4 วัน 3 คืน ไปทำอะไรที่ "เชียงใหม่" CARATRAVEL X CHIANGMAI

ฮัลโหลลลลลลลลลล หน้าฝนแบบนี้ไปไหนกันบ้าง อย่ามั่วแต่นอนเพลินเพราะฝนตกอากาศดี แพคกระเป๋าออกไปเที่ยวฤดูนี้ นอกจากตั๋วเครื่องบิน ที่พักจะถูกแล้ว คนยังน้อยไม่ต้องแย่งที่เที่ยวกันด้วยเด้อออออแต่ถ้าใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะไปไหนดี เรามีเรื่องของ “เชียงใหม่” มาเล่าให้อ่านกัน เนื่องจากเราไปเชียงใหม่แบบไม่มีแพลนอะไรทั้งสิ้น ไม่ได้หาที่เที่ยวไว้ก่อน จองที่พักในคูเมืองไว้ 3 คืนรวด ไม่กะขึ้นดอยอะไรทั้งนั้น เน้นสบาย อยากพักผ่อน จึงเกิดเป็นบล๊อก ไปทำอะไรที่เชียงใหม่? เออนั่นสิ ถ้าไม่ขึ้นดอย ไม่เดินป่า ปีนเขา ขี่ช้าง ล่องแก่ง เราไปทำอะไรที่เชียงใหม่? คำถามนี้ก็แอบถามตัวเองเหมือนกันตอนไปถึงว่านี่กูมาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่มีอะไรในหัวเลย 55555 แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายเราก็ได้ทริปที่น่าประทับใจกลับบ้านมาฝากทุกคน ถ้าอยากรู้แล้วว่าเราไปทำอะไรที่เชียงใหม่มาบ้างก็เลื่อนอ่านก็ได้เลยจ้า รับประกันความชิคเหมือนเดิมนะแกรรรร 

• ไปนอน  Hostel เกร๋ๆ หาเพื่อนใหม่

มาพูดถึงที่พักกันก่อนเลย ถ้าบอกว่าเราหมดค่าที่พัก 3 คืนในเชียงใหม่ไปทั้งหมดคนละ 300 บาทจะตกใจแมะ? อ่านไม่ผิดค่ะ 300 บาทจริงๆ เพราะที่ Hostel นี้สนนราคาอยู่ที่เตียงละ 100 บาทเท่านั้น!!!! แต่ต้องอธิบายก่อน เดี๋ยวจะงงกัน เพราะในรูปเค้าแปะป้ายว่าเริ่มต้นที่ 150 เนาะ คือว่า Hostel เค้าจัดโปรโมชั่นชวนเพื่อนเที่ยว มา 1 คนจ่าย 150 มา2คนขึ้นไปจ่ายคนละ 100 บาทเท่านั้น ราคานี้สำหรับห้องที่เปิดแอร์เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้นนะคะ กลางวันเป็นพัดลม แต่จะบอกว่านอนๆไปเถอะ กลางวันก็ออกไปเที่ยวอยู่แล้ว และถ้าใครที่ยังกล้าๆกลัวๆ แบบร้อยเดียวมันจะโทรมมั๊ย ทำเลไกลรึเปล่า จะบอกว่าเราเองก็ตกใจเหมือนกันตอนไปเห็น คือ Hostel ใหม่มากกกกก สะอาดมากกกกกก ห้องน้ำดี มีไดร์เป่าผมให้ มีอาหารเช้าให้ทำกินเองได้เลย คือแบบ ถูกและดีมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ใครจะไปเชียงใหม่อยากประหยัดงบคือที่นี่ควรค่ามากๆ นอกจากประหยัดแล้วยังได้เพื่อนใหม่เป็นนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกด้วยนะสำหรับบรรยากาศในโฮสเทลสารภาพตรงนี้ว่าไม่ได้ถ่ายมา แต่เอาเป็นว่าสวย สะอาด ไปดูรูปเพิ่มเติมกันเองได้ที่เพจ Your space Hostel เลยจ้า

อันนี้วิวจากหน้าต่างห้องที่เราพัก เป็น 100 บาทที่คุ้มค่ามากเว่อ

• ไปเดินเล่น ตระเวณกินที่ “นิมมาน”

ถ้าพูดถึงที่ชิคๆ ในเชียงใหม่คงไม่มีใครไม่เอ่ยถึง “นิมมาน” ถนนที่เต็มไปด้วยร้านเด็ดร้านดังบรรยากาศเกร๋ๆ อาหารอร่อยขึ้นชื่อต่างๆ เหมาะกับสายแดกอย่างน้องหล้าเป็นยิ่งนัก

เริ่มกันที่  i berry  ที่ใครๆผ่านไปแถวนั้นก็คงต้องแวะ เอาจริงๆไม่ได้ตั้งใจไปเลยแต่เดินผ่านแล้วก็เอาซะหน่อย แวะเข้าไปดูว่ามันมีอะไร ทำไมคนจีนเยอะจัง5555

มาเชียงใหม่ไม่กินข้าวซอยก็คงไม่ได้ และถ้าจะให้ชิคต้องข้าวซอยนิมมาน! ถึงราคาจะแรงกว่าข้าวซอยตามร้านทั่วๆ ไปในเชียงใหม่อยู่บ้าง แต่ความอร่อยคือผ่านมาก ชอบมากกกกกก พิมพ์ไปก็น้ำลายไหลไป อยากกินอีก

นอกจากข้าวซอยนิมมานที่ดังแล้ว ก๊วยเตี๋ยวคั่วไก่นิมมานก็ไม่ควรพลาดนะเหวยยยย เมนูหลากหลาย รสชาติดีด้วยเด้อ

และร้านอาหารร้านสุดท้ายในนิมมานที่ได้ไปโดนมาก็คือร้าน ก๊วยเตี๋ยวเรืออองตอง อันนี้ก็เด็ด ควรค่าแก่การตามไปตำค่ะทุกคน

กินคาวไม่กินหวานสันดารไพร่ น้องหล้าถือคตินี้ค่ะ ไม่เชื่อให้ดูที่รูปร่างได้5555 แวะไปที่ร้านของหวานกันบ้าง เอาจริงๆพวกคาเฟ่ของหวานในนิมมานนี่คงเยอะพอๆกับเซเว่นในกทม. เลยมั้ง แต่ด้วยเงินในกระเป๋าที่พกไป กับน้ำหนักตัวที่มากพออยู่แล้ว ทั้งทริปเลยได้ไปโดนมาเพียง 1 ร้านเท่านั้น เพราะเดินผ่านร้านนี้แล้วอดใจไม่เข้าไม่ได้จริงๆ กับร้าน coco corner คาเฟ่ของคนรักมะพร้าว ที่ร้านเกร๋ม๊ากกกกก เป็นตรอกเล็กๆ แคบๆ แต่คนแน่นมาก พุดดิ้งอร่อยสุดๆ คือถ้าชอบมะพร้าวแล้วพลาดร้านนี้ไม่ได้อ่ะจริงๆ

หน้าร้านเขียวๆ เดินผ่านแล้วคือสะดุดตา

ในร้านก็ตกแต่งดี มีมุมให้ถ่ายรูปเด้อ

พุดดิ้งมะพราวคือนิพพาน ใครไม่ชอบพุดดิ้งน้ำมะพร้าวปั่น ไอติมมะพร้าวต่างๆเค้าก็มีน้า ไปลองโดนกันได้จ้า

• ไปเดินชมวัดสไตล์เหนือๆ

สำหรับใครที่ตามเพจมานานๆ อาจจะรู้ว่าเราไม่ใช่สายเข้าวัดทำบุญ ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนวัดเค้าจะโด่งดังเท่าไหร่ก็ไม่เฉียดตัวเข้าไปใกล้ ร้อน555555 เรามันคนบาป ล้อเล่นเด้อ ไม่ได้นับถือพุทธเลยไม่ค่อยชอบไปวัด แต่วัดที่เชียงใหม่นี่เห็นแล้วอยากเข้าไป เพราะค่อนข้างแปลกตา ดูเก่าๆเหมือนไม่ได้บูรณะอะไรมากนัก แต่ก็ไม่ได้อินขนาดไปตระเวณทัวร์ไหล้พระ 9 วัดนะ โชคดีที่ “วัดโลกโมฬี” ตั้งอยู่ข้างๆซอยที่เราพักพอดี เลยได้แวะเข้าไปนิดหน่อย สวยแปลกตาดีเหมือนกัน เพราะการตกแต่งจะคนละเรื่องกับวัดแถวบ้านที่เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ นับเป็นสถานที่นึงที่คนไม่มีอะไรทำในเชียงใหม่ควรไปลอง เดินเล่นไปเรื่อยๆ เจอวัดเจออะไรก็แวะ อาจจะทำให้เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยคิดว่าเราจะชอบมก่อนก็ได้

• ไปม่อนแจ่ม

ถ้าพูดถึง “ม่อนแจ่ม” หลายๆคนคงคุ้นหูกับชื่อนี้ดี เพราะนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่เพิ่งจะมีชื่อเสียงเมื่อไม่นานมานี้ และคนก็แห่กันไปเยอะมาก เราเองไม่ได้คาดหวังอะไรกับม่อนแจ่มมากนัก คิดแค่อยากไปดูดอกไม้ เพราะชอบถ่ายรูปดอกไม้ ที่สำคัญคือระยะทางจากตัวเมืองไปนั้นไม่ได้ไกลจนเกินไป สามารถเหมารถแดงไปได้ด้วยราคาที่สู้ไหว เดินทางชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว เราเลยตัดสินใจเหมารถแดงไปม่อนแจ่มกัน ไปกัน6 คน ตกคนละประมาณ 250 บาท แวะพาเที่ยวที่อื่นระหว่างทางลงจากม่อนแจ่มด้วย ใครจะไปแต่ไม่อยากเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ก็ลองวิธีนี้ได้ แต่ถ้าไปกันน้อยก็ยอมขี่มอไซค์ตากแดดเอาหน่อย ไม่มีเพื่อนหารมันไม่คุ้มเด้ออออ

ม่อนแจ่มคือสถานที่ที่อากาศเย็นที่สุดที่เราได้สัมผัสในทริปนี้ นอกเหนือจากม่อนแจ่มคือร้อนม๊ากกกก ร้อนจนต้องถามตัวเองว่านี่เราเที่ยวอยู่ที่ไหน เชียงใหม่หรือเกาะเต่า555555

บรรยากาศบนม่อนแจ่มก็จะเขียวๆ หมอกๆ อากาศดีต่อใจ วิวดีต่อสายตา

อีกเรื่องที่ลืมเล่าถึงไม่ได้ของม่อนแจ่มก็คือดอกไม้ ถึงตอนไปจะไม่ได้เจอทุ่งดอกไม้ม่วงๆ แบบที่เคยเห็นในรีวิว แต่ดอกไม้บนม่อนแจ่มก็ยังประทับใจเราอยู่ดี

ผีเสื้อที่นี่น่ารักมาก ไม่บินหนีเลย ให้ถ่ายรูปแบบไม่กลัวคน สงสัยมันจะโดนถ่ายจนชิน

และนี่คือภาพความพยายามที่จะได้รูปสวยๆของน้องหล้าเองเด้อ ลงไปนอนจ่ะ ลุกขึ้นมานี่เศษเกสรดอกไม้เต็มหัวไปหมด!!! แถมแพ้เกสรดอกไม้หน้าขึ้นผื่นไปอีก ตลกตัวเอง

นอกจากจะมีดอกไม้แล้วม่อนแจ่มยังมีเด็กๆ น่ารักๆ ชาวเขาชาวดอยด้วยนะ ความน่ารักของสามพี่น้องนี้ก็คือ หลังจากที่น้องๆมานั่งถ่ายรูปกับพวกเรา เราก็ได้ควักเงินแบงค์ 20 ให้กับน้องผู้หญิงไป  2 ใบ เพราะทั้งกระเป๋าเราเหลือแบงค์ย่อยแค่ 2 ใบเท่านั้น แล้วก็บอกให้เอาไปแบ่งพี่กับน้องซื้อขนม น้องผู้หญิงก็วิ่งถือเงินไปให้พี่ชายคนโต แล้วก็เก็บแบงค์ไว้กับตัวเองใบนึง ยื่นให้พี่ชายอีกใบนึง บอกว่า พ่อเค้าให้มาแบ่งกับอ้วน (เจ้าอ้วนคือไอ้ตัวเล็กสุดในรูป) พี่ชายคนโตก็ทำหน้างง แล้วถามว่าแบ่งยังไง เพราะมีแบงค์  20 ใบเดียว เรายืนมองไกลๆก็ขำที่เด็กๆคุยกัน ใจก็อยากจะให้คนละ 20  แต่มันเหลือแค่  2 ใบจริงๆ ความพีคคือพี่ชายวิ่งถือเงินใบนั้นมาหาเรา แล้วถามว่า “พี่ครับ แบ่งยังไงครับ” แล้วคือทำหน้างงแบบงงจริงจังอ่ะ เหมือนไม่รู้จริงๆ เพราะเค้ามากัน 3 คน แต่เราดันให้ไปแค่ 40  บาท แล้วพี่ก็น่ารักมาก เป็นเราคงเก็บไว้เองให้จบๆ เพราะเจ้าอ้วนตัวเล็กก็เด็กเกินกว่าที่จะรู้เรื่องอะไรอยู่แล้ว เราเลยแก้ปัญหาโดยการรวบรวมเหรียญที่มีให้ได้  20 บาท แล้วให้เพิ่มไป พี่ชายก็เก็บเหรียญไว้เอง แล้วเอาแบงค์ 20 ยัดใส่กระเป๋าเสื้อให้เจ้าอ้วนอย่างดี หลังจากนั้นไม่นานเราเห็นเด็กๆ เอาเงินไปซื้อสัปปะรดบนดอยกิน ตอนแรกคิดว่าทำเป็นธุรกิจ ได้เงินมาก็ต้องเอาไปให้พ่อแม่ซะอีก ใครจะไปม่อนแจ่มก็แวะไปหาสามคนนี้ได้ น่ารักเป็นกันเอง แอ๊บท่าถ่ายรูปได้เยอะมากด้วยเด้อออออ

นอกจากถ่ายรูปเพลินๆ บนม่อนแจ่มยังมีกิจกรรมอีกอย่างให้ทำนั่นก็คือ ขับรถฟอมูล่าร์วัน ไม่ใช่! ขับรถไม้ของชาวดอย เกร๋เวอร์55555 สนุกมาก ค่าเล่นคนละ 50 บาท ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ควรลอง!

• ไปยืนนิ่งๆแบบฮิปสเตอร์ในดงกระบองเพชรที่ “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์”

คงไม่มีใครไม่รู้จักเรือนกระจกที่เต็มไปด้วยกระบองเพชรอันโด่งดังของจังหวัดเชียงใหม่แน่นอน เพราะมันชิคมากซะจนคนแห่ไปกันทั่วบ้านทั่วเมือง เราเองก็เป็นคนนึงที่บ้ากระบองเพชรมาก แบบเห็นไม่ได้ต้องพาตัวเองเข้าไปถ่ายรูปร่วมกับมัน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน รู้สึกว่ามันเป็นต้นไม่เกร๋ๆ ไม่เหมือนต้นไม่พันธ์อื่นๆ มันยูนีคดีอ่ะ และแฟนคลับกระบองเพชรอย่างเราได้มาเชียงใหม่ทั้งทีจะให้พลาดที่นี่ก็คงไม่ได้ “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” โชคดีอีกแล้ว ที่สวนนี้อยู่ทางเดียวกันกับที่ไปม่อนแจ่ม เราเลยได้แวะตอนขากลับลงจากม่อนแจ่มด้วย

สำหรับค่าเข้าเราจำไม่ได้แต่น่าจะประมาณคนละ 40 บาท ค่าเอารถสองแถวแดงเข้าไปอีกคันละ 100 บาทนะจ๊ะ สวนใหญ่มาก แต่วันที่ไปทางเดินที่เป็นเหมือนสะพานเหล็กสกายวอล์กปิด!!! เสียใจง่ะ ใครจะไปก็ลองเช็คข้อมูลกันดูเด้อ

แวะถ่ายดอกไม้อีกล้าวววว

เดินมาจนถึงโซนเรือนกระจก มีหลายเรือนมาก ทั้งไม้เขตร้อน ไม้น้ำ ไม้อะไรไม่รู้แหละจำไม่ได้ 55555 อย่างในรูปเขียวๆนี่ก็สารภาพว่าลืมชื่อไปแล้ว แต่เขียวสบายตาดี แถมมีละอองน้ำปล่อยออกมาตลอดให้ได้คลายร้อนได้บ้าง

ออกจากโซนเย็นๆมาสู่เขตร้อนๆกันบ้าง จะบอกว่าข้างในร้อนจริงจัง ถังนุ้งกระบองเพชรตัวอวบอ้วนจะน่ารัก แต่อากาศไม่น่ารักตามเลย อดทนถ่ายรูปอยู่ได้ไม่นาน เฟดดีกว่า (ขนาดไม่นาน ได้รูปมาเยอะมาก)

มีเจ้าตัวอ้วนหลากหลายสายพันธ์ไปหมด

• ไปนั่งกินส้มตำน้ำตก ที่น้ำตกแม่สา

ระหว่างทางกลับลงจากม่อนแจ่ม ที่สุดท้ายที่เราได้แวะคือน้ำตกแม่สา ที่ถึงแม้จะไม่ได้ลงเล่นน้ำ แต่วิวก็ดีเอาเรื่อง มีร้านขายส้มตำ น้ำตก ข้าวเหนียว ไก่ย่างต่างๆ ตามสไตล์น้ำตกไทย สั่งส้มตำไก่ย่างได้เสื่อฟรี หิ้วไปนั่งกินไปชมวิวน้ำตกไปได้ เพลินๆ ชิคๆ 555555

• ไปตากแดดหน้าดำที่แกรนด์แคนยอน

อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ของเชียงใหม่ และที่สำคัญคือไม่ไกลจากตัวเมือง เหมาะรถแดงไปได้ หารกันถูกๆ แกรนด์แคนยอนนั่นเองเด้อออออ เห็นจากในรูปแล้วคือมันต้องไปลองเห็นกับตาซักครั้ง และก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ มันสวยอย่างที่คิดไว้ แต่ที่ไม่ได้คิดไว้คือแดด! โอ้โห ร้อนเวอร์วัง นึกว่าพรีนรก

อันนี้เราไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือว่ามีคนตั้งใจทำขึ้นมา รู้แต่ว่าเออ มันสวย และมีหลายที่ด้วยเด้อ ที่ที่มีเครื่องเล่นสวนน้ำจะแพงหน่อย เลือกกันเอาตามอัธยาศัย

กิจกรรมก็จะมีพายคายัค แพดเดิ้ลบอร์ด ปีนผา โหนสลิงต่างๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาเราไม่ได้เล่น ไปถ่ายรูปแล้วแช่น้ำเฉยๆ เสียค่าเข้า 50 บาทพอ จนๆ

นั่งกันอย่างกะไม่ร้อนอ่ะ เหมือนชิวๆ ปิคนิคในสวนไรงี้

• ไปนั่งฆ่าเวลาที่ อ่างแก้ว มอเชียงใหม่

อันนี้ถือเป็นสถานที่ที่เหนือความคาดหมายของเรามาก เพราะไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะเข้าไป แต่เนื่องจากจะไปเดินตลาดหน้ามอชอ แต่ไปเร็วเกิน ตลาดยังตั้งไม่หมด เลยเข้าไปในมอชอเพื่อฆ่าเวลา เราพยายามจะเนียนขึ้นรถเวียนของนักศึกษา แต่ไม่สำเร็จ อาจจะเพราะด้วยหน้าที่อายุเลยไปไกลมากๆของเราเอง เลยโดนจับได้ ไล่ลงรถอย่างไม่ไว้หน้า55555 สุดท้ายยังดีที่มีเจ้าหน้าที่ใจดีแนะนำให้เดินไปที่อ่างแก้ว เราเลยได้ค้นพบสถานที่ที่เหมาะจะนั่งฆ่าเวลา ดูพระอาทิตย์ตกดินที่สุด

• ไปเดินถนนคนเดินที่ยาวมากเวอร์ นึกว่าจะให้เดินไปถึงภูเก็ต!

ถ้าใครไปเชียงใหม่ตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ ห้ามพลาดถนนคนเดินนะเจ้า เพราะเป็นกิจกรรมยามค่ำคืนที่ควรทำรองลงมาจากเที่ยวผับ (ขอแอบแนะนำตรงนี้ว่าร้าน zoe yellow เด็ดมากกกก ฝรั่งเยอะมากกกก ไปล่าผู้คือเหมาะสุด) กลับมาที่ถนนคนเดิน ในคืนวันเสาร์จะมีที่ถนนวัวลาย และวันอาทิตย์ที่ประตูท่าแพ เด็ดทั้งสองที่ แต่ส่วนตัวชอบที่ประตูท่าแพมากกว่า เพราะบรรยากาศดีกว่า คนน้อยกว่านิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าแน่นอยู่ดี  จุดเด่นของถนนคนเดินที่เชียงใหม่ หลายคนอาจจะคิดว่าคือของพื้นเมือง ของเหนือๆ อาหารเหนือ แต่ป่าวค่ะ เราคิดว่าจุดเด่นของมันคือระยะทางที่ให้เราเดินได้ยาวม๊ากกกกกกกกกกกก นี่นึกว่าเดินขึ้นถึงดอยอินทนนท์ 5555555 เอาเป็นว่าสายชอป สายแดกต้องไปแหละ ไปเดินชอปเดินแดกกันยาวๆ เพลินๆ เมื่อยก็หาร้านนวดตีนซะหน่อย เริ่ด!!!

ก็จบไปแล้วเด้อ กับไปทำอะไรที่ “เชียงใหม่” กับ CARATRAVEL  ใครใคร่ไปทำตามทำได้โลดดดด รับรองว่าหมดเงินน้อย แต่สนุกมาก และเป็นทริปที่ไม่เหนื่อยสมบุกสมบันด้วยนะคะ ไว้จะเอาทริปเที่ยวที่ไหนมาเล่ากันอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า เลิฟยูวววววววxoxoCara