มาแชร์ประสบการณ์หลังใช้ Aesop B & C Facial Balancing Gel ค่ะ
SwimmingIntheCloud 8 4ช่วงนี้นอนดึก นอนน้อย ทำงานหนัก แถมยังนอนเปิดแอร์เบอร์ 19 ด้วยค่ะ (ก็มันร้อนอ่ะเนอะ) เลยเริ่มรู้สึกว่าผิวแห้งๆ หน้าเริ่มหมองๆ แล้วพอดีมีอยู่วันนึงนั่งหาอะไรอ่านเล่นในเน็ต แล้วไปเจอรีวิวสกินแคร์แบรนด์ Aesop จากเว็บของเมืองนอกเข้า เลยลองเอามาเสิร์ชหารีวิวในไทยดู ก็แล้วก็ไปเจอบล็อกเกอร์ที่เค้าพูดถึงเซรั่มงัดหน้า เวลาที่เราต้องงัดหน้าอันแสนจะโทรมของเราขึ้นมาก่อนจะแต่งหน้า เพราะจากประสบการณ์ของตัวเอง ถ้าเราอยู่ในช่วงหน้าแย่เนี่ย ทาแป้ง ทารองพื้นก็ไม่ติดนะคะ ทาเข้าไปเหอะ มันจะเป็นคราบๆ ไม่ซึมลงผิวเลย
ก็เลยคิดว่าที่บล็อกเกอร์เค้าแนะนำก็ตอบโจทย์ดีนะ เวลาหน้าโทรมผิวล้าจากการที่เราใช้หน้าเยอะ หรือเอาผลิตภัณฑ์ตัวนั้นตัวนี้มาลองใช้ โดยที่บางทีผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมันก็ไม่เหมาะกับผิวเรา มันก็ทิ้งผลที่แย่ๆ เอาไว้นะ แล้วไหนยังจะเรื่องการพักผ่อนน้อยอีก สารพัดที่จะทำร้ายผิวเลย ก็เลยเริ่มสนใจ Aesop ขึ้นมา เผื่อจะช่วยกู้ชีพผิวขึ้นมาได้ เลยแวะไปที่เคาน์เตอร์ของเค้าที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าวเลย ได้ Parsley Seed Serum มาลอง เอามาช่วยงัดหน้า ช่วยกู้หน้าอยู่พักใหญ่ๆ ใช้แล้วถูกใจกับเซรั่มขวดนี้มากเลยอ่ะ มันใช่อ่ะ! ใช้แล้วผิวกระชับดี ไม่มีสิวอุดตัน ทาแล้วหน้าไม่มันด้วย เพราะตัวเราเองเป็นคนผิวธรรมดาค่อนไปทางมัน ก็เลยไม่ชอบทาอะไรเยอะแยะ เพราะมันจะหนักหน้า แต่พอใช้ตัวนี้แล้ว ก็ไม่ต้องตามด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ตัวอื่นเลย ตัวเดียวเอาอยู่ ส่วนตอนเช้าก็ใช้ Parsley Seed Serum แล้วก็ตามด้วยกันแดดได้เลย แล้วค่อยแต่งหน้า ง่ายดี สะดวกด้วย
แต่ก็ด้วยความที่เรานอนห้องแอร์ที่เซ็ตอุณหภูมิไว้ที่ 19 องศาไง ผิวก็แห้งๆ นิดนึง ตอนกลางคืนก็เลยยังอยากได้อะไรชุ่มชื่น ๆ มาบำรุงผิว ปกติก็จะชอบทาไนท์ครีมที่มันเนื้อหนาๆ เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดี แต่ปรากฏว่าทาแล้วหน้าก็มันไปนิดนึงนะ ชุ่มชื่นเกินไปอีก ก็เสี่ยงต่อการเป็นสิวอุดตันไปอี๊ก! ตอนนั้นยังเข้าใจอะไรผิดๆ ว่าถ้าอยากให้หน้าชุ่มชื่น ก็ต้องทนกับครีมเนื้อหนาหนักให้ได้ แต่พอต้องเจอกับความหน้ามัน และหนักหน้าบ่อยๆ เราก็คิดว่าเรามาผิดทางแล้วแหละ เราต้องหาอะไรที่มันไม่หนักหน้ามาใช้แล้วแหละ
ก็เลยลองกลับไปที่เคาน์เตอร์ Aesop อีกที จริง ๆ ก็ด้อมๆ มองๆ ดูโน่นดูนี่ที่เคาน์เตอร์เค้าอยู่บ่อยๆ นะ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาอะไรดีนะ ของที่บ้านก็เต็มไปหมดเลย แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรถูกใจ แต่ไป Aesop รอบนี้ ก็เลยถามคุณบีเอว่า อันไหนคือที่สุดของ Aesop คะ? เงินในกระเป๋านี่สั่นไหวมาก อยากบินออกมาเหลือเกิ๊น ฮ่า ๆ คุณบีเอเขาก็เลยเรียนเชิญที่อ่างล้างมือ ที่เค้าบอกว่า มันเรียกว่า Sink demonstration นะจ๊ะ มิใช่อ่างล้างมือธรรมดานะ คุณบีเอเค้าก็เช็ดทำความสะอาดผิวที่หลังมือให้ แล้วก็แนะนำ B & C Facial Balancing Gel มาให้ลอง (ขอเรียกสั้นๆ B&C นะคะ) เค้าบอกว่านี่คือผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นที่สุดของ Aesop เป็นผลิตภัณฑ์ที่อัดวิตามินซีเสถียรมาแบบแน่นมาก แล้วก็ยังมีวิตามินบีเข้มข้นด้วยนะ ให้มาช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน แล้วยังมีส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคืองจากการออกแดด ลดการระคายเคืองจากการสัมผัสกับมลภาวะต่างๆ และสิ่งที่เราแพ้ (เราจะแพ้พวกฝุ่นควัน ออกไปข้างนอก นานๆ หน้าจะคันๆ) ที่สำคัญมัน Oil-free ด้วยแหละ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Aesop ไม่มีใครเหมือน ฟังแล้วก็แบบ เอ้ย มันน่าโดนมากๆ อะไรจะขนาดนั้น
ตอนเค้าตักเจลออกมาก็ตื่นเต้นที่จะได้ลองอะไรใหม่ๆ เนื้อเจลจะเป็นสีเหลืองทองใสแจ๋ว แต่มีความข้น ๆ เหมือนน้ำผึ้งเลย กลิ่นออกแนวอโรม่าแบบที่ชอบด้วย แต่ก่อนจะใช้เราต้องนวดให้ครีมแตกตัวก่อนค่ะ เพื่อให้ส่วนผสมพร้อมทำงานบนผิวของเรา แล้วจากเจลข้น ๆ มันก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นน้ำ อเมซิ่งดีอ่ะนวัตกรรมของเค้า แล้วคุณบีเอเค้าก็เอาเจลที่กลายเป็นน้ำมากดๆ ที่หลังมือเรา เหมือนประคบ ๆ ไปเรื่อย ๆ สองสามที เออ ผิวฉ่ำขึ้นมาทันตาเห็นเลย แล้วเจลก็จะถูกผิวดูดซึมลงไป ไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะไว้บนผิวเลย สังเกตหลังมือหลังผ่านไป 3-5 นาที มือข้างที่ใช้ B&C ดูเรียบเนียนขึ้นต่างกับอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ผิวก็ไม่แห้งนะคะ แบบว่าเคยใช้อะไรที่มันซึมเร็วๆ แบบนี้มาก่อน แต่พอมันซึมหายไปแล้ว ผิวก็แห้งไปด้วยเลยไง แต่อันนี้ไม่ใช่ ผิวยังนุ่มๆ ยังชุ่มๆ อยู่ เลยบอกคุณบีเอว่าขอทำอีกข้างนะคะจะได้เท่ากัน เขาก็ใจดีให้เล่นอีกข้าง ชอบใจมาก
สุดท้ายก็เลยต้องพา B&C กลับบ้านมาด้วย แล้วก็ใช้มาจนถึงตอนนี้ เหลือเฮือกสุดท้ายกำลังจะหมดกระปุกเรียบร้อย แรก ๆ ใช้ทุกคืนเลย มันช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีเลย รอยแดงจากสิวจางหายไปเร็วกว่าที่เคยใช้ตัวอื่น แล้วที่ชอบมาก ๆ คือ วันไหนที่ไปออกแดด หรือไปเดินในที่ร้อน ๆ เหนื่อย ๆ กลับบ้านมาอย่างโทรมเลยอ่ะ แต่พอโปะ B&C ไปสักพัก ผิวกลับมาชุ่มชื่นทันใจมาก แล้วรอยแดงก็หายไปไวมากด้วยล่ะ ใช้ไปครึ่งกระปุกจนผิวแข็งแรงขึ้น ก็ลดมาใช้วันเว้นวันแทน จนตอนนี้ รู้สึกผิวกลับมาดีเหมือนเดิม หน้ากลับมาใส แล้วเราใช้ร่วมกับ Parsley Seed Serum ด้วย เลยยิ่งเห็นผลชัดเจน เลยอยากแนะนำว่าใครที่มองหาการบำรุงแบบเข้มข้นอยู่ B&C คือตัวเลือกที่ต้องลองใช้ดูสักครั้งนะคะ ไม่ต้องเชื่อเราก็ได้ ไปลองเล่นที่เคาน์เตอร์ดูเองก่อน นี่ก็ว่าจะไปซื้อมาใช้อีกสักกระปุกนะคะ เพราะยังไง เราก็คงเปลี่ยนพฤติกรรมชองเราได้ยากอ่ะ ไอ้เรื่องทำงานหนัก นอนน้อย นอนห้องแอร์หนาวๆ เนี่ย มันเปลี่ยนกันยากค่ะ ก็เลยต้องหาตัวช่วยกันหน่อย
ปล. ที่เคาน์เตอร์เค้ามีผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองให้ด้วยนะคะ ยังไงลองแวะไปให้คุณบีเอแนะนำดูได้ค่ะ แล้วอย่าลืมขอลอง B&C ด้วยนะคะ อยากให้ไปลองกันจริงๆ