[REVIEW] Oaxis : nature’s your argan oil 100% ผิวพังซ่อมได้

สวัสดีค่ะสาวๆเจอกันบ่อยเลยนะคะช่วงนี้เมย์มีโอกาสได้ลองสกินเเคร์หลายตัวเเต่มีตัวนึงที่พิเศษกว่าตัวอื่นเพราะเขาท้าทายค่ะ 555555  เนื่องจากตัวนี้เป็นออยส์ทาผิวOaxis : nature’s your100% argan oil moisture’s yourใช่เเล้วเขาคือ argan oil  เเท้ๆ 100 %ใครที่เป็นสิว ผิวเเพ้ง่าย ผิวเเห้งหน้าลอกหรือเเม้กระทั่งผิวมันรูขุมขนกว้าง ควรเกาะติดรีวิวนี้เลยจ้าขึ้นชื่อว่าออยส์หลายคนอาจกลัวว่ามันจะอุดตัวหรือทำให้ผิวหน้ามันไหมมาดูคำเปรยจากทางเเบรนด์กันค่ะ

ต้นอาร์แกน “TREE OF LIFE” ต้นไม้แห่งชีวิตจากดินแดนทะเลทรายโมร็อกโกซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่เก่าแก่ที่ ทนต่อความแห้งแล้ง และอุณหภูมิสูงเป็นแรงบันดาลใจให้ Oaxis นำอาร์แกนออยล์อุดมไปด้วยคุณค่าและสารสกัดที่สำคัญจาก unsaturated fatty acid ที่มีอยู่มากกว่า 80% Natural Vit.E และ Polyphenols ซึ่งมีคุณค่าและเป็นอาหารผิวที่สำคัญจากธรรมชาติน้ำมันอาร์แกนบริสุทธิ์ภายใต้แบรนด์ Oaxis โดยทาง Oaxis ได้คัดสรรอาร์แกนออยล์ 100% จากแหล่งธรรมชาติ โดยผ่าน deoderization processing เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นหืนจากน้ำมันธรรมชาติและกรรมวิธีการสกัดแบบ cold-pressed เพื่อคงคุณค่าความพิเศษที่สุดของออยล์ไม่ให้เสื่อมสภาพจากความร้อนวัตุดิบที่ทาง Oaxis คัดสรรมาให้นั้น ยังได้รับการรับรองจากทั้ง “Natrue Certification” และ “Ecocert” ซึ่งคือเครื่องหมายรับรอง “มาตรฐานการควบคุมกำกับกระบวนการผลิตแบบอินทรีย์” ซึ่งมีชื่อเสียงระดับสากลอันมีมาตรฐานอันเข้มงวดว่าคัดสรรและจะมอบตรานี้ให้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น ดังนั้นแน่ใจได้ว่าอาร์แกนออยล์ของเราจะปลอดภัยจาก ยาฆ่าแมลงปุ๋ยเคมี และสารพิษทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงมั่นใจคุณภาพได้

มาในรูปเเบบขวดสีชาทึบ หลอดหยดใช้ง่ายลักษณะเป็นออยส์ใส ไม่มีกลิ่น ไม่เหม็นหืนโอ๊วโหวได้อ่านเเล้วถึงกับต้องรีบหาข้อมูลว่าจริงเเล้ว Argan oil จะดีงามอย่างที่เขาพูดมารึเปล่าArgan Oil ประกอบไปด้วย1. กรดไขมันไม่อิ่มตัว Essential unsatured fatty acid

ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเจริญเติบโต และพัฒนาเซลล์ผิว  ลดการอักเสบของผิว ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว เร่งการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ไม่อุดตันรูขุมขน ไม่ทำให้เกิดสิว ทำให้รอยดำดูจางลง น้ำมันโมเลกุลเล็กเนื้อบางเบา ซึบซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวแข็งแรงมีสุขภาพดี2. วิตามินอี (Vitamin E)

Argan oil มีวิตามินอีสูงกว่าในน้ำมันมะกอกถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ Anti-Oxidant จึงช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว จึงนิยมนำไปเป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิวจำพวก anti-aging ปกป้องผิวจากความแห้งกร้านและริ้วรอยบำรุงผิว ให้เนียนนุ่ม อ่อนเยาว์4. Sterols

ปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งกระตุ้น ที่อาจก่อให้เกิดอาการอักเสบของผิวเป็น skin barrier และ Anti-Inflamation ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และเป็น Moisturizer ให้ความชุ่มชื้นกับผิว คืนความเปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพดี5. Polyphenolลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิว โดยไปควบคุม enzyme 5-reductaseที่เป็นตัวผลิตน้ำมันส่วนเกิน จึงทำให้ความมันบนผิวลดลงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ทำให้หน้าแห้งเหมือนกับการใช้เครื่องสำอางค์ควบคุมความมันเพราะอาร์แกนออยล์ไม่ได้ไปดูดซับความมันด้านบนของผิว ช่วยเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำบนชั้นผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นอิ่มน้ำ ชั้นผิวด้านบนจึงแน่นขึ้น เลยทำให้รูขุมขนและริ้วรอยดูเล็กลง

ใช้ทาหน้าโดยตรงแบบบริสุทธิ์– สามารถทาได้โดยตรงบนผิวหลังจากสกินแคร์ปกติ โดยการหยดน้ำมันเพียง 2-4 หยดลงบนฝ่ามือ ใช้นิ้ววอร์มน้ำมันให้อุ่นขึ้นเล็กน้อย จากนั้นนวดวนๆน้ำมันทั่วใบหน้าจนอนุภาคน้ำมันซึมลงผิวจนหมด เมื่อน้ำมันซึมลงไปแล้วจะไม่รู้สึกถึงความเหนอะหนะ เหลือแต่ฟิลลิ่งเบาสบายนุ่มๆบนหน้า

ใช้ผสมกับสกินแคร์ที่มีอยู่

– ใช้อาร์แกนออยล์และสกินแคร์ปกติในอัตราส่วย 1:2 ผสมให้เข้ากัน จะรู้สึกว่าน้ำมันจะข้นขึ้นมาเล็กน้อย แล้วจึงนวดน้ำมันบนใบหน้าจนซึม เนื่องจากอาร์แกนออลมีโมเลกุลที่เล็กจึงช่วยทำให้สารสกัดจากสกินแคร์ที่ใช้อยู่เดิมซึมลึกลงสู่ผิวได้ดีมากขึ้น และไม่ทิ้งความมันเบาสบาย  ไม่มัน ไม่เหนอะ

ใช้คู่กับการแต่งหน้าตอนเช้า-ใช้อาร์แกนออยล์และรองพื้นที่ใช้อยู่ประจำในอัตราส่วน 1:4 (สามารถเพิ่มอัตราส่วนได้ตามใจ) ผสมให้เข้ากันแล้วใช้แต่งหน้าตามปกติ จะทำให้รองพื้นติดหน้าและเกลี่ยได้ง่ายมากขึ้น และยังทำให้หน้าดูชุ่มชื้นสุขภาพดีอีกด้วย

 BEFORE & AFTERก่อนเเละหลังนะคะ รองเเดงที่คางจากหายไวมากค่ะส่วนรูปล่างก็เป็นที่เมย์ใช้ออยส์ผสมจะได้ลุคหน้าเงาผิวชุ่มชื่นค่ะไม่มันเยิ้มระหว่างวัน หลังจากที่ไปเดินหาของมาถ่ายงานที่สำเพ็ง 3 ชั่วโมง ย่านที่ร้อนเเละคนเเน่นมาก

โดยปกติเเล้วเมย์เป็นคนผิวเเห้งลอกมากๆ ปกติชอบใช้ออย์ทาผิวอยู่เเล้วเลยค่อนข้างเปิดใจกับ argan oil ตัวนี้พอสมควร เขาไม่เหนียวเหนอหนะกลิ่มไม่ฉุนเลยปกติที่เมย์จะใช้เป็นตัวสุดท้ายในการลงสกินเเคร์ หรือถ้าวันไหนต้องเเต่งหน้าเเต่ผิวไม่ไหวมากๆเช่น เเห้งลอกเป็นขุย จะใช้ลงตอนเช้าด้วยรวมถึงผสมในรองพื้นนิดหน่อยสำหรับเมย์ผิวเเพ้ง่ายเรื่องรอยเเดงจากอาการภูมิเเพ้ รอยดำจากสิวลดลงเร็วมากค่ะถ้าใครผิวมันหรือกังวลว่าหน้าจะมันระหว่างก็ใช้เเค่ช่วงกลางคืนก็พอเพราะให้เพื่อนๆที่ผิวมันใช้ ลองผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเลยคือ ผิวหน้ามันน้อยลง รูขุมขนกระชับขึ้นเขาไม่ใส่สี ไม่มีน้ำหอมเเละสารกันเสีย ผิวบอบบางก็ใช้ได้นะคะเเต่ถ้าใครไม่มั่นใจว่าจะเเพ้ไหม เพราะผิวเเต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เเนะนำให้เทสก่อนจ้า