เปิดกรุสกินแคร์ 8 ชิ้น ใช้แล้วรัก ผิวดี๊ดี หน้าไม่เมือกดั๊วะ

แวะมาอัพเดทกรุสกินแคร์กันแบบไวๆ เคยมั๊ยมีสกินแคร์ใหม่งอกขึ้นเรื่อยๆ แต่ตัวที่ถูกใจใช้ยาวนานจะมีอยู่ไม่กี่ชิ้นหรอก ตัวเราเองเวลาลองอะไรเราลองทีละชิ้น เวลาแพ้ตัวไหนจะได้เขวี้ยงทิ้งทัน (ฮาา) ไม่ค่อยกล้าเปลี่ยนสกินแคร์ยกชุดเพราะผิวหน้าอะเนอะ รักษากันทียาวนาน เซทนี้ที่มาแชร์เป็นการลองจริงจัง จนรู้สึกว่ามันดี และจะใช้จนหมดแน่นอน มีอะไรบ้างมาชมกันเล้ย 

ขั้นตอนการลงสกินแคร์ของเราจะลงตาม Texture ของมันค่ะ ไม่ได้สนหรอกว่าเซรั่มกับเอสเซนส์และน้ำตบตัวไหนต้องมาก่อนอะไร ถ้าเราลองแล้วตัวไหนซึมไวแบบหายแว้บไปเลยก็จะลงเป็นตัวแรก คือถ้าลงตัวที่ซึมยากก่อน สารบำรุงขั้นตอนอื่นๆมันจะไปกองอยู่บนผิวทำให้เกิดอาการ "หน้าเมือก" เพราะสกินแคร์ไม่ซึมเอาได้อะเธอว์ 

ตัวแรกที่เราใช้ทั้งเช้าและก่อนนอนคือแบรนด์ ZEST ที่เป็นเซรั่มเนื้อน้ำค่ะ กลิ่นนางจะออกสปาๆ แต่สามีเราบอกว่ากลิ่นเหมือนไบก้อน (กรรม 555) ที่ลงก่อนเพราะความเนื้อน้ำมันซึมไวแบบลูบปุ๊บซึมปั๊มสัมผัสได้เลย ใครเคยลองน้ำตบน่าจะรู้สึกได้ว่ามันจะมีความหนึบๆ เหมือนมีอะไรกองอยู่บนผิว อันนั้นไว้ขั้นตอนหลังเลยค่ะ ตัวนี้ลงแล้วรู้สึกผิวซึมดีสุดในกรุสกินแคร์ที่มี เอามาลงขั้นตอนแรกกันเลย

ตามมาด้วยคู่นี้ ตัวฟราโคร่ามาลงทีหลังเพราะนางทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิวมากกว่า ยิ่งตัว White Ichigo นี่ยิ่งทิ้งความหนึบ วันไหนร้อนๆเราจะข้ามตัวน้ำตบไปค่ะ ลงแต่เซรั่มเนื้อน้ำตัวบนกับฟราโคร่า 2 ตัวพอ 

ในตอนเช้าเราจับคู่ อินนิสฟรี Green Tea Seed Serum กับครีมของ Avene คือที่เค้าร่ำลือกันว่าอินนิสฟรีเซรั่มนี้ซึมใน 3 วิ ก็ยังให้ความรุ้สึกไม่ไวพอนะสำหรับเรา เมื่อเทียบกับพวกเนื้อน้ำ เราว่าผิวรู้สึกเบากว่า เบาจนบางทีไม่แน่ใจว่ามันซึมหรือมันระเหยกันแน่ (น้ำ-ระเหยได้ 555) 

ตอนกลางคืนเราจับคู่อินนิสฟรีกับเซรั่มของ Avene เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวก่อนตบด้วยไนท์ครีมค่ะ ตอนกลางคืนเป็นช่วงที่อยากอัดอะไรก็อัดไปให้สุ เพราะเราไม่ได้ออกไปไหน สารบำรุงจะได้ซึมลงไปทำงานได้เต็มที่ตลอดเวลาพักผ่อน 

ไนท์ครีมเราใช้มาจีค ตัวนี้ซึมไวเหมือนกัน ใช้แล้วหน้านุ่ม ตื่นมาแล้วไม่เมือก เวลาเทสว่าไนท์ครีมตัวไหนดีไม่ดีเราวัดกันตอนตื่นนอนเลยนะ ถ้าตื่นมาแล้วหน้าเงาๆมันๆแปลว่ามันไม่ซึม ก็จะหาอันใหม่ลองไปเรื่อยๆ เจออันไหนดีกว่าก็จะเปลี่ยนค่ะ ตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนนะ 5555 

ตัวนี้รักมากกกกก ใช้ทั้งเช้าและเย็นไปเลยค่ะ เป็นอายครีมที่โคตรถูกกกก และโคตรดีย์ย์ มีอย่างที่ไหนกระปุก 30 กรัม (ขนาดเท่าเซรั่มบางยี่ห้อ) ราคา 950 บาทเองอะ ใช้ไปเลยยาวๆ ลองไป 3 วันรู้เรื่องเลยว่าใต้ตาที่โหลๆดูฟูขึ้น รอยคล้ำจางลง ผิวรอบดวงตาแบบดูไบร์ท ดูสดชื่น คือถ้าใครกำลังมองหาอายครีมอยู่จะแนะนำไปรัวๆ ตัวเราเองใช้จนมันไม่ฟูไปกว่านี้แล้ว (ฮา) แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนแบบมากๆๆๆ ไม่รู้ถ้าเอาภาพเมื่อก่อนกับตอนนี้มาเทียบจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดมั๊ย ถ้ามีจะเอามาแปะรีวิวแยกให้ชมกันแน่นอน  

บ๊ายบายไปด้วยสภาพผิวหน้าปัจจุบันค่ะ เรามีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้ เมื่อก่อนเราเป็นคนหน้าแห้งแบบมากกก ข้างจมูกลอกเป็นแผ่นๆขุยๆ บางทีก็มีผื่น แสบๆคันๆ หลังจากอัดสกินแคร์เยอะๆมาเป็นเวลา 2-3 ปี ตอนนี้หน้าดูอิ่มฟู มีความเงาตามธรรมชาติ (เอ๊ะหรือหน้ามัน? 555) ไม่ได้เป็นคนขาวและคิดว่าคงไม่พยายามจะขาวไปกว่านี้แล้วเพราะกรรมพันธุ์ไม่อำนวย ตอนนี้แฮปปี้กับผิวหน้าตัวเองสุดๆ ร้อนๆแบบนี้ใครใช้ตัวไหนแล้วหน้าไม่เมือกถือว่าชนะค่ะ

ผิวของคนเราสามารถดูดซึมสกินแคร์ได้มาก-น้อย ไม่เท่ากัน ในแต่ละวันก็มีความแปรผันตามสิ่งแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ไปอี๊กกก ดังนั้นอะไรที่เราว่าดีใช่ว่ามันจะดีกับทุกคนนะคะ นี่เป็นเพียงการแชร์กรุสกินแคร์ส่วนตัวในช่วงนี้ของเราเท่านั้น จะซื้ออะไรตามก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดดีๆก่อนนะ

วันนี้ลาไปก่อนค่า เจอกันใหม่นะ จุ๊บๆ ^^