How to "แต่งหน้า+ทำผมรับปริญญา"

Archita 22 ก.ย. 59 16 7

สวัสดีค่า ช่วงนี้เชื่อว่ามีหลายๆสถาบันใกล้เข้าสู่ช่วงรับปริญญาซึ่งเราเองก็พึ่งรับพระราชทานปริญญาบัตรมาในช่วงเดือน มิถุนายนที่ผ่านมาเลยอยากจะมาแชร์การแต่งหน้าลุครับปริญญาให้สาวๆได้แต่งตามกันง่ายๆเพื่อลดงบประมาณ และส่วนตัวคิดว่า บางทีการที่เราแต่งหน้าเอง เราจะรู้ว่าลิปหรือสีตาแบบไหนที่เหมาะกับเรามากกว่า

ซึ่งเราจบจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและในวันซ้อมรับปริญญา เราก็แต่งหน้าเต็มไปซ้อมดังคลิปด้านล่างนี้

ผลปรากฎคือ ก่อนเข้าประชุมก็มีการตรวจระเบียบและเราไม่ผ่าน เพราะติดขนตาและใส่คอนแทคเลนส์ฉะนั้นในวันจริงเราจึงไม่ได้ติดขนตาปลอมและคอนแทคเลนส์ในฮาวทูนี้จึงขอเสนอวิธีการแต่งหน้าไปรับปริญญา Ver. ถูกระเบียบเพื่อทุกคนได้เตรียมความพร้อมก่อนจะถึงวันจริง ไปชมกันคะ

สำหรับใครที่ต้องการรับชมแบบวิดีโอชมที่ลิ้งค์ด้านใต้นี้เลยย

มาเริ่มกันโลดดด

ขั้นตอนที่1. สำหรับก่อนแต่งหน้าแนะนำให้ลงเป็นกันแดดก่อนนะคะ เลือกที่ SPF สูงกว่า35pa+++ นะคะ เพราะวันรับปริญญานี่แหละ เป็นวันที่เราจะเจอทั้งแดดทั้งเหงื่อ และหลังจากที่ลงกันแดด วันนี้ใช้เป็นไพร์เมอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยเบลอรูขุมขนและทำให้เมคอัพของเราติดทนยาวนานกว่าเดิม

ขั้นตอนที่2. จากนั้นก็มาลงรองพื้นได้เลยคะ พยายามเลือกสีที่ตรงกับสีผิวเราเลยนะคะ ซึ่งเราเป็นคนที่หน้าขาวกว่าคอ เลยเลือกเบอร์ที่เข้มกว่าผิวหน้า1ระดับ เพื่อให้เสมอกับผิวตัวนั่นเอง

ขั้นตอนที่3. สำหรับใครที่ต้องการ การปกปิด ไม่ว่าจะเป็น รอยดำ รอยสิว หรือรอยแดง ให้ใช้เป็น Concealer สีสว่างกว่าผิวเรา1ระดับ ซึ่งเราเป็นคนที่ใต้ตาคล้ำ(มาก) แต่ไม่มีรอยสิว ฉะนั้นจะปกปิดเฉพาะใต้ตา

ขั้นตอนที่4. เรื่องของกรอบหน้าที่ชัดเจนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะเป็นวันที่เราถ่ายรูปเกือบจะมากที่สุดในชีวิตเลยละ ฉะนั้นการที่จะมีหน้าพุ่ง ขึ้นกล้องได้ ก็ต้องมาเก็บกรอบหน้าด้วยคอนทัวร์เนื้อครีม ไปทั่วหรอบหน้า และปีกจมูก เพื่อให้ดูมีดั้งพุ่ง

ขั้นตอนที่5. เพื่อความติดทนนานของสีแก้มจะใช้เป็นครีมบรัชในการทาไปที่พวงแก้ม ซึ่งให้เลือกใช้โทนสีที่ดูสุภาพ ในลุคนี้จึงใช้เป็นสีส้มนม

ขั้นตอนที่6. เมื่อลงเครื่องสำอางที่เป็นเนื้อครีมเสร็จแล้ว ให้ทาทับด้วยแป้งเพื่อเซ็ตเมคอัพ และวันนี้เราต้องการความแน่นไปกว่าทุกลุค จึงใช้เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้น

ขั้นตอนที่7. จากนั้นมาคอนทัวกรอบหน้าและปีกจมูกด้วยบรอนเซอร์แบบฝุ่น ซึ่งให้เลือกใช้ที่เป็นเนื้อแมท เพื่อความสุภาพ ให้คอนทัวร์ไปทั้งกรอบหน้าได้เลย

ขั้นตอนที่8. เราจะมาเขียนคิ้ว ด้วยผลิตภัณฑ์เขียนคื้วแบบเจลเพื่อความติดทนนาน หรือหากใครมีไอเทมคิ้วคู่ใจและติดทน ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกันคะ ข้อควรระวังคือ พยายามอย่าเขียนทรงคิ้วที่มันหนา ทู่ ตรง หรือโก่งจนเกินไป เพราะในอนาคต เราจะต้องย้อนกลับมาดูภาพเหล่านี้ แล้วจะขำตัวเองได้ และอีกอย่างคือ สีคิ้ว เนื่องจากลุครับปริญญาคาดว่าหลายๆมหาลัยจะต้องให้ย้อมผมสีเข้ม ฉะนั้นอย่าเขียนคิ้วสีน้ำตาลอ่อน

ขั้นตอนที่9. มาเริ่มการแต่งตาด้วยการลงไพร์เมอร์ตา หรือใช้เป็นอายแชร์โดวเนื้อลิควิดแบบมีสี เพื่อให้สีอายแชร์โดวแบบฝุ่นติดทนนานและสีชัดสวยขึ้น

ขั้นตอนที่10. วันนี้โทนการแต่งตาจะเป็นโทนน้ำตาล พยายามเลือกโทนสีน้ำตาล หรือทอง เพราะเป็นโทนสีที่สุภาพ และหลายๆคนเอาอยู่แน่นอนจ้า เมื่อเรามีสีบนเปลือกตาเป็นเบสแล้ว จะมาเจาะบล๊อคตาด้วยสีน้ำตาลเข้ม

ขั้นตอนที่11. เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของดวงตา จะใช้เป็นอายแชร์โดวสีทองเนื้อชิมเมอร์ละเอียด ทาลงบริเวณกลางตา เพื่อเชื่อมต่อสีของเบสเปลือกตาและที่เราคัดเบ้าตา

ขั้นตอนที่12. เกลี่ยสีให้สวยงามด้วยแปรงสะอาดๆ เพื่อให้สีกลืนกัน

ขั้นตอนที่13. ปัดมาสคาร่ากันได้เลยจ้า วันนี้เราจะไม่ติดขนตาปลอม ฉะนั้นสาวๆหยิบมาสคาร่าตัวโปรดที่เราปัดแล้วขนตาเด้งไม่ตก เพิ่มความหนาได้เต็มที่เลย และที่สำคัญพยายามเลือกแบบกันน้ำด้วยน้า จะได้ไม่ไหล วันนี้ชิก็ใช้2ตัวด้วยกัน จะปัดเพิ่มความยาวก่อนและปัดเพิ่มความหนาตบท้าย

ขั้นตอนที่14. เพื่อให้ตาดูคมขึ้นแต่ไม่ดุเกินไป จะกรีดไลนเนอร์เส้นบางๆตามรูปตา

ขั้นตอนที่15. เพื่อล๊อคสีแก้มที่ลงด้วยครีมบรัชให้ติดทนนานมากขึ้นด้วยการลงที่ปัดแก้มแบบฝุ่นทับลงไป ซึ่งแนะนำให้เลือกโทนสีส้ม หรือพีช เพื่อให้ลุคดูสุภาพ

ขั้นตอนที่16. จบท้ายกันด้วยการทาปาก วันนี้จะลงเป็น Tint ก่อน และตามด้วยลิปสติคสีนู้ดชมพู หากใครทาสีนู้ดแล้วดูหน้าป่วย ให้ใช้เป็นสีสดขึ้นมาหน่อยแทนก็ได้จ้า