เลือกกันแดดอย่างไร ให้ตรงกับสภาพผิวของคุณ แถมการปกป้องแสงแดดต้องเริ่ดอีกด้วย ?

บองชูร์ สาวๆ วันนี้เดี๊ยนจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกันแดด กันแดดแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ คือ Chemical กับ Physical และ Hybrid

ครีมกันแดด 3 แบบนี้ สามารถป้องกันแสงแดดได้เหมือนกัน แต่จะเหมาะกับผิวแบบไหนนั้นต้องอ่าน

กระทู้เดี๊ยนค่ะ จะได้รู้ว่ามันต่างกันยังไง เริ่มเลย!

     ครีมกันแดดแบบ Chemical จะปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสีด้วย การดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนให้สลายไป ทำให้รังสีไม่ซึมลงผิว แต่เมื่อไหร่ที่หล่อนทาแล้วไม่ใช่ไปออกแดดเลยนะคะ ต้องรอ 20-30 นาที ก่อนถึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด

ข้อดี

-เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

-ใช้ปริมาณไม่เยอะแต่ปกป้องได้ดีกว่า

ข้อเสีย

-ต้องรออย่างน้อย 20 นาที ให้กันแดดเซ็ทตัวก่อน จึงออกแดดได้

-มีโอกาสอุดตันรูขุมขนมากกว่าชนิดอื่น จึงไม่เหมาะกับคนผิวมัน

ข้อควรระวัง : เช็ดหน้า และ ล้างหน้าให้สะอาด

     สำหรับที่ผิว Sensitive เดี๊ยนไม่แนะนำนะคะ เพราะนางกันแดดแบบ Chemical อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองได้

     ครีมกันแดดแบบ physical นางจะปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UV โดยการสะท้อนกลับ เวลาหล่อนทากันแดด physical ครีมก็จะเคลือบบนใบหน้า ทาแล้วออกแดดได้เลย พอโดนแดดปุ๊ป ก็จะสะท้อนรังสีออกจากผิวได้อย่างรวดเร็ว เก๋กรุบ

ข้อดี

-ทาเสร็จไม่ต้องรอ ออกแดดได้เลย

-โอกาสแพ้น้อยกว่า ดังนั้นจะเหมาะกับผิวแพ้ง่าย

-โอกาสอุดตันน้อยกว่า จึงเหมาะกับคนที่เป็นสิวง่าย

ข้อเสีย

-เนื้อเกลี่ยได้ยากกว่า

-เนื้อค่อนข้างหนาทึบ ไม่เหมาะเมื่อต้องทาเมคอัพทับ

ข้อควรระวัง : ล้างหน้าให้สะอาดเนื้อเบาอาจจะอุดตันได้เช่นกัน

     กันแดด Hybrid เป็นกันแดดที่ผสมระหว่าง Chemical และ Physical ช่วยปกป้องผิวจากแสง UV ด้วยการดูดซับและสะท้อนยูวีออกจากผิว ตัวกันแดด Hybrid เขาเอาจุดเด่นกันแดดทั้งสองตัวมาผสมเพื่อเพิ่มจุดเด่น และลดข้อเสียลงช่วยให้กันแดดสามารถปกป้อง

แสงแดดได้ดียิ่งขึ้น

ข้อดี

- เนื้อกันแดดจะไม่เหนอะหนะเกลี่ยง่าย ไม่วอก

- ใช้ได้ทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่ายใช้ได้

ข้อเสีย

- ราคาแรง

     แต่เดี๊ยนชอบมากเพราะนางเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิว Sensitive แพ้ง่าย ก็ใช้ได้ หายห่วงค่ะ

     เดี๊ยนก็บอกไม่ได้หรอกว่าแบบไหนดีกว่ากัน เพราะกันแดดถ้าจะใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ มันก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าแต่ละคนด้วย การเลือกยี่ห้อกันแดดเลยสำคัญมาก เดี๊ยนมีกันแดดที่ใช้อยู่ จากสเปนมาแนะนำ (มีทั้ง chemical, physical และ Hybrid) Good News ตอนนี้มีขายในไทยแล้ว  

     กันแดดตัวมารดา ปกป้องผิวจาก UV ไม่พอ นางช่วยยังบำรุงผิวและช่วยให้ผิวชุ่มชื้นลดการสูญเสียน้ำ ทั้งยังมีสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เนื้อกันแดดเนียนนุ่ม ซึมเร็ว ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ใครที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวต้องตัวนี้ค่ะ

เนื้อครีมของเค้าจะเนียนนุ่ม เหมือนทาครีมบำรุง ความหนักหน้าจะน้อยกว่ากันแดดตัวอื่นๆ ดีเกินไปป่ะ

กันแดดสูตรเนื้อแมท ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ให้ความรู้สึกแห้ง แต่สบายผิว ตัวนี้เค้าช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้ด้วย ใครที่หน้ามันเยิ้มควรมีติดบ้าน นางป้องกัน UV, HEV (แสงสีฟ้า), IR (รังสีอินฟราเรด) เหมาะมากสำหรับคนที่ผิวมันมากๆ  น้องกันน้ำได้ดีแต่สามารถเช็ดล้างออกได้ง่าย ไม่อุดตันผิว

     นางเป็นกันแดด สูตรชุ่มชื้น เนื้อบางเบาซึมเร็ว และยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย อีกทั้งยัง ป้องกัน UV, HEV (แสงสีฟ้า), IR (รังสีอินฟราเรด) ผิวมัน ผิวผสม ผิวที่เป็นสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย ผิวที่อักเสบหลังทำเลเซอร์ก็ใช้ได้เหมาะสุดๆ สำหรับอากาศประเทศไทยที่ร้อนระอุรับรองว่าใช้แล้ว หน้าไม่ไหลเยิ้มแน่นอน เนื้อกันแดดไม่เหนอะหนะ ช่วยลดความมันบนใบหน้าอีกด้วยนะคะจึ้งจุง ตัวนี้เค้ากันน้ำด้วย แต่ไม่ทำให้ผิวอุดตัน

     กันแดดสูตรดือจริงค่ะ นอกจากช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว ยังช่วยลดเลือน และป้องกันการเกิดจุดด่างดำ เนื้อกันแดดนางจะเป็นสีเบจ ทาแล้วให้ฟิลแบบลงรองพื้นไปในตัวมาก แต่สำหรับใครที่ผิวขาวมากอาจจะไม่แนะนำกันแดดของเค้าเป็นสีเบจคนผิวขาวใช้อาจจะทำให้ผิวดรอปลงแต่ยังคงป้องกัน UV, HEV (แสงสีฟ้า), IR (รังสีอินฟราเรด)

     ไฟนอลลี่ ครีมกันแดดที่ดีคือ ครีมกันแดดที่ได้มาตราฐาน เหมาะกับสภาพผิวของเรา และการใช้ชีวิตของพวกหล่อนแต่ละคน ยิ่งหล่อนเข้าใจความแตกต่างของกันแดดมากเท่าไร ก็จะเลือกครีมกันแดดได้เหมาะกับผิวตัวเอง เช็คตัวเองนะคะว่าเหมาะกับกันแดดแบบไหน