{Review} การรักษาแผลที่โดนความร้อน (แผลเป็นหรอ! อย่าฝันว่าจะได้แอ๊มขาฉัน)

25 48

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจีบันหลังจากที่ตูนห่างหายไปเกือบเดือนหลังจากความวุ่นวายผ่านไป ก็มีกำลังใจทำรีวิวและฮาวทูแล้ว รอบนี้ตูนกลับมาพร้อมรีวิวการรักษาแผลพุพองหลังจากโดนความร้อน

ขอเกริ่นนิดนึง..... วันนั้นนัดกันไปเที่ยวกับเพื่อนสาว ซึ่งเป็นชะนีที่ตรงต่อเวลามากไม่นาทีสุดท้ายไม่ตื่นจ๊ะ กว่าจะหอบตัวเองจากเตียงกว่าจะแต่งหน้าก็เกือบหมดเวลา แต่เอ๊ะมาดูผมแล้วเหมือนขาดไรไป อยากสวยอยากทำลอนผมเลยเสียบแกนม้วนผมเปิดทิ้งไว้ นั่งแต่งหน้าไปเพลินๆ แต่มันเพลินไปหน่อยไงจนลืมว่าเปิดแกนม้วนไว้ ขาเจ้ากำก็ดันยืดออกไปเพราะความชิล สะดุ้ง!เลยจ๊ะ กรีดร้องดังๆเพราะมันร้อนมากกกกกกกกกกกกกสุดแสนจะบรรยาย แกนม้วนผมแนบต้นขาตอนนั้นทั้งโมโหตัวเองและแกนม้วนผม(มันเกี่ยวไรด้วยฟร๊ะ โทษมันไว้ก่อน 555) หลังจากนั้นสติแตกรีบถามเพื่อนๆในเพจว่ารักษายังไงแต่ละคนก็รักษาไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่คนเชียร์มากที่สุดคือว่านห่างจระเข้สด เอาก็เอาหว่ะ! งานนี้ พลีชีพลองแม่มทุกอย่างเลย มาดูรูปกันก่อนเนอะ

ยังไม่หาย 100% แต่ก็ประมาณ 95%แล้วยังเห็นรอยจางๆอยู่ต้องขยันทากันต่อไป

  • รูปที่ 1 เพิ่งโดนเลยแผลพองๆยังไม่ได้ทำไรแดงแล้ว( ถ่ายเมื่อ 2/4/58)
  • รูปที่ 2 รอยไหม้จากที่โดนนาบเป็นรูปที่สะเทือนใจ (ถ่ายเมื่อ 3/4/58)
  • รูปที่ 3 แผลเริ่มตกสะเก็ด ทาว่านหางได้สักระยะแล้วคือตูนไม่ได้ใส่กระโปรงทำงานไงใส่กางเกง เวลาทำธุระส่วนตัวต้องถอดเข้าออก แผลเลยเปิดออกเริ่มวิตกเลยเพราะถ้าแผลเปิดแล้วข้างในยังไม่หายดีแผลเป็นจะตามมา ตอนนี้ซื้อทุกอย่างมาเตรียมทำลายล้างเลย อย่าหวังจะทำอะไรช้านได้ ชิ! (ถ่ายเมื่อ 7/4/58)
  • รูปที่ 4 แผลเปิดออกหนักกว่าเดิมแต่พยายามจะไม่ไปทำอะไรกับมันมากทาแค่เจลว่านหาง (ถ่ายเมื่อ 11/4/58)
  • รูปที่ 5 สะเก็ดหลุดออกหมดเห็นรอยแดง รอยขาว รอยดำ งานจิตตกก็มา คราวนี้โบกครีมลดรอยต่างๆ(ถ่ายเมื่อ 15/4/58)
  • รูปที่ 6 หายประมาณ 95%แล้วเย้ๆ ยังเห็นรอยจางๆพยายามทาต่อไปเรื่อยๆและทำให้มันสม่ำเสมอกัน (3/7/58)

มาดูกองทัพที่ตูนใช้เพื่อกำจัดแผลเป็นกัน

  1. Bio Oil
  2. Burnova Gel
  3. Aloe Gel
  4. Smooth E
  5. Scagel
ครีมที่ตูนทาราคาอยู่ที่ 90-300 บาทแล้วแต่ร้านนะคะ ทุกอย่างร้านขายยามีขาย

ตูนจะอธิบายการรักษา 2 ช่วงนะคะ คือช่วงที่แผลพุพองเป็นสะเก็ดกับช่วงหลังตกสะเก็ดแล้ว

ช่วงแผลพุพองและเป็นสะเก็ด

จากรูป 2 วันแรกตูนใช้ว่านจระเข้สดที่เอาเปลือกออกแช่เย็นมาวางบนแผลทำวันละ 3-4 รอบ หลังจากนั้นต้องไปทำงานเวลาทำงานก็ไม่สะดวกใช่ป่ะที่จะใช้ว่านหางจระเข้สด เพราะตูนใส่กางเกงทำงานด้วยงานที่ตูนทำต้องเป็นผู้หญิงลุยๆ เลยจัดเจลว่านหางมาทาตูนใช้อยู่ 2 ตัวคือ

Burnova Gel และ Aloe Gel ทำไมถึงใช้สองยี่ห้อเพราะตูนซื้อไว้ที่ทำงานหลอด ไว้ที่บ้านหลอดแล้วอีกอย่างไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนดีเลยซื้อมันทั้ง 2 ส่วนตัวชอบ Burnova Gel มากกว่าเพราะ Aloe Gel มันเหนอะแล้วก็ซึมยาก ตัว Burnova Gelซึมง่ายกว่าไม่เหนอะเท่าไหร่เวลาแช่เย็นแล้วมาทารู้สึกซึมเข้าแผลไว้ชะลอการลอกของสะเก็ดได้ดีกว่า

ช่วงแผลหลังตกสะเก็ด

หลังตกสะเก็ดจะเห็นว่ามีรอยขาว รอยดำ รอยแดง ตูนหยุดการใช้เจลว่านหางจระเข้เปลี่ยนมาใช้เป็นครีมลดรอยดำแดงแทน ครีมที่ตูนใช้มีดังนี้

ตูนใช้สกาเจลแก้รอยแดงขาวจากแผล ส่วนสมู๊ทอีใช้แก้รอยดำ รอยที่ไม่สม่ำเสมอทาสกาเจลก่อนแล้วค่อยลงสมู๊ทอีต่อใช้วันละ 2-3 ครั้ง ส่วน Bio oil ตูนใช้ช่วงตอนกลางคืนทาที่แผลหลังจากทาสมู๊ทอีและสกาเจลแล้ว เพราะตูนรู้สึกว่า Bio oil มีความรู้สึกมันๆเลยไม่ค่อยชอบทาตอนเช้า ในเรื่องการลดรอยแผลตูนให้คะแนน Scagel และ Smooth E เต็ม 10 เลยเพราะเมื่อช่วงตอนเรียนมหาลัยตูนเคยโดนท่อรถมอเตอร์ไซต์นาบขาใช้ 2 ตัวนี้ทาแก้รอยแผลเป็นหายไม่เหลือร่องเลย ตอนนั้นใช้ฮีรูดอยแจมด้วย ส่วย Bio oil ก็ช่วยนิดหน่อยแต่ไม่ค่อยเห็นผลไวเท่า 2 ตัวนี้ค่ะ

จบแล้วสำหรับรีวิว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ เจอกันฮาวทูหน้านะคะ ถ้าชอบช่วยเม้น ไลค์ แชร์ ให้ตูนด้วยนะคะกำลังใจในการทำผลงานจ๊ะ


toonka

toonka

ชื่อ ตูนค่ะ
ชื่นชอบการแต่งหน้า ชอบแต่งหลายๆแนวเลยอยากแชร์ให้เพื่อนๆได้ดูกันค่ะ
ฝากตัวด้วยนะค่ะ
เพจ looney toon makeup
youtube: Looney toon

FULL PROFILE