บุก "Royal India" ร้านดังย่านพาหุรัด
La Kikiz 13 6
นาร้ายยยย นารายณ์ .. พูดแบบนี้มิได้จะพาสาวๆ ไปไหว้พระแต่อย่างใดแต่ถ้าพูดถึงคำๆ นี้แล้วเราน่าจะนึกถึงความเป็นแขกอินเดียหรือฮินดูอะไรแนวๆ นั้นก็เพราะวันนี้จะชวนสาวๆ ไปกินอาหารอินเดียกันอีกแล้วจ้า นี่ก็ผ่านมาเดือนนึงแล้วเนอะกับกระทู้อาหารอินเดียครั้งก่อน (ใครยังไม่อ่าน คลิ๊ก !! Home Cuisine) เวลาผ่านมาก็แอบนานแต่กลิ่นเครื่องเทศยังคงอบอวลอยู่ในความคิดได้ฤกษ์ไปบุกพิชิตร้านดังอีกร้านนึงแล้วหละค่ะ โดยครั้งนี้เราไปกันที่ย่านพาหุรัด ณ ร้าน "Royal India"
ร้าน "Royal India" ถือเป็นร้านดังมากอีกร้านนึงในเรื่องของอาหารอินเดียแท้ๆ เพราะว่าเพียงแค่เอาชื่อไปเสิร์ชในอากุ๊กกู๋ก็เจอรีวิวอะไรๆ มากมายว่าร้านนี้ต้องลอง !!! งานนี้ลากีกี้และทีมไม่รอช้ารีบรุดหน้าไปชิมในทันใด ปิ๊ง !!! (หายตัวแปรบ)
ตอนนี้เราอยู่กันที่ย่านพาหุรัดเรียบร้อยแล้วค่ะเร็วมะ ? หายตัวได้ก็เก๋แบบนี้แหละฮ่าาๆ พูดเป็นหนังผีไปได้ฉันไม่ใช่ผีนะจะหายตัวได้ยังไง เอาเป็นว่าตอนนี้กำลังจะเข้าร้านแล้วค่ะ พิกัดร้านจำง่ายๆ อยู่ในซอยตรงข้าม "อินเดีย เอ็มโพเรียม" ยืนหน้าห้างมองตรงไปจากนั้นหันขวา 45 องศาพิลิปดาเหนือก็จะเจอป้ายเหลืองๆ ค่ะนั้นแหละ Royal India เดินไปโล๊ดด
เดินเข้าซอยแบบสวยงามตามประสาหายใจเข้าออกประมาณ 3 ครั้งก็ถึงแล้วค่ะเห็นหน้าร้านมีขนมแขกเยอะๆ เดินเข้าร้านไปเลยค่ะ รับรองเข้าไปแล้วบรรยากาศอินเดียสุดๆ เพราะคนที่มากินนี่ส่วนใหญ่ออกแนวอินเดียกันจริงจัง แอบนั่งฟังเขาคุยกัน จับสาระไม่ได้เลยค่ะ ณ จุดนั้นบทสนทนาไร้ภาษาไทยปรากฏ
เวิ่นเว้อเหมือนจะเพ้อเจ้อมาแสนนานเรามาดูเมนูอาหารกันเลยดีกว่า แต่เดี๋ยวก่อนเมื่อได้รับเมนูอาหารก็ไขข้อสงสัยบางอย่างที่เราสงสัยมานานเช่นกันนั่นก็คือร้าน Royal India ที่อยู่ในพารากอนกับเอสพลานาดไม่คิดว่ามันจะเป็นร้านเดียวกันแต่จริงๆ แล้วเขาเป็นร้านเดียวกันค่ะที่พารากอนและเอสพลานาดเป็นสาขาแยก ทั้งหมดแล้วเขามี 3 สาขาเลยนะจ๊ะอูววววร้านนี้เริ่มแลดูไฮโซขึ้นมาทันที
เมนูแลดูขลังมากพูดเลอออ ~_~
เรามาเริ่มดูเมนูกันแบบจริงๆ จังๆ กันดีกว่าค่ะว่าวันนี้จะกินอะไรกันดี .. อาหารที่สั่งวันนี้แอบคล้ายตอนไปร้าน Home Cuisine นะจะได้ตัดสินกันไปเลย ชับๆ ว่าใครอร่อยกว่า
สั่งเครื่องดื่มกันก่อนเลยค่ะติดใจลัซซี่จากร้านเดิมมาก แอบอ่านรีวิวร้านนี้ก่อนมาพบว่าร้านนี้มีลัซซี่มะม่วงด้วยนะ เพราะฉะนั้นร้านนี้งาน ลัซซี่มะม่วง ต้องมา !! ลัซซี่คือโยเกิร์ตปั่นกับน้ำแข็ง ถ้าเป็นลัซซี่มะม่วงก็ใส่มะม่วงลงไปด้วย ร้านนี้ลัซซี่เหมือนจะข้นไป ดูดแล้วแอบรู้สึกหนืดๆ เล็กน้อย หวานไปหน่อย ฮึบ !! ไปสั่งอาหารกันเถอะค่ะ ถึงจะบ่นโน่นบ่นนี่แต่ใช่ว่าจะกินไม่หมด ฮ่าาๆๆๆ
อาหารจานแรก ซาโมซ่า ถือเป็น Appetizer ของเราในวันนี้แป้งทอดกรอบด้านในเป็นเนื้อผัดผงกระหรี่ลักษณะคล้ายอย่างนั้นค่ะ ร้านนี้รสชาติอ่อนกว่าร้าน Home Cuisine แต่พิเศษกว่าตรงที่มีน้ำจิ้มมาให้ 2 รสชาติ อันแรกสีเขียวน่าจะเป็นใบมิ้นต์ปั่นรวมกับอะไรซักอย่างนึง รสชาติจืดไม่ได้แหลมไปทางไหนได้กลิ่นมิ้นต์ชัดเจนมากกกก ส่วนอีกอันเป็นน้ำมะขามผสมกับอะไรซักอย่างนึงอีกแหละรสชาติเปรี้ยวๆ เผ็ดนิดนึง แต่กลมกล่อมชอบมาก กินด้วยกันอร่อยมากค่ะ
(ถ้าบอกอะไรผิดหรือกินอันไหนผิดโปรดเข้าใจ .. คือพยายามถามคนที่มาเสิร์ฟนะว่าจานนี้อะไร น้ำจิ้มนี้อะไร แต่เหมือนนางเพิ่งจะทำความรู้จักภาษาไทยหรือไม่นางก็ขี้เกียจตอบแหละ ตอบบ้างแถมตอบทีฟังค่อนข้างยาก เอาเถอะๆ ไม่ถามแล้วก็ด๊ะ !!)
จานต่อมาเป็น ชิคกะบาบ เห็นแวบแรกทอดมันแน่ๆ คล้ายทอดมันเมืองไทยมากค่ะติดตรงที่เป็นแท่งกลมๆ ถ้าเป็นก้อนกลมๆ แบนๆ หน่อยนี่ใช่เลยส่วนรสชาติออกเค็มๆ มีกลิ่นเครื่องเทศค่อนข้างแรง กินตอนแรกไม่ค่อยอร่อยค่ะ เลยบีบมะนาวตามลงไปก็พอไหวขึ้นมานิดนึง ><"
เมนูนี้ชอบ ชิ๊กเก้น ทันดูรี คือไก่หมักเครื่องเทศอินเดียย่างในเตาทันดูร์ เนื้อไก่หอมเครื่องเทศมาก(ขึ้นอยู่กับความชอบ) ส่วนเตาทันดูร์เป็นยังไงไปหาดูกันนะ อธิบายไม่ถูกแต่โดยรวมจานนี้อร่อยค่ะ แอบเอาไก่ไปจิ้มกับน้ำซอสมะขามที่มาพร้อมกับซาโมซ่าฮ่าาๆ อร่อยล้ำค่ะต้องลองๆ
เปิดดูเมนูเห็นอาหารเซ็ตนี้แลดูอลังการและสวยงามเลยต้องจัดมาค่ะ จะได้ลองกินอาหารเยอะๆ หลายแบบนั่นก็คือ นอนเวจิทาเรียน ทาลิ (เซ็ต) เป็นอาหารแบบเซ็ตค่ะมาพร้อมกันหลายๆ อย่างแกงและข้าวจะใส่มาในถ้วยเล็กๆ แต่รวมๆ แล้วมันเยอะมากเพราะเขาตักเต็มถ้วยทุกอย่าง ถ้าทานเป็นอาหารเที่ยงอิ่มถึงตอนเย็นแน่นอน
ใน 1 เซ็ตสามารถเลือกของได้ตามนี้ค่ะ ~ ราคาเลิศอยู่นะ
จานต่อมาเป็น แกงแพะ เนื้อแพะนุ่มอร่อยดีค่ะเนื้อแพะไม่มีกลิ่นคาวเลย แต่รู้สึกว่ารสชาติมันอ่อนกว่าร้าน Home Cuisine เอาเป็นว่าเราชอบร้านโน้นมากกว่านะ ถามคนที่ไปด้วยกันจานนี้ให้ Home Cuisine ชนะขาดไปค่ะ
ตามกันมาติดๆ ด้วย ชิ๊กเก้น มาซาล่า แกงกะหรี่ไก่ผสมด้วยไข่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศอ่อนๆ จานนี้อร่อยค่ะ กินกับนานเป็นอะไรที่เข้ากันสุดๆ เพื่อให้เขาถึงอารมณ์ที่มากกว่าต้องใช้มือกินนะคะ งดช้อนแปปนึงฮ่าาๆ แต่ก็จะมีกลิ่นติดนิ้วติดเล็บไปแน่นอนค่ะ ~ ~
จานนี้เป็นงานแป้งค่ะมีทั้ง นานและโรตี นานคือแป้งที่ใช้กินคู่กับแกงอื่นๆ เหมือนกับโรตีหรือจาปาตีแต่แตกต่างที่สูตรแป้งและวิธีการทำนิดหน่อยอร่อยดีค่ะกินเดี่ยวๆ ยังอร่อยเลยนะ ส่วนโรตีฉันว่าปกติ ไม่ได้แตกต่างจากที่อื่นมากนัก แต่นานนี่อร่อยจริงๆ ค่ะเพิ่งเคยกินครั้งแรกด้วยมันเข้าก๊านนเข้ากันกับแกงแขก ^ ^
ฉีกกก ชิมครีม จุ่มนม !!! ผิด
วางรวมๆ กันแล้วแลดูดี ~
จานสุดท้ายมาช้าสุด ข้าวหมกแพะ รสชาติอร่อยดีแต่มันไม่ผ่านที่ข้าวมันแฉะข้าวเม็ดสั้นๆ ไม่สวยกินแล้วไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ เมนูนี้บอกตามตรงสู้ Home Cuisine ไม่ได้ค่ะข้าวหมกร้านนั้นเลิศมากกกกกกก
กินของคาวแบบหนักๆ กันไปแล้ว งานของหวานต้องมา !! มาครั้งนี้มาแบบเว่อร์วังอลังการตระการตามากกกกแต่ละอันนี้สีสันเจิดจ้ากันแบบสุดๆ ค่ะ แอบนึกถึงสีผสมเบาๆ 5555
ถ้าจะถามว่าแต่ละอันชื่ออะไรบ้าง ฉันพยายามแล้วเดินไปถามสองสามรอบ ส่งคนนี้ไปถามบ้างคนนั้นไปถามบ้างก็ได้แต่งงๆ กันกลับมาคุณป้าพาระตะนางไม่ค่อยตอบเหมือนเขิล ? หรือไม่ก็คงไม่อยากคุยกับฉันเท่าไหร่ 555 แต่นางก็ตอบมาบ้างนะแบบฟังยากมากน้ำตาจะไหล อินเดียผสมไทยมั่วกันไปหมด
จากมวลมหาประชาขนมแขกทั้งหมด ดิฉันกรั่นกรองออกมาได้ตามที่เห็นในจานค่ะสีสันน่ากินสุดๆ ฮ่าาๆ และครั้งที่แล้วมีประสบการณ์กินขนมแขกๆ มาแล้วรีบสั่งชาอินเดียมากินคู่กันทันทีค่ะ ไม่ทันที่จะเอาเข้าปากตอนที่เอาช้อนตักขนมเป็นชิ้นเล็กๆ แบบว่าน้ำไหลค่ะ น้ำไหลจริงๆ ตกใจ น้ำเชื่อมไหลออกมาเยอะมาก = = และก็ได้ผลสรุปว่าเกือบทุกชิ้น เป็นแบบนั้นค่ะ บางอันดูไม่หวานก็หว๊าน หวานค่ะ หวานมากทุกชิ้น เอิ่มมม จิบชาอินเดียไปต้านทานแทบไม่ไหว จานนี้เหลือค่ะ เราทั้ง 6 คนสู้ไม่ไหวจริงๆ ต้องลองค่ะ !!!!!!!
ชาอินเดีย กุหลาบยามุน และลัชมาลัย ก็ต้องมาค่ะงานนี้ ~
สิริรวมรายการอาหารขนมหวานทั้งหมดตามที่เห็นกันไปนะคะ เช็คบิลออกมาราคา 1,783 บาท หาร 6 คน ตกคนละ 297 บาทก็ถือว่าไม่แพงมาก นี่กินอิ่มจนแบบเดินต่อแทบไม่ไหว .. บิลเขาคลาสสิคมากอ่ะ
สรุปแบบส่วนตัวสุดๆ ชอบร้าน Home Cuisine มากกว่าคือมาทานร้านนี้ก็แอบผิดหวังเล็กๆ ว่าจากการอ่านรีวิวมันน่าจะอร่อยกว่านี้นะ หรือวันที่เราไปแม่ครัวมีเรื่องไม่สบายใจทำให้ปรุงรสชาติผิดไปหรืออย่างไร หรือว่านี่คือรสชาติอาหารอินเดียแท้ๆ แล้วร้านโน้นเป็นอาหารอินเดียแบบประยุกต์ให้เป็นไทยแล้ว ยังไงต้องมาลองกันเองค่ะ แต่ละคนชอบรสชาติไม่เหมือนกัน
SERVICE & VALUE
อาหารราคาเริ่มตั้งแต่ 60 บาทเป็นต้นไปจนถึง 300 บาท เครื่องดื่มและขนมหวานราคาประมาณ 30-60 บาท อาหารที่เสิร์ฟแต่ละจานค่อนข้างจะเยอะทั้งเนื้อทั้งน้ำแน่นทุกจาน บริการพอใช้คนรับออเดอร์มีคนเดียวทำให้ต้องรอหน่อย ตกแต่งร้านได้อารมณ์ร้านอาหารแขก และการเดินทางมาที่ร้านมีรถเมล์ผ่านค่ะแต่ต้องลองศึกษากันดูว่าสายไหนบ้าง
LOCATION
Royal India มี 3 สาขา พาหุรัด, พารากอน, เอ็มโพเรียม
ที่อยู่เบอร์โทรเวลาเปิดปิด ตามภาพเลยค่ะ
DRESS CODE
แต่งตัวสบายๆ ชุดพร้อมเดิน สำเพ็ง-พาหุรัด ขาช็อปต้องไม่พลาดค่ะกินอาหารอิ่มแล้วไปเดินย่อยต่อที่สำเพ็ง ช็อปเสร็จหิวพอดีฮ่าาๆ
พร้อมจะไปเดินสำเพ็งต่อแล้วจ้า ~ ส่วนอาหารใครไปลองทานกันมาแล้ว อย่าลืมมาบอกต่อกันด้วย ^ ^
ร้านหน้าไปกินร้านไหน จะมารีวิวให้ดูกันอีกนะ สวัสดีค่ะ :)