะไรติดออกมาเลยค่ะ น่าจะติดทนกันน้ำกันเหงื่อได้ดีทีเดียว

สิ่งที่ชอบคือ มีสีให้เลือกถึงสามสี และพอดีกับผิวเรา แต่สาวๆคนอื่นๆที่ผิวสีเข้มกว่านี้ อาจจะใช้ไม่ได้ค่ะ เพราะเราไม่ได้ขาวมาก แต่สีที่เข้มสุดมันก็พอดีกับเราแล้ว

ลองเปรียบเทียบสีแป้ง Virgo BB Soft Compact กับ Maybelline Clear SMooth All-in-one เบอร์ 03 Natural ให้ดู

จะเห็นได้ว่าแป้ง Maybelline จะออกโทนชมพูกว่า ในขณะที่แป้ง Virgo มีความเหลืองมากกว่า ซึ่งเหมาะกับผิวสาวไทยและเอเชียค่ะ

มาแกะไปพร้อมๆกันค่ะ ^^

วันนี้ก็จบการเห่อและมินิรีวิวเท่านี้โนะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดู

และขอบคุณจีบันมาก ๆ ที่มีกิจกรรมให้ได้ของใหม่มาลองเล่นตลอดเลย

รัก community นี้มากค่า <3


Nanzsica9*

Nanzsica9*

19-year-old Drugstore Girl.

FULL PROFILE