เคล็ดลับวิธีรักษา ฝ้า กระ แบบธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง
Mew Apinan 20 11ฝ้า มีลักษณะเป็นปื้น ๆ ชอบขึ้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะจุดที่ถูกแสงแดด เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก หน้าแก้ม คาง
กระ มีทั้งหมด 4 ชนิด
กระแดด จะเป็นจุดสีน้ำตาลขอบชัด ขนาดเล็กๆ ชอบเกิดบริเวณที่โดนแดด
กระตื้น จะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน ขนาดเล็ก จะชอบเกิดในคนที่มีผิวขาว
กระลึก จะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา ขนาดเล็กตรงช่วงโหนกแก้ม
กระเนื้อ จะเป็นตุ่มเนื้อเล็กๆ สีน้ำตาล หรือน้ำตาลเข้ม ส่วนใหญ่จะเป็นในผู้สูงอายุ
สาเหตุของการเกิด ฝ้า-กระ
ฮอร์โมน หรือ พันธุกรรม ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน จะทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย (เช่น การตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน) หรือได้รับฮอร์โมนจากภายนอกร่างกาย (เช่น รับประทานยาคุมกำเนิด การใช้เครื่องสำอาง) จึงมักพบผู้ที่เป็น ฝ้า กระ ขณะตั้งครรภ์ หรือ ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดบ่อยๆ
แสงแดด หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต จะเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ใต้ผิวหนังของเรา สร้างเม็ดสีมาก ขึ้น และถ้าโดนแดดสะสมเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้
แพ้เครื่องสำอาง การแพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาจทำให้เกิดรอยดำแบบฝ้าได้ ส่วนผสมเหล่านี้ อาจเป็นพวกสารกันแดด สารแต่งสีพาราฟีนิลีนไดอะมีน (ยาย้อมสีผม) วัตถุกันเสีย แอลกอฮอล์ สารปรอท สเตียรอยด์และสารอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีผลข้างเคียงในเชิงลบต่อผิว เป็นต้นเหตุทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองจนนำไปสู่ปัญหาฝ้า กระ ตามมา
วิธีป้องกันการรักษา ฝ้า-กระ
ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ได้มากที่สุด สวมหมวกหรือกางร่ม ใส่เสื้อผ้าปกคลุมผิวหนัง กางร่มเวลาออกกลางแจ้ง
ควรเลือกกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA (ช่วยปกป้องการเกิดฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย) และ UVB (ช่วยป้องกันการทำลายผิวชั้นนอก), HEV (ช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า), IR (ช่วยปกป้องผิวจากการไหม้) โดยมีค่า SPF 50+ ขึ้นไป ปริมาณครีมที่แนะนำคือ 2 ข้อนิ้วมือ ถ้าทำกิจกรรมกลางแดดแนะนำให้ทากันแดดซ้ำทุก 2 ชม.
การรักษาด้วยการทายา ในกลุ่มของพวก กรดวิตามินเอ กลุ่มทรานิซามิก ครีมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ก็มีส่วนในการรักษาฝ้า กระ ได้ค่ะ
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือ กรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid) ช่วยเร่งให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก คล้าย ๆ กับการใช้เลเซอร์ เพื่อช่วยให้สีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น
การรักษาด้วยการเลเซอร์ เพื่อช่วยปรับสภาพหรือรักษาความผิดปกติของสีผิว เช่น เลเซอร์ระบบคิวสวิทซ์ (Q-switched Laser) หรือ (Fractional Erbium: YAG Laser) ยิงลงไปบริเวณที่เกิดฝ้า กระ โดยตรงและทำลายเซลล์ สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน
คำแนะนำสำหรับการมาสก์หน้าด้วยสูตรธรรมชาติทั้ง 3 สูตร
ไม่ควรมาสก์เกินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง และอาจทำให้ผิวแพ้ได้ง่าย
หลังมาสก์เสร็จควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทันที
สภาพผิวของแต่คนไม่เหมือนกันควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราไม่แพ้
และที่สำคัญคือ การปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำทุกวัน เพราะการผลัดเซลล์ผิวจะทำให้ผิวบางลง และไวต่อแสง อาจจะทำให้เกิดการแสบแดง หรือเกิดฝ้า กระได้ กันแดดเลยสำคัญมาก ๆ
เลือกกันแดดยังไงให้เหมาะกับสภาพผิว
ประเทศไทยตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน ไหนจะ PM 2.5 รังสี UVA UVB HEV IR การปกป้องผิวหน้าจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะกันแดดต้องได้มาตราฐาน และที่สำคัญเลยการที่เลือกกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
melan 130 pigment control SPF50+
กันแดดสูตร : ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ทั้งยังช่วยปกป้องการเกิดจุดด่างดำความหมองคล้ำบนใบหน้า
เนื้อกันแดด : สีเบจ ช่วยปกปิดจุดด่างดำ และความหมองคล้ำอย่างเป็นธรรมชาติ เกลี่ยง่าย
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวแห้ง และผู้ที่ไปทำเลเซอร์มาแล้วผิวเป็นขุย เหมาะกับคนที่มีผิวเหลือง ผิวสองสี
กันแดดสูตร : กันแดดเนื้อแมท ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
เนื้อกันแดด : เนื้อแมท เมื่อเกลี่ยลงบนผิวเนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้ง แห้งสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวมัน ผิวแพ้ง่าย และผิวเป็นสิว
กันแดดสูตร : กันแดดสูตรเติมน้ำให้ผิว และเบาสบาย
เนื้อกันแดด : บางเบาสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวปกติ และผิวผสม
mesoprotech sun stick 100 SPF50+
กันแดดสูตร : ออกแบบมาเพื่อใช้เฉพาะจุด สำหรับบริเวณที่บอบบาง เช่น ริมฝีปาก รอบดวงตา
เนื้อกันแดด : เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น และโปร่งใส สามารถทาระหว่างวันได้
เหมาะสำหรับ : ผิวที่แพ้ง่าย และบอบบาง หรือทุกสภาพผิว