Mini Review & HOW TO >> สร้างลุคสวยๆ (3 ลุค) ด้วยของถูกและดี งบแค่ 1,000!!!

36 19
สวัสดีฮะทุกคน ปอร์เช่ ปอ (Porsche Por) นะจ๊ะ
กลับมากับกระทู้ใหม่ ไม่รู้ว่าจะเตะตา ต้องใจใครๆ หรือเปล่า แต่อยากมาแนะนำและชวนเพื่อนๆ สวยไปด้วยกัน

อ่ะๆ ให้ดูความแซ่บเป็นน้ำจิ้มก่อนว่าด้วยงบประมาณเท่านั้น ปอสามารถแต่งออกมาเป็นแบบไหนได้บ้าง



กระทู้นี้ปอจะมาแนะนำของถูกและดี ในงบแค่ 1,000 บาท!! มีเศษเกินมานิดๆ หน่อย แต่บางอย่างสามารถตัดออกได้ เดี๋ยวลองดูว่าปอจะแนะนำยังไงเนอะ แล้วเอาของเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นลุคแต่งหน้าสุดเก๋ถึง 3 ลุคที่แตกต่างกัน พร้อม How to ให้ด้วย

มาดูโฉมหน้าของสิ่งรังสรรค์ความงามให้เรากันก่อนดีกว่า



ปอได้มาทั้งหมด 7 ชิ้น พยายามเลือกเต็มที่ในสิ่งที่คิดว่าดีและถูกที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ



ปอซื้อของใน Tops Market นะ แต่สามารถหาได้ตาม Boots, Watsons หรือร้านอื่นๆ ซึ่งราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่ากันบ้างแตกต่างกันไป แต่คงไม่หนีๆ กันเท่าไร งบหมดไป 1,269 บาท!!! ยังอยู่ในหลักพันนะ 555+ ได้มา 7 ชิ้นปอถือว่ามันไม่ได้แพงมากเมื่อหารเฉลี่ยต่อชิ้น แต่ถ้าใครยังมองว่ามันแพงไปอยู่ เดี๋ยวปอมีวิธีเลือกและตัดเครื่องสำอางบางชิ้นออกด้วย!!!

เอาล่ะ เดี๋ยวปอมารีวิวเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแต่ละชิ้น ว่ามันดียังไง ทำไมปอถึงเลือกมา และอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็นมากพอจะตัดทิ้งได้ แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อตามปอก็ได้นะ แต่ปอต้องการไกด์ให้รู้คร่าวๆ ว่าถ้างบจำกัด ควรลงทุนกับอะไรบ้าง



L’OREAL Mat Magigue All-In-One
เริ่มด้วยงานสร้างผิว ถ้าคุณอยากประหยัดงบ แต่ยังคงต้องการผิวที่ดูเนียนสวยอยู่ ปอแนะนำให้ลงทุนกับแป้งผสมรองพื้นแทนรองพื้น/บีบีครีมและแป้งฝุ่นไปเลย เพราะจะช่วยให้ประหยัดงบลงได้เยอะ แล้วยังสะดวก ใช้ง่าย รวบรัด แถมยังไม่หนักหน้าอีกด้วย แป้งตัวนี้จะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า (ปอผิวมัน) ตอนใช้จะให้ลุคแมตต์ๆ แต่เอาจริงๆ มันไม่ค่อยคุมมันเท่าไรหรอก ใช้ไปสักพักหน้าก็มันขึ้นแล้ว แต่เนื้อแป้งถือว่าดีนะ เนียนละเอียดดี ปกปิดได้นิดหน่อย ไม่มากนัก
แต่ถ้าใครบอกว่า หน้าฉันต้องการการปกปิดที่มากกว่าแค่แป้งผสมรองพื้นย่ะ! ปอแนะนำให้เพิ่มเงินอีกนิดลงทุนกับรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ถูกและดีสักตัวกับแป้งฝุ่นแทน งบอาจจะเพิ่มขึ้นหน่อย แต่ในด้านการใช้งานก็คุ้มไม่ต่างกัน
ราคา: 299 บาท
จำเป็น!



Essence Silky Touch Blush
แก้มเป็นอีกสิ่งที่ถือว่าสำคัญพอสมควร แต่สามารถใช้อย่างอื่นมาทดแทนได้! นั่นคือลิปสติก แต่มันอาจจะไม่ค่อยทนมากสำหรับคนผิวมันเนื่องจากลิปสติกเนื้อจะค่อนข้างครีม และอาจทำให้เกิดสิวได้ แต่ถ้าจะซื้อบลัชออนพยายามเลือกสีที่ใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย (สีพีช/อมส้มหรือสีชมพู) ที่ปอเลือกตัวนี้มาเพราะราคามันไม่แพง เมื่อเทียบกับอีกแบรนด์ที่ราคาใกล้เคียงกันอย่าง Maybelline ปอว่าตัวนี้ปัดแล้วเห็นสีมากกว่า แถมเนื้อยังไม่เป็นฝุ่นมากด้วย ปัดแล้วไม่ค่อยฟุ้งเป็นฝุ่นไปเสียหมด
ราคา: 145 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้ (แต่มีติดไว้สักตลับก็ดีนะ)



Wet n Wild Eye Shadow Palette x8
อายแชโดว์คือสิ่งที่เสกสีสันเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาคู่สวยของเรา แบรนด์นี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันดี เพราะตั้งแต่เข้าไทยมาอย่างเป็นทางการ ยอดขายก็ถล่มทลาย ของหมดเชลฟ์บ่อยมาก! แน่นอนว่าที่เลือกมา เพราะมันถูกและดีจริงๆ เนื้อแน่น สีชัด แถมยังได้สีสันที่หลากหลายด้วยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในเรทราคาใกล้เคียงกัน อันนี้ได้ถึง 8 สี (มันมีแบบ 5 และ 3 สีด้วย แต่แบบนี้คุ้มสุดเมื่อเทียบราคา 555+) จริงๆ ปออยากได้อีกเฉดหนึ่งนะ ที่เป็นสีเอิร์ธโทน ธรรมชาติๆ แต่ของมันหมด เลยเอาพาเลตนี้มาแทน ซึ่งสามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ถ้าสามารถหาอายแชโดว์ที่เป็นสีเอิร์ธโทน สีโทนน้ำตาลๆ ปอแนะนำแบบนั้นมากกว่านะ อาจจะเป็นแบรนด์อื่นๆ ก็ได้ เพราะมันสามารถใช้ได้ครอบคลุมและหลากหลายคุณประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะพาเลตที่มีสีน้ำตาลเนื้อแมตต์ สามารถเอามาใช้ได้ทั้งเขียนคิ้วและสร้างรูปหน้า (ไล้ดั้ง คอนทัวร์เบาๆ) และแนะนำว่าเวลาซื้ออายแชโดว์เลือกที่มีสีดำมาด้วย เพราะมันสามารถใช้เป็นไลเนอร์แบบฝุ่นก็ได้ หรือจะใช้แปรงจุ่มน้ำหมาดๆ แล้วแตะเนื้อขึ้นมาทำเป็นลิควิดไลเนอร์ก็ได้เช่นกัน หลากหลายประโยชน์ คุ้ม!! แถมช่วยให้ประหยัดขึ้นอีก
ราคา: 299 บาท
จำเป็น!



Mistine 3D Brows Secret
เพราะคิ้วคือมงกุฎของหน้า!! วลีเด็ดที่ใช้นิยามความสำคัญของคิ้ว มันคือเรื่องจริงนะ คิ้วสำคัญมากจริงๆ คิ้วเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน อารมณ์เปลี่ยนได้เหมือนกันนะ ถ้าถามว่าซื้อตัวนี้มาแล้วมันดีไหม? ดีนะ ตัวดินสอสีชัดมาก เขียนติดง่ายด้วย ที่เกลี่ยให้นวลๆ ก็ถือว่าโอเค แต่ตัวมาสคาร่า ส่วนตัวปอไม่ค่อยปลื้มเท่าที่ควร เพราะว่าเนื้อมันค่อนข้างเหนียว ปัดยาก! แต่โดยรวมถือว่าคุ้มนะกับราคาเท่านี้ ได้ครบทุกอย่างเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น... ปอพูดไว้แล้วว่าสามารถใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเนื้อแมตต์เขียนคิ้วแทนได้ (ปอใช้ประจำ!! ปอว่ามันเนียนและเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ดินสอเขียนคิ้ว) ส่วนมาสคาร่าคิ้วจริงๆ มันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรหรอก ถ้าผมคุณไม่ได้สีอ่อนจนต้องใช้มาสคาร่าปัดเปลี่ยนสีคิ้ว ถ้าจะปัดเพื่อให้ขนมันเรียงเส้นและอยู่ทรงมากขึ้น สามารถใช้มาสคาร่าปัดขนตาปัดแทนได้ เดี๋ยวปอจะอธิบายวิธีในรีวิวมาสคาร่า
ราคา: 139 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้



Maybelline Hyper Cure Volume Express
สำหรับปอ งานขนตาเป็นเรื่องสำคัญนะ สำคัญมากด้วย มันสามารถทำให้ตาเราดูคมโตขึ้นได้ เปลี่ยนรูปตาได้เลยบางที (ในกรณีติดขนตาปลอม) แต่เจ้าตัวช่วยตัวนี้ก็ใช่ว่าไม่สำคัญ ปอว่าแต่งตาแล้วไม่มีขนตามันดูแปลกๆ ทำไมถึงเลือก Maybelline ต้องบอกเลยว่าชีวิตนี้ยอมสิโรราบให้กับมาสคาร่าแบรนด์นี้จริงๆ ปอมีหลายตัวมาก และมันก็ดีทุกตัว ส่วนเจ้าตัวนี้ ก็เป็นมาสคาร่าสุดโด่งดัง ตัวนี้ดังสุดแล้วมั้งของแบรนด์อ่ะ ถูกและโคตรดี ปัดแล้วหนา ยาว เรียงเส้นดีต่างหาก ขนตาล่างหล่อมแหล่มๆ ปัดทีนี่ดูดกดำขึ้นมาเลย ปลื้มมม!! แต่ปอไม่ชอบอย่างเดียวคือหัวแปรง มันใหญ่ไปหน่อย ปัดลำบาก ปอชอบมาสคาร่าที่หัวแปรงเล็กๆ หน่อย ปัดง่ายดี แต่ตัวนี้อ่ะ แนะนำให้ลงทุนจริงๆ ส่วนที่ปอเกริ่นไว้ก่อนหน้าว่าจะใช้ปัดคิ้วอย่างไร วิธีคือใช้หัวแปรงซับกับประดาษทิชชูให้เหลือเนื้อมาสคาร่าที่ติดแปรงอยู่เล็กน้อย แล้วก็ปัดขนคิ้วตามปกติ แต่วิธีนี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับคนผมดำหรือผมสีเข้มๆ เท่านั้น แล้วเพิ่มเติมทริกการใช้มาสคาร่าเพิ่มเติม คือมันสามารถใช้เป็นอายไลเนอร์ได้ด้วย!! โดยใช้แปรงหัวตัดหรือแปรงไลเนอร์แตะเนื้อมาสคาร่าแล้วก็วาดลงไปที่ขอบตาโล้ดดด
ราคา: 149 บาท
จำเป็น!



Mistine So… Black Liquid Eyeliner
สำหรับบางคน การกรีดอายไลเนอร์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้จะไม่แต่งตาใดๆ เลยก็ขอไลเนอร์ไว้สักเส้นกันตาย ปอแนะนำอายไลเนอร์ของมีสทีนนะ ไม่ใช่เฉพาะตัวนี้ แต่ทั้ง Mistine Super Black (สำหรับคนหนังตามัน) และ Mistine Maxi Black (สำหรับคนหนังตาแห้ง) ก็ดีเหมือนกันหมด แต่ปอเลือกตัวนี้มาเพราะ 2 ตัวนั้นมีอยู่แล้ว ตัวนี้ให้เส้นไลเนอร์ที่ดำและแมตต์สนิท! ไลเนอร์ตัวอื่นๆ อาจจะมีเงาเล็กน้อย แต่ตัวนี้ด้านไปเลย ถือว่าดีมาก!! แถมไลเนอร์แบรนด์นี้ยังติดทนด้วย แต่อย่างที่ปอไว้ตอนต้น ไลเนอร์เราสามารถใช้อายแชโดว์สีดำหรือสีน้ำตาล รือ มาสคาร่าเขียนแทนได้
ราคา: 139 บาท
ไม่จำเป็นนัก สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้



Wet n Wild Lipstick
แป้งไม่ทา หน้าไม่แต่ง ของปากเด่นไว้ก่อน!!! ดังนั้นลิปสติกจึงสำคัญมาก ตาไม่ได้แต่งยังหาแว่นกันแดดมาสวมได้ ขอแค่ปากเด่นก็เจิดจรัสได้แล้ว ลิปสติกแบรนด์ดังนี้ ที่ไม่น่าจะไม่มีใครไม่รู้จัก ของถูกและดีสิ่งนี้ เนื้อลิปลื่น ปาดง่าย แถมสียังชัดมากอีกต่างหาก การเลือกสีลิปสติก ก็เลือกสีเข้มนิดๆ เพราะมันสามารถประยุกต์ได้มากกว่า ทั้งทาอ่อนๆ ให้สีดูอ่อนลงหรือจะจัดเต็มก็ได้สีเข้มเก๋ๆ แต่สีที่ปอได้มา ดูในแท่งมันค่อนข้างเข้ม แต่ทาจริงๆ สีไม่เข้มเท่าไรเลย ลิปสติกนอกจากจะใช้ทาปากแล้ว อย่างที่บอกมันสามารถใช้เป็นครีมบลัชได้ด้วย แต่ต้องค่อยๆ ฝึกใช้นิดหนึ่ง เพราะเนื้อสีมันค่อนข้างเข้มข้น
ราคา: 99 บาท
จำเป็น!

ลองคิดราคาใหม่ เอาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นที่ปอแนะนำว่าควรจะต้องมีดู เหลือเท่าไร... เหลือไม่ถึงพัน!!! แค่ 846 บาทเองแก!!! ถ้างบเหลือก็ซื้อพวกที่ไม่ค่อยจำเป็นเสริมเอาทีหลัง เก๋กู๊ดอ่ะ ชีวิตดี กระเป๋าไม่แฟ่บ!

เอาล่ะๆ เดี๋ยวจะคิดว่าของแค่นี้จะทำให้สวยเด้งได้จริงป่าว แล้วจะสวยได้แค่ไหน จะได้แค่ลุคเดิมๆ หรือเปล่า งั้นปอจัดมาฝาก 3 ลุคที่โพสต์เป็นน้ำจิ้มไว้ตอนต้น พร้อมฮาวทูให้ด้วย ลองดูแล้วนำไปประยุกต์ให้ได้เลย (จริงๆ สามารถทำได้หลากหลายมากกว่านี้อีก แต่ปอทำมาให้ดูคร่าวๆ ว่าของแค่นี้ก็สวยแซ่บได้ไม่แพ้กัน!)



ยืนยันของที่ใช้ เท่านี้จริงๆ จ้า ลองดูเอานะว่าแต่ละลุคใช้ตัวไหนทำอะไรบ้าง
ดูหนังหน้าสดของปอก่อนเลย 555+



สวยสุภาพไปเรียนหรือทำงาน (Working Aura Look)



ไปเรียนหรือไปทำงานก็ต้องดูสุภาพ ดูเรียบร้อยใช่ไหม? นี่พยายามปั่นหน้าเรียบร้อยสุดๆ 555+

>> Complexion Step <<



เตรียมผิวให้พร้อม ทาครีม ทากันแดดให้เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้แป้งผสมรองพื้นลงทับให้เนียนทั่วทั้งใบหน้า เทคนิคเสริมเล็กน้อยสำหรับคนที่ต้องการให้หน้าดูเนียนและปกปิดมากขึ้น ให้ใช้พัฟชุบน้ำเล็กน้อยหรือฉีดน้ำใส่พัฟให้พอเปียกหมาดๆ แล้วกดพัฟกับแป้งที่ลงไว้บนหน้าให้ทั่วๆ เพื่อเพิ่มความเรียบเนียนกลืนไปกับผิวมากขึ้น แถมยังช่วยให้ติดทนขึ้นด้วย คล้ายกับการใช้รองพื้นแบบบางเบาย่อมๆ นั่นเอง



ปัดแก้มให้หน้าดูมีสีขึ้นเล็กน้อย แล้วใช้อายแชโดว์สีขาวมุกปัดเบาๆ ตามจุดไฮไลท์ อย่าลงหนักมากนะ เพราะเนื้ออายแชโดว์จะมีพิกเม้นต์ที่แน่นกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทไฮไลท์ปกติ เลยย้ำว่าให้ปัดเบาๆ ให้พอขึ้นเป็นเงาก็พอ



ขั้นตอนนี้หลายคนอาจจะงงและตกใจว่าปอทำอะไร ปอกำลังสร้างดั้งให้โด่งขึ้น ในเมื่อเราไม่มีอายแชโดว์สีน้ำตาลเนื้อแมตต์และแป้งเฉดดิ้ง เราก็ใช้สิ่งที่มีอยู่ นั่นคือ “ดินสอเขียนคิ้ว” ลากเส้นข้างสันจมูกลงมาเลยจ้า แล้วค่อยๆ เกลี่ยเอาให้มันเนียน แค่นี้ก็ได้ดั้งโด่งๆ แบบประยุกต์สุดเก๋แล้ว!!

>> Brows Step <<

ขั้นตอนการเขียนคิ้วทั้ง 3 ลุค ดูที่ตรงนี้ที่เดียวเลยนะ เพราะใช้วิธีเดียวกัน แต่จะมีลุคที่ 3 ที่รูปคิ้วจะตรงขึ้นและสีอ่อนลงเล็กน้อย แต่ไม่แตกต่างกันมาก



1. ใช้ฝั่งดินสอวาดโครงคิ้วที่ด้านล่างหรือท้องคิ้ว
2. แล้ววาดเส้นโครงคิ้วที่ด้านบนให้ลงมาบรรจบกับเส้นด้านล่างที่หางคิ้ว
3. ถมสีให้ทั่วทั้งคิ้ว โดยลงหนักบริเวณหางคิ้ว และลงสีเบาๆ บริเวณหัวคิ้ว
4. ใช้ฟองน้ำที่มีอยู่ในแท่งเกลี่ยสีให้ฟุ้งและเนียนขึ้น ให้คิ้วดูนวลเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่แข็งจนเกินไป
5. ปัดมาสคาร่าคิ้วย้อนแนวขนคิ้ว
6. แล้วปัดทับอีกครั้งตามแนวขนคิ้ว เป็นอันเรียบร้อย!
ได้คิ้วสวยปิ๊ง เสริมมงกุฎงดงามให้กับใบหน้า (“:

>> Eyes Step <<



ลำดับสีของสัญลักษณ์ที่ใช้ในลุคนี้
- สีเหลืองใช้เป็นสีที่ 1
- สีแดงใช้เป็นสีที่ 2
- สีน้ำเงินใช้เป็นสีที่ 3



1. ลงอายแชโดว์สีที่ 1 เกือบทั่วทั่งเปลือกตา เว้นบริเวณใต้ท้องคิ้วเอาไว้เป็นจุดไฮไลท์คิ้ว
2. แตะอายแชโดว์ผสมกัน 2 สี (ยิ้มสีแดง) ลงที่บริเวณหางตาจนถึงกึ่งกลางตา
3. ใช้สองสีเดิมลงที่ขอบตาล่างด้วย
4. ใช้สีที่ 3 ลงที่หัวตาและขอบตาล่างด้านหน้าเพื่อเพิ่มประกายวิบวับให้ดวงตา
5. กรีดอายไลเนอร์เส้นบางๆ ชิดโคนขนตาโดยไม่ต้องวิงหาง ให้ตาดูคมขึ้นแต่ไม่ดูดุหรือไม่เรียบร้อย
6. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ได้เมคอัพเรียบร้อยๆ แต่มีเสน่ห์นางดึงดูด

>> Lips Step <<



ง่ายสุดๆ ไม่ต้องเสียเวลา หยิบลิปมาแล้วปาดซะให้เต็มริมฝีปาก!! 55+

Finish!







เลิกงานแล้วก็พร้อมปาร์ตี้ต่อ (Party Zaaps!! Look)



ลุคนี้ต่อยอดจากลุคทำงานก่อนหน้านะจ๊ะ เป็นการปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริง!! อุ๊บส์!!!
ขั้นตอนย้อนกลับไปดูก่อนหน้าเลยนะจ๊ะ ถ้าหน้าหมอง หน้ามันก็ซับหน้า เติมแป้ง เติมบลัชออนนิดหน่อยก็เตรียม hang out ได้แล้ว!!! แค่เพิ่มความคมของตา ให้เฉี่ยวและเปรี้ยว และปรับเปลี่ยนสีปากให้ดูมีอะไรขึ้นเล็กน้อย

>> Eyes Step <<



ใช้เพิ่มแค่ 2 สีเอง จริงๆ คือสีเดียวด้วยซ้ำ สัญลักษณ์ตามนี้
- สีน้ำเงินใช้เป็นสีที่ 1
- สีเหลืองใช้เป็นสีที่ 2



1. เมคอัพที่แต่งค้างไว้สำหรับลุคทำงานตอนกลางวัน
2. ใช้อายแชโดว์เบอร์ 1 วิงหางต่อออกไปที่บริเวณหางตา แล้วเกลี่ยสีที่เหลือเข้าไปตามรูปเบ้าตาจนเกือบถึงหัวตา
3. ใช้สีเบอร์ 2 ลงทับแต่ลงแค่ช่วงรอยพับของเปลือกตาเท่านั้น
4. ใช้สีเดิม (เบอร์ 2) ลงทับที่ขอบตาล่างด้วย แต่ลากยาวไปจนถึงเกือบหัวตาเลย
5. กรีดอายไลเนอร์เพิ่มจากเส้นบางๆ ให้มีเส้นหนาขึ้น และวิงหางไลเนอร์ออกไปด้วยเพื่อให้ดวงตาดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
**ทั้งนี้ปอใส่ option เสริมเข้าไปคือติดขนตาปลอมเพิ่มและใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อให้สวยเฉียบกว่าเดิม แถมยังช่วยให้สายตาดูยั่วยวนมากขึ้นด้วย แต่ถ้าใครไม่มีก็ไม่เป็นไร เฉี่ยวได้เหมือนรูปข้างบนเหมือนกัน (ขนตาปอใช้ของไต้หวันไม่ตียี่ห้อ กล่องละ 79 บาท แบบที่ค่อนข้างหนา ส่วนคอนแทคเลนส์ของ MimibyToni รุ่น Loli Gray จ้า)

>> Lips Step <<



เพิ่มความแตกต่างจากลุคแรกเล็กน้อย แต่ใช้ลิปสติกแท่งเดิม บวกกับบลัชออนที่มี
1. ใช้พัฟตบแป้งผสมรองพื้นเพื่อกลบสีลิปและสีปากเดิมให้อ่อนลง
2. ทาลิปสติกที่มีแล้วใช้บลัชออนแตะทับบางๆ ให้ทั่วทั้งริมฝีปาก จะได้ลิปสีใหม่ที่อ่อนลงกว่าเดิม และมีประกายมากขึ้น แต่เนื้อจะไม่วาว

Finish!

ป่ะ! พร้อมท่องราตรีแล้ววว อิอิ







เป็นยังไงบ้าง 2 ลุค ต่อยอดจากกันง่ายๆ พร้อมเทคนิคการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์หลากหลายมากที่สุด ลุคต่อไปปอจะตัดเครื่องสำอางบางชิ้นออก โดยการใช้เครื่องสำอางอีกชิ้นมาแทน ลองดูกัน ^___^

น่ารัก สดใส แต่ก็ไม่แบ๊วซะทีเดียวนะ! (Pastel Chic Look)



ไหนก็มีเรียบร้อย มีเปรี้ยวแล้ว ลองแบบหวานๆ แต่ดูมีอะไรน่ามองบ้างดีกว่า กับตาสีฟ้าๆ สดใส

>> Complexion Step <<



ใช้พัฟกดแป้งผสมรองพื้นให้ทั่วทั้งใบหน้า จากนั้นใช้ดินสอเขียนคิ้วจุดจางๆ ให้ทั่วหน้าแก้มและจมูกเป็นเสมือนกระธรรมชาติ



ใช้ลิปสติกลงบริเวณแก้ม ใช้แทนครีมบลัช แล้วเกลี่ยให้กลืนไปกับผิว จะได้สีแก้มที่ดูมีเลือดฝาดเล็กน้อย



ปัดบลัชออนให้ทั่วทั้งหน้าแก้ม โดยลากยาวจากแก้มฝั่งหนึ่ง ผ่านจมูกไปยังแก้มอีกฝั่งเลย ให้ดูเหมือนผิวบ่มแดดเบาๆ แล้วมีกระ อุ๊ย! เก๋อ่ะ!! จากนั้นก็เขียนคิ้ว (วิธีการเขียนคิ้วด้านบน) โดยเขียนให้อ่อนลงจากลุคก่อนหน้าเล็กน้อย เป็นอันเสร็จงานผิวและงานคิ้ว

>> Eyes Step <<



ใช้อายแชโดว์ฝั่งสีฟ้า น้ำเงินเป็นหลัก โดยสัญลักษณ์แทนค่าดังนี้
- สีเหลืองใช้เป็นสีที่ 1
- สีแดงใช้เป็นสีที่ 2
- สีน้ำเงินใช้เป็นสีที่ 3
- สีขาวใช้เป็นอายไลเนอร์ (ลุคนี้ตัดอายไลเนอร์ออก)



1. ลงอายแชโดว์เบอร์ 1 สีขาวมุกและสีเงินอมฟ้านิดๆ ลงให้ทั่วทั้งเปลือกตาบน ลงให้ถึงคิ้วเลย
2. ใช้สีเบอร์ 2 สีฟ้าซีดอ่อนๆ ลงตามรูปเบ้าตาเพื่อให้เห็นสีฟ้าชัดเจนขึ้น ดูเป็นเปลือกตาสีพาสเทลเล็กๆ
3. ใช้สีเดิมลงที่ขอบตาล่างตั้งแต่หางตาจนถึงหัวตา
4. ใช้สีเข้มเบอร์ 3 สีออกน้ำเงินๆ ลงช่วงรอยพับเปลือกตา เน้นหนักที่หางตา แล้วเกลี่ยเบาๆ ให้ถึงหัวตา
5. ใช้แปรงไลเนอร์หัวเล็กๆ จุ่มน้ำพอหมาด แตะอายแชโดว์สีดำแล้วมาเขียนเป็นเส้นไลเนอร์ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยด้านล่างเขียนเข้ามาแค่กึ่งกลางตา
6. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า
**ใส่ option เสริมคือคอนแทคเลนส์และติดขนตาปลอมเช่นกัน โดยใช้ขนตาปลอมที่เรียงเส้นแบบธรรมชาติ แต่ยาวออกมา (ของไต้หวันเหมือนเดิม) กับคอนแทคเลนส์สีเดิมจ้า 
 
>> Lips Step <<



สร้างปากรูปหัวใจสไตล์จุ๊บุๆ น่ารักๆ กันดีกว่า
1. ใช้พัฟตบแป้งผสมรองพื้นกลบสีปากให้ดูซีดอ่อนลง
2. ใช้ลิปสติกที่มีอยู่ (สีเดียว) นั้นทาเฉพาะริมฝีปากด้านใน แล้วเกลี่ยสีออกมาให้สีเข้มอยู่ในสุด ไล่อ่อนเรื่อยๆ ให้ปากดูน่าจุ๊บ!

Finish!

แบ๊วๆ แต่ตาคมอยู่นะ อิอิ







เป็นอย่างไรบ้างกับลุคที่ปอนำมาฝาก จริงๆ มันสามารถแต่งได้หลากหลายกว่านี้อีก ประยุกต์ใช้โน้นนี่ หยิบนี่มันแทนอันนั้น หยิบอันนั้นไปแทนอันโน้น ขอแค่เรารู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เราก็สามารถสร้างสรรค์ลุคได้อีกมากมายเลย!

โอเคเนอะ หมดแล้วแหละ จัดหนัก จัดเต็มให้มากๆ หวังว่ากระทู้ของปอจะมีประโยชน์ในการเลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างคุ้มค่าน๊าาา แล้วก็เป็นตัวอย่างของการนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดเป็นลุคเก๋ๆ ยังคงเปิดรับคำติชมเช่นเดิมนะจ๊ะ เพื่อปรับปรุงผลงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ^___^

กระทู้นี้จบแล้ววว พบกันใหม่โอกาสหน้าจ้าาา

 
Porsche Por  
 


porschepor

porschepor

Hello everyone!
I'm Porsche Por!
I'm a normal person who love in makeup and fashion.
I think makeup and fashion can show who you think and you are ^^

FULL PROFILE