รีวิวนี่ฉันหน้าปลวกชัด ๆ (ก่อนจะมาเป็นคน)
ampuiz 10 9
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว jeban ทุกๆคน เพิ่งมารีวิวเป็นกระทู้แรกของชีวิตเลยหลังจากสิงสถิตวนเวียนล่องลอยมาได้ซักพักนึงแล้ว วันนี้เพิ่งได้ฤกษ์งามยามดี มารีวิว ด้วยTopic ที่ว่า นี่ฉันหน้าปลวกชัดๆ ฟังแล้วก็น่ะใครมันจะไปสวย ดูดี หรือเลือกเกิดได้จริงใหมค่ะ ถ้าเลือกได้ตอนนั้นคงจะรีบหันหัวพุ่งหน้าเข้าหาผู้ให้กำเนิดที่เป็นนางสาวไทยไปแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่เป็นไรเราเลือกเกิดไม่ได้ แม้จะหน้าปลวกแค่ไหนเราก็ไม่หวั่นเกรงแม้อุปสรรคจะถาโถมเข้ามา ก็ยังยื่นหน้าปลวกๆเข้าหาด้วยความภูมิใจ >< เอาล่ะเกริ่นนำมาก็มากพอแล้ว เดี๋ยวจะหาว่า มันบ่นไรของมันว๊ะ!! 5555 เออซิ นั้น บ่นไรว๊ะเนี้ยตรู งั้นไม่พูดพล่ำทำเพลงมากันเลยว่าตอนเกิดมาจากท้องผู้ให้กำเนิดจะเป็นเยี่ยงไร (แต่ภูมิใจที่เป็นลูกแม่)
img_1 จำไม่ได้ว่าอายุกี่ขวบ แม่บอกว่าชอบมากกับรถคันสีแดง ถ้าไม่แดงไม่นั่ง แปลกแฮะพอโตมาก็ไม่เห็นจะชอบเลย (รถเก่าไปนิ๊ดนึง เพราะบ้านไม่ได้มีตัง ชีวิตน่าเศร้าใจ)
img_2 เดินขบวนพาเหรดตอน ป.6 ได้ทำหน้าที่ถือป้าย OMG!! ก็ยังดีว๊ะ
img_3 ถ่ายรูปติดใบสมัครช่วงนี้อยู่ประมาณ ม.3 ดุยังไงก็ เด็กเอ๋อบ้านๆคนนึง
img_4 สมัย ปวช 1 เริ่มไว้ผมยาว ช่วงนั้นแบบว่ากำลังฮิตทรงผมตัดรากไทรอะไรเยี่ยงนี้แหละ
img_1 จำไม่ได้ว่าอายุกี่ขวบ แม่บอกว่าชอบมากกับรถคันสีแดง ถ้าไม่แดงไม่นั่ง แปลกแฮะพอโตมาก็ไม่เห็นจะชอบเลย (รถเก่าไปนิ๊ดนึง เพราะบ้านไม่ได้มีตัง ชีวิตน่าเศร้าใจ)
img_2 เดินขบวนพาเหรดตอน ป.6 ได้ทำหน้าที่ถือป้าย OMG!! ก็ยังดีว๊ะ
img_3 ถ่ายรูปติดใบสมัครช่วงนี้อยู่ประมาณ ม.3 ดุยังไงก็ เด็กเอ๋อบ้านๆคนนึง
img_4 สมัย ปวช 1 เริ่มไว้ผมยาว ช่วงนั้นแบบว่ากำลังฮิตทรงผมตัดรากไทรอะไรเยี่ยงนี้แหละ
ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เยอะเพราะช่วงนั้นที่บ้านไม่มีตัง อยากได้อะไรก็ต้องเก็บตังซื้อเอาเอง รูปนี้ล้วนถ่ายจากกล้องฟิมล์สมัยก่อนๆที่เค้าฮิตกัน เราจำได้ว่าซื้อมาประมาณเครื่องล่ะ 800 เป็นอะไรที่หรูสุดๆแล้วสมัยนั้น เพราะว่าเราเป็นเด็กบ้านนอกไมไ่ด้อยู่ในเมืองเหมือนคนอื่นๆทั่วๆไป มาดูกันต่อภาพนี้สมัยช่วงมหาลัยประมาณปี 1 ปี 2 นี่แหละ เริ่มตัดผม ย้อมผมสีทอง แต่หน้าตาก็ดำคล้ำ น้ำหนักก็ขึ้น ไม่เคยได้ดูแลตัวเองเลย ช่วงนี้น้ำหนักน่าจะอยู่ประมาณ 55-57 เลยน่ะเนี้ย อ้วน ดำ คล้ำ หันไปทางไหน คนหรือว๊ะเนี้ย เออ นั้นซิ ใช่คนหรือเปล่าเฝ้าถามตัวเอง หุหุหุ
ต่อมาไม่นานเริ่มกระบวนการรู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น รู้จัก make up หนังหน้า ไปต่อผมยาว จำขึ้นใจเลยว่า ช่วง ปวช ไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงตอนแรกเค้าก็ชอบเราน่ะ แต่เวลาผ่านไปซักประมาณ ห้า หก เดือน เค้ามาบอกเราว่าพี่เจอคนที่ใช่และเค้าน่ารักมากด้วยพี่ขอโทษน่ะพี่ว่าเราคงไปด้วยกันไม่ได้ ช่วงนั้นคำนี้ ฮิตกันจริงๆ เอาแล้วไงล่ะ ตรูโดนเข้าแล้ว โหช่วงนั้นร้องห่มร้องให้น้ำตาแทบท่วมโลก แต่พอเวลาผ่านไปเราก็เริ่มผ่านช่วงเลวร้ายนั้นไปได้ ก็หันมารักตัวเองอย่างจริงจัง
ต่อมาเรียนจบปริญญาตรี กลับมาช่วยงานพ่อที่บ้าน เริ่มทำงานมีตังกะคนอื่นเค้ามั่ง ซื้อ สกินแคร์ต่างๆมาบำรุงหนังหน้า ตัดผมสั้น ย้อมผม กินวิตามินบำรุงต่างๆเพื่อจะให้ตัวเองขาวใส เออ ว๊ะเริ่มมีโคลงหน้าเหมือนคนขึ้นมาซักหน่อย
ต่อมาหลังจากเรียนจบก็หยุดไปปีนึงแล้วกลับมาเรียนต่อปริญญาโท เพราะไม่ได้ทำงานที่อื่นต้องกลับมาช่วยพ่อแม่ที่บ้านได้มีโอกาสไปเที่ยวปีใหม่กับเพื่อนๆก็เลยตัดผมเปลี่ยนลุคซะเลย (อยู่ในช่วงอกหักครั้งที่ 2) มีคนทักว่า หล่อขึ้น เงิบส์เลยเรา ^*^
ต่อมาหลังจากเปลี่ยนลุคผมก็เริ่มยาวขึ้นจนถึงปัจจุบัน 2013 ปัจจุบันนี้มีผู้หญิงจีบมากกว่าผู้ชายซะอีก (แอบขำเวลามีผู้หญิงมาขอเบอร์) คิดว่าเราเป็นทอม เป็นดี้บ้างล่ะ ห้า ห้า มีคนทักว่าอายุ 25 จริงๆเหรอ ไม่น่าเชื่อเลย (แอบยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ มีคนทักว่าหน้าเด็กจัง) ><
เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการรีวิวพัฒนาการจากปลวกกลายมาเป็นคนจนสำเร็จ เปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้พอใจกับสิ่งที่ตัวเองได้พยายามมาทั้งชีวิต 25 ปีนี้ อยากให้ผู้หญิงทุกคนที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่สวยพอ ไม่น่ารักพอ เราอย่ายึดติดกับคำเหล่านี้ เพราะเราสามารถสร้างความสวยความงามขึ้นมาจากตัวเราเองได้แล้วหากเรามั่นใจเราก็พร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าโดยไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ เราเชื่อมาตลอด สู้ๆน่ะค่ะใครที่กำลังพยายามอยู่เรามาสวยและดูดีไปพร้อมๆกันค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆคน เราเป็นคนนึงที่ชอบเครื่องสำอางมาก ชอบยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ ขอฝากรูปที่เราแต่งหน้าช่วง คริสต์มาส ปีที่ผ่านมา ไว้จะแวะมาทักทายกันใหม่น่ะค่ะ หลังจากนี้ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆทุกๆคนจร้า
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
แต่ถ้ามันทำให้เราดูดีขึ้นก็อย่าได้แคร์คำคมหรือคำพูดใดๆจ๊ะ มั่นใจซะอย่างก็ลุยเลย