Review Item "กำหราบสิวอยู่หมัด" โดยไม่ต้องพึ่งคลินิก

 สวัสดีเพื่อนๆชาวจีบันทุกคนค่ะ หลังจากที่หายเป็นสิวที่ขึ้นจนเหนื่อยใจ วันนี้มีความตั้งใจทำรีวิวเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่เป็นสิวสารพัดชนิด และหาวิธีรักษาด้วยตัวเองในราคาประหยัด (หมดกับคลินิคไปเยอะ T^T ) ได้มีกำลังใจสู้กับมันต่อไป เป็นได้ ก็หายได้นะเฮ้ย!!!

มาดู Item ที่พิชิตใจหน้าสิวๆอย่างเรา ให้กลับมาหน้าใสได้ บางตัวอาจจะคุ้นเคยกันดี ใช้กันมาเป็นปี

และถูกใจใครๆหลายๆคน บางตัวได้จากการลองผิดลองถูก แต่ถูกโฉลกผิวเซนซิทีฟกับเรา

แต่ละตัวเราจะดูและเน้นหลักวิชาการเป็นหลักในการใช้ เพราะหน้าพี่ไม่ไหวจะเสี่ยงอีกแล้ว!

**โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยนะคะ***

STEP 1 >>> เริ่มจากขั้นตอนแรกในเช็ดครีมกันแดด คราบสกปรก ก่อนการล้างหน้า <<<

BIODERMA

-   Bioderma Sensibio H2O ขนาด 250 ml.  -

ราคาประมาณ 500 - 700 บาท (ราคาค่อนข้างสูงแต่ใช้ได้นาน 3 - 4 เดือน)

ตัวนี้อ่อนโยนเหมือนน้ำ H2O เหมาะกับผิวที่แพ้ง่าย และเป็นสิวอักเสบ เช็ดทำความสะอาดคราบ

สิ่งสกปรก ตามวิธีการใช้แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องล้างหน้าซ้ำ แต่พี่ไม่ชิน พี่เช็ดและขอซ้ำล้างอีก :P

โดยน้ำใสเจ้านี้ จะมีค่า pH เท่ากับผิว จึงไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง และช่วยลดความแดงของ

สิว มีส่วนผสมของ Cucumber Extract ตอนเช็ดเสร็จหน้าจะยังคงความชุ่มชื่น ไม่แห้งตึงเกินไป

STEP 2 >>> หลังจากเช็ดคราบสกปรกออกเสร็จ ตามด้วยยาฆ่าเชื้อ <<<

Benzac AC ํ

 -  Benzac AC 2.5% ขนาด 60 กรัม  -

้ราคา 460 บาท (ใช้ได้นาน 3 - 4 เดือน)

ตัวนี้เป็นยาที่วงใน (สิว) ขาดไม่ได้ เพราะเป็นครีมฆ่าเชื้อโรคของ  P Ance  สาเหตุของสิวอักเสบโดยตรง ทาบางๆ หรือ แต้ม เฉพาะจุดที่เป็นสิว และทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาทีก่อนล้างหน้าเว้นจุด 

ที่บอบบางอย่างรอบดวงตา ริมฝีปาก และขอบจมูก โดยความเข้มข้นที่ใช้คือ 2.5 เท่านั้น เพราะมีผลวิจัยถึงความเข้มข้น 2.5 ก็ให้ประสิทธิภาพได้ไม่ต่างจาก 5% หรือ 10 % (แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ)

STEP 3 >>> ครบเวลา 5 - 10 นาที มาล้างหน้ากันด้วยเจลที่อ่อนโยนกับผิวเรากันเถอะ <<<

EFFACLAR , ACNE Aid Liquid Cleanser

 -  Effaclar Purifying Foaming Gel  -

ราคาขนาดจริงประมาณ 700 บาท (ภาพของแถม ขนาดทดลอง 50 กรัม)

เจลล้างหน้าที่ใช้มา 3 - 4 หลอด เพราะอ่อนโยนคงคอนเสบเหมาะกับผิวแพ้ง่ายของคนเป็นสิวอย่างเราที่ชอบคือเป็นเนื้อเจลใสๆ ล้างเสร็จหน้าไม่แห้ง ไม่ตึง และไม่รู้สึกมีฟิลม์เหลือทิ้งไว้เป็นคราบให้กังวลใจแต่ราคาแอบสูงเบาๆ ตอนนี้จึงรอสอยเวลาจัดเป็นเซต เพราะคุ้มและประหยัดไปได้เยอะค่ะ

- Acne - Aid Liquid Cleanser  - 

ราคา 210 บาท ขนาด 100 ml.

ตัวนี้เป็นไอเทมที่คุ้มและทดแทนการใช้โฟมของลาโรชได้ เพราะราคาไม่แพง (ถูกหงี้พี่ชอบ)

เนื้อเจลสีขาว เคลมว่าใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ*** ใช้สำหรับล้างหน้า ผิวไม่แห้งตึงเกินไป (SLS Free) มี Moisturizer เป็นส่วนผสมแต่ไม่ทำให้หน้าเหนียวเหนอะหนะ แนะนำว่าควรมีไว้ใช้เพราะราคาไม่แพง และบีบใช้ได้อย่างสบายใจพี่จริงๆ

STEP 4 >>> ซับหน้าให้สะอาดด้วยทิชชู่ และ มารักษาสิว และเจ้าริ้วรอย รอยดำซะ!!! <<<

CLINDA-M , MEDERMA , PLANTE SYSTEM

- Clinda - M -

ราคา 59 บาท ปริมาณ 15 ml. (ถูกและใช้ได้นาน)

ยารักษาสิวแบบแต้ม เป็นน้ำใสๆในกระบอกสีขาวขนาดกระทัดรัด มีส่วนประกอบของตัวยาClindamycin Hydrocloride ซึ่งเขียนอยู่ด้านหน้าขวด มีสรรพคุณในการรักษาสิวเราโดยตรง ตอนทาแรกจะแสบๆ คันๆ มันส์ๆปนกันไป ทาบริเวณหัวสิว และทิ้งไว้หนึ่งคืนจะตื่นมาพร้อมหัวสิว ตัวนี้แนะนำให้แต้มหากสิวอักเสบ เป็นหนอง เพราะจะป้องกันไม่ให้สิวเราติดเชื้อ บานปลายจนต้องเข้าคลินิค ที่สำคัญ 59 บาทเองจ้า

-  Mederma  -

ราคา 300 บาท ปริมาณ 10 กรัม 

ใครที่เป็นนักแกะ เกา สิวจะทิ้งรอยดำๆ ช้ำๆ ให้สะเทือนใจ ก็จัดตัวนี้ปาดไปแปะเลยค่ะ Mederma ช่วยลดรอยแผลเป็น เห็นผลสุดหลังจากลองใช้มาหลายยี่ห้อ แต่ราคาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ตัวนี้มีสารสกัดจากหัวหอม Cepalin กลิ่นจะออกสมุนไพรอ่อนๆ แนะนำให้ทาหลังจากสิวหายทิ้งรอยดำ

-  Plante System  -

ราคา 800 บาท ปริมาณ 15 ml.

อันนี้ไม่เกี่ยวกับสิวแต่อยากแนะนำสำหรับ คนที่รอยคล้ำใต้ตาชัดมากๆ เนื้อเจลตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นและลดรอยคล้ำได้อย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับคนใส่คอนแทคเลนซ์ด้วย แต่ราคาแพงไม่เบา แอบไปหาดูในบูธกันตอนมีราคาโปรโมชั่น หรือถ้ามีบัตรอาจได้ส่วนลดด้วยนิดนึง

STEP 5 >>> บำรุงผิวให้ความชุ่มชื้น ป้องกันแสงแดดอย่างเข้าใจ <<<

- Effaclar Duo+ -

ราคา  990 บาท

รักษาและก็มาบำรุงผิวกันด้วยเจ้าตัวนี้เลย เนื้อเจลเข้มข้นช่วยลดอาการสิวอักเสบให้ยุบลง ใช้ช่วงแรกอาจจะรู้สึกยิบยับๆ แต่เป็นเพียงครั้งถึงสองแรก ตัวนี้นอกจากจะช่วยในเรื่องสิว ยังยับยั้งการเกิดสิวซ้ำ ที่สำคัญคือให้ความชุ่มชื้น ราคาค่อนข้างสูงแต่ให้ผล จนต้องซื้อซ้ำเลยยย

- Anthelios XL - 

ราคา  1,090 บาท ปริมาณ

สุดท้ายของการทาครีมอย่าลืมทากันแดด เพราะรังสีและแสงบ้านเรารุนแรงใจหาย ทั้ง UVB/UVA ทำเอาครีมราคาแพงที่พึงบำรุงไปจะสลายหายไปกับแดดเสียก่อน ตัว Anthelios XL เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและกันแดดโดยไม่ระคายเคือง บางแบรนด์มีน้ำหอม แอลกฮอลก์เอาซะหน้าที่บำรุงมาพังตอนจบเพราะกันแดด ตามคลินิคจึงไม่แนะนำให้ทากันแดด เพราะหน้าจะมันและอุดตัน แต่ตัวนี้ผ่านการทดสอบ และเหมาะผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย และไวต่อแสง แนะนำว่าทาไว้ดีกว่าหน้ามาเสียทั้งสิวทั้งดำดีกว่าค่ะ

STEP 6 >>> ปกปิดและอำพรางริ้วรอย ใครบอกเป็นสิวจะสวยไม่ได้ค่ะ!!! <<<

- ViRGO BB Soft Compact/ SPF 30 PA+++ -

ราคา 890 บาท ปริมาณ 11.25 กรัม (ราคาสูงแต่ใช้ได้นาน)

ทริปสำหรับคนเป็นสิว คงเข้าใจกันดีว่าเราก็อยากสวย และหน้าใสในเร็ววัน แต่ก็ต้องอดทนไม่แต่งหน้าและโบกเครื่องสำอางหนาๆเผื่อให้หายวันหายคืน แต่เจ้าตัวนี้เด็ดดวงตรงหมอผิวหนังแนะนำมา เพราะเป็นเวชสำอาง ไม่มีน้ำหอม No Fragrance/Alcohol/Paraben  สามารถทาได้ทุกวันและไม่ทำให้เกิดสิวเพิ่ม ช่วยปกปิดได้ดีในระดับนึง ไม่ต้องหน้าสดจนปลายังตกใจ มีส่วนผสมของกันแดด และ บำรุงผิวในตัว ชอบตรงแป้งเนื้อนิ่ม และเคลมว่ามีมอยเจอร์ไรเซอร์ วิตามินซีและอี ดูบำรุงจนวินาทีสุดท้ายจริงๆค่ะ :)

ศรีจันทร์ ออริจินัล พาวเดอร์ มาส์ก  (สูตรต้นตำหรับ)

ราคา 55 บาท

ทริปสำหรับการพอกหน้า ของคนเป็นสิว ต้องจัดตัวนี้เลยค่ะ ราคาประหยัดและช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดี พอกไปแล้วรู้สึกดูดซับความมันส่วนเกิน เหมาะกับคนผิวมันเป็นอย่างยิ่ง หาซื้อง่ายในเซเว่นก็มีค่า สัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้งกำลังดีเลย

จบทริปการดูแลสิวฉบับ อินดิวิดวล เเล้วเพื่อนลองมาแรกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะ แต่ละตัวเราใช้จนเห็นผลจึงอยากมาแนะนำต่อ ขอให้สาวๆที่เป็นสิวหายไวๆกลับมาสวยใสกันอีกครั้งงงง :D

Discussion (11)

ขอบคุณค่า  เราก็ไม่เข้าคลีนิคเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่ามันเลี้ยงไข้อ่ะ ตอนนี้เราใช้Eucerin เซ็ตเขียวกับ ตัว Sun ฝาส้มที่เป็น CC Cream สิวหายวับเลย บ๊ายบาย
ชอบ eye cream ของ Plante system เหมือนกัน แต่เราซื้อที่ร้าน All About You