เที่ยวเกาะสมุย…ลุยๆก็ได้ ชิลล์ๆก็โดน (กระทู้แรก by เด็กเกาะปีกว่าๆ)

สวัสดีค๊า เพื่อนๆชาวจีบัน วันนี้ แก้วจะมารีวิวเที่ยวเกาะสมุยแบบเจาะลึก ทุกซอกทุกมุมแบบคนพื้นที่ เพราะแก้วได้ย้ายจากกรุงเทพฯบ้านเกิดมาเป็นเด็กเกาะสมุยได้ 1ปี 4เดือนแล้วค่ะ และจากประสบการณ์ตรง เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่อยู่กรุงเทพฯ อยากมาเที่ยวสมุยกันมากๆแต่มักจะติดตรงที่ว่า เที่ยวสมุย..แพงอ่ะ ค่าใช้จ่ายสูงอ่ะ แค่ค่าเครื่องบินมาลงสมุยก็ปาไปหลายพันละ ดังนั้นแก้วก็เลยมาเสนอทางเลือกในการเดินทางมาเที่ยวเกาะสมุยให้เพื่อนๆแล้วแต่สะดวก แล้วแต่ชอบเลยค่ะ

การเดินทางมาเกาะสมุยนั้น สามารถเลือกได้ 2 ทาง ทั้งทางเครื่องบิน และทางรถยนต์ แต่ถ้าใครไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางโดยรถทัวร์ได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน ถ้าใช้บริการสายการบิน Nok Air, Air Asia หรือ Thai Lion Air จะมีบินมาลงที่จ.สุราษฎร์ธานีแล้วต้องนั่งรถบัสของบริษัทพันทิพย์ใช้เวลาประมาณ 1ชม.30 นาที เพื่อไปต่อเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะสมุยซึ่งระยะเวลาในการนั่งเรือก็ประมาณ 1ชม. 30 นาที ก็จะถึงเกาะสมุยแล้ว หรือจะใช้บริการของ Bangkok Airways ที่บินตรงมาลงที่เกาะสมุยเลยโดยใช้เวลา 1 ชม. แต่ค่าตั๋วจะราคาสูงหน่อยประมาณ 3,500 บาทขึ้นไปแล้วแต่โปรโมชั่นค่ะ แต่ถ้าไม่คิดมาก ถือว่าซื้อเวลาและความสะดวกสบาย ก็เลือกวิธีนี้เลยค่ะ รวดเร็วทันใจ และยังมีเวลาท่องเที่ยวในเกาะอีกเยอะเลยค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเดินทางมาเที่ยวสมุยแบบประหยัดได้ แต่วิธีนี้ค่อนข้างจะ Slow Life นิดส์นึงนะ เพราะใช้เวลาเดินทางทั้งหมดรวม 12 ชม.!!! โดยรถทัวร์ VIP แบบปรับนอนได้นะคะ โดยเราสามารถเลือกใช้บริการของ 99 ทัวร์(บขส.) ค่าตั๋วรถ 812 บาท ไม่รวมค่าตั๋วเรือ 130 บาท ขึ้นรถจากหมอชิต ข้อดีคือ เหมาะกับสาวๆที่เดินทางคนเดียว มีที่นั่งเดี่ยว ไม่ติดกับคนอื่น สามารถนอนกลิ้ง นอนกรน โดยไม่ต้องกลัวคนนั่งข้างๆตกใจเลยค่ะ หรือของบริษัทสมบัติทัวร์ ค่าตั๋วรถ 609 บาท ไม่รวมค่าตั๋วเรือ ไม่เกิน 150 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าน้ำมันค่ะ) ขึ้นรถจากสายใต้ ยิงตรงไปท่าเรือเลย ข้อดีคือ มีจอLCDเสียบหูฟัง สามารถนอนชิลล์ดูหนังฟังเพลงได้ตลอดทาง แต่จะไม่มีที่นั่งแยกเดี่ยวนะคะ ซึ่งไม่ว่าจะใช้บริการกับบริษัทไหนก็สามารถมาต่อเรือเฟอร์รี่ไปเกาะสมุยได้ค่ะ

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวTop Hitบนเกาะสมุยที่ใครไม่ได้แวะไปถ่ายรูปถือว่ามาไม่ถึง นั่นก็คือ

หินตาหินยาย ซึ่งเป็นหินที่มีรูปร่างเหมือน เอิ่ม..ขอไม่พูดดีกว่า ดูเทียบในรูปกันเอาเองนะคะ ว่าเหมือนไม๊ อิอิ

นอกจากนี้เกาะสมุยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่สามารถเที่ยวได้แบบ 1 Day Trip นั่นก็คือ

เกาะนางยวน+เกาะเต่า เหมาะกับ ผู้ที่ชอบนั่งชิลล์ที่ชายหาด อยากSnorkelingดูปลาพอกรุ้มกริ่ม เกาะนางยวนจะเป็นตัวเลือกที่ใช่เลย นอกจากนี้ยังมีทะเลแหวกที่ถือว่าเป็นHilightของที่นี่ ใครไปใครมาก็ต้องไปถ่ายมุมที่เห็นทะเลแหวกกัน แต่กว่าจะปีนขึ้นไปถึง บอกเลยว่า หอบได้ที่เลยค่ะ แต่เห็นวิวสวยๆแล้วหายเหนื่อย ถ่ายรูปเพลินเลยละค๊า

ส่วนใครที่รักการดำน้ำ เป็นชีวิตจิตใจ แบบว่าพอเข้าคาราโอเกะแล้ว จำเนื้อเพลงไม่ได้ เฮ้ย! มันใช่หรอ 555 แบบดำน้ำลึกจริงๆอ่ะค่ะ ต้องถูกใจเกาะเต่าแน่ๆ เพราะบริเวณรอบๆเกาะเต่านี้ขึ้นชื่อในการดำน้ำ เนื่องจากวิวใต้ท้องทะเล ยังมีความสมบูรณ์อย่างมาก มีปลาเล็กปลาน้อยว่ายน้ำกันเป็นฝูงๆแวะเวียนมาทักทายให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เป็นภาพที่สวยงามประทับใจมากค่ะ

ส่วนใครที่เป็นขาลุย แอดเวนเจอร์ ขอแนะนำ 1 Day trip หมู่เกาะอ่างทอง มีกิจกรรมทั้งพายเรือคายัค Trekking บนเขา หรือSnorkeling ก็มีนะจ๊ะ Feeling Outdoor กันอย่างเต็มๆ และที่นี่ก็มีจุดชมวิวHilightที่เรียกว่า "ทะเลใน" แต่กว่าจะขึ้นไปถึงนี่ ตัวแก้วเองเกือบลมจับค่ะ เพราะทางขึ้น ชันเกือบ90องศา ปีนไปขาสั่นไป แต่พอได้เห็นวิวข้างบนนี่ สวยจนแทบหยุดหายใจ คือแบบเหนื่อยจนขาดใจ ไม่ช่ายยยยย สวยจริงๆค่ะ ใครอยากเห็นความสวยงามแบบนี้ ก็ต้องปีนขึ้นไปดูไปสัมผัสด้วยตัวเองเลยนะค๊า

และหลังจากที่แก้วได้มาอยู่เกาะสมุยได้เกือบปี แก้วก็มีโอกาสได้เข้าร่วมประเพณีหนึ่งของคนบนเกาะสมุย ที่แก้วรู้สึกว่ามีความน่ารักอบอุ่น ซ่อนอยู่ในวิถีชีวิตคนเกาะที่นี่ นั่นก็คือ "ประเพณีกินข้าวห่อ งานสารทเดือนสิบ รับ-ส่ง ตายาย" ที่จะจัดขึ้นประมาณปลายเดือนกันยายน จนถึงประมาณวันที่ 10 ตุลาคม ของทุกปี โดยคนสมุยเชื่อว่า เมื่อได้ประกอบพิธีนี้แล้ว บรรพบุรุษ ซึ่งมีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย ตลอดญาติ ๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว จะได้รับส่วนบุญส่วนกุศล แม้ดวงวิญญาณ ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในนรกขุมใดก็จะพ้นทุกข์ ที่มีความสุขอยู่แล้ว ก็จะรับสุขยิ่งๆขึ้นไป ในวันงานชาวบ้านจะจัดสำรับข้าวสารอาหารแห้ง ขนมและของใช้ประจำวันต่างๆไปวัด ทั้งสองวันคือ วันแรม 1 ค่ำ ซี่งเป็นวันรับและวันแรม 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันส่ง โดยนำสำรับไปถวายพระที่วัดอยู่ใกล้ๆ บ้าน สำรับที่นำไปจะนำไปตั้งไว้บนสถานที่ๆ ทางวัดจัดไว้ให้ พอพิธีกรรมเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็จะนำอาหารที่ใส่ปิ่นโตมากนั่งทานข้าวล้อมวงกันในครอบครัว ได้ทานอาหารพื้นบ้านๆอร่อยๆที่ไม่ได้หาทานกันง่ายๆแล้ว ยังได้ถือว่าเป็นวันรวมญาติสังสรรค์กันในครอบครัวอีกด้วย เรียกว่าอิ่มกายสบายพุง อิ่มบุญและยังอิ่มอกอิ่มใจไปพร้อมๆกันเลยนะคะ ^w^

ส่วนอาหารท้องถิ่นที่นำมารับประทานร่วมกันก็จะมี....

และนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของอาหารพื้นบ้านของคนสมุยนะคะ แต่ถ้าใครอยากทานอาหารพื้นบ้านแบบแท้ๆ ขอแนะนำร้าน เสบียงเล ละไม (สาขาแรก) อร่อย และสมราคาค่ะ

ส่วนใครที่ชอบ Life style ชิลล์ๆ มีวิวทะเลสวยๆให้ถ่ายรูปเล่นได้ แก้วขอแนะนำร้านนี้เลย

"กะลาสี" แนะนำให้ไปประมาณ 17.30 น. นะคะ ไปรอดูพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าไปก่อนหน้านั้นแดดจะร้อนฝุดๆ แต่ก็ได้ฟิลที่แตกต่าง คือฟ้าจะใสๆ ทะเลจะสวยมากค่ะ แถมยังมีชิงช้าริมทะเลให้นั่งรับลม จะActสวย ถ่ายรูปก็Chicสุดๆไปเลยค่ะ ส่วนเมนูอาหารก็จะเป็นอาหารทานเล่นมุ้งมิ้ง เบาๆ พออิ่มแบบนางเอกค่ะ

ร้านต่อไปที่ Relax ไม่แพ้กันนั่นก็คือ ร้าน "Bakubung" บาคูบุง ในภาษาแอฟริกัน ซึ่งแปลว่า ฮิปโป ในร้านก็มีรูปปั้นน้องฮิปโปน่ารักๆวางอยู่รอบๆบริเวณร้าน ร้านนี้เน้นวิวอีกแล้วค๊า วิวทะเลกว้างๆ สามารถนอนเปลยวน สัมผัสลมทะเลเย็นๆสบายๆ อาจเผลอหลับได้โดยไม่รู้ตัวนะคะ นอกจากนี้ที่ร้านมียัง เค้ก ไอติม อาหารว่าง และเครื่องดื่มอร่อยๆเพิ่มความฟินอีกด้วยค่ะ

ร้านสุดท้ายนี้ ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนชื่นชอบเค้กเลยค่ะ ร้านนี้ก็คือ"Lolamui" โลลามุยมาจากคำว่า ลูกหลานชาวสมุยอ่ะค่ะ ส่วนเมนูSignatureจะเป็นเค้กมะพร้าวอ่อนอ๊อนอ่อน ละลายในปาก ไม่ละลายในมือ ฟินจนต้องบอกต่อค่ะ ส่วนเค้กช็อคโกแลตเขาจะเป็น Flourless Chocolate Cake

จะเป็นเค็กช็อคนุ่มนิ่มไร้แป้ง ทานได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วน แถมยังถึงรสเข้มแบบดาร์คช็อคแท้ๆด้วยล่ะค่ะ และเค้กที่แก้วชอบมากที่สุดก็คือ Strawberry Earl Grey เค้กสตอเบอรรี่สดสอดไส้ครีมสดที่ผสมด้วยชาเอิร์ลเกรย์หอมๆ ฟินได้อีกแต่เค้กนี้จะมีแค่ตามฤดูกาลที่มีสตอเบอร์รี่เท่านั้นนะคะ เค้กร้านนี้ราคาไม่แพงค่ะ ชิ้นละประมาณ 80-120 บาท แล้วแต่ชนิดของเค้กค่ะ ถ้าเทียบกับปริมาณและคุณภาพบอกได้เลยว่าคุ้มเกินคุ้มค๊า ร้านเปิดประมาณ 11.00 น. บางวัน 15.00 น. เค้กก็หมดละค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากมาลิ้มรสเค้กร้านนี้ ต้องไวนะคะ

และที่สุดท้ายที่แก้วจะพาเพื่อนๆชาวจีบันไปเที่ยวนั่นก็คือ Lamai Walking Street ค๊า เป็นถนนคนเดินที่มีของขายเยอะที่สุดในเกาะสมุย ของที่ขายมีตั้งแต่ของกินไปจนถึงของที่ระลึกเลยล่ะค๊า ถนนคนเดินละไมนี้ จะเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. โดยประมาณค่ะ แล้ววันนี้แก้วก็มีคลิปถนนคนเดินละไมที่แก้วได้ไปเดินเล่น เดินชิม มาให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ คลิ๊กที่คลิปVideoกันได้เล๊ย

แหะๆ พากินไปซะครึ่งกระทู้เลย หวังว่าใครที่เป็นสายรับประทาน(แอบใช้คำสุภาพ 555)แบบแก้ว คงจะชอบนะคะ และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่บางส่วนบางมุมของเกาะสมุยเพียงเท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะอีกมากมายที่แก้วอยากจะนำเสนอ แต่ถ้าเขียนต่อสงสัยจะยาวค่ะ 555 งั้นสุดท้ายนี้แก้วขอฝากให้เพื่อนๆชวนกันมาเที่ยวสมุย หรือเที่ยวเมืองไทยกันเยอะๆนะคะ ส่วนที่เห็นในข่าวว่ามีกลุ่มควันจากประเทศอินโดนีเซียลอยมาปกคลุมที่เกาะสมุย ดูได้จากรูปข้างล่างค่ะ

และแก้วเชื่อว่าเกาะสมุยจะกลับมาสดใสเหมือนเดิมแน่นอนค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆชาวจีบันที่อ่านจนจบนะคะ ไว้โอกาสหน้าแก้วจะมารีวิวท่องเที่ยวที่ไหนอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ บ๊าย ^-^