เปิดกรุรีวิวของ 17 อย่างสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งที่ขาดไม่ได้
h2o_Nam 28 9สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาแชร์ข้าวของที่เราใช้เป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของที่หมดแล้วต้องซื้อซ้ำวนไปเรื่อยๆค่ะ เพื่อเป็นแนวทางให้สาวๆจีบันที่มีสภาพผิวใกล้เคียงกัน หรือสาวๆที่กำลังลังเลว่าจะซื้อดีรึเปล่า ก็ลองดูได้จ้าา
มาเริ่มต้นที่ skin care กันตาย ที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งกันตลอดนะคะ
ปัจจุบันเราอายุ 28 ปีแล้ว เริ่มมีริ้วรอยบ้างเล็กน้อย สภาพผิวเราเบื้องต้นคือ ผิวแห้ง วันดีคืนดีก็เป็นผิวผสม ตอนนี้เรามีแค่ 2 ตัวเท่านั้นค่ะ ก็คือ
1. Sulwhasoo first care activating serum EX: ตัวนี้จริงๆเพิ่งได้ลองใช้เมื่อกลางปีที่แล้ว (ตอนนี้เริ่มขวดที่ 2 แล้ว)
ความรู้สึกหลังใช้: ช่วงแรกที่เริ่มใช้ พบว่าผิวเรากระจ่างใสขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นจนแม่ทัก 555 ก็เลยใช้มาโดยตลอดค่ะ
2. BIOTHERM Life Plankton essence: ตัวนีี้เราใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2014
ความรู้สึกหลังใช้: ตอนใช้มันก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ แต่พอไม่ใช้เท่านั้นแหละ รู้เรื่องเลยค่ะ คือตัวนี้ปกติจะไม่พกไปตอนเดินทางเพราะมันขวดใหญ่และหนัก จะซื้อขวดเล็กก็กลัวของปลอม จะถ่ายใส่ขวดแบ่งก็ยากอีก ตอนนั้นส่องกระจกแล้วตกใจมาก เพราะผิวตรงหน้าผากแห้งจนเป็นริ้วๆ กลับมาถึงบ้านก็เลยรีบประโคมตัวนี้ เช้ามาก็พบว่าผิวมันฟูขึ้น ริ้วๆพวกนั้นได้หายไปแล้ว เลยใช้มาตลอดเลยค่ะ
มาที่ Body care กันบ้างค่ะ เราใช้ตัวเดียวเลยค่ะ ก็คือ
Jergens: ตัวนี้ใช้มาต่อเนื่องประมาณ 8 ปีแล้ว เคยนอกใจไปยี่ห้ออื่น แต่สุดท้ายกลับมาตายรังทุกที เราก็ใช้หลายสูตรสลับกันไป แต่สูตรที่ชอบที่สุดคือ Ultra healing หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเหนียวๆหน่อย ถ้าไม่ชอบเราแนะนำเป็นสูตรอโลเวล่านะคะ เนื้อจะเบากว่า แต่สำหรับคนที่ทำงานในห้องแอร์และผิวกายแห้งมากอย่างเราถือว่าตอบโจทย์มากค่ะ
สำหรับกันแดด ตัวที่เราชอบใช้มากที่สุดคือ
Biore' UV Aqua Rich SPF 50 PA++++: ตัวนี้เราก็ใช้มาตลอดตั้งแต่ปี 2014 ความสามารถในการกันแดดอาจจะไม่ได้ดีที่สุด แถมยังผสมแอลกอฮอล์ แต่เราชอบเนื้อสัมผัสมันมากที่สุดค่ะ คือเป็นเนื้อมูส เกลี่ยง่าย ทาแล้วสบายผิวอ่ะค่ะ (ปกติกันแดด SPF 50 มันจะเหนียวๆมันๆ) เหมาะสำหรับวันเบาๆที่ไม่ต้องเผชิญแดดมากมาย
***คำเตือน ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์นะคะ***
มาต่อกันที่หมวด make up กันบ้างค่ะ
เริ่มต้นกันที่งาน base ค่ะ
1. laura mercier loose setting powder: ใช้มาประมาณ 6 ปี หลายคนอาจจะสงสัยว่าผิวแห้งแล้วทำไมถึงชอบตัวนี้ คือส่วนตัวจะลง skin care ที่ให้ความชุ่มชื่นค่อนข้างเยอะก่อนแต่งหน้าค่ะ ไม่งั้นเครื่องสำอางค์จะไม่ติดผิวเลย พอมารวมตัวกับแป้งที่คุมมันได้ดี จึงลงตัวกันพอดีค่ะ ข้อเสียอย่างเดียวคือแพคเกจ ตรงขอบกระปุกมันชอบแตก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งๆที่ไม่เคยทำตกเลย
แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองแป้งฝุ่นของ three อยู่เหมือนกัน เห็นหลายๆคนบอกว่ามันดีงามมาก 555
2. laura mercier powder foundation: ตัวนี้เริ่มใช้คู่กับตัวบนเลย ส่วนตัวไม่ใช้รองพื้น จึงใช้แป้งผสมรองพื้นปัดวนๆทั่วหน้าค่ะ เพื่อเพิ่มความเนียน
3. Maybelline age rewind concealer: ตัวนี้ซื้อตามขุ่นแม่โมเม มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศเลยลองดู แล้วก็พบว่ามันเวิร์คมาก สำหรับชะนีใต้ตาดำเป็นหมีแพนด้าแบบเรา เพราะเนื้อไม่หนามาก จึงไม่ทำให้ตกร่อง ตอนนี้เข้าไทยแล้ว ก็จะซื้อใช้วนไป แต่เสียดายสีที่เราใช้ชอบหมด
4. NYX HD Photogenic Concealer: ปกติเราใช้ Nars Creamy Concealer ลองซื้อตัวนี้มาใช้ดูตามคุณ Peary-pie ก็พบว่ามันก็ดี แต่สิ่งไม่ชอบเลยคือมันจะ oxidide ค่ะ เพราะฉะนั้นตอนลองก็ให้เวลาเค้าเซ็ทตัวแป๊บนึง ถึงจะรู้ว่าพอดีกับสีผิวเราจริงๆรึเปล่า
เราเคยพลาดมาแล้ว เอามาทากลบสิว พอสีมันดรอปลง หน้าเหมือนคนเป็นฝ้าเลยค่ะ 555
มาต่อกันที่ point make up กันบ้างค่ะ
1. Tarte amazonian clay blush สี Paaarty: ได้มาจาก set วันเกิดของ sephora ค่ะ ชอบตรงสีนี้มันนัว แต่ไม่ทำให้หน้าดูป่วย แถมยังติดทน ไม่แน่ใจว่ามีขายแบบปกติรึเปล่า แต่ถ้าใช้หมดก็จะไปตำสีอื่นมาแน่นอนค่ะ
2. Becca shimmering skin perfector: ชอบ highligher ของ Becca มากกก เพราะชิมเวอร์เค้าละเอียดจริงๆ นี่เป็นตลับที่ 2 แล้ว แต่ก่อนหน้านี้เราใช้สี moonstone ส่วนในรูปนี้จะเป็นสี champagne pop ซึ่งจะมีความพุ่งมากกว่า
3. Nyx lingerie Eyelid สี sweet cloud: ใช้เป็นแท่งที่ 2 แล้ว ชอบที่วิ๊งสวย ละเอียด ปาดๆสีเดียวก็รอด เหมาะสำหรับการพกพา ไม่ต้องกังวลว่าจะแตก
4. Tarteist Pro to go: ชอบตรงที่พกพาสะดวก สามารถแต่งได้หลายโทน ทั้ง everyday look และออกงาน สีชัดทุกสี วิ๊งสวย ข้อควรระวังคือ เวลาใช้ต้องเคาะสีออกก่อนค่ะ
5. Heroine make long and curl mascara: สำหรับเราเป็นมาสคาร่าที่ทนมากกก โดนน้ำไม่สะเทือน เคยร้องไห้แบบหนักมาก (น้องหมาตาย) มาสคาร่าตัวนี้ก็ยังอยู่ ให้น้องที่เป็นคนหนังตามันมาก ใช้แล้วก็รอด ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือล้างออกยากมากกก เคยใช้ Bioderma กับ baby oil ก็ล้างไม่ค่อยออกค่ะ ต้องใช้พวก eye remover เฉพาะทางถึงจะล้างออก
มาที่งานลิปกันบ้าง มี 3 ที่เราชอบค่ะ ลิปเป็นเครื่องสำอางค์ที่เราขาดไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นคนผิวเหลืองซีด ไม่ทานี่คือป่วยมากกก
1. vaseline lip therapy: ชอบทุกสูตร ใช้มาหลายกระปุกนับไม่ถ้วน คือมันบำรุงริมฝีปากได้ดี เนื้อแน่น ไม่ทำให้ปากมันวาวจนเกินไปค่ะ
2. MAC lipstick สี please me: เรียกว่าเป็นสีกันตายของเราเลย เพราะใช้ได้หลายโอกาส คิดอะไรไม่ออกก็ทาสีนี้ตลอดค่ะ
3. Bobbi brown lip crush สี babe: ตัวนี้เพิ่งรู้ว่านางดีงาม ใช้ตอนแรกก็รู้สึกเฉยๆมาก แต่มีวันนึงที่ปากพังจริงๆ แห้งแตกระแหงแถมยังลอกอีก ทาลิปอะไรก็ไม่รอด เลยหยิบตัวนี้มาทา ปรากฎว่ารอดว่ะ ด้วยความที่เนื้อออกแนว stainๆ จึงไม่ไปเกาะกับหนังที่ลอก ทาแล้วได้สีแนบไปกับปาก ที่ดูเป็นสีปากที่สุขภาพดี มีความระเรื่อ และที่สำคัญไม่มันวาว ใช้แล้วสามารถปล่อยผมได้ ไม่ต้องกังลลว่าผมจะติดปาก
และตัวสุดท้าย คือ
Urban decay all nighter setting spray: ใช้มา 2 ขวดแล้วค่ะ ซื้อตุนอีก 2 ขวด คือชอบมาก เราใช้ฉีดหลังแต่งหน้า จะช่วยให้หน้าดูไม่แป้ง ทำให้เครื่องสำอางค์ดูกลืนไปกับผิวมากขึ้น ส่วนเรื่องช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนขึ้นมั้ย เราไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะปกติก็ไม่ได้มีปัญหาในส่วนนั้น ก่อนหน้านี้เราก็เคยใช้พวกสเปรย์น้ำแร่นะคะ ไม่แน่ใจว่าใช้ผิดวิธีรึเปล่า คือฉีดก่อนแต่งหน้ามันโอเคนะ แต่พอฉีดหลังแต่งหน้านี่ดูไม่ได้เลยค่ะ คือน้ำมันจะไปเกาะกับแป้งที่ลงไว้ ทำให้เป็นด่างๆดวงๆ
จบไปแล้วค่ะกับการรีวิวของเรา หวังว่าสาวๆจีบันจะสามารถเอาไปใช้เป็นแนวทางได้นะคะ สำหรับสาวๆคนไหน มีคสอ. ตัวอื่นที่อยากจะแนะนำกับเราก็คอมเมนต์ได้เลยจ้า