(ระบาย) ทะเลาะกับแม่และพี่ชาย เครียดมากค่ะ
Aku 2 19เราทำงานกับพ่อแม่ คือเข้าไปช่วยทำงานอ่ะค่ะ เพราะพนง.เก่าขโมยและทุจริต เลยไม่มีคนช่วยงาน ขายของ เราเลยต้องไปทำแทนทั้งหมด
ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่าเมื่อวานพี่ชายจะจัดของโชว์ในตู้ ซึ่งมันจะต้องไขกุญแจ แต่เค้าหากุญแจไม่เจอ
เลยพูดถามลอยๆว่าใครใช้พวงนั้นเป็นคนสุดท้าย เราก็บอกว่าหนูเอง เมื่อวาน(เมืื่อวานซืน)ม๊าเอาของเข้ามาใหม่ เลยมาจัดโชว์ กุญแจก็อยู่ในเก๊ะนั่นแหละ
เรามั่นใจมากว่า ใช้เสร็จก็โยนเก็บในลิ้นชักนั่นแหละค่ะ หรือไม่ระหว่างใช้เราจะใส่กระเป๋ากางเกงไว้ก่อน
แล้วในลิ้นชักจะมีอยู่สองกล่อง(เก๊ะแบบตื้นๆเหมือนเก๊ะใต้โต๊ะทำงาน โต๊คอมอ่ะค่ะ) คือกล่องกุณแจกับกล่องป้ายราคา กล่องเล็กๆค่ะ แค่มีแยกไว้ไม่ให้รก ให้มันเป็นสัดส่วน
แม่ก็พูดลอยๆเหมือนกันว่า เมื่อวานม๊าหาแล้วนะ ไม่เห็นเจอเลย แล้วจะทำไงเนี่ยะ ประมาณว่าพูดให้เราใจเสียว่าทำกุญแจหาย ให้เรารู้สึกอ่ะค่ะ
เราก็อารมณ์ขึ้น ประชดว่า ความผิดหนูใช่ม๊ะ แม่ก็ตอบว่า ใช่ แล้วก็ยิ้มหัวเราะ หิๆ แต่คือในสถานการณ์แบบนั้น มันเล่นๆไม่ได้แล้ว เพราะถ้าเกิดลูกค้ามา แล้วอยากได้สินค้าในตู้ขึ้นมา แล้วยังหากุญแจไม่เจอ ได้แง๊ะตู้แน่
พี่ชายก็พูดลอยๆอีกว่า หึ ได้แง๊ะตู้แน่ๆ ทำไงล่ะที่นี้ แง๊ะตู้แหงๆ
ส่วนคุณพ่อเราก็ช่วยเราหากุญแจอยู่ค่ะ แต่สองแม่ลูก คนนึงนั่งเกมส์(แม่) อีกคนเดินเล่นทำเหมือนว่าไม่มีอะไรทำ(พี่ชาย)
คือเราจะเป็นประเภท ถ้าใครทำงานส่วนไหนอยู่ เราจะไปอยู่ข้างๆเผื่อว่าใครลืมว่าของมันวางไว้ตรงไหน แล้วหาไม่เจอ จะได้มีพยานยืนยันว่า ของมันมีจริงๆนะ อยู่ตรงนั้นจริงๆนะ
ที่สุด เราหากุณแจเจอค่ะ มันอยู่ในกล่องป้ายราคา อยู่ใต้ป้ายราคา(ม้วนๆเหมือนม้วนเทปกาว)ค่ะ เราก็ยิ่งโมโหมากกว่า คือยังหาไม่รอบคอบเลย เอาแต่โวยวายซะแหละ เราเลยโกรธ ไปนอนหลังร้านเลยค่ะ หลับไปเลยเพราะเรากินยาไปด้วย ยังไม่หายป่วยแต่ต้องมาเข้าร้านทุกวันไม่มีพัก
พอปิดร้านเสร็จเราไปยืนรอตรงสะพานลอยเผื่อรอขึ้นรถที่ลานจอดรถ ปรากฎว่าสองแม่ลูกไม่มีรอเราเลยค่ะ ส่วนคุณพ่อไปซื้ออาหารน้องกระต่ายอีกตึกนึง ให้ไปเจอกันที่รถเลย เรายืนอยู่คนเดียวตั้งนาน จนคุณพ่อมาตามนั่นแหละ รู้สึกเสียใจมากค่ะ เราเลยบอกคุณพ่อระหว่างสองแม่ลูกไปซื้อข้าวกลับบ้านว่า เราจะไม่เข้าร้านอีกแล้วนะ พอของหายก็เป็นเราทุกทีที่โดนด่า ที่พี่ชายเป็นคนทำ ไม่เห็นแม่จะด่าจะว่าเลย กลับบอกไม่เป็นไร ทำไม รึเพราะพี่ทำงานแล้ว เห็นว่าเหนื่อยเลยไม่ว่า แล้วเราล่ะ เรียนทุกวัน ทุกงานทุกวัน วันไหนเรียนบ่ายก็เข้าร้านก่อนค่อยไปเรียน เรียนเสร็จแล้วก็กลับมาทำต่อ วันเรียนเช้าเรียน เรียนเสร็จก็มาทำงาน อยู่ไปจนถึงสามสี่ทุ่ม ถ้ารักพี่ชายมากขนากนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกเราไปดูแลร้านก็ได้ ยกร้านให้พี่ชายไปเลยเถอะ ไม่ต้องยกให้มาทำร่วมกันแบบกงสีหรอก เราหางานอื่นทำได้ ถึงไม่มีเราไปช่วยพวกเค้าก็อยู่ได้ พอกลับถึึงบ้าน เราแกล้งทำเป็นขึ้นไปนอน แต่แอบๆอยู่ตรงบันได สองแม่ลูกก็เอาแต่บอกพ่อว่า พูดเล่นแค่นั้นไม่ได้ไง ส่วนคุณพ่อก็ว่ากลับว่า มันควรจะเล่นๆมั้ยล่ะ คิดอะไรตื้นๆ ฟังแล้วก็ร้องไห้เสียใจกับคำพูดพี่ชายและแม่ ขอบคุณดีใจกับคำพูดของพ่อ
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันสะสมมานานแล้วค่ะ หลายครั้งก่อนหน้านั้น เงินหายไม่ตรงตามบัชญี (ทั้งๆที่ทั้งวันนั้นเราไม่ได้คิดเงินเลย เอาแต่ขายของ) ตอนเช้ามือของอีกวัน แม่ด่าฉอดๆๆทั้งที่เรายังตืนไม่เต็มตา พอไปเช็คอีกที เจอค่ะ เงินมันหลุดเข้าไปข้างในในตู้อยู่ใต้ถาดเงิน กลับไปเชคเงินใหม่ตอนเช้า ดึงถาดออกมา เงินร่วงลงมาพอดี พอสรุปบัญชีใหม่เงินตรง แม่เราไม่มีมาขอโทษเราค่ะ ส่งพ่อมาคุยกะเราแทน วันถัดไปซื้อของกินมาให้เรา หวังให้หายโกรธ เราไม่ได้ต้องการของอะไรทั้งนั้นค่ะ ขอแค่คำว่าขอโทษเท่านั้น ยืนยันว่าเราไม่ผิดก็แค่นั้น แต่พี่ชายกับแม่เราชอบทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อยากรู้ว่าคำว่า "ขอโทษ" มันพูดยากขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ คนอายุมากกว่าขอโทษคนผู้น้อยกว่านี่มันเสียหน้ามากขนาดนั้นเลยเหรอ สำหรับเรา คงไม่ไปช่วยงานอีกแล้วล่ะค่ะ เรานึกว่าไปทำงานด้วยกัน เหนื่อยด้วยกันขนาดนี้ ไม่น่าจะมีเรื่องทะเลาะกัน ไปหางานใหม่ทำดีซะกว่า คนอื่นด่าเรา เรายังเสียใจน้อยกว่าคนในครอบครัวด่า ว่า ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเราซะอีก
ปล.ขอโทษที่ยาวมากนะคะ เราแค่อยากระบายออกมา