Lash lifting (Vs) ดัดขนตาถาวร (Vs) ต่อขนตาปลอม
Cee.kasi 15 15สวัสดีคะ ทุกคน ☻นี่ก็เป็น Blog รีวิวครั้งแรกของ Cee นะคะ♡ ว่าด้วยเรื่องของ ขนตา ♡
หลายคนคงมีคำถามว่า
Lash lifiting/ ดัดขนตาถาวร/ ต่อขนตาถาวร มันต่างกันยังไง อันไหนดี อันไหนเหมาะกับคนแบบไหน?? นี่คือข้อสรุปจาก ผู้หญิงที่ชอบบบบบบบ งานขนตาเป็นที่สุด อย่าง 'ซี' เองคะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราเป็นคนขนตายาวปานกลาง ไม่หนามาก แต่ก็ไม่ได้บาง สิ่งที่เป็นปัญหาอย่างเดียว นั่นก็คืออออออออ.... ขนตาพุ่งดิ่งตัวลงหาพื้นพสุธา คือไม่มีความงอนหรือทิ่มตรงแต่อย่างใด T T
เพราะฉะนั้นเราจึง สรรหา ทุกวิธีที่จะทำให้ขนตาของเรานั้น งอนสลวยสวยเก๋
วิธีที่ 1: Lash curler (ที่ดัดขนตานั่นเองจ้า)จริงๆ แล้วที่ดัดขนตาก็มีหลายแบบ หลายยี่ห้อ เท่าที่เคยลองมาเราว่ามันแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือแบบยางนิ่ม กับยางแข็งหน่อย อันนี้ต้องลองนะคะ ส่วนตัวเรา Love แบบยางแข็งมากกว่า + กับการปัดมาสคาร่า 2 ชั้น ก็จะเป็นแบบนี้
ข้อดี
- ราคา 'ถูก' เพราะซื้อครั้งเดียวใช้ได้หลายครั้ง
- ไม่ต้องกลัวเรื่องเชื้อโรค (ถ้าเราเปลี่ยนยาง กับ เช็ดคราบสกปรกออกบ่อยๆ
- ดัดได้จนกว่าจะพอใจ
- ถ้าดัดไม่ถนัดก็หนีบหนังตาไปจ้า
- แล้วแต่ดวงของแต่ละวัน บางวันดัดสวย บางวันก็ไม่
- เสี่ยงต่อการดัดขนตาแล้วหัก
วิธีที่ 2 : ดัดขนตาถาวร วิธีนี้บอกเลยว่า กว่าจะมารู้ว่ามีคือ นานมาก พอบอกแม่ว่าอยากไปทำ แม่ก็รีวิวว่า 'ตอนวัยรุ่นแม่เคยทำนะ แต่ขนตาแม่สั้น ดัดมาเหมือนขนหมูเลย' คือลักษณะน่าจะเป็นการใช้ แกนที่ไม่เหมาะกับความยาวของขนตามันเลย งุ้มเกินไป คือ... ตัดสินใจอยู่พักนึงเพราะกลัวพัง 5555
รูปด้านบนคือ ไม่ได้ปัดมาสคาร่า// รูปล่าง ปัดรอบเดียวจ้า *สังเกตุว่ามันก็งอนขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง ณ ตอนนั้น Happy มาก
ข้อดี
- ประหยัดเวลาตอนดัดขนตา
- ตื่นมาขนตางอนเลย
- ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย อาบน้ำลูบหน้าลูบตาได้ปกติ
- เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ถือเป็นราคาที่ รับได้ (สำหรับเรานะ) 800 บาท// ล่าสุดที่ร้าน up ราคาเป็น 1500 บาท
- อยู่ได้ 2-3 เดือนแล้วแต่การดูแล (ซีดัดมา 3 ครั้ง ครั้งแรกดัดมาอยู่ได้ 4-5 เดือนแหนะ
- แล้วแต่ดวงด้วยคะ เลือกช่างดีมีฝีมือก็สวยไป ถ้าช่างไม่ชำนาญก็... ตัดภาพไปที่ขนหมูจะ
วิธีที่ 3 : ต่อขนตาถาวร วิธีนี้บอกเลยอยากทำมานานมากละ แต่ตัดสินใจทำเมื่อมีรายได้เป็นของตัวเองเพราะราคาค่อนข้างสูงเราตัดสินใจทำแบบงอนสุด หนาสุด เอาแบบตาฟรุ้งฟรุ้งเป็นตุ๊กตาเลย
ข้อดี
- ไม่ต้องแต่งตา ก็ดูตาแน่น ตาเต็ม
- ประหยัดเวลาแต่งตาไปได้เยอะอยู่
- หนักตา
- มองโลกไม่ชัดเท่าเดิม ความรู้สึกเหมือนมีกันสาดมาบังตาไปประมาน 10-15%
- ลำบากตอนอาบน้ำ คือน้ำมันจะมากองกันอยู่บนขนตา อารมณ์เหมือนน้ำบนในบอนอะ 555
- ดูแลยาก ต้องปัด ต้องห้ามขยี้ตา (ซึ่งเราเป็นภูมิแพ้ อันนี้ทรมานสุด)
- ราคา สูง
- มันจะร่วงหล่นตามกาลเวลา ช่วงเหลืออยู่ 10 เส้นก็จะดูตลกหน่อย
- ใช้ที่ดัดขนตาไม่ได้นะจะ มาสคาร่าก็ไม่ควร
วิธีที่ 4 : Lash Lifting + Tintวิธีใหม่ล่าสุดที่ ใครชอบงานขนตาคือต้องกรีดร้อง เขาบอกว่ามันต่าง จาก ดัดถาวรตรงที่ สามารถดัดได้ชิดติดโคนขนตา มันเลยช่วยยกชั้นตาของเราขึ้นมาด้วย + กับ tint ก็คือการลงสี เหมือนย้อมสีให้ขนตาเรามีความเข้มมากขึ้น
ในรูปที่ มี การ lifting ถึง 2 ครั้ง เพราะเรื่องมันมีอยู่ว่า ร้านแรกที่เราทำ งานไม่โอเคเลยจ้า คือเอาไปเทียบกับดัดขนตาถาวรร้านที่เราเคยทำ ยังงอนไม่เท่าอะ รูปซ้ายบนคือ หลังจากทำเสร็จเลย ขวาคือ 1 วันหลังจากที่ทำ สังเกตุจะมีความหงิกงอเส้นในๆ คือไม่เรียงเส้นสวยงามตามที่คิดไว้ ราคา 2000 กว่านะจะ ไม่ถูกเด้อ พอตื่นมาเราเลยทนไม่ไหว โทรนัดร้านที่เรา ดัดถาวร ทันที ที่ร้านนี้เขามีรับแก้ขนตาหงิกงอด้วย + กับความไว้ใจในการทำงานของอาจารย์แก เลยรีบบึ่งรถไปทันที ผลคือ ด้านล่างทั้ง 2 ที่ได้ เป็นไงละ ต่างกันสุดๆ ในรูปเราไม่ได้ปัดมาสคาร่าทั้ง หมดเลยนะคะ
ข้อดี
- ดูแลง่าย
- สามารถดัดขนตาปัดมาสคาร่าได้ (แต่ร้านแรกที่เราทำบอกว่า ห้าม! ดัดขนตานะคะน้อง)
- ใช้ oil remover ได้
- ขนตายาวขึ้นกว่าทุกแบบที่เคยทำมา
- ราคาสูงสุดๆ ร้านแรก 2000-2500 ร้านที่ 2900+ ค่าแก้ขนตาหงิก 200 บาท
- กลิ่นตอนทำ เหมือนน้ำยาดัดผม (ซึ่งดัดถาวรก็กลิ่นคล้ายกัน)
- แล้วแต่ฝีมือช่างที่ได้ เลือกดีๆ นะคะ อย่าเป็นเหมือนเรา เสียดายเงิน
- ร้านแรกบอก ห้ามโดนน้ำ 3 ชม. หลังทำเสร็จ อีกร้าน ทำได้ทุกสิ่งอย่าง
►►► สรุปเลยละกัน ◄◄◄
สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ทั้งหมดที่รีวิวมาเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ บางคนอาจจะชอบการ ต่อขนตาถาวรมากก็ได้ เพราะพี่ที่ซีรู้จักเขาต่อแบบขนมิ้ง เขาก็มีความสุขชีวิต Happy กับขนตาเป็นอย่างดี อันนี้คือความชอบส่วนตัวเนอะ ส่วนใครมีคำถามอะไรก็ถามมาได้นะคะ
หวังว่า Blog นี้จะมีประโยชน์ ช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจได้นะว่าจะเลือกแบบไหนให้กับขนตาเรา