- สเตียรอยด์คืออะไร?
- ผิวติดสเตียรอยด์คืออะไร?
- ผิวติดสเตียรอยด์เกิดจากอะไร รักษาอย่างไรได้บ้าง?
- วิธีการสังเกตว่าสกินแคร์ตัวไหนมีส่วนผสมของสเตียรอยด์
- วิธีป้องกันไม่ให้ผิวติดสเตียรอยด์
- สเตียรอยด์ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
- สเตียรอยด์ สามารถซื้อใช้เองได้ไหม?
- ถ้าไม่กล้าใช้สเตียรอยด์รักษา สามารถใช้อะไรแทนได้บ้าง?
- แพทย์ผิวหนังอยากฝากอะไรถึงคนที่ยังใช้สเตียรอยด์อยู่
- ถ้าแพ้สกินแคร์ควรทำยังไงดี?
- หากไม่แน่ใจว่าแพ้สกินแคร์หรือไม่?
- หากเกิดอาการแพ้สกินแคร์
ผิวติดสเตียรอยด์คืออะไร รักษายังไงให้หาย? | Jeban x SkinX
by
DaisyOfficial
สเตียรอยด์คืออะไร?
- สเตียรอยด์ป็นฮอร์โมนประเภทหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ที่เกิดจากการทำงานของต่อมหมวกไต
- สเตียรอยด์ที่เป็นยาเป็นสารที่ใช้ในการลดอักเสบ รักษาโรคได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ อาการระคายเคือง และยังใช้เป็นยากดภูมิอ่อน ๆ ที่ใช้ในรักษาอาการอักเสบบางอย่าง เช่น รูมาตอยด์ โรคแพ้ภูมิตนเอง (SLE) สามารถใช้ได้ต่อเนื่องหากอยู่ในการดูแลจากแพทย์ แต่ก็มีผลข้างเคียงได้
ผิวติดสเตียรอยด์คืออะไร?
สเตียรอยด์แบบทา ยิ่งมีความเข้มข้นก็ยิ่งทำให้ติดสเตียรอยด์ได้ง่าย หากทาไปซักพักมักมีผลข้างเคียงคือ “สิวสเตียรอยด์” คล้ายๆ เป็นสิวแต่ไม่ใช่สิวจริง มีลักษณะเป็นตุ่มอักเสบ ตุ่มแดง ตุ่มหนอง ที่ไม่มีหัวสิว และหากทาสเตียรอยด์ไปนานๆ อาจมีอาการแดงแสบระคายเคืองง่าย และเมื่อหยุดใช้อาจมีอาการเห่อมากขึ้น
ผิวติดสเตียรอยด์เกิดจากอะไร รักษาอย่างไรได้บ้าง?
ผิวติดสารสเตียรอยด์เกิดจากผิวเสียสมดุลย์ทำให้เกิดอาการแย่ลง หลังจากใช้สเตียรอยด์ล้วหน้าจะขึ้นอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อหยุดใช้จะมีอาการสิวที่เห่อมากขึ้น หน้ากลับมาแดงมากขึ้น ดังนั้นเมื่อผิวติดสเตียรอยด์ หรือเป็นสิวสเตียรอยด์ เราจำเป็นต้องหยุดใช้สเตียรอยด์ แล้วใช้ยาทารักษาสิว รวมถึงกินยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะต่างๆ ในการรักษาสิวร่วมด้วย
- หากผิวเกิดเป็นผื่นแพ้แดงแสบระคายเคือง ให้เลือกใช้สกินแคร์ที่มีสารช่วยลดการอักเสบ ช่วยปลอบประโลมผิวหน้า และเสริมชั้นผิว เพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น
- ควรเลือกใช้สกินแคร์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรบำรุงหลายขั้นตอนเกิดไป เพราะจะเป็นการรบกวนผิวหน้า เช่น ใช้แค่โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน มอยส์เจอไรเซอร์สักตัวที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และครีมกันแดดสำหรับผิวระคายเคืองง่าย
- พฤติกรรมอื่นๆ ก็ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เครียด และไม่ควรเอามือจับผิวหน้าบ่อยๆ
วิธีการสังเกตว่าสกินแคร์ตัวไหนมีส่วนผสมของสเตียรอยด์
สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ มักเป็นครีมที่ผลิตโดยไม่ผ่านการตรวจสอบของ อย. มักวางขายตามอินเทอร์เน็ต ครีมกระปุกที่เน้นการโฆษณาว่าใช้แล้วขาวขึ้น สกินแคร์เหล่านี้มักจะมีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่ โดยผู้บริโภคแบบเราควรตรวจเช็คให้ละเอียด และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ว่ามีการตรวจสอบและได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว
วิธีป้องกันไม่ให้ผิวติดสสเตียรอยด์
วิธีดีที่สุดในการป้องกันคือไม่ใช้สเตียรอยด์เลย แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ในการรักษาผิว ผู้ใช้ควรศึกษารู้หลักในการใช้อย่างถูกต้อง และควรใช้เท่าที่จำเป็น
- เลือกความเข้มข้นของสารให้เหมาะกับผิว และใช้เฉพาะบริเวณที่จำเป็น เช่นทาเฉพาะจุดที่มีปัญหาผิวเท่านั้น
- เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ก็ควรลดความเข้มข้น และความถี่ในการใช้ เน้นไปที่การบำรุงผิว เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
การใช้สเตียรอยด์รักษาปัญหาผิว
สเตียรอยด์ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
สเตียรอยด์ในรูปแบบทาจะช่วยลดการอักเสบ ผื่นแพ้ระคายเคือง เช่น โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) หรือต่อมไขมันอักเสบ อาการเหล่านี้สามารถใช้สเตียรอยด์ทาได้ แต่สามารถทาได้ในช่วงสั้นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวติดสเตียรอยด์นั่นเอง
สเตียรอยด์ สามารถซื้อใช้เองได้ไหม?
หากต้องการซื้อสเตียรอยด์ใช้เอง ควรปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา เพื่อให้ช่วยแนะนำสเตียรอยด์ที่เหมาะกับผิวแต่ละตำแหน่ง รวมไปถึงระดับความแรง ความเข้มข้นของสเตียรอยด์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะผิวหนังของคนเรามีความหนา-บางไม่เท่ากัน หากกลัวว่าผิวจะติดสเตียรอยด์ การปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ผิวหนังก่อนใช้จะดีที่สุด
ถ้าไม่กล้าใช้สเตียรอยด์รักษา สามารถใช้อะไรแทนได้บ้าง?
ถ้าผิวมีการอักเสบไม่มาก อาจเริ่มจากการใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการอักเสบของผิว เช่น กลุ่มเวชสำอางก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ สกินแคร์ประเภทนี้จะช่วยทำให้อาการค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ แต่ถ้าไม่มั่นใจ และมีข้อมูลไม่เพียงพอ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะกับผิวต่อไป
แพทย์ผิวหนังอยากฝากอะไรถึงคนที่ยังใช้สเตียรอยด์อยู่
สำหรับใครที่ใช้เป็น ใช้อย่างถูกต้องอยู่แล้วก็สามารถใช้ต่อได้ แต่ใช้เท่าที่จำเป็นจะดีที่สุด นั่นก็คือ
- ไม่ควรใช้มากเกินไป เน้นไปที่การดูแลผิว หมั่นทามอยส์เจอไรเซอร์เสริมชั้นผิวให้แข็งแรง
- พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน ฝุ่น หรือมลภาวะ
- การใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นทำให้ผิวอักเสบได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
ถ้าแพ้สกินแคร์ครีมควรทำยังไงดี?
อาการแพ้สกินแคร์มี 2 ประเด็น
- การแพ้ที่มีอาการแสบ หรือระคายเคืองทันทีที่ทาสกินแคร์ เป็นอาการที่มีความคันยุบยิบ ผิวแสบแดง ทันทีหลังจากทาสกินแคร์ หรือเครื่องสำอางลงผิว
- การแพ้จากภูมิแพ้ที่มาจากส่วนผสมในสกินแคร์ เช่น น้ำหอม สารกันเสีย โดยอาการมีได้หลายแบบ เช่น เป็นผื่น น้ำเหลือง และมีอาการแดงคัน
หากไม่แน่ใจว่าแพ้สกินแคร์หรือไม่?
เบื้องต้นให้หยุดใช้สกินแคร์ตัวนั้นๆ ก่อน เพราะถ้ายิ่งใช้ อาจทำให้อาการแย่ลง โดยให้เปลี่ยนมาใช้ครีมที่มีสูตรอ่อนโยน และเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ว่าช่วงนี้ควรใช้อะไรกับผิวหน้าได้บ้าง ถ้าไม่แน่ใจก็ทำการทดสอบเพิ่มเติม หรือเรียกว่า Patch test เพื่อทดสอบสารที่เจอในชีวิตประจำวัน รวมถึงสารที่ต้องสงสัยว่าทำให้เกิดอาการแพ้
หากเกิดอาการแพ้สกินแคร์
สารสเตียรอยด์มีหน้าที่ช่วยให้หายเร็วขึ้น แต่ต้องใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และควรใช้ควบคู่ไปกับสกินแคร์เสริมปราการผิวอย่างสม่ำเสมอ และไม่ลืมที่จะเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ หากยังคงมีการทำงานกลางแจ้ง ต้องโดนแดด มีเหงื่อเป็นปัจจัยกระตุ้น ก็อาจทำให้อาการผิวแย่ลงได้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรระวังเช่นกัน
- สิวสเตียรอยด์ คือลักษณะปัญหาที่คล้ายกับเป็นสิว แต่ไม่ใช่สิวจริง มีลักษณะเป็นตุ่มอักเสบ ตุ่มแดง ตุ่มหนองที่ไม่มีหัวสิว
- ผิวติดสเตียรอยด์ หรือเป็นสิวสเตียรอยด์ จะต้องหยุดใช้สารสเตียรอยด์ แล้วใช้ยาทารักษาสิว รวมถึงกินยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะต่างๆ ในการรักษาสิวร่วมด้วย
- วิธีดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ผิวติดสเตียรอยด์ คือไม่ใช้สเตียรอยด์เลย
- วิธีตรวจสอบสกินแคร์ที่มีสารสเตียรอยด์ คือควรเช็คให้ละเอียดก่อนซื้อ เลือกผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ว่ามีการตรวจสอบ และได้รับการรับรองจากผ่าน อย. แล้ว
มีเรื่องผิวกวนใจ ปรึกษาปัญหาด้านผิวหนัง ได้ทุกเรื่อง ได้ทุกที่
กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ SkinX แอปพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์
ขอบคุณข้อมูล :
นายแพทย์พนด ชินพิพัฒน์ แพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี