Review - Primer Paul & Joe + L'Oreal Base Magique and more
mc03308313วันนี้ขอมารีวิว 4 ผลิตภัณฑ์ด้วยกันคะ เกี่ยวกับใบหน้าทั้งหมด
ท้าวความก่อนว่าไพร์เมอร์ในความคิดเราคือผลิตภัณฑ์ที่ทาหลังลงสกินแคร์ เพื่อเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า ให้รองพื้น แป้ง บลัชออน ติดทนคงกระพันยาวนานทั้งวัน โดยจะเติมเต็มรูขุมขนอันกว้างใหญ่และริ้วรอยต่างๆให้ดูตื้นขึ้น เมื่อลงรองพื้นหรือบีบีก็จะทำให้เห็นหลุมต่างๆเล็กลงหรือไม่มีเลย(เป็นไปได้ยากมาก) และช่วยป้องกันไม่ให้ คสอ. ไปนอนเล่นในรูขุมขน บ่อเกิดแห่งสิวเสี้ยนสิวหิน
เคยซื้อไพร์เมอร์ของ Laura Mercier มาใช้ แต่หน้ามันแพล่บๆ กลิ่นก็สุดจะพลาสติก เลยเลิกสนใจสินค้าจำพวกนี้ไปเลย...
แต่สุดท้ายก็กลับมาลองอีกจนได้ เริ่มที่...
PAUL & JOE Moisturizing Foundation Primer N
ท้าวความก่อนว่าไพร์เมอร์ในความคิดเราคือผลิตภัณฑ์ที่ทาหลังลงสกินแคร์ เพื่อเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า ให้รองพื้น แป้ง บลัชออน ติดทนคงกระพันยาวนานทั้งวัน โดยจะเติมเต็มรูขุมขนอันกว้างใหญ่และริ้วรอยต่างๆให้ดูตื้นขึ้น เมื่อลงรองพื้นหรือบีบีก็จะทำให้เห็นหลุมต่างๆเล็กลงหรือไม่มีเลย(เป็นไปได้ยากมาก) และช่วยป้องกันไม่ให้ คสอ. ไปนอนเล่นในรูขุมขน บ่อเกิดแห่งสิวเสี้ยนสิวหิน
เคยซื้อไพร์เมอร์ของ Laura Mercier มาใช้ แต่หน้ามันแพล่บๆ กลิ่นก็สุดจะพลาสติก เลยเลิกสนใจสินค้าจำพวกนี้ไปเลย...
แต่สุดท้ายก็กลับมาลองอีกจนได้ เริ่มที่...
PAUL & JOE Moisturizing Foundation Primer N
PAUL & JOE Moisturizing Foundation Primer N
แพ็คเกจจิ้งน่ารัก เป็นขวดแก้วแบบขุ่นฝาพลาสติกสีชมพูหวาน ปริมาณ 30 ml.
มีอายุการใช้งาน 12 เดือนหลังเปิดใช้
เมื่อกดเนื้อไพร์เมอร์ออกมาจะลักษณะค่อนข้างเหลว เป็นโลชั่นที่มีชิมเมอร์ผสมอยู่พอสมควร แต่เมื่อทาลงบนใบหน้าชิมเมอร์จะไม่เด่น กลิ่นนี้หอมมาก
เมื่อเกลี่ยแล้วจะเห็นชัดเลยว่าเนื้อบางเบาแค่ไหน เอฟเฟ็คมินิดิวอี้ แต่ในรูปมองไม่เห็น (ขออภัยหนังมืออันแสนรันทด) ดังนั้นแม้จะทาทับครีมทาหน้าประจำวัน ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนักหน้า เพราะซึมซับเร็ว และไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม ไม่มีสิวเห่อจากการใช้ไพร์เมอร์ตัวนี้ รู้ขุมขนก็ยังคงชัดเจนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง....แต่คำถามสำคัญ.... มันทำให้ คสอ. ติดทนนานกว่าเดิมจริงหรือไม่ บอกตรงๆว่าเฉยๆมากสำหรับเรา ไม่ได้รู้สึกว่าแป้งติดทนกว่าเดิม เหมือนทาครีมบำรุงหน้าเพิ่มอีกตัวนึง มันคงช่วยไม่ให้ผิวดูดซึมคสอ.ผ่านทางรูขุมขน เป็นทางเลือกสำหรับวันเบาๆดีเหมือนกัน แต่ผิดจุดประสงค์ที่ตั้งใจไว้ แถมราคาก็มิใช่น้อยนิด
ราคาราวๆ 1,500 บาทค่ะ
ตัวต่อมาคือ
L'Oreal Base Magique Transforming Soothing Primer (ชื่อยาวแท้)
ตัวนี้ไปเห็นมาในยูทูปเลยอยากลอง ซื้อหลังจากตัวบน กระปุกจริงเล็กจึ๋งเดียวคะ เหมือนครีมทาตา (ไม่ได้เก็บกล่องเอาไว้ ทิ้งไปแล้ว) อายุการใช้งานหลังเปิดก็น่าจะพอๆกัน คือ 12 เดือน
ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นมูสสีชมพูอ่อนๆ ข้อคิดเห็นหลักๆสำหรับไพร์เมอร์ตัวนี้คือ ไม่ต้องใช้มาก แต่ต้องรีบทา เพราะมันจะแห้งหายไปเร็วมาก ไม่มีกลิ่น ทาลงบนหน้าแล้วไม่มีสี คือมันจะไม่แสดงสีชมพูออกมา
เมื่อเอามาปาดจะเห็นว่าเนื้อมูสค่อนข้างจะข้นเกาะตัวกัน (รูปนี้จะแอบเห็นชิมเมอร์ของพอลแอนด์โจที่ทาไปก่อนหน้านี้) ใช้ครั้งแรกจะแอบรู้สึกตกใจ เพราะเหมือนเอาอะไรมาทาเคลือบหน้าไว้ ความรู้สึกสำหรับเราคือเหมือนการเคลือบจริงๆ หน้าจะลื่นๆใสๆ แอบหวั่นใจชำรุดมนุษย์หน้าสิวแน่เลยฉัน แต่ก็เอาว๊ะค่ะ ไหนๆก็ไหนๆ ...
ผลคือ...หน้าไม่ขึ้นสิว ทาไปออกแดดมาที่สวนผึ้งอเมซิ่งไทยแลนด์ (คิดถึงสายลม แสงแดด น้องแกะและความชื้นในอากาศ) ถ่ายรูปออกมาหน้าไม่มีคราบเยิ้มของแป้ง รองพื้นยังคงอยู่บนหน้า ซับมันไปที 2 ทีแต่สีไม่มีดร็อป ...ลองใช้วันที่แต่งหน้าไปออฟฟิศบ้าง เช้ายันเย็นแป้งก็ยังมีให้เห็นบนหน้า บลัชออนสีสันยังมีให้ชม ... แต่.....รูขุมขนก็ยังสามารถแลเห็นได้คะ แต่เอาเหอะ เราว่าได้แค่นี้ก็น่าจะโอเคแล้ว ตัวนี้เราแนะนำเลยสำหรับใครที่ชอบลงรองพื้น
ราคา ไม่เกิน 500 จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
ต่อมาคือ
L'Oreal True Match Foundation - Color Nude Ivory
รองพื้นตัวแรกที่ซื้อของ L'Oreal แต่รู้สึกประทับใจเรียบร้อยแล้ว เพราะเอฟเฟ็คแม็ตฟินิช เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย เราเป็นคนหน้ามันทีโซน ถ้าอะไรที่ดิวอี้ โกลว์ๆ จะยิ่งทำให้หน้าดูมันเพิ่มทวีคูณ สวยแค่ 2 ชม.แรก
เกลี่ยให้ดูเนื้อรองพื้น สีที่ซื้อคือ Nude Ivory สำหรับคนขาวเหลือง (แต่แอบขาวเกินไปสำหรับเรา )ถ้าเทียบกับ Revlon Photo Ready แล้วเราว่า True Match เกาะผิวหน้าดีกว่าเพราะเบาบางกว่า เนื้อรองพื้นกลืนไปกับผิวดี การปกปิดเราว่าสูสีกัน revlon จะมิดชิดกว่าหน่อย และที่อเมซิ่งอีกอย่างคือเราดันไปซื้อสีที่ออกจะขาวเกินหน้าเราไปเฉดนึง คือเราว่าเราขาวแล้วแต่สีที่ซื้อมันขาวกว่า มารู้ตัวตอนทาเสร็จ คิดในใจว่าแต่งไปเล่นงิ้วแน่วันนี้ แต่ว่าถ้าปล่อยไปสักพักนึงสีมันจะดร็อปลงมาหน่อยแล้วพอทาแป้งที่เป็นเฉดสีของเราจริงๆ มันจะเข้ากันพอดีเลย แต่ข้อเสียอย่านึงคือ spf 17 มันน้อยอ่ะ
ราคาไม่เกิน 500 บาทค่ะ
สุดท้ายนี้....แต่งหน้าแล้วก็ต้องมีการล้างออก
ขอแนะนำ
Softymo Speedy Cleansing Milk
เห็นว่าเป็น sub brand ของ Kose' เลยซื้อมา เห็นขายอยู่ที่ Boots ค่ะ ลักษณะเป็นโลชั่นมากกว่าน้ำนมตามที่เขียนไว้หน้าขวด คือน้ำนมมันต้องเหลว แต่นี้ข้นพอๆกับโลชั่นทาตัว แต่ขอบอกว่าล้าง คสอ. ดีมาก เวลาล้างแป้งรองพื้นออกมาจะสะใจมาก เพราะสำลีจะแน่นไปด้วย คสอ. รู้สึกว่าเช็ดเกลี้ยงดี ไม่ต้องออกแรง จะใช้แบบแห้งเทลงบนสำลีโดยตรง หรือนวดหน้าด้วยมือแล้วเอาสำลีชุบน้ำมาล้างออกก็ได้ค่ะ ใช้แล้วไม่ทำให้หน้าแห้งหรือหน้ามัน ไม่ทำให้สิวขึ้น พอเช็ดเสร็จล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแล้วเช็ดหน้าให้แห้งก็รู้สึกสะอาดแล้ว ชอบตรงที่ใช้แล้วรู้สึกสดชื่นด้วย แต่ก่อนนอนยังไงก็ต้องล้างโฟมก่อนอยู่ดี
ราคาประมาณ 350 บาท
ขอจบการรีวิวค่ะ
Discussion (3)