Japan Favorites ♡ ไอเท็มญี่ปุ่นที่ใช้แล้วชอบ (ทั้งซื้อในญี่ปุ่นและไทย)

50 17

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจีบันค่ะ ห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานมากๆ วันนี้ขอเปิดกระทู้ด้วย Japan Favorites กลับมาแชร์ความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้ใช้ Skincare + Items ต่างๆที่สูตรการผลิต หรือเป็น Product of Japan หรืออาจจะไม่ใช่ ที่ทั้งซื้อที่ญี่ปุ่นและที่ซื้อจากเคาท์เตอร์ในบ้านเราด้วยค่ะ

ไอเท็มที่ขนมารีวิววันนี้เป็นสินค้าที่ซื้อแบบไม่เคยศึกษามาก่อน (เพราะไปญี่ปุ่นครั้งแรก >.<) เข้าช้อปไหนเห็นว่าน่าใช้ก็หยิบใส่ตระกร้ากลับมาลองใช้เองเลยค่ะ และที่สำคัญเป็นไอเท็มที่คัดมาแล้วว่าใช้ดีสำหรับเราค่ะ

       วิธีแปลชื่อและวิธีใช้ เราใช้ Google Translate ถ่ายรูปคำนั้นแล้วค่อยๆแปลเอาค่ะ ทำให้พอจับใจความได้ว่าสิ่งนี้คืออะไร รวมถึงวิธีใช้ด้วย ขอขอบคุณ Google ที่ทำให้ชีวิตคนอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกสะดวกขึ้นมา ณ ที่นี้ด้วยค่าา

ไม่รอช้า มาที่ไอเท็มแรกกันเลยดีกว่า

Kiki Lala x Diamond Lash No.5 , No.6 ราคา 300 เยน/ กล่องซื้อที่ ห้างดองกี้ สาขา Shinsaibashi

ลดราคาจนคว้าแทบไม่ทัน ราคาเต็มอยู่ที่ประมาณ 1,200 เยน ( ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ) เราเป็นคนชอบขนตาที่ดูเป็นธรรมชาติและแกนไม่แข็ง เลยเลิฟขนตารุ่นนี้มาก เพราะนอกจากจะดูฟรุ้งฟริ้งเป็นธรรมชาติแล้ว เส้นขนตายังทนและนิ่มมากๆ คือสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ที่สำคัญกล่องน่ารักมาก แต่แนะนำว่าอย่าเกิน 3 ครั้งนะคะ เพราะสิ่งสกปรกอาจจะติดที่ขนตาแล้วทำให้เกิดผลกระทบกับตาของเราได้ค่ะความชอบ : 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : จะซื้อมาตุนไว้เยอะๆเล๊ย

 

KOJI JAPAN CHARMING KISS EYELASH FIX ADHESIVE GLUE - PRODUCED BY CHIAKI ITO รุ่น Strong Fixราคา 500 เยน

ซื้อที่ ห้างดองกี้ สาขา Shinsaibashi

โดยส่วนตัวซื้อกาวรุ่นนี้เพราะ Packaging ล้วนๆเลยค่ะ พอลองใช้ก็รู้สึกโอเคตามราคา ไม่ได้ว๊าว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่โอเค เพราะราคากาวติดขนตารุ่นอื่นจะอยู่ที่ 1,200 เยน ผลลัพท์คือไม่ได้ติดแน่นมาก เลยทำให้เราซ่อมขนตาเวลาติดผิดหรือดึงออกได้ง่ายแบบไม่ทำให้เจ็บตาเหมือนกาวรุ่นอื่นค่ะ ข้อเสียต้องคอยเติมกาวระหว่างวันนั่นเอง

ความชอบ : 6/10 ตัดคะแนนส่วนที่กาวไม่แน่นค่ะ

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ลองรุ่นอื่นดีกว่า

 

Rohto cool vita 40a น้ำตาเทียมสูตรเย็น ( ไม่ควรใช้ร่วมกับคอนแทคเลนส์ )ราคา ประมาณ 203 เยน ( รวม Vat )

น้ำตาเทียมรุ่นนี้ เราชอบใช้หยอดเวลาที่ตาแห้งๆ ง่วงๆ คือหยอดแล้วแรกๆอาจจะแสบตาเพราะมันเย็นมาก สักพักจะรู้สึกว่าตาสดชื่นขึ้นมาก เป็นอีกตัวช่วยในการทำงานเลยทีเดียว กลิ่นจะเย็นๆ ฟิลลิ่งยาดมอ่อนๆ 5555 สำหรับคนที่หยอดครั้งแรกอาจจะแสบตาน้ำตาไหลได้นะคะ หยอดไปเรื่อยๆจะชินเองค่า

ความชอบ : 8/10 ตัดคะแนนแสบตาไปค่ะ

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : จะซื้อ Lychee สีชมพูมาแทนค่ะ กลิ่นหอมกว่า

DHC eyelash tonic ราคา 955 เยนเราเป็นคนขนตาร่วงบ่อย แถมติดดึงขนตาเวลาคันตา เซรั่มบำรุงขนตาของ DHC อันนี้ช่วยได้มากจริงๆ เราใช้ปัดขนตาก่อนนอน ทำให้ขนตาแข็งแรงขึ้น และทำให้ขนตายาวขึ้นอีกด้วย บางทีก็แอบเอามาปัดคิ้วด้วยค่ะ

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : จะซื้อมาเก็บไว้ค่ะ

 

DHC Lip Cream ราคาประมาณ 460 - 650 เยน แล้วแต่ร้านค้า

ลิปนี้ให้ความรู้สึกหนืดนิดๆแบบ "แม่เลียบ" ผสมความชุ่มชื้น ไม่มันเกินไป และไม่หนืดเกินไป ทาก่อนลงลิปแมท หรือใช้ระหว่างวันดีมาก ปากไม่ลอกแห้งเป็นคราบเลยค่ะ เว้นแต่วันที่กินน้ำน้อยจริงๆ ซื้อมา 2 แท่งไม่พอ

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ซื้อตุนไว้ดีกว่าขาดค่ะ แต่ถ้าขาดทาแม่เลียบเลยค่ะ

 SHISEIDO Eyelash Curler 215  (ที่ดัดขนตา Shiseido รุ่น 215) ราคา 689 เยนซื้อที่ ห้างดองกี้ สาขา Shinsaibashi

ถือเป็นที่ดัดขนตาที่จิ๋วแต่แจ๋ว ดัดเฉพาะหางตา หรือจุดที่อยากให้ขนตางอนก็ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ พกพาสะดวกมาก

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ควรซื้อเพิ่มไว้ในกระเป๋าพกพาค่ะ

Country & Stream Honey Eye Roll-onราคาประมาณ 1,000 เยน ซื้อที่ร้าน มัตสึโมโตะ ย่าน ชินจูกุ  

อันนี้เป็นโรลออนบำรุงถุงใต้ตาค่ะ ใช้แล้วเย็นๆ หอมกลิ่นน้ำผึ้งมาก ใช้แล้วอาจจะไม่ค่อยเห็นผลเรื่องสีผิวคล้ำใต้ตานะคะ แต่จะเห็นผลชัดเจนเรื่องลดอาการบวมของถุงใต้ตา วันที่นอนดึกหรือนอนน้อย ตาแทบไม่บวมเลยค่ะ ส่วนที่ค่อยๆเห็นผลคือเรื่องริ้วรอย อาจเพราะว่าเราแตะเบาๆด้วยโรล ไม่ได้ใช้นิ้วจิ้มเหมือนเมื่อก่อนมั้ง ใช้ตอนกลางวันไม่เยิ้ม ซึมเข้าผิวเร็ว ไม่ทำให้คอลซิลเลอร์ไหลหรือเป้นคราบค่ะ

ความชอบ : 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ถ้าหาเจอซื้อเพิ่มแน่นอนค่ะ

 

meishoku placenta W whitening eye cream NO.1 Cosmeราคา 940 เยนอันนี้เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น สีขาวละเอียดมาก เราใช้เฉพาะทาก่อนนอนเพราะเค้าค่อนข้างให้ความชุ่มชื้นมาก แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะนะคะ ช่วยลดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ตาได้ดีค่ะ ราคาไม่แพง แถมได้รางวัล Cosme อีกด้วย   ความชอบ 9/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ซื้อเพิ่มแน่นอนค่ะ

 

CEZANNE NATURAL CHEEK NO.09ราคา จำไม่ได้

ชอบที่ปัดแก้มสีนี้ที่ให้สีชมพูธรรมชาติ และพกพาสะดวก แปรงปัดอันเล็กๆเติมตรงหางตาหรือโหนกแก้มได้พอดีดีค่ะ กลายเป็นสีที่ใช้ปัดแก้มประจำจนเป็น everyday look ไปแล้ว

 ความชอบ : 9/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ลองยี่ห้ออื่นหรือเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆค่ะ

REVLON Colorstay No.220 Natural Beigeราคา จำไม่ได้

ตอนนี้รุ่นหัวปั๊มมีขายที่ไทยแล้วนะคะ เราไปซื้อมาตั้งแต่ยังไม่เข้าไทย แล้วแอบน้อยใจว่าทำไมไทยถึงได้ใช้ปริมาณน้อยกว่าแถมไม่มีหัวปั๊มให้ด้วย พูดไม่ทันขาดคำ เข้าไทยเลย หลายคนน่าจะชอบรุ่นนี้เหมือนกันตรงที่คุมความมันและปกปิดดี จนตอนนี้ใช้เป็นขวดที่ 3 แล้วค่ะ

ความชอบ :  8/10 ฝาปั๊มแอบหลุดบ้าง

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : เก็บไว้ซื้อที่ไทยดีกว่าเนอะ

 

POWDER BRUSHราคา 698 เยน 

ซื้อที่ห้างดองกี้

แปรงปัดแป้งอันนี้ขนนุ่ม ละมุนมาก และราคาไม่แรงเลยหยิบมาไว้ใช้เกลี่ยเศษแป้งฝุ่นบนหน้าค่ะ

ความชอบ 8/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : จะหาซื้อแปรงหลายๆขนาด เพราะขนแปรงญี่ปุ่นนุ่มมาก

 

Vaseline intensive care advanced repair body lotionจำราคาไม่ได้

อันนี้ที่ไทยก็มีขายค่ะ สาเหตุที่ซื้อเพราะว่าช่วงที่ไปเที่ยว อากาศที่ญี่ปุ่นเย็นมากค่ะ แล้วไม่ได้เอาครีมทาผิวไปด้วยเลยต้องหาซื้อแบบด่วนๆค่ะ พอลองทาแล้วพบว่านางให้ความชุ่มชื่นดี ไม่เหนียว ซึมไว เลยหยิบทามาตลอดเลยค่ะ กลับมาไทยก็หยิบทาจนชินมือไปแล้วค่ะ

ความชอบ : 8/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : อยากลองครีมของญี่ปุ่นเองมากกว่า

 

Bifesta MOIST Cleansing Lotionราคา 798 เยน ซื้อที่ไทยประมาณ 390 บาท

อันนี้ติดใจตั้งแต่ซื้อจากญี่ปุ่นแล้ว เลยใช้มาตลอดเพราะอ่อนโยนใช้กับตาและปากได้ ล้างเครื่องสำอางได้หมดจดดีค่ะ

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ถ้าพื้นที่กระเป๋าว่างจะหิ้วกลับมาด้วยค่ะ

 

LULULUN 7 DAYS ซองสีเงินราคา 400 เยน

อันนี้คุ้มและถูกมาก ใช้แล้วหน้านุ่ม ใสขึ้น อยากกลับไปซื้อทุกสีมาลองเลย เพราะแต่ละสีให้ผลลัพท์ไม่เหมือนกัน จำได้ลางๆว่าที่ร้านมีแปะป้ายบอกอยู่นะคะ

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : จะไปซื้อทุกสีมาลองใช้ดูค่ะ

 

PURE SMILE pearl essence mask 8 Sheetsราคา 500 เยน

มาร์คสกัดจากไข่มุก และส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น ใช้แล้วรู้สึกว่าหน้านุ่มมาก ชีทมาร์คหนาดีค่ะ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

ความชอบ 9/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก :  ซื้ออีกค่ะ

 

DHC VITAMIN C ( 60 DAYS )ราคาประมาณ 1,980 เยน

เป็นอีกยี่ห้อที่ดังเรื่องวิตามิน แถมถูกและให้ปริมาณที่ค่อนข้างเยอะอีกด้วยค่ะ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบทานวิตามินที่ทำจากแคปซูลห่อหุ้มเท่าไร ชอบทานแบบเม็ดดิบๆเลยมากกว่า ถ้าให้คะแนนความคุ้มต้อง DHC เลยค่ะ

ความชอบ 8/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : เห็นว่าที่ญี่ปุ่นมีวิตามินเยอะมาก เลยว่าจะลองดูยี่ห้อใหม่ๆบ้างค่ะ

 

Hada Labo Perfect Gelจำราคาที่ญี่ปุ่นไม่ได้ค่ะ ราคาที่ไทยช่วงนี้น่าจะอยู่ที่ 690 - 890 ค่ะ

เจลกระปุกทองอันนี้สามารถใช้เป็น Sleeping Mask ได้ค่ะ เพียงแค่ทาให้หนากว่าปกติ เนื้อเจลให้ความรู้สึกเดียวกับ Water Sleeping Mask ของ Laneige ให้ความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น คล้ายๆกันเลย สำหรับเราใช้ทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ สลับกันแล้วแต่วันค่ะ

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ซื้อซ้ำแน่นอนจ้า

 

Shiseido Perfect Whipราคา 298 เยน

ใช้มาตั้งแต่ซื้อที่ไทย พอไปญี่ปุ่นก็ซื้อใช้อีกค่ะ ฟองนุ่ม ล้างหน้าสะอาดหมดจด ไม่แห้งตึงค่ะ

ความชอบ 7/10

ถ้ากลับไปญี่ปุ่นอีก : ซื้อมาอีกค่ะ

 Shiseido Perfect Gelราคา 190 บาท

อันนี้เพิ่งได้มาลองจาก eve and boy ตอนลดราคาค่ะ ล้างเครื่องสำอางสะอาดดีค่ะ ใช้สะดวก แต่ติดทีใช้กับตาและปากไม่ได้ เพราะทำให้แสบตาค่ะ

ความชอบ 5/10

น่าจะใช้ที่อ่อนโยนกว่านี้ค่ะ

 

Covermark Finishing Powder JQ No.Y2ราคา 250 บาท

จำได้ว่าต้อนเราซื้อที่เคาท์เตอร์ถูกกว่านี้ค่ะ ประมาณ 200 ต้นๆ แป้งฝุ่นรุ่นนี้ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ คุมมัน ดีมาก มี 3 สีให้เลือก ลองเทสสีได้ที่เคาท์เตอร์ Covermark ได้เลยค่ะ สำหรับเราใช้แป้งรุ่นนี้ในวันที่ทำงานปกติค่ะ เพราะราคาถูก คุมมันดี สีไม่เปลี่ยน ใช้ยังไงก็คุ้ม ทุกวันนี้ใช้สลับกับแป้งฝุ่น laura mercier ค่ะ (แอบกระซิบว่าชอบพอๆกันนะ)

ความชอบ 10/10

ซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ

 

SHISEIDO Beauty Up Cotton

ราคา 291 เยน

เนื้อสำลีแน่นดีค่ะ เหมาะสำหรับใช้เช็ดเครื่องสำอางมากๆ 1 กล่องมีประมาณ 100 แผ่น แต่กล่องค่อนข้างบางทำให้ปากกล่องเปิดและฝุ่นเข้าไปถูกสำลีได้ค่ะ

ความชอบ : 9/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : น่าจะซื้อแบบซองมาแทนค่ะ

KOSE Pure & Soft Cotton

ราคา 291 เยน

ซื้อเพราะชื่อเลยค่ะ ดูปลอดภัยมาก เนื้อสำลีแน่นไม่เป็นขรุย ผ่านมากๆ แต่หนาไปหน่อย เปลืองเนื้อโทนเนอร์มาก ด้วยความนุ่มและความแน่นก็ต้องยอมเค้าเลยค่ะ กล่องนี้มีสำลี 128 แผ่นค่ะ

ความชอบ : 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ซื้อมาตุนไว้เยอะๆเลยค่ะ

Rii Pure Wata Cottons Pads

ราคา 90 บาท

อันนี้ซื้อมาจากงานครบรอบ 8 ปีจีบันค่ะ เป็นสำลีไม่แต่งสี นุ่มและธรรมชาติมาก ติดใจมากๆ จริงๆชอบใช้ Rii ทุกสีเลย สีฟ้าสำหรับเช็ดโทนเนอร์ก็ดีมากๆ แนะนำเลยค่ะ

ความชอบ : 10/10

ซื้อซ้ำแน่นอนจ้า

Rii M Paper Cotton Buds

ราคา 50 บาท

รุ่นนี้ก็ซื้อมาจากงานจีบันเหมือนกันค่ะ เนื้อแน่นและกล่องแข็งแรงมาก ใช้งานง่ายดีค่ะ หัวบัดอันนี้ค่อนข้างใหญ่ ไม่เหมาะกับใช้เก็บลายละเอียดเครื่องสำอางตอนแต่งหน้าเท่าไรนะคะ

ความชอบ : 9/10

ซื้อซ้ำอยู่แล้ว

ATSUGI Air Touchราคา 500 เยน

ถุงน่องรุ่นนี้ดีจนต้องฝากเพื่อนหิ้วกลับมาให้เพิ่มเลยค่ะ เพราะเป็นถุงน่องแนบเนื้อ ปกปิดผิวแบบดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ย่น และขาดยากมาก ใส่เดินงานรับปริญญาร้อนๆทั้งวัน ก็ยังอยู่ดี แถมมีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก สำหรับเราที่ผิวสองสี ใช้เบอร์ 433 ค่ะ

ความชอบ 10/10

ถ้าไปญี่ปุ่นอีก : ซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ

 

DHC 4 STEP ขนาดทดลอง

ราคา 1,000 เยน

ซื้อที่ Lawson

ชอบเซตนี้เพราะเป็นคนชอบเที่ยว เวลาไปไหนมาไหนก็พกติดกระเป๋าไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้ เลยเอามาบอกต่อกันค่าา ที่ช้อปในญี่ปุ่นมีเซตขนาดพกพาเกือบทุกยี่ห้อลองเลือกมาใช้กันได้ตามความชอบเลยนะคะ

 

เครื่องประดับของญี่ปุ่นเป็นอีกอย่างนึงที่เราชอบซื้อกลับมาใช้ค่ะ เพราะออกแบบสวย และราคาถูก

ราคาต่อแบบประมาณ 100 เยนเท่านั้นเอง อันนี้เราซื้อจากชั้นใต้ดินทางเชื่อม JR namba ค่ะ

ย่าน Namba และ Shinsaibashi มีเสื้อผ้า และของน่าใช้เยอะ แถมราคาถูกอีกด้วย ใครที่ไปโอซาก้าลองแวะช้อปปิ้งได้นะคะ

ส่วนที่โตเกียวต้องยกให้ฮาราจูกุเลยค่ะ เสื้อผ้ามีสไตล์ ราคาไม่แพงค่ะ 

มาถึงไอเท็มสุดท้ายแล้ว อันนี้ไม่ได้ซื้อค่ะ แต่ฟรุคคีบจากตู้หยอดเหรียญได้ค่ะ

สถานที่ ร้านตู้คีบที่ถนน Shinsaibashi ติดกับทางเชื่อม Namba ค่ะ

สังเกตจากตู้คีบสีชมพูสดใส จะมีทั้งตู้คีบน้ำหอม และตู้คีบเครื่องสำอางค่ะ

บางมุมของ Shinsaibashi มีตู้คีบไม้กายสิทธิ์แฮรี่พอตเตอร์ด้วยนะเออ

สิ่งที่คีบได้คือ Calvin Klein Ck one ในราคา 100 เยน หรือ 30 บาทเท่านั้นเอง คือดีใจหนักมาก

ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่อ่านกระทู้นี้นะคะ ตอนนี้กำลังจะไปญี่ปุ่นอีกรอบนึง ถ้ามีไอเท็มไหนน่าโดน จะหยิบมาอัพเดทอีกแน่นอนค่ะ

ใครมีไอเท็มไหนแนะนำ ใช้ดี มาบอกต่อกันได้นะคะ

บ๊ายบายยยค่ะ ♡ 


MissPim

MissPim

"That’s real life. Enjoy it." ♥
you can call me Pim :-D

FULL PROFILE