[Review] Majolica Majorca: The little humming book I

สวัสดีค่าาา hohoemu ค่ะ ^.^

ไม่ได้รีวิวนานเลย เอาตรงๆ เพราะความขี้เกียจ

มีใครเคยเป็นไหมคะ แบบโอ้ยชั้นต้องรีวิวชิ้นนี้ให้ได้ แต่บางทีใช้ไปจนหมดยังไม่ได้รีวิวเลย 555

 

เอาเป็นว่าขอให้ทู้นี้มีประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจจะซื้ออยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ <3

 

จะจ๊างงง ที่พึ่งสอยมาหมาดๆ ยังไม่ทันแห้งคือเจ้าสิ่งนี้ค่ะ

 

 

 

 

Majolica Majorca: The little humming book I

 

สถานที่ซื้อ: วัตสัน
ราคา: 510 บาท (ซื้อในช่วงโปรโมชัน จากราคาเต็ม 590 บาท)

 

หน้าตาก็จะหนังสื๊อ หนังสืออะนะคะ น่ารักมากมาย

แต่ทำจากกระดาษก็คงต้องทำใจว่ามันไม่ทนเท่าไหร่ แต่เราไม่มายด์เพราะไม่ได้พกออกไปไหนอยู่แล้ว

 

 

ด้านหลังค่ะ มองเห็นไหมเอ่ย ส่วนประกอบสำคัญยาวม๊ากกก ถ้าเป็นถนนคงซักสามกิโลได้ (เว่อร์) 55

 

สังเกตดูจะเห็นว่าใช้ได้ถึง 5 ปีเลยค่ะ 

 ดีจังๆ แต่แอบสงสัยว่าป่านนั้นก็คงจะยังไม่หมด

 

ดูภายนอกแล้วก็มาแง้มข้างในกันดีกว่า

 

 

 

 

ชึ้บๆ เปิดเข้ามาก็จะเป็นกระดาษไขพิมพ์สีๆ มีโน้ตเพลง

ใครอยากลองฟังก็ให้ใช้มือถือสแกน QR code ที่อยู่ด้านหลังได้ค่ะ

 

พอเข้าไปก็จะเป็นหน้าแบบนี้ค่ะ 

 

 

แล้วก็จะมีเพลงตามที่เขียนในโน้ตให้ฟัง แบบว่าเพลงมันแอบหลอนนะ 555 ไม่สปอยล์ดีกว่า อิอิ

 

ถ้าเข้าจากทางคอมพ์ >> คลิกที่นี่ << ก็จะมี Quiz ให้เล่นด้วยนะคะ

ถ้าตอบถูกเค้าจะให้ Wallpaper เป็นของขวัญ ^^ น่ารักดีค่ะ

(รู้สึกคำถามจะถามว่ามีผีเสื้อกี่ตัวในเล่ม :DD ใครไม่รู้ลองมั่วๆ ดูก็ได้ค่ะ ได้เหมือนกัน 5555)

 

กลับมาๆ รีวิวต่อ 

 

 

จะจ๊างงง ในที่สุดก็เผยตัวออกมาจนได้ค่ะ พลิกจนกระดาษแทบขาด

ช่องซ้ายบนเป็นสีชมพูอ่อนนะคะ เห็นรีวิวหลายคน(รวมถึงเราด้วย

) ถ่ายออกมาเป็นสีขาว ขัดจายย

สองช่องบนเป็นอายแชว์โดว์โอ้วโอ้ว วิ๊งระยับเจแปนนีสสไตล์

ส่วนช่องซ้ายล่างเป็นอายครีมเบส สีออกน้ำตาลม่วงๆ เข้มๆ อะค่ะ ไม่ใช่สีดำนะ :D

ส่วนขวาล่างคือลิปกลอส ที่...แทบไม่มีสีเลย 55 ตอนแรกนึกว่าจะชมพูแบ๊วๆ

แต่คำอธิบายข้างหลังเค้ากลับบอกว่าให้ทาก่อนที่จะทาลิปสติก เราเลยงงๆ ว่าสรุปเป็นกลอสหรือเป็นลิปบำรุงกันแน่

 

จากการลองใช้แล้ว เราว่ามันเหมาะแก่การทาก่อนลิปจริงๆ ค่ะ

ต้องใช้แรงบดขยี้ในการละเลง 55 หากทาหลังลิปอาจทำให้เละได้ จะเหนียวหนึบนิดๆ แต่เราชอบนะ

 

 

 

ลองปาดสีดูค่า แหมลิปกลอสพอปาดบนแขนล่ะสีน่ารักเชียว บนปากไม่ออกสีเลยค่ะ

ส่วนสีชมพูกับเขียวมิ้นต์ก็แบ๊วตามประสาเค้าไป ถัดมาคืออายแชโดว์เบส สีมันจะกำกวมๆ

เหมือนคนมีหลายชอยส์ เลือกไม่ถูกว่าจะไปทางไหน ก๊ากๆ

 

ส่วนสองสีบนเราตั้งใจตัดให้ขาดเพื่อมาโชว์ในรูปนี้

 

 

ว่อบแว่บ ว่อบแว่บ

ลายตากันมั๊ยเอ่ย 55 เก๊าขอโทษ คือตั้งใจทำแบบนี้เพื่อให้เห็นว่ามันวิ๊งยังไงอะค่ะ

สองรอยปาดขวาสุดคือ ลงอายแชโดว์เบสแล้วทับด้วยสีชมพูกับสีเขียวตามลำดับ

 

จะเห็นว่าพอเอาสีชมพูทับจะกลายเป็นสีม่วงสวยเลย ส่วนสีเขียว..เอ่อ กลายเป็นแมลงทับค่ะ

ยังไม่กล้าปาดสีนั้นออกจากบ้าน กลัวคิดว่าโดนคนขายกากเพชรต่อยมา ตาเขียววิ๊ง

 

 

 

ดูแบบภาพนิ่งกันบ้างเผื่อใครเวียนหัว 

 

 

มาดูดีกว่าว่าตอนปาดลงไปบนตาจะเป็นยังไง

 

 

 สีเขียว

 

เค้าว่าสีเขียวมันดูเน่าๆ แปลกๆ นะ = = สมกับเป็นการเอาเขียวไปผสมสีม่วงจริงๆ 55

 

มันดูใสๆ เบาๆ เนอะ อยากรู้ว่าจัดหนักจะเป็นยังไงเหมือนกัน

แต่อายแชโดว์เบสมันเกลี่ยค่อนข้างยากอะค่ะ พอลงไปปั๊บมันจะเกาะหนึบ เกลี่ยไม่ค่อยไป

ทำให้ไม่กล้าลงเยอะ

 

 

 

 

 

ทีนี้มาสรุปกันดีกว่า

 

ข้อดี 

- น่าร๊อกเอ๊าะ ทั้งสีทั้งแพคเกจ หนูปลาบปลื้ม

- สีเบาๆ เหมาะกับคนหัดแต่ง(อย่างเรา) 

- เหมาะแก่การพกพา เพราะมีทั้งตาและปาก หากลืมอายไลเนอร์ก็เอาอายแชโดว์เบสไปถมๆ แล้วเอาสีชมพูแปะๆ กลายเป็นอายไลเนอร์วิ๊งๆ สีม่วง

 

ไม่อยากเรียกว่าข้อเสีย เรียกข้อที่ไม่ค่อยชอบละกัน (เอ๊ะ) 

- ไม่มีอุปกรณ์ในการแต่งแถมมาให้ นิ้วโอนลี่

- อายแชโดว์เบสเกลี่ยค่อนข้างยาก(ที่จะให้มันเท่ากัน)

- แพคเกจเป็นกระดาษ ดูชำรุดและเก่าได้ง่าย

 

 

อย่างไรก็ตาม น้อง humming book นี่เป็นเพียงลำดับแรก จะมีลำดับ 2 3 4 ตามมา 

น่าจะออกสามเดือนครั้งนะคะ ลำดับถัดไปจะเป็นไอเท็มอะ โทนสีแนวไหน ต้องลองติดตามกันดูค่ะ ^^

 

สุดท้าย ใครต้องการให้ปรับปรุงหรือเพิ่มเติมอะไรในรีวิวบอกได้นะคะ >< 

พออ่านรู้ว่าต้องการอ่านแบบไหน แต่พอทำเองกลับไม่รู้ว่าควรทำแบบไหน อะฮื้อ 

 

และท้ายที่สุดอย่าลืม "A smile is the best makeup a girl can wear" นะคะ ชุบุ ชิบิ

 

(เป็นที่มาของชื่อล็อคอินเรา hohoemu แปลว่ายิ้มในภาษาญี่ปุ่นค่ะ XD ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลยอะ 55555)