แชร์ประสบการณ์ "สิว" ทรหด ^^
lulla 4 4สวัสดีชาวจีบันทุกๆคนนะคะ
วันนี้เราจะขอมาแชร์ประสบการณ์เรื่อง "สิว" ทรหด ของเราให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ เผื่อว่าใครที่กำลังผจญปัญหาเรื่องสิวที่ไม่สิว เมื่ออ่านเรื่องราวของเราแล้วจะนำไปใช้บ้างก็ไม่ว่ากันค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเรามีปัญหาเรื่องสิวมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปี1 เป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆเต็มหน้าผากเลยค่ะ แล้วก็ลามมาที่แก้มและคางด้วย (แต่ไม่ได้ทั้งแก้มนะ อันนั้นน่ากลัวไป)
ในตอนแรกๆก็ไม่คิดอะไรมากหรอกนะคะ เพราะิคิดว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงวัยรุ่นหรือเป็นแค่ตอนรับน้อง แต่พอนานๆๆไปแล้ว มีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมาทำไมสิวเยอะ!!!!ขนาดนี้ เราก็รู้สึกเครียดละแต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไร จนที่บ้านเห็นแล้วรู้สึกสงสาร เพราะหน้าเราแย่มากกก (ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน) เลยบอกไปหาหมอเถอะ มันเยอะและนานเกินไปแล้ว
เราจึงตัดสินใจไปหาหมอที่คลินิกเสริมความงามเป็นครั้งแรกในชีวิต (ขอบอกเป็นอักษรย่อละกันเนอะ เดี๋ยวจะโดนหาว่าพาดพิง) คลินิกที่เราไปหาเป็นคลินิกชื่อดัง น. ซึ่งเราเข้าไปสอบถามเขาก็บริการดีมากเลยนะคะ แนะนำให้เราลงคอร์สรักษาสิว 10 ครั้ง ราคา 6,000 บาท ณ เวลานั้นทางบ้านก็ตกลงให้ทำทันที เพราะอยากให้เราหาย หลังจากนั้นมาเราก็เริ่มเข้าสู่การรักษาสิวตามขั้นตอนที่คลินิก น. แนะนำทุกอย่าง ทั้งกินยา ทายา ล้างหน้า กดสิว ฉีดสิว ของคลินิกทั้งหมด จนครบ 10 ครั้ง ตามคอร์สที่ลงไป ผลคือ หายเกลี้ยง หน้าดีขึ้นมากกก มีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมาหน้าดีขึ้นเยอะเลย ทั้งใสและไม่มีสิว ซึ่งหลังจากที่หมดคอร์สแล้วเราก็ไม่ได้ไปหาอีกแลย แต่ยังคงซื้อยาทา ซื้อที่ล้างหน้าของคลินิกมาใช้อย่างต่อเนื่อง จนนานๆไป เอ๊ะเริ่มกลับมากอีกละ ค่อยๆขึ้นมาเรื่อยๆจนเยอะเหมือนเดิม แต่เราก็ยังคงใช้เวชสำอางค์ของคลินิก น. ต่อไป จนเวลาล่วงเลยไปเป็นปีได้เลยมั้งคะ สิวเจ้ากรรมก็ยังไม่หาย ยังคงขึ้นแล้วขึ้นอีก พอเม็ดนี้หายเม็ดนี้ก็ขึ้นอีก ขึ้นซ้ำไปซ้ำมา จนที่บ้านและคนรู้จักทักอีกแล้ว :(
เราก็ตัดสินใจอีกครั้ง ไปเข้าคอร์สรักษาสิวที่คลินิกแ่ห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในห้างไอทีย่านรังสิต ซึ่งคอร์สที่เราลงไปนี้ ราคา 4,500 บาท ทำได้ 9 ครั้ง ซึ่งเราก็ทำอีกทั้งกดสิว ฉีดสิว กินยา ทายา ที่นี่เขามีมาร์กหน้าด้วยนะคะ ผลก็คือ หายค่ะแต่ไม่สนิท ยังคงขึ้นอยู่แต่น้อยลงค่ะ และเราก็ยังคงใช้เวชสำอางของคลินิกนี้ต่อไป ซึ่งก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ยังคงเป็นๆหายๆเหมือนเดิม ประมาณ 4 เดือนหลังจากนั้นได้สิวก็ไม่มีวี่แววจะหายไปจากหน้าของเรา
จนสุดท้ายช่วงเดือนพ.ย. มีญาติและคนรู้จักแนะนำให้ไปรักษาที่คลินิกชื่อดังอีกแล้ว คราวนี้เป็นคลินิก พ. ซึ่งก่อนที่เราจะตัดสินใจเราหาข้อมูลอยู่นานพอสมควร ซึ่งก็มีแต่คนบอกว่าดี และแล้วเราจึงตัดสินใจอีกครั้ง คราวนี้รักษากันยาวๆเลยค่ะ เพราะที่นี่เขารักษาเป็นครั้ง ไม่มีเป็นคอร์ส ซึ่งแต่ละครั้งค่ารักษาก็แตกต่างกันไปถูกบ้างแพงบ้าง แล้วแต่อาการในวันนั้นและยาที่หมอจัดมาให้ ซึ่งก็ไม่พ้นยากิน ยาทา เจลล้างหน้า และกดสิวฉีดสิวเช่นเคย เรารักษาอยู่ที่นี่อยู่เป็นปีเลยล่ะค่ะ เข้าออกเป็นว่าเล่นจากทุกอาทิตย์ เป็นอาทิตย์เว้นอาทิตย์ และ2อาทิตย์ครั้ง ผลก็คือหายเหมือนเดิมแต่ก็ยังมีขึ้นบ้างแต่ก็น้อยลงเช่นเคย จนกระทั่งมาถึงช่วงน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว เราก็เลยไม่ได้ไปหาหมอที่คลินิก พ. อีกเลย (เพราะน้ำท่วมออกจากบ้านไม่ได้) ก็อาศัยยาที่พอมีอยู่มาทา พอหลังน้ำลดก็ซื้อยามาทา มาล้างเองตามที่หมอเคยแนะนำไว้ ซึ่งก็ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร หมดเงินไปร่วมหมื่นได้เลยมั้งคะ จนเราเหนื่อยที่จะรักษาก็เลยปล่อยไป คิดอย่างเดียวว่าเดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง แต่เราก็ยังคงหายาแต้มสิว เจลล้างหน้าที่เหมาะกับหน้าเราต่อไป
และแล้วในช่วงที่เราเรียนปี3 เป็นช่วงซัมเมอร์เราก็ไปฝึกงานที่บริษัทแ่ห่งหนึ่ง ซึ่งก็มีพี่พนักงานที่บริษัทเขาแนะนำเราว่าให้ลองใช้ "ดินสอพอง" ของไทยแท้ดูสิ มีน้องๆที่เขาแนะนำไป ใช้แล้วได้ผลดีกันหลายคนเลย เพราะมันจะช่วยให้สิวแห้งได้ เราก็คิดว่าจะลองดู แต่ก็ยังไม่ได้ลอง จนพี่เขาเอา "ดินสอพอง" มาให้เราลองใช้ ณ ตอนนั้นเราก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียละ ลองซะหน่อย ช่วงแรกๆเราทาดินสอพองเกือบทั่วหน้าเลยค่ะ เพราะสิวอักเสบมีเยอะอยู่ (จะเรียกว่าพอกก็ได้นะคะ) ตรงไหนทีเม็ดสิวเราก็แต้มไปหนาๆเลยค่ะ (อยากหายเร็ว) เราพอกทุกคืนก่อนนอนเลยค่ะ เหมือนพม่าเลย อิอิ เช้าขึ้นมาสิวก็ค่อยๆแห้งลงเรื่อยๆ แต่รอยสิวยังคงอยู่ ซึ่งพอใช้ไปนานๆ ผลปรากฏ สิวค่อยๆหายสิวอักเสบ ผิวผดไม่ค่อยขึ้นเลยค่ะ แต่อาจจะมีบ้างตอยช่วงเป็น ปจด. แต่ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ต้องใช้ความอดทนสูงมากกกเลยนะคะ แต่ก็ถือว่าคุ้มที่เราได้หน้าที่ไร้สิวกลับคืนมา ^o^
เป็นยังไงบ้างคะประสบการณ์สิวของเรา ทรหดพอรึเปล่า อิอิ หมดเงินไปเป็นหมื่นๆ แต่มาหยุดอยู่แค่ ดินสอพอง 10 บาท สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องสิวอยู่ในตอนนี้ เราขอบอกว่า ไม่ต้องเครียดนะคะ อดทนและค่อยๆดูแลใบหน้าไปเรื่อยๆ ลองหาสิ่งที่เหมาะกับใบหน้าของเราดู อย่าแคะ แกะ เกาหรือลองอะไรเยอะจนเกินไปล่ะ เดี๋ยวหน้าจะพังเอานะคะ สักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลามันก็จะต้องหายไปเอง สู้ๆๆค่ะ
ขอบคุณทุกๆคนที่เสียสละเวลามาอ่าน ประสบการณ์เรื่อง "สิว" ทรหด ของเรา นะคะ ใครมีประสบการณ์สิวกันแบบไหนก็มาแชร์กันได้เลยนะคะ เข้าใจปัญหาเดียวกัน
**ขออนุญาตแนะนำอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ตอนนี้นะคะ เผื่อว่าใครที่มีปัญหาอยู่จะลองนำไปใช้ดูก็ได้นะคะ**
1. ดินสอพองธรรมชาติ (ถุงละ 10 บาท มีหลายก้อนใช้ได้นานเลยค่ะ) เอาที่เป็นสีออกครีมๆนะคะ ไม่ใช่สีขาว เพราะสีขาวจะเป็นแป้งที่เหมือนเล่นสงกรานต์ค่ะ จะใช้ไม่ได้ผล วิธีใช้...แต้มสิวทุกคืนก่อนนอน ตรงไหนที่มีสิวก็แต้มได้เลยค่ะ พอกไว้หนาๆเลย หรือจะพอกทั้งหน้าก็ได้นะคะ คนที่เป็นผดก็ใช้ได้ค่ะ
2. เจลล้างหน้า COS Coseutics Facial Cleanser for Oily and Pimple Skin เป็นเจลล้างหน้าที่ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น อ่อนโยนต่อผู้มีปัญหาสิวเลยทีเดียวค่ะ ล้างหน้าทุกเช้า-เย็น (เราเป็นคนไม่แต่งหน้านะคะ ทาแค่ครีมบำรุงผิวและทาแป้งฝุ่น กรีดอายไลน์เนอร์เท่านั้น แนะนำสำหรับคนที่แต่งหน้าควรเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อน แล้วใช้เจลล้างหน้าตัวนี้ล้างก็ได้ค่ะ)
3. ครีมบำรุงผิวหน้า nivea white pore minimizer เราใช้ทั้ง day cream และ night cream เลยค่ะ เราใช้แล้วไม่แพ้ เลยใช้ต่อไปค่ะ
4. ยาแต้มสิว Clinda-m ไว้แต้มตอนเช้าก่อนทาครีมค่ะ ลักษณะจะเป็นเหมือนแอลกอฮอล์เหมือนกันนะ ถ้าแต้มโดนแผลจะแสบมากๆ แต่ก็ใช้ค่ะเพราะได้ผลอยู่ เวลาแต้มก็ทิ้งไว้สักพักนะคะ แล้วค่อยทาครีมบำรุงผิวที่ใช้ค่ะ
***เอาไว้เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะหารูปอุปกรณ์ที่ใช้มาลงให้ดูนะคะ***
ขอบคุณทุกๆคนค่าา