(CR) น้ำยาบ้วนปาก + ลิปปาล์ม
ดูดูได้147สวัสดีครับ
บริษัทส่งไปทำงานที่แอตแลนต้ามาครับ หลังจากเลิกงาน ไม่รู้จะทำอะไรครับ จะไปชอป Abercrombie ก็ไกลไปครับ
ของที่เมกาที่อยากได้ตอนนี้คือ Vintner's daughter กับ Blue cocoon
Vintner ขนาด 30ml ราคา 185 USD อันนี้เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมสารพัดน้ำมันครับ กระแสดีเลยล่ะเซรั่มตัวนี้ แต่ต้องสั่งออนไลน์ เพราะฉะนั้นขอเก็บไว้เป็น wish list ก่อนครับ
ส่วน Blue cocoon เป็นของ May Linstrom เป็นครีมทาหน้าครับ ขนาด 50 มล. ราคา 180 ดอลล์ อันนี้มีขายที่ Barneys แต่ไปเมกาคราวนี้คิดไว้แล้วว่าคงยังไม่ซื้อครีมอันนี้ เหตุผลเพราะว่าขอเวลาทำใจนิดนึงราคานี้ไม่ใช่เล่น ๆ เลย ไหนต้องบวกภาษีอีก รวม ๆ แล้วน่าจะ 200 ดอลล์ได้
เอาล่ะ ลบความอยากได้ไปก่อน มาเข้าสู่ชีวิตจริงกันครับ หลังจากทำงานเสร็จ ผมก็เหนื่อยล้าแทบตายแล้ว ถึงที่พักก็ทำความสะอาดร่างกายและก็ pray เสร็จแล้วเรียกอูเบอร์ไป Walmart ใกล้ ๆ ที่พัก
พูดถึง Walmart ปกติถ้าจะซื้อของตามซุปเปอร์ต่าง ๆ ผมชอบเดิน Wholefoods ราคาของที่นี่จะสูงหน่อยนึง แต่บรรยากาศมันน่ารัก ของออแกนิคส์เยอะดี แต่ที่ Wholefoods ไม่มี Therabreath ขาย ซึ่ง Therabreath ราคาจะถูกที่ Target หรือไม่ก็ Walmart แต่ถ้าเป็น Walgreens , CVS หรือ Duane Reade ราคาจะแพงกว่าหน่อย
Walmart มันใกล้ที่พักสุดล่ะ เลยไปเดิน Walmart บรรยากาศถ้าเทียบกับที่ไทยก็คงเหมือน Big C อะไรแบบนี้
1. Therabreath oral rinse
ขนาด 16 oz หรือ ประมาณ 473 มล
ราคา ประมาณ 8 ดอลล์
ซื้อที่ Walmart
Therabreath ผมใช้ยาสีฟันแล้วโอเคเลยครับ ข้อเสียคือฟองไม่มี เวลาแปรงฟันเลยไม่ได้อรรถรสเท่าไหร่ น้ำมันจะไหลย้อยๆ ออกทางปากเวลาแปรงฟัน ไม่เหมือนเวลาแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟองเยอะ ๆ อันนั้นจะให้ความรู้สึกที่อยากแปรงฟัน
เวลานึกอะไรไม่ออกก็จะใช้ Therabreath นี่แหล่ะครับ ราคาแพงหน่อย แต่ก็ช่วยเรื่องกลิ่นปากได้ดี (ถ้ากลิ่นปากไม่ได้เกิดมาจากการเป็นโรคอะไรนะครับ)
2. Equate Lens cleaning wipes
ขนาด 100 ซองเล็ก ๆ ใน 1 กล่อง
ราคา 4 ดอลล์
ซื้อที่ Walmart
อันนี้เป็น wipe สำหรับทำความสะอาดพวกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ค แว่นตา กล้องถ่ายรูปอะไรพวกนี้ สะดวกดีครับ ใน 1 กล่องมี 100 ห่อเล็ก ๆ
3. Carmex ลิปปาล์ม
ราคา หลอดละ 1 USD
ซื้อที่ Walmart
ผมเป็นคนปากแห้งครับ ต้องทาลิปมันบ่อย ๆ
ผมชอบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นหลอด ๆ เพราะมันบีบออกง่าย ใช้ได้จดหมดหลอด ส่วนที่เป็นแท่ง ๆ แล้วหมุน ๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หลังจากใช้ไปสักพัก เริ่มหมุนไม่ออก หรือหักคาท่อน ส่วนที่เป็นตลับมันพกพาลำบากนิดนึงครับ ยกเว้นตลับของลิปมันเภสัชนะ แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบของเภสัชคือมันมีสีชมพูแดง ๆ
ผมชอบลิปมันที่เป็นหลอด ๆ ของวาสลีนน่ะ หลอดละประมาณ 1 ดอลล์นี่แหล่ะ แต่ตอนนี้มันขึ้นราคาเป็น 1.5 ดอลล์ ผมเลยหยิ่ง ไม่ซื้อ
ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ของ carmex ก็ชอบนะครับ ทาแล้วก็ชุ่มดี เหมือนกินไก่ทอดมาเลย ปากมันย่องดี ทาเสร็จแล้วต้องเอาเช็ดออกหน่อย
ส่วนผสมก็ camphor 1.7% และ white petrolatum 45.30% ที่เหลือก็ lanolin, cetyl esters, theobroma cacao seed butter, paraffinum liquidum, beeswax, menthol, salicylic acid, phenol, vanillin, flavor
ลิปปาล์มที่ผมชอบ ๆ ตอนนี้ก็มี
1. Lucas Papaw ซื้อแบบกระปุกมาจากตอนไปออสเตรเลีย ใช้มานานมากแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่หมดกระปุก ที่ออสเตรเลียจะมี oinment ที่มีส่วนผสมพวกมะละกอ หรืออะไรแบบนี้เยอะครับ Lucas Papaw ก็เป็นอีกยี่ห้อนึงที่ทำสินค้าพวกนี้ออกมา จริง ๆ ที่ออสจะมีสินค้าแบบนี้ที่ราคาสูงกว่านี้ และต่ำกว่านี้อีกหลายแบรนด์เลย ที่ซื้อ Lucas papaw มา เพราะหยิบอันนี้มา ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เลย
ผมชอบกลิ่นนะ หอมแปลก ๆ ดี ทาแล้วปากชุ่มชื่น
ต้องทาบ่อยไหม? : ทาก่อนนอน ตื่นมาปากก็หายชุ่มชื่นแล้ว หรือถ้าทาระหว่างวัน พอเม้มปาก กินน้ำ กินข้าว อาบน้ำ มันก็ต้องทาใหม่นะแหล่ะ
2. Carmex อันนี้ที่ชอบเพราะราคาไม่แพงมาก ยอมกัดฟันจ่าย 1 ดอลล์ (ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ลิปม้ันเภสัชใช้ดีเลยนะ ตลับละแค่ 12 บาทเอง แต่ผมไม่ชอบที่เค้าใส่สีชมพูมาไง ถ้าไม่ใส่สีนี่ผมไม่ใช้ carmex หรอก carmex 1 หลอด ซื้อ เภสัชได้ 3 ตลับเลยนะ! )
ต้องทาบ่อยไหม? ก็เหมือน lucas papaw นะแหล่ะ แต่ส่วนตัวชอบสัมผัสของ Lucas papaw มากกว่าเพราะกลิ่นมันหอมแปลก ๆ ดี และทาแล้วปากไม่มันเหมือนกินไก่สดมา แต่ carmex ชนะตรงที่ขนาด หลอดอันนี้มันพกพาง่ายดี และราคาถูกกว่า
3. วาสลีนที่เป็นกระปุกสีเหลือง ๆ อันนี้ทาแล้วปากมันสุด นอกจากปากแล้วทาข้อศอกก็ได้ แต่ผมไม่เอามาทาข้อศอกหรอก เหนอะหนะ
Discussion (7)