เคล็ดลับวิธีรักษา ฝ้า กระ แบบธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง

20 11
     ฝ้า กระ ปัญหาระดับชาติโดยเฉพาะประเทศไทยที่มี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก ร้อนสุดๆ และสิ่งที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายที่สุดเลยคือ แสงแดดเพราะรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ เตรียมร่ม ครีมกันแดดไว้รอเลย ทาตั้งแต่ตอนยังไม่เป็น ฝ้า กระ คือเดอะเบสที่สุดนะคะ ถ้าเป็นแล้วหายยากนะบอกเลย

ฝ้า มีลักษณะเป็นปื้น ๆ  ชอบขึ้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะจุดที่ถูกแสงแดด เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก หน้าแก้ม คาง 

กระ มีทั้งหมด 4 ชนิด

  1. กระแดด จะเป็นจุดสีน้ำตาลขอบชัด ขนาดเล็กๆ ชอบเกิดบริเวณที่โดนแดด 

  2. กระตื้น จะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน ขนาดเล็ก จะชอบเกิดในคนที่มีผิวขาว

  3. กระลึก จะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา ขนาดเล็กตรงช่วงโหนกแก้ม

  4. กระเนื้อ จะเป็นตุ่มเนื้อเล็กๆ สีน้ำตาล หรือน้ำตาลเข้ม ส่วนใหญ่จะเป็นในผู้สูงอายุ

สาเหตุของการเกิด ฝ้า-กระ

  1. ฮอร์โมน หรือ พันธุกรรม ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน จะทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย (เช่น การตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน) หรือได้รับฮอร์โมนจากภายนอกร่างกาย (เช่น รับประทานยาคุมกำเนิด การใช้เครื่องสำอาง) จึงมักพบผู้ที่เป็น ฝ้า กระ ขณะตั้งครรภ์ หรือ ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดบ่อยๆ

  1. แสงแดด หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต จะเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ใต้ผิวหนังของเรา สร้างเม็ดสีมาก ขึ้น และถ้าโดนแดดสะสมเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ 

  2. แพ้เครื่องสำอาง การแพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาจทำให้เกิดรอยดำแบบฝ้าได้ ส่วนผสมเหล่านี้ อาจเป็นพวกสารกันแดด สารแต่งสีพาราฟีนิลีนไดอะมีน (ยาย้อมสีผม) วัตถุกันเสีย แอลกอฮอล์ สารปรอท สเตียรอยด์และสารอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีผลข้างเคียงในเชิงลบต่อผิว เป็นต้นเหตุทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองจนนำไปสู่ปัญหาฝ้า กระ ตามมา


วิธีป้องกันการรักษา ฝ้า-กระ

  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ได้มากที่สุด สวมหมวกหรือกางร่ม ใส่เสื้อผ้าปกคลุมผิวหนัง กางร่มเวลาออกกลางแจ้ง

  • ควรเลือกกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA (ช่วยปกป้องการเกิดฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย) และ UVB (ช่วยป้องกันการทำลายผิวชั้นนอก), HEV (ช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า), IR (ช่วยปกป้องผิวจากการไหม้) โดยมีค่า SPF 50+ ขึ้นไป ปริมาณครีมที่แนะนำคือ 2 ข้อนิ้วมือ ถ้าทำกิจกรรมกลางแดดแนะนำให้ทากันแดดซ้ำทุก 2 ชม.

  • การรักษาด้วยการทายา ในกลุ่มของพวก กรดวิตามินเอ กลุ่มทรานิซามิก ครีมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ก็มีส่วนในการรักษาฝ้า กระ ได้ค่ะ

  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือ กรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid) ช่วยเร่งให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก คล้าย ๆ กับการใช้เลเซอร์ เพื่อช่วยให้สีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น

  • การรักษาด้วยการเลเซอร์ เพื่อช่วยปรับสภาพหรือรักษาความผิดปกติของสีผิว เช่น เลเซอร์ระบบคิวสวิทซ์ (Q-switched Laser) หรือ (Fractional Erbium: YAG Laser) ยิงลงไปบริเวณที่เกิดฝ้า กระ โดยตรงและทำลายเซลล์ สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน

     การรักษา ฝ้า กระ แบบธรรมชาติ ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดี เงินก็หายากจะซื้อครีมทีก็แพง! แนะนำให้เปิดดูของในตู้เย็นว่ามีของเหล่านี้อยู่ไหม เป็นของที่หาง่ายและราคาถูก มากเป็นอีก 1 ทางเลือกในการรักษา ฝ้า กระราคาถูก วันนี้มี 3 สูตรธรรมชาติรักษา ฝ้า-กระ แบบปลอดภัย มาแชร์กันค่ะ
     สูตรที่ 1. มะละกอ นอกจากจะอร่อยหวานฉ่ำยังช่วยบำรุงเลือด แก้ท้องผูก ในมะละกอมีเอนไซม์ปาเปน ช่วยให้ผิวหนังผลัดเซลล์ผิวได้ดี ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใส  และยังช่วยลด ฝ้า กระ ได้อีกด้วย โดยเอามะละกอสุกมาบดหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมามาสก์บนใบหน้า 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
     สูตรที่ 2. แตงกวา ใครจะไปเชื่อว่าแตงกวาลูกยาวๆ ที่เรากินบ่อยๆ นอกจากอร่อยแล้วเขายังช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว เพราะแตงกวามีวิตามินเอ วิตามินซี และ flavonoid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว แต่ก่อนจะนำมามาสก์หน้าต้องปลอกเปลือกก่อนะคะ หลังจากนั้นนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเอาไปปั่น นำมามาสก์ให้ทั่วหน้า 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ระหว่างที่รอก็เอาที่หั่นๆ มากินรอได้นะคะถ้าหิว 555
     สูตรที่ 3.ใบบัวบก อกหักรักคุด แก้ช้ำใน แต่ไม่แก้ชำใจนะคะอิอิ หลายคนอาจจะรู้แล้วว่านอกจากจะช่วยพวกเรื่องสิว ลดบวม นอกจากนี้ใบบัวบกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้าได้อีก แค่นำใบบัวบก 1 ถ้วย มาปั่นหรือตำให้พอละเอียด แล้วใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ (เติมน้ำเจือจางเพื่อให้ผิวไม่ระคายเคือง) หลังจากล้างหน้าเสร็จนำสำลีชุบน้ำใบบัวบกแล้วนำมาเช็ดหน้าใช้แทนโทนเนอร์ได้

คำแนะนำสำหรับการมาสก์หน้าด้วยสูตรธรรมชาติทั้ง 3 สูตร

  1. ไม่ควรมาสก์เกินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง และอาจทำให้ผิวแพ้ได้ง่าย

  2. หลังมาสก์เสร็จควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทันที

  3. สภาพผิวของแต่คนไม่เหมือนกันควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราไม่แพ้


     และที่สำคัญคือ การปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำทุกวัน เพราะการผลัดเซลล์ผิวจะทำให้ผิวบางลง และไวต่อแสง อาจจะทำให้เกิดการแสบแดง หรือเกิดฝ้า กระได้ กันแดดเลยสำคัญมาก ๆ

เลือกกันแดดยังไงให้เหมาะกับสภาพผิว


     ประเทศไทยตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน ไหนจะ PM 2.5 รังสี UVA  UVB  HEV  IR   การปกป้องผิวหน้าจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะกันแดดต้องได้มาตราฐาน และที่สำคัญเลยการที่เลือกกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง

melan 130 pigment control SPF50+

กันแดดสูตร : ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ทั้งยังช่วยปกป้องการเกิดจุดด่างดำความหมองคล้ำบนใบหน้า

​เนื้อกันแดด : สีเบจ ช่วยปกปิดจุดด่างดำ และความหมองคล้ำอย่างเป็นธรรมชาติ เกลี่ยง่าย

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวแห้ง และผู้ที่ไปทำเลเซอร์มาแล้วผิวเป็นขุย เหมาะกับคนที่มีผิวเหลือง ผิวสองสี

ป้องกันผิวจาก : UVA / UVB / HEV / IR
mineral matt antiaging fluid SPF50+

กันแดดสูตร : กันแดดเนื้อแมท ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า 

​เนื้อกันแดด : เนื้อแมท เมื่อเกลี่ยลงบนผิวเนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้ง แห้งสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวมัน ผิวแพ้ง่าย และผิวเป็นสิว

ป้องกันผิวจาก : UVA / UVB / HEV / IR
light water antiaging veil SPF50+

กันแดดสูตร : กันแดดสูตรเติมน้ำให้ผิว และเบาสบาย

เนื้อกันแดด : บางเบาสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว 

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวปกติ และผิวผสม

ป้องกันผิวจาก : UVA / UVB / HEV / IR

mesoprotech sun stick 100  SPF50+

กันแดดสูตร : ออกแบบมาเพื่อใช้เฉพาะจุด สำหรับบริเวณที่บอบบาง เช่น ริมฝีปาก รอบดวงตา 

เนื้อกันแดด : เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น และโปร่งใส สามารถทาระหว่างวันได้

เหมาะสำหรับ : ผิวที่แพ้ง่าย และบอบบาง หรือทุกสภาพผิว

ป้องกันผิวจาก : UVA / UVB / HEV / IR
     การเลือกกันแดดนอกจากจะเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแล้วควรมี UVA, UVB, HEV, IR และ SPF50+ เพราะประเทศไทยร้อน ยังต้องไม่อุดตันผิวทำให้เกิดสิวตามมาด้วยนะคะ เพื่อการดูแลสุขภาพผิวหน้าที่ดี วันนี้ขอตัวลาไปก่อนบ๊าบบายยยย


Mew Apinan

Mew Apinan

FULL PROFILE