"นอนไม่หลับ" ของกินช่วยได้ 10 อาหาร ที่กินแล้วหลับสบาย สลายพุง

ช่วงนี้เพื่อนๆ คนไหน "นอนไม่หลับ" หรือหลับยากกันบ้าง ญาดาบอกเลยว่านี่แหละปัญหาใหญ่ของสาวๆ เลยนะ เพราะการที่เรานอนไม่หลับเนี่ยมันเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าพุงน้อยๆ ของเราที่ถ้าปล่อยไว้รับรอง ภาวะอ้วนลงพุงถามหาแน่นอนวันนี้ ญาดาจะมาแนะนำอาหารที่ช่วยให้ทุกคนรอดจากความอ้วนมาฝากกันค่ะ!! ซึ่งจริงๆ แค่เพิ่มการนอนหลับที่ดีขึ้นก็ช่วยได้แล้ว แต่บางคนอาจจะมีปัญหาไม่สามารถนอนหลับได้เพียงพอ ดังนั้นลองเปลี่ยนอาหารที่เรารับประทานดูจะได้ช่วยให้ความ “ลงพุง” ของเราดีขึ้นได้ค่ะ

เมื่อไหร่ที่สาวๆ นอนหลับไม่สนิท ร่างกายก็จะหลั่ง "ฮอร์โมนความเครียด" หรือ Cortisol มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะส่งสัญญาณบอกเซลล์ไขมันในช่องท้องของเรา ให้สร้างไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเพื่อเก็บเป็นพลังงานซะงั้น แหม่ ... ก็มันเป็นกลไกในการปกป้องตัวเองของมนุษย์นี่คะฮอร์โมนอีกตัวที่หลั่งตอนที่เรานอนน้อยก็คือ "ฮอร์โมนหิว" ที่มีชื่อว่า Ghrelin ซึ่งจะทำให้เราอยากอาหารตัวการทำให้อ้วน อย่างแป้ง น้ำตาล เพราะร่างกายต้องการเพิ่มน้ำตาลในเลือดเพื่อให้สมองรู้สึกสดชื่นขึ้นค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วมาดูกันดีกว่าว่า "10 อาหาร ที่กินแล้วหลับสบาย แถมยังช่วยสลายพุง" มีอะไรบ้าง ว่าแล้วก็ตามมาเล้ยยยยยย

1. อัลมอนด์ (Almond)

อัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอย่าง "แมกนีเซียม" ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสารเซโรโทนิน (Serotonin) และ เมลาโทนิน (Melatonin) ที่ช่วยเรื่องการนอนหลับด้วย แต่สาวๆ รู้มั้ยว่า ความมืด ก็ช่วยกระตุ้นเมลาโทนินได้ โดยสารนี้จะหยุดหลั่งเมื่อเจอแสงสว่าง ดังนั้นนอกจากกินอัลมอนด์แล้ว ตอนนอนก็อย่าลืมเปิดไฟทิ้งไว้นะคะ เมลาโทนินจะได้หลั่งออกมาช่วยให้เรานอนหลับสบายยิ่งขึ้นคนที่เครียดมากๆ จะสูญเสียแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียม ที่ช่วยป้องกันการเป็นตะคริวได้ด้วยค่ะ พอเครียดมากหรือนอนน้อยฮอร์โมนเครียดก็จะมา เพิ่มการสะสมไขมันที่พุง ดังนั้นแมกนีเซียมช่วยลดความเครียดได้ค่ะ

2. พิตตาชิโอ (Pistachio)

ถ้าใครไม่ชอบกินอัลมอลด์ ถั่วพิตตาชิโอช่วยได้ค่าาา พิตตาชิโอเป็นถั่วที่ให้ วิตามิน B6 หรือ ไพริด็อกซิน (Pyridoxine) ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างเจ้าสารเซโรโทนิน (Serotonin) ที่นำไปสร้าง เมลาโทนิน ต่อไป (Melatonin) เขียนไปแล้วด้านบนนะคะ อย่าเพิ่งงงกับอะไรนินๆ เพราะมันเกี่ยวข้องกับการนอนหลับค่ะ

3. วอลนัท (Walnuts)

ถั่ววอลนัท มีสารที่ช่วยในการนอนหลับอย่าง เมลาโทนิน แต่การกินวอลนัทไม่ใช่แค่เพิ่มเจ้าเมลาโทนินอย่างเดียวนะคะ ยังช่วยลดความเครียดได้ เพราะมันมีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมัน Omega 3 และอัลฟา-ลิโนลินิค (Alpha linolenic) สามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ด้วย พอเราไม่เครียดพุงก็ไม่มา แถมนอนหลับดีขึ้นอีก สรุปวอทนัทนี่เลิศมากๆ ค่ะ

4. บล็อกโคลี่ (Broccoli)

มาที่ผักกันบ้างค่ะ ถึงแม้ บล็อกโคลี่ จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ประโยชน์ของมันคือมันมีสารอย่าง ทริปโตเฟน  (L-tryptophan) ที่มีในกล้วย แต่อย่าลืมว่าบล็อกโคลี่แคลอรี่ต่ำกว่ามาก เอาว่าไม่ต้องนับเลยดีกว่าค่ะ เพราะมันคือผัก ทริปโตเฟน จะเปลี่ยนเป็น เซโรโทนิน และเป็น เมลาโทนิน ต่อ ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นค่ะนอกจากนี้ ในบล็อกโคลี่ยังมี ไฟเบอร์ ประเภทไม่ละลายในน้ำ (Insoluble dietary fiber) ซึ่งมีคุณสมบัติพองตัวในน้ำเหมือนฟองน้ำ ทำให้แย่งพื้นที่ในกระเพาะอาหาร จึงรู้สึกอิ่มนาน ช่วยเพิ่มเนื้ออุจจาระ และลดปัญหาท้องผูกได้ด้วยค่ะ

5. ขึ้นฉ่าย (Celery)

ขึ้นฉ่าย ผักพื้นบ้านที่เอาไว้ทำยำ!! มันช่วยในการนอนหลับยังไง ง่ายนิดเดียว ก็เพราะว่าขึ้นฉ่ายมีสาร 3-เอ็น-บิวทิล ฟทาไลด์ (3-n-butylphthalide) ถามหน่อยใครตั้งชื่อ..? คือสารตัวนี้มีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาทค่ะ มันจะช่วยกล่อมระบบประสาทของเรา ซึ่งช่วยในการนอนหลับที่ดีขึ้นด้วย อีกอย่างสารตัวนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต ลดปริมาณโคเลสเตอรอลด้วยนะคะ เป็นผักเล็กๆ ที่มีประโยชน์มากจริงๆ ลองหามาทานกันดูนะ

6. นม (Milk)

ต้องเป็นนมวัวเท่านั้นนะคะ เพราะในนมวัวมี ทริปโตเฟน ช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนินเหมือนกัน อีกทั้งนมวัวยังมีแคลเซียมด้วย แล้วยิ่งถ้าเป็นนมที่เขียนว่า Grass-fed cow ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะมันคือวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า ซึ่งจะมีสารช่วยลดไขมันอย่าง CLA อยู่ด้วย แนะให้อีกนิดเวลาเลือกนม อย่ากินแบบ 0% เพราะการที่เราตัดไขมันออกไป มันจะยิ่งไปกระตุ้นฮอร์โมนสะสมไขมันอย่างอินซูลิน ซึ่งเสี่ยงที่จะสะสมไขมันมากกว่าดื่มนมแบบมีไขมันนะคะ!

7. เนย (Cheese)

เนย หรือชีส ช่วยในการนอนหลับคล้ายๆ กับนมเลย แล้วก็ให้แคลเซียมด้วยเช่นกัน ชีสเป็นแหล่งของไขมันดี แล้วก็ให้โปรตีนแบบ เคซีน (casein) โปรตีนรูปแบบนี้จะค่อยๆ ปล่อยสารอาหารให้เราดูดซึมอย่างช้าๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง British Journal of Nutrition กล่าวว่า ถ้าหากเราทานชีสก่อนนอน 30 นาที จะช่วยยกระดับการเผาผลาญในวันถัดไปให้สูงขึ้นได้ด้วยค่ะ

8. ข้าวโอ๊ต (Oatmeal)

ข้าวโอ๊ต เละๆ ถูกปากใครหลายๆ คนรึเปล่าค่ะ บอกเลยว่าข้าวโอ๊ตเนี่ยให้ เมลาโทนิน สูง ช่วยในการนอนหลับ อีกอย่างการกินพวกคาร์โบไฮเดรตก่อนนอนจะช่วยยกระดับฮอร์โมนอินซูลิน เมื่ออินซูลินมาเราจะรู้สึกง่วงได้ง่ายขึ้น แต่ในแง่ของการลดไขมันนั้นไม่ดีอย่างแรงค่ะ ต้องบอกก่อนว่าฮอร์โมนอินซูลินเมื่อมันมาแล้ว มันจะยับยั้งกระบวนการเผาผลาญไขมันของเรา ถึงแม้ข้าวโอ๊ตจะมีสารช่วยในการนอนหลับ แต่ญาดาก็ไม่ แนะนำให้กินก่อนนอนเท่าไร (อ้าว....ตกลงยังไง 555) ตอนเรานอนหลับฮอร์โมนที่ช่วยลดไขมันอย่าง Growth Hormone จะทำงาน แต่มันจะทำงานต่อเมื่ออินซูลินเลิกงานแล้ว แต่ถ้าหากเราไปกินข้าวโอ๊ตก่อนนอน อินซูลินออกมาทำงาน เราต้องรอจนอินซูลินทำงานเสร็จ Growth Hormone ถึงจะทำงานได้ ทำให้การเผาผลาญไขมันของเราโดนบั่นทอนเวลาลงนั่นเองค่ะ เอาเป็นว่าข้าวโอ๊ตช่วยได้ แต่แค่อย่ากินก่อนนินเท่านั้นเองค่าา

9. กล้วย (Banana)

ต่อด้วยกล้วย ซึ่งบอกก่อนว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง คราวนี้อินซูลินพุ่งหนักเลยค่ะ คือในกล้วยมีสารทริปโตเฟน (L-tryptophan) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็น เซโรโทนิน (Serotonin) หรือเรียกอีกอย่างว่า "ฮอร์โมนแห่งความสุข” ช่วยให้นอนหลับง่ายและสบายขึ้น ก็จริง แต่ในแง่ของการลดไขมันก็ไม่แนะนำเหมือนเดิมนะคะ

10. ดาร์คช็อคโกแลต (Dark Chocolate)

ขอให้เป็นดาร์คช็อคโกแลตจริงๆ นะคะ ขมๆ ไปเลย เพราะถ้าหากผสมน้ำตาลเยอะอาจจะเหมือนการกินข้าวโอ๊ตและกล้วยหน่อยๆ นั่นก็คืออินซูลินมา แต่ถ้าเป็น Dark มากๆ นี่ให้อภัยค่ะ จะไม่ค่อยมีน้ำตาลเท่าไร ขมจนแทบจะคายทิ้งกันเลยทีเดียว 5555ดาร์คช็อคโกแลตให้เซโรโทนิน ซึ่งสร้างเป็นเมลาโทนินได้ต่อไป เราก็จะหลับสบายขึ้น คุณสมบัติอีกอย่างคือช่วยผ่อนคลายความดันโลหิต เร่งร่างกายให้ขับสารเอนดอร์ฟินหรือฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา จึงทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดี๊ดี ลดความเครียดได้ด้วย

จบกันไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับอาหารที่ช่วยให้เรานอนหลับสบายขึ้น ถ้าจะถามความเห็นส่วนตัวว่าญาดาจะเลือกทานอะไร ขอเป็นผักอย่างบล็อคโคลี่ , ขึ้นฉ่าย แล้วก็ไขมันอย่างอัลมอนด์ , วอลนัท , พิตตาชิโอ , ชีส ดีกว่าค่ะ ขืนกินแป้งก่อนนอนเดี๋ยวอินซูลินมาเพิ่มการสะสมไขมันเข้าไปอีก ยิ่งอยากนอนหลับสบายเพื่อลดพุงอยู่ด้วย ญาดาจะเลือกกินแป้งแค่เฉพาะตอนก่อนออกกำลังกายเท่านั้นค่ะ ใครอยากทำตามก็ได้นะคะ แต่ที่เขียนยกตัวอย่างมาให้ดูเพราะมันก็ช่วยในเรื่องของการนอนหลับจริงๆ ใครไม่ได้ทำสูตรการไดเอทแบบกินไขมันเพื่อลดไขมันก็ทานได้ตามปกติค่ะ แต่อย่ามากไปนะคะ ไม่งั้นอ้วนนะ!! ขู่เลย 55555วันนี้ไปก่อนนะคะ เจอกันวันอังคารหน้า ญาดาจะเอาท่าออกกำลังกายกำจัดส่วนไหนมาแนะนำกัน ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ไปละค่า จุ๊บๆ