The Battle of Concealers ตัวเด็ด ๆ ทั้งหมด 10 ตัว จาก 7 แบรนด์ทั้งถูกและแพง

เกริ่นก่อนเราผิว nc30-35 ผิวมัน และเป็นสิวง่าย เป็นแล้วชอบทิ้งรอยดำ ๆ แดง ๆ เอาไว้ให้ฝึกสกิลเล่น ดังนั้นทั้งชีวิตเราจึงแสวงหาคอนซีลเลอร์ที่คุณภาพเริ่ด ๆ เพื่อรับมือกับนังพวกนี้ เราขอใช้ปากกาเมจิกเป็นรอยที่ต้องการปกปิดละกันนะครับ ☝?

1. Charlotte Tilbury Magic Away Liquid Concealer เบอร์ 6 (1300 บาท)

ตัวแพ็คเกจสวยงามตามมาตรฐานแบรนด์เค้า โดยเป็นการบิดที่ด้านท้าย เพื่อนำผลิตภัณฑ์ออกมา ตัว applicator เป็นแบบคุชชั่น ซึ่งมีความแข็งนิดหน่อย เปิดใช้แรก ๆ อาจจะต้องบิดนานหน่อยกว่าเค้าจะออกมา ตัวคอนซีลเลอร์หนึบนิดหน่อย เกลี่ยง่าย เซ็ตตัวไว ให้การปกปิดระดับ medium ถึงเกือบ full สิ่งที่แตกจากคอนซีลเลอร์ที่เคยใช้มาทั้งหมด คือ “ฟินิชสวยม้ากกกก” คือมันดูเป็นผิวมาก เบาหน้า มีความฉ่ำนิด ๆ ผิวมันใช้ได้ ไม่เป็นคราบ ไม่จับรอยลอก ๆ เราชอบฟินิชกับเท็กเจอร์มาก ๆ ถ้าเลือกสีเป๊ะคือแต่ง no makeup ได้ดีงามมาก ตัวนี้เป็นตัวที่สีเป๊ะที่สุดแล้ว แต่เราไม่ชอบ applicator เพราะมันแข็งไปและอาจจะเป็นที่สะสมพวกแบคทีเรียได้เพราะต้องแต้มลงบนหน้าโดยตรง หรือแก้ปัญหาโดยทาบนหลังมือก่อนก็ได้ และอีกอย่างคือ ให้ปริมาณมาน้อยมาก 4 ml. เมื่อเทียบกับราคาแล้ว โดยรวม ๆ เวิร์กครับให้ 8/10

2. Nars Soft Matte Complete Concealer สี Macadamia (1320 บาท)

 น้องคนนี้คือตอนแรกไม่อยากได้ เพราะเราคิดว่าคอนซีลเลอร์แบบครีมมันจะดูเค้กกี้มั้ย แต่น้องคนนี้ไม่จ้ะ! เริ่ดมากเบาม้าก ไม่เค้กกี้ ไม่จับรอยลอก ไม่แตก ปกปิดได้ดี เกือบจะ full แล้ว ถ้าจะให้ full เลยอาจจะต้องใช้เวลาบิ๊ว สีนี่คือเป๊ะกับสีหน้ามาก ๆ และยัง oil-free ด้วยนะ คุณสมบัติอีกอย่างนึงของน้องคนนี้คือ สามารถเติมระหว่างวันได้โดยที่ไม่เป็นคราบ สำหรับตัวนี้เราชอบใช้ใต้ตาด้วย เพราะเค้าไม่ตกร่องและเซ็ตตัวไว แต่ใครที่อยากใช้ขอให้เมกชัวร์ว่ามือสะอาด หรืออาจจะใช้แปรงแทนก็ได้ สรุปแล้วเวิร์กมากครับ 9/10

3. Tarte Shape Tape Concealer สี 34S Medium Sand (1000 บาท)

 ระดับเทพอีกตัวที่เค้าอื้ออึงกันหนักมากจนเราต้องหามาจนได้ (หมดมาแล้ว 1 หลอด นี้หลอดใหม่) ตอนนี้เข้าไทยแล้วนะครับ หาได้ที่ Sephora ทุกสาขา เฉดสีเยอะกว่าเดิมมาก มันคือสุดยอดคอนซีลเลอร์แล้วสำหรับเราอ่ะนะ คือเราเป็นสิวบ่อย น้องคนนี้คือช่วยชีวิตไว้นักต่อนักแล้ว ปกปิดแน่นตึบบบบ ไม่ต้องมีแล้วคำว่า “งานผิว” ลบไปเลยรอยดำบนหน้า เนื้อค่อนข้างข้น เกลี่ยง่ายไม่เป็นก้อน ถ้าอยากให้บางลงก็ใช้น้อย ๆได้ ใครต้องการปกปิดจุดเล็ก ๆ แนะนำให้ใช้แปรงหัวเล็ก ๆ เพราะ applicator เค้าขนาดมโหฬารมากแบบเห้ย ! ต้องใหญ่ขนาดนี้เลย? คือควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ ก่อนไม่งั้นจะดูหนาไปได้ ใต้ตา สิว รอยดำ ช้างตาย เอาอยู่ ฟินิชเป็นแบบแมตต์ แต่ไม่แตก ไม่แห้ง เซ็ตตัวไว ไม่เหนอะน่ะ คือไม่มีอะไรจะหักอ่ะนะ คือตอนนี้เป็นลูกรักสุด ๆ เอาไปเลย 1000/10 ที่สำคัญ ราคาถูกกว่าตัวอื่น ๆ แต่ปริมาณเยอะเวอร์  ใช้ได้นานมาก เวิร์กสุดใจ

4. Nars Radiant Creamy Concealer สี Ginger (1320 บาท)

 (ขออภัยที่เราลืมถ่ายตัวแพ็คเกจไว้นะครับ) ระดับตำนานอีกตัว โดยรวมแล้วทุกอย่างคือคล้ายกับตัว soft matte แต่มาในแบบลิควิด และฉ่ำกว่า ใช้ได้ทั้งกับใต้ตาและกับรอยดำ รอยแดง หรือสิวผ่านมาแล้วหลายหลอดเหมือนกันแต่เราอยากลองตัวอื่น ๆ บ้าง ในส่วนของเฉดสีตอนนนี้เค้าสับเรนจ์สีละเอียดกว่าเดิมเยอะมาก ๆ ครอบคลุมแทบทุกสีผิวแล้ว ตอนนี้เราได้เขยิบขึ้นมาเป็นสี Macadamia แล้ว ตัวนี้เราไม่มีอะไรจะหักเลย เราว่าเค้าเวิร์กมากกกกก ผิวมันใช้ได้ ผิวแห้งใช้ดี เอาไปเลย 10/10 หมดแล้วต้องมีติดไว้

5. Laura Mercier Flawless Fusion Concealer สี 3C (1100 บาท)

ในคอนซีลเลอร์ทั้งหมดน้องคนนี้เนื้อลื่นที่สุด เบาสุด ให้การปกปิดในแบบ medium ไปไม่ถึง full นะสำหรับเรา แต่ใครต้องการงานผิวเราแนะนำเลยนะตัวเนี้ย ฟินิชไม่ได้แมตต์มาก เค้า oil-free ด้วยนะตัวนี้ เราว่าเหมาะกับการใช้ใต้ตาเพราะ เค้าค่อนข้างชุ่มชื้น สำหรับตรงที่เป็นริ้วรอยคือมั่นใจได้ว่าไม่แตก ไม่ตกร่อง ใครที่รอยจากสงครามไม่เยอะน่าจะชอบ แต่ส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างเฉย ๆ เพราะไม่ได้ในแบบที่ต้องการ เราให้ 7/10 ละกัน

6. Maybelline Fit Me Concealer เบอร์ 25 สี Medium (ประมาณ 199 บาท)

 ตัวนี้เนื้อลื่นมากกกกก แต่ไม่ค่อยปกปิด เป็น medium เลย บิ๊วได้นิดหน่อย ความดีคือมันคล้ายลอร่ามากกกก แต่ลอร่าปกปิดมากขึ้นมานิดหน่อย ใครที่ชอบแบบบาง ๆ เราแนะนำตัวนี้เลย คือน้องก็ดีแต่เรายังไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะเค้าปกปิดได้น้อย เรามีสีเข้มด้วยนะเอาไว้ใช้คอนทัวร์ โดยรวมแล้วเฉย ๆ เราให้ 7/10 ละกันนนนะ

7. Maybelline Instant Age Rewind (399 บาท) สี Medium

ใครที่อยากลองชาร์ล็อตเราแนะนำตัวนี้ เลยเรียกได้ว่าเป็น dupe แต่ก็ไม่ 100% ตัวนี้สำหรับเรานะใช้ได้ทั้งสำหรับใต้ตา ทั้งรอยตั่งต่าง สำหรับผิวมันเราแนะนำให้ใช้แค่ใต้ตา แต่สำหรับผิวแห้งทั่วหน้าไปเลยจ้าา ตัวแอปพลิเคเตอร์ที่เป็นคุชชั่นนิ่มมากกก คุ้นไหมเหมือนยี่ห้อด้านบน ? คือคนนี้นิ่มกว่าอีกนะบอกเลย ที่เราบอกว่าเป็น dupe แต่ไม่ 100% เพราะตัวนี้มีความชุ่มชื้นกว่า ฉ่ำกว่า ปกปิดมากกว่านิดนึง ตัวนี้แอบมีข้อเสียนิดนึงถ้าเราใช้ใต้ตาแล้วน้ำตาไหลน้องเค้าหลุดอ่ะ แบบเป็นแหว่ง ๆ แล้วคือแก้ไม่ได้ละ แล้วแต่วัน good day, bad day อ่ะ ตัวเนี่ยเราให้เวิร์กมากกก เค้ากลบใต้ตาได้ดี ลื่น เกลี่ยง่าย แอบหักตรงที่ไม่ค่อยทนน้ำตานั่นแหละ เอาไป 9/10 เดอะเบสดรักสโตร์จากกกกก

8. Mac Studio Finish Concealer (900บาท)

เราใช้ nc35 ตัวนี้หมดไปแล้วนะครับขออภัยไม่มีรูป ปกปิดสุดแบบกริบมาก แต่ว่าค่อนข้างมัน ถ้าอากาศร้อน ๆ ตั้งไว้บนโต๊ะคือ มาเป็นหยดน้ำเลย ติดทน ไม่แตกระหว่างวัน ถ้าให้เทียบกับ Nars Soft Matte เราชอบ Nars มากกว่า เพราะสีเป๊ะกว่า Oil-free ถึงจะปกปิดน้อยกว่า ใครที่ชอบแบบปกปิดแน่น ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะครับ

9. Collection Lasting Perfection Concealer (ราคา 249 บาท)

 ตัวนี้เป็นดรักสโตร์ที่ดีอีกตัวนึง เนื้อแมตต์ ปกปิดแบบ medium ถึง full เกลี่ยง่าย ราคาถูกชอบมีโปรโมบ่อย 1 แถม 1 ไรงี้ ของแบรนด์นี้ดีหลายอย่างเลยนะ ที่เราไม่ได้ซื้อใช้เพราะสีเค้าขาวเกินไปสำหรับผิวเรานะ ก็คือเบอร์ 3 ถ้าใช้กับใต้ตาก็ได้อยู่ แต่เบอร์ 4 นี่เข้มและติดแดงเลยเราเลยว่าควรพักก่อน ให้ 7/10 จ้า

10. Mac Pro Longwear Concealer สี nc35 (ราคา 1050 บาท)

นี่คือคอนซีลเลอร์ที่เซ็ตตัวไวที่สุดแล้ว เกลี่ยง่ายแต่แห้งไว เกลี่ยไม่ดีมีเป็นคราบ ๆ ปกปิดได้ในแบบ medium to full สำหรับเรานะ แต่ระหว่างวันเค้าชอบเป็นลอย ๆ ขึ้นมาแบบด่าง ๆ นิดนึงไม่ได้โดด และแอบมีความแคร้กด้วย อีกอย่างนึงคือฝาปั๊มเค้ากะปริมาณยากไปนิด เพราะกดออกมาแล้วได้เยอะมาก ต้องค่อย ๆ กดออกมา ใช้ใต้ตาไม่น่าเหมาะ เหมาะแค่กับสิว หรือรอยดำ ๆ เท่านั้น โดยรวมแล้วเราไม่ค่อยชอบ ไม่ซื้อต่อครับ

จบแล้วนะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาทั้งที่จบและไม่จบนะครับ อาจจะยาวสักนิดนึงแต่ไหน ๆ ก็ทำแล้วเราก็อยากทำให้ละเอียดไปเลย สุดท้ายนี้เราแนบสวอชให้นะครับ เทียบกันทุกสีที่มี ถ้าชอบก็ฝากกดหัวใจ กดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ??