Miyeon Favorites: ลูกรักแห่งปี My best items of 2015

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาวจีบันทุกๆท่าน

ช่วงเทศกาลทั้งที ก็เหมือนเป็นธรรมเนียมที่ต้องมาแชร์ลูกรักให้ได้ชมกัน แน่นอนว่ามี่เองก็ต้องไม่พลาดโอกาสนี้แน่นอน วันนี้เลยจะมาแชร์ไอเทมสุดโปรดลูกรักแห่งปี 2558 หรือ 2015 ให้ได้ชมกันค่ะ

สภาพผิวของมี่ช่วงนี้: Combination/Dry ค่ะ เป็นผิวผสมชนิดแห้งทั้งหน้า จมูกมัน

คราวนี้มีมาทั้งเมคอัพและสกินแคร์ แต่ขอเน้นไปที่สกินแคร์โนะ

ลูกรักทั้งหมดของปีก็ได้แก่ ............

(แอบเยอะนะคะ เพราะมี่เยอะ คือ ใช้เยอะค่ะ ลองดูกระทู้ Skincare regimen ของมี่ก็ได้จ้า

ลิงค์ไปชม Skin care regimen)

มาดูกันไปทีละตัวเลยนะคะ

เริ่มจาก Cleansing ค่ะ

ตัวที่ได้ตำแหน่งขวัญใจประจำปีไปยังคงเป็นของ Purevivi ค่ะ รักษามงเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่นตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่หลุดโผ

ปีนี้จริงๆก็ได้ลอง Cleansing ใหม่ๆ อยู่หลายชิ้นนะคะ แต่ด้วยความที่ Purevivi หาซื้อง่ายกว่า ราคาไม่แพง ส่วนผสมดี ก็เลยชนะไปค่ะ

หลังจาก Cleansing เสร็จเราก็ต้อง Toner ทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างอีกครั้งค่ะ

Toner ลูกรักประจำปีนี้ก็ไม่พ้นเจ้า Skin Talk BHA music toner

เป็น Toner BHA แบบ Low dose ในน้ำชา ยังคงครองตำแหน่งขวัญใจประจำปีอยู่เช่นเคย

เสร็จแล้วก็ต้องบำรุงผิวด้วย Serum

ซึ่ง Serum ลูกรักของปีนี้ได้แก่ It's Skin Power 10 formula GF effector

GF ฟังดูอาจจะคล้ย Growth factor แต่ความจริงเป็นสารสกัดจากเห็ดหมักค่ะ

รีวิวละเอียดไว้แล้วนะคะ ลิงค์นี้เลยจ้า

Serum อีกตัวที่ขึ้นแท่นมาแบบงงๆ คือ Dot free Resilience All in one essence สูตรน้ำผึ้ง

Essence ตัวนี้สัญชาติญี่ปุ่นนะคะ ไปสอยมาจากวัตสัน ราคาไม่ได้แรงมาก รู้สึกจะ 400 กว่าบาท ใช้ได้ค่อนข้างนานเหมือนกัน ใช้เช้า/เย็น ครั้งละ 2 ปั๊มพ์ เกือบสองเดือนแล้วยังยุบไปแค่ 1 ใน 3 เอง

พึ่งเริ่มใช้ได้เมื่อปลายๆเดือน พย. ใช้แล้วก็หลงรักเลยค่ะ หน้านุ่มชุ่มชื้นค่ะ เลยผลักเกาหลีหลายๆชิ้นตกกระป๋องไปแซงหน้าขึ้นแท่นลูกรักแห่งปีมาทันที

เติมน้ำเสร็จ ก็เข้าสู่หมวดเติมน้ำมัน

กลุ่มเติมน้ำมันตัวแรกเป็น Soybean firming skin ของ Innisfree ค่ะ

ตัวนี้ก็เคยรีวิวละเอียดไว้แล้ว ถ้าสนใจตามไป กระทู้นี้ได้เลยค่ะ

ตัวเติมน้ำมันอีกตัวมาจากเกาหลีเช่นกัน Goat milk moisture toner ของ Tony Moly ค่ะ

ถึงจะมีชื่อว่า Toner แต่ความมันค่อนข้างมากเลยทีเดียว คือเหมาะกับคนผิวแห้งอย่างดิชั้น เลยขึ้นแท่นลูกรักมาได้ซักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ

นมแพะนี้ก็เคยรีวิวละเอียดไว้แล้วเช่นกันค่ะ ถ้าสนใจตามไปกระทู้นี้ได้เลยค่ะ

ลูกรักอีกตัวพึ่งได้รู้จักกัน นางมากอบกู้รอยดำสิวที่เป็นมาเกือบเดือน ลงอะไรก็ไม่หาย จนได้เจอกับนาง แค่ 7 วัน รอยดำก็จางลงไปเยอะเลยค่ะ

มอบมง Whitening คนโปรดให้เลยแบบไม่ต้องคิดอะไร

เป็นเวชสำอางจากประเทศสเปน Martiderm DSP-Serum Illuminador

คือ จริงๆเค้าใช้ทาทั้งหน้า แต่มี่เอามาแต้มจุดด่างดำเฉยๆค่ะ

ตำแหน่งถัดมา ตำแหน่ง Sleeping pack แห่งปีของมี่ ขอมอบให้ Mamonde Rose honey sleeping mask เลยค่ะ

อันนี้ไปหิ้วมาจากเกาหลีเมื่อเดือนเมษา คิดว่าที่บ้านเรายังไม่มีนะคะ ไปบูทส์มาครั้งล่าสุดยังไม่เห็นค่ะ

สาวกกุหลาบต้องกรีดร้องเมื่อได้เปิดฝา กลิ่นกุหลาบพร่างพรูมาก

อันนี้มีเรื่องเมาท์ค่ะ คือ มี่ไปแอบเล็ง Sleeping pack กุหลาบ ของแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งไว้เมื่อต้นปี แต่ตอนนั้นงบยังไม่พอ (เพราะเก็บตังไปเกาหลีอยู่ 555) ก็เลยไม่ได้ซื้อ

จนกระทั่งไปเที่ยวเกาะเจจู ได้ไปพบรักกับ Mask ตัวนี้เข้า คึบั่บ (ขออนุญาตใช้ภาษาวิบัติเพื่ออรรถรสในการอ่าน) เฮ้ยยย เหมือนเลยอะ แค่กลิ่นกุหลาบไม่แรงเท่า และไม่มีกลีบกุหลาบมุ้งมิ้งในเนื้อมาสค์ แต่ราคาถูกกว่ากัน 4 เท่า

จัดมาเลยค่ะ แบบไม่คิดอะไร

พอได้ทาเท่านั้นแหละคุณขา ฟินมากกกกกกกกก (กรุณานึกถึงหน้าโอซูจิน จากเรื่อง Oh my venus ขณะที่ได้กินชอคโกแลต)

คนชอบกุหลาบควรลองค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบกุหลาบก็อาจจะปล่อยไว้บนหิ้งต่อไปค่ะ

มาถึงกันแดดบ้าง

ตัวที่รักสุดในปีนี้เป็น Biore CC milk ค่ะ ถึงแม้นางจะแห้งไปนิด และเอามาใช้หน้าหนาวไม่ได้ แต่โดยรวมสำหรับช่วงหน้าฝนที่่ผ่านมา นางก็ช่วยให้เราหน้าผ่องได้ทุกวี่วัน ก็เลยมอบให้นางไปค่ะ เดี๋ยวหน้าร้อนกลับมาเจอกันใหม่โนะ

Skincare ชิ้นสุดท้ายเป็น Mask sheet ค่ะ

ขอมอบมงให้ The saem Natural mask sheet รุ่นซองขาว

มี่คิดว่ามี่ลองทุกสูตรแล้วนะคะ มาสค์รุ่นซองขาวนี้เป็นมาสค์น้ำนมค่ะ เหมาะกับคนผิวแห้งอยู่ค่ะ

ต่อมาเป็นกลุ่ม Makeup นะคะ

ไอเทมแปลงร่าง ฟื้นสภาพความพังให้ใบหน้าลูกรักประจำบ้านมีอยู่ 6 ชิ้นค่ะ

Makeup ลูกรักคนโปรด ราคาหลักร้อยทุกชิ้น มีอยู่ 6 ตัวค่ะ

ของดีไม่จำเป็นต้องแพงนะคะ (แต่ก็ไม่ได้แปลว่าของแพงจะไม่ดีนะคะ ของแพงๆที่คุ้มค่าสมราคาก็มีเยอะค่ะ)

1. Tony Moly Circle lens Mascara รุ่นฝาเขียว ตัวนีให้ขนตายาวงอนสวยค่ะ ราคาตกเป็นเงินไทยเกือบๆสองร้อยบาท

2. Paponk first palette เป็น Eyeshadow เนื้อชิมเมอร์ ที่เม็ดสีแน่นมาก ทาเบาๆสีก็ติดเข้มแล้ว ลงผิดง่ายมาก ต้องนิ่งจริงๆ 555 ติดทนมาก แต่ก็ล้างออกง่ายค่ะ ตัวนี้รีวิวแบบละเอียดไว้แล้วค่ะ ถ้าสนใจลองตามไปอ่านได้นะคะ (ลิงค์) ราคาหกร้อยกว่าบาทค่ะ (จำไม่ได้)

3. รองพื้น Physicians formula youthful wear spotless foundation ราคาเกือบๆ 600 บาท เป็นรองพื้นเนื้อของเหลว ที่เหลว แต่ Pigment ค่อนข้างแน่นมาก ปกปิดได้ระดับกลางเลยค่ะ ที่สำคัญไม่ใช่แค่รองพื้น แต่มีส่วนผสมของสารบำรุงดีๆอยู่ด้วย ตัวนี้เคยรีวิวเอาไว้แล้วค่ะ (ลิงค์)

4. Eyebrowcara ของ Cathydoll ค่ะ เป็นมาสคาร่าปัดคิ้ว มี่ซื้อจากร้านเชียงใหม่คอสเมติกส์ ราคาถูกมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ 499 ตัว จำไม่ได้ว่า 49 หรือ 59 บาทนี่หละ ก็ยังไม่คิดเปลี่ยนค่ะ

5. Coverstick ของ Essence เป็นคอนซีลเลอร์แบบแท่ง ใช้ปกปิดร่องรอยอารยธรรมต่างๆค่ะ ราคาราวๆ 200 บาท ซื้อจากร้านบูทส์

7. Missha undereye brightener คอนซีลเลอร์เนื้อของเหลว ใช้สู้แพนด้า ช่วงหน้าหนาวนี่มีตกร่องบ้าง แต่ก็โอเคค่ะ

หมดแล้วค่ะ สำหรับลูกรักของปีนี้ ใครมีอะไรแนะนำมาแชร์กันได้นะคะ

ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์เกือบทุกชิ้นซื้อด้วยตัวเอง (Consumer reviewed) ยกเว้น Purevivi ได้เป็นของขวัญปีใหม่จากแบรนด์เมื่อต้นปี 2558 Skin Talk ขวดล่าสุด ได้รับเป็นของขวัญปีใหม่จากทางแบรนด์ Martiderm ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์