มีเรื่องภัยเมืองหลวงมาเตือนสาวๆ ค่ะ

ตั้งใจจะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อวาน ยังไม่มีโอกาสซักที วันนี้เลยขอนำเรื่องนี้มาฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เพื่อคอยระแวดระวังภัยรอบด้านในสังคมเราทุกวันนี้ค่ะ

เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเองหรอกนะคะ แต่เกิดกับน้าสาวคนสนิท เมื่อช่วงหัวค่ำของวันอังคารที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

น้าสาวกำลังเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ใน ถ.หทัยราษฎร์ บางชัน ทุกเย็นเวลากลับบ้าน หลังจากลงรถตู้บริเวณถนนใหญ่ ก็ต้องข้ามสะพานลอย เพื่อไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วนั่งมอไซค์เข้าซอยกลับบ้านทันที แต่วันนั้น น้านึกอยากข้ามไปซือ้ของในเซเว่น ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ถนนที่จะเข้าไปในหมู่บ้านอีกที อยู่หน้าปากทางเลย

ช่วงนั้น รถวิ่งขวักไขว่ เพราะเป็นเวลาเลิกงาน คนเยอะมากๆๆ ของขายเต็มข้างทางทั้งสองฝั่งถนน (ถนนประมาณ 4 เลนส์) ตอนที่น้าจะข้ามถนน ก็มีคนอื่นจะข้ามด้วยหลายคน ช่วงที่น้ากำลังมองรถทางขวา เพื่อหาจังหวะจะข้าม ก็มีมอไซค์คันนึงขับผ่าน ซึ่งมันขับมาจากทางขวาคือออกมาจากถนน เพื่อไปสู่ถนนใหญ่ จากนั้นไอ้คนซ้อนท้าย ก็กระชากกระเป๋าจากมือน้าไปอย่างแรง! แรงมากๆ จนน้ากลิ้งไถลเถลือกไปกับถนน

ลักษณะการถือกระเป๋าของน้าวันนั้น คือปกติ น้าจะชอบถือกระเป๋าแบบหูไม่ยาวมาก (ไม่ชอบสะพายข้าง) จะกำแน่นที่มือทิ้งแนบข้างลำตัว แล้ววันนั้น น้าถือกระเป๋าใบขนาดกลางๆ 1 ใบ และถุงกับข้าวอีก 2 ถุง ในมือซ้ายรวมกันหมด

มอไซค์มันกระชากไปได้ทั้งสามถุง และขับหนีออกถนนใหญ่อย่างรวดเร็ว ตอนนั้น น้าก็กลิ้งไปตามแรงกระชากของมอไซค์ เนื้อตัวฝั่งข้างซ้าย ดูไม่ได้เลยค่ะ แผลเต็มไปหมด รวมถึงสีข้างในกางเกงชั้นในก็แผลเยอะมาก

คนบริเวณนั้นก็ตกใจกัน แต่ไม่มีใครจับมอไซค์ได้ เพราะมันขับไปอย่างรวดเร็ว ป้ายทะเบียนก็ไม่มี รู้แต่เป็นยี่ห้อฟีโน่ สีน้ำตาล คนขับและคนซ้อนใส่หมวกกันน๊อก รูปร่างผอม คาดว่าคงเป็นเด็กติดยาระแวกนั้น

พ่อค้าขายส้มตำรีบโทรไปแจ้งความ คนอื่นก็ช่วย ตำรวจ สน.มีนบุรี มาที่เกิดเหตุ พาไปสน. ลงบันทึกประจำวันไว้

กระเป๋าใบนั้น มีของเยอะมาก ปกติน้าชอบพกของเยอะๆ อยู่แล้ว ไม่ค่อยพกเงินสด จะติดตัวอยู่ไม่กี่ร้อย แต่วันนั้นมันไม่ใช่ สิ่งที่มันได้ไปคือ

กับข้าวสองถุง + ขนม ใส่ในถุงก๊อปแก๊ป (ซื้อไปฝากลุงที่รอที่บ้าน) สำหรับกระเป๋าใบกลาง เป็นกระเป๋าผ้า ในนั้น มีเงินสด 3 หมื่นกว่าบาท โทรศัพท์ 2 เครื่อง แว่นตา 3 อัน เสื้อใน กางเกงใน ที่ยังไม่ได้ซักอีก 2 ตัว ยังไม่รวมบัตรต่างๆ

ปกติน้าไม่ได้พกเงินเยอะ แต่นี่พอดีเป็นเงินที่เอามาจากบ้านเราเองเพื่อไปจ่ายค่านุ่นนี่ในวันรุ่งขึ้น ไม่ได้แวะกดข้างทางแต่อย่างใด

พอเรารู้ข่าว โกรธมากๆ เพราะแถวนั้น เค้าก็บอกเองว่า มีคนโดนอย่างนี้มาหลายรายแล้ว แต่ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ซักที!

น้านั่งน้ำตาซึมทั้งวัน เนื้อตัวฟกช้ำ เป็นแผลเต็มไปหมด ลักษณะอาการเหมือนตอนโดนรถชนซึ่งน้าเคยโดนมาแล้วครั้งนึง

เฮ้อ.... โมโหอ่ะ คนเรากว่าจะทำงานได้เงินมาแสนลำบาก ด้วยไอ้พวกเหี้_ ย เวรตะไลพวกนี้มันทำสิ เลือกทำแต่กับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ (ขออนุญาตที่หยาบคาย ทนไม่ไหวจริงๆ) ตำรวจก็คงจับไม่ได้ตามเดิม

แต่ตอนนี้ น้าและเหล่าพลพรรค กำลังสงสัยเด็กลุ่มนึง ที่มาเช่าบ้านอยู่ข้างๆ ได้ซักระยะใหญ่ๆ เนื่องจากเป็นมอไซค์ฟีโน่หลายคัน และมักมีพวกทวงหนี้มาทวงเงินประจำ เหล่าพลพรรคไม่อยากพึ่งพาตำรวจแล้ว ขอสืบเอง คืบหน้าเช่นไรจะมาบอกเพื่อนๆ กัน

ว่าแต่... อยากให้เพื่อนๆ ระวังกันให้ดีนะคะ จะขึ้นรถ ลงเรือ ขับรถ เข้าห้องน้ำ เดินจะเข้าบ้าน หรืออะไร เดี๋ยวนี้มันอันตรายไปหมด อย่าว่าแต่ผู้หญิงโดนวิ่งราวทำร้ายเลย ผู้ชายก็เคยโดนมาแล้ว เฮ่อ... โชคดีที่เราไม่ค่อยกลับบ้านดึกหรือออกไปไหนหลังพระอาทิตย์ตกดิน

ขอให้ทุกคนโชคดีปลอดภัยในทุกวันของการดำเนินชีวิตนะคะ