หนังหน้า...เล่าเรื่อง Sulwhasoo EvenFair Perfecting Cushion

มาอีกแล้ว ตั้งแต่ทำงานมา วัยนี้ ว่างที่สุดแล้วสินะ ^_^

มาแชร์รองพื้นอีกตัว Sulwhasoo EvenFair Perfecting Cushion

อันนี้ซื้อมาเพราะช่วงนึงฮิตแบบนี้ เลยอยากได้อยากมี อยู่ตลอด กิเลสไม่จบไม่สิ้น

สีที่ถูกหวยในรุ่นนี้ คือ #23 และ #25 นะคะ แต่ที่เอามาลงรีวิวคือ #25 เป็นคนที่ใช้ได้ทั้งคู่ค่ะ

ถ้า #25 พอดีผิวจะปิดรอยได้ดีกว่า #23 ในวันอยากว๊อกไม่แคร์รอย ไรงี้....

สภาพเยินเล็กน้อย เพราะมันใช้จนจะหมดแล้ว เพิ่งมารีวิว

ตอนซื้อมา มันมีแถม Refilled ให้อีก 1 ตลับค่ะในกล่องเดียวกัน

มนุษย์เจ๊ ต้องเตรียมผิวก่อนนะ....

มนุษย์เจ๊ ไม่อาจเปิดเผยใบหน้าก่อนทาบำรุงได้...เดี่ยวคนดูจะนิพพาน ไปก่อน...

(ต้องปลงอสุภะเลยทีเดียว) หึหึ

แค่รูปนี้ มนุษย์เจ๊ ก็ทำใจมากแล้ว

. ..เพื่อต้องการให้เห็นความสำคัญของการมีที่ยืนในสังคม ของคนที่ไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตา...

มนุษย์เจ้ เคยเป็นผู้อัปลักษณ์...ใช้ชีวิตหน้าสดในสังคมมาเป็นสิบปีในชีวิตทำงาน...เป็นมนุษย์ที่กลัวกระจก...กลัวคนจนเกิดเป็นความเศร้าหมอง...มันทำให้มนุษย์เจ๊ ต้องลุกขึ้นมา แก้ไขภาพลักษณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจ เพื่อเป็นการให้เกียรติกับตนเอง...และคนรอบข้าง ^_^ และการอยู่อย่างมั่นใจในสังคมนี้

หนึ่งในวิธี แก้ไขภาพลักษณ์ของตนเอง....นั่นก็คือ....การใช้รองพื้นก่อนเลยอันดับแรก ฮ่าๆๆ

(เมื่อก่อนทาแป้งเด็กแคร์ ไปทำงาน กร้ากๆๆๆๆ)

ต่อมา ลองดูเนื้อ...สีที่ฉาบลงไปค่ะ ตัวนี้จะเหลืองส้มๆ และเข้มกว่าหน้า ถ้าทาออกมาจะดำกว่าตัว ถ้าเป็นสี #23 จะสว่างขึ้นมาหน่อย

แต่ไม่เป็นไร สีเข้มก็จะปิดรอยดีกว่า

ชอบฟองน้ำมากค่ะ มันเกลี่ยได้นุ่มเนียน สัมผัสกับหนังหน้าแล้วต้องหลับตาพริ้มปริ่ม...

มันทำให้รองพื้นเกลี่ยง่ายมาก กดพัฟฟองน้ำลงไป ถ้าซื้อใหม่ๆ กดเบาๆนะ เดี่ยวมันฉ่ำทะลุ แบบในรูปเห็นป่ะ เรอะเทอะหมดเลยแล้วก็อมรองพื้นอยู่ในนั้นแหละ ใช้ไม่หมด...

เกลี่ยให้ทั่วทั้งหน้าดังรูปต่อมาค่ะ เมื่อทาเสร็จใหม่ๆ สังเกตุว่าจะดูไม่แห้งผาด ไม่ด้าน จะออกชุ่มชื้นด้วย ตัวนี้ทาเสร็จจะดูผิวดีทันที จะดูฉ่ำเนียนขึ้นมา ตามสมควรแก่วัย....สาวๆละอ่อนน้อยที่ดู...อาจจะแบบว่า อุ่ย..ทาแล้วยังไม่เต่งเลย...อิเจ๊ 3ครึ่งนะหลาน ริ้วรอยตามวัยเนอะ อิอิ

โบกสีสันเข้าหน้าซีดๆ กันต่อ และเดินสะบัดผมออกไปด้านนอก ไปสังเคราะห์แสง 55555

ทำเหมือนเดิม ถ่ายเป็นระยะๆ หลังจากรูปบน เราก็เดินทางมาทำงาน พอถึงสักพักก็เข้าห้องน้ำ ไปถ่ายรูป ช่วงเข้างานใหม่ๆ กำลังสวย เนียนกำลังดีนะ เป่งประกาย น้ำมันจะมาเร็ว มาตั้งแต่ช่วงเช้าเลย

รองพื้นตัวนี้ ออกแนวให้ผิวฉ่ำวาว + น้ำมันของเราเอง...มันเลย...ฉ่ำแต่เช้า !!!!

ถ้าหน้าแห้ง เจ๊แนะนำว่าไม่ต้องทาแป้งฝุ่นตามก็ได้ มันวาวสวยอะ ... คือเจ้หน้ามันมาก แต่ก็ยังอยากจะฉ่ำตามเค้า ก็เลยลงแป้งฝุ่นนิดเดียว อย่างเบามือที่สุด....

ผิวอย่างเจ๊ เป็นผิวที่จะเข้มก็ได้ จะสว่างก็ได้อยู่ที่แสงเลย สังเกตว่า ถ้าที่สว่างก็จะดูเหมือนคนขาว แต่พอมืดลงนิดเดียวเท่านั้น...เป็นคนสีน้ำผึ้งเลยทันที

หลังจากรูปบน เจ๊ก็ทนไม่ได้....เจ๊ต้องซับมัน ... น้ำมันออกมากหน้าจะเป็นคราบ ยิ่งรองพื้นเป็นเหมือนเนื้อออกมีบำรุงด้วยแล้ว...พอเจอน้ำมันบนหน้า สำหรับเจ๊ยังไงก็มีคราบ

คราบจะมากจะน้อยแล้วแต่ยี่ห้อ และเคมีที่เข้ากัน ของน้ำมันบนหน้ากับน้ำมันบนเครื่องสำอางค์ ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เจ๊ซับหน้าไปตอน 10 โมง ทนไม่ไหวนะ จริงๆ...

12:00 ในที่สุดก็พักเที่ยงสักที...และแล้ว...

จากเวลา 10:00 - 12:00

...ความมันของหนังหน้ามนุษย์เจ๊ ....ก็ทำร้ายรองพื้นดีๆของเจ๊...ในที่สุด

T_T เจ๊เสียใจที่หนังหน้าเจ๊ ชอบทำลายความฝันที่จะได้ทารองพื้นหน้าฉ่ำวาวแบบเกาหลีของเจ๊

เจ๊...สัมผัสได้ว่า มันเป็นรองพื้นที่เนื้อดีและ เจ๊ก็ชอบเนื้อมันมากๆ ตัวสีไม่ดรอป แต่เคมีของน้ำมันบนหนาเจ๊ มันรุนแรงมากพอ ที่จะทำลายพวก Waterproof ทั้งหลายแหล่ บนหน้า

....อันนี้เจ๊ขอโทษตัวเอง และเจ๊เองก็ทำลายน้ำมันนี้ออกไปไม่ได้ เนื่องจากมันคือ น้ำมันที่ทำให้หนังหน้าเจ๊แข็งแรงกว่าตอนเป็นสิว

***รองพื้นตัวนี้ น่าจะเหมาะมากที่สุดกับคนหน้าแห้งนะ หรือไม่มีปัญหาผิว และเน้นความฉ่ำวาวเพิ่มเติมพิเศษ...ส่วนคนหน้ามันซับมันและเติมแป้งฝุ่นเอานะ***

เจ๊ขอหยุดภาพไว้แค่ตอนเที่ยงนะคะ เจ๊หน้ามันมากๆ และเหงื่อไหล ต้องมีการซับการเช็ด และมันก็ทรงๆตัวอยู่เท่านี้ ใช้งานหน้าแค่ช่วงเช้าพอจ้า เพราะถ้ามันต้องผ่านการเช็ดปาด เหงื่อแล้วน้ำมันมากๆแล้ว มันก็หลุดอยู่แล้วค่ะ ^^

จุดเด่น

1. เนื้อรองพื้นมีความละเอียดไม่สาก

2. ให้ความฉ่ำวาวที่บางเบามากๆ ธรรมชาติ

3. ฟองน้ำที่ให้มา ดี๊ดี ดีมาก

4. เกลี่ยง่าย ลื่น และไม่เป็นคราบ

5. ค่ากันแดดสูง ทาตัวเดียวจบได้ ประหยัดเวลา SPF50+, PA+++.

6. ทาเสร็จใหม่ๆ สวยทันที

ความเหมาะสม

1. คนหน้ามัน หรือเหงื่อเยอะ: จากรูป ถ้าชอบความวาว ต้องหาอะไร Control น้ำมันบนหน้าหาพวกตัวยึดเกาะรองพื้นไว้กับหน้าดีๆ หรือ หมั่นซับหน่อย ถ้าใช้งานดึกก็เติมแป้งฝุ่นพริ้วๆ

2. คนหน้ามัน ถ้าเกิดว่าออกงานกลางคืน ใช้หน้าแค่ 3-5 ชั่วโมง จะสวยมากนะ พอผิวกระทบแสงเรืองรอง นี่มันเปร่งประกายเจิดจรัสดูไม่หนา สวยงามค่ะ ถ้าหลังจากนั้นความมันจะทำลายล้างย่อยสลายไปอาจจะไม่เด้งเหมือนช่วงชั่วโมงแรกๆ

3. คนหน้าแห้ง: ไม่ต้องลงแป้งฝุ่นทับก็ได้ค่ะ กำลังสวยเพราะถ้าลงแป้งแล้ว มันก็จะแมทไปเสียความวาวของรองพื้นไปค่ะ

4. คนหน้าแห้งหรือไม่ค่อยมีเหงื่อ น่าจะติดทนจรดเย็นค่ะ

ข้อที่ต้องระวัง จุดสังเกต

1. สีรองพื้นน้อย อาจจะหาที่เข้ากับสีผิวยากหน่อย

2. การซักฟองน้ำ: ฟองน้ำที่ดีมากนั้น ละเอียดแน่น มันทำให้ซักยากมากค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีบางเวปบอกว่า พัฟซักไม่ได้ มันทำให้เราตัดสินใจลำบากไปเลยค่ะ

- ถ้าซัก : ซักได้ไม่หมด ซักไม่ออก หรือไม่ควรซัก

- ถ้าไม่ซัก : ก็สกปรกสิคะ หน้าสิวอย่างเจ๊ต้อง หมักหมมไปจนกว่ารองพื้นจะหมด ถ้าจะให้หา ฟองน้ำอื่นมาใช้แทน ก็ไม่เหมือนตัวที่เขาแถมมาให้อยู่ดี

....สุดท้ายเราเลือกที่จะต้องซัก: เพราะสิวขึ้นนะคะ หมักหมมค่ะ ซักไม่หมดอีกต่างหาก พยายามหาอะไรมาซักก็ซักได้ไม่หมด ซักยากที่สุกในสามโลกค่ะ

3. การอุ้มอนุภาครองพื้นด้านในตลับ ที่เป็นฟองน้ำรูพรุนใหญ่ อมเนื้อรองพื้นเอาไว้ ดังนั้น เวลาแตะรองพื้น จะต้องเข้าสัมผัสเข้าไปในเนื้อรองพื้นตรงๆ ให้ความรู้สึกว่า มันไม่สะอาดเหมือนเราต้อง เอานิ้วจิ้มดูดเนื้อรองพื้นทุกวันๆ ในช่องเดิมๆ ไรงั้นนะ....

4. พอรู้ว่าต้องซักพัฟที่ซักยาก มันทำให้เรา....ใช้แล้วขี้เกียจซัก อะไรยังงั้น และกลัวสกปรก เลยใช้ได้ไม่บ่อย เพราะห่วงสิวบนหน้ามากกว่า

ถ้าคนไม่มีปัญหาสิวหนักๆ นะ ตัวนี้ฉ่ำวาวสวย ไม่ต้องกลัวสิวงี้ หรือขยันซักพัฟหน่อย ใช้โลดเลยค่ะ ^_^ เจ๊ยังยืนยันว่าโดยตัวรองพื้นเองมันดีค่ะ