How to สาวผิวแทนอยากแชร์...แต่งหน้าปากแดงยังไงไม่ให้เป็นกาคาบพริก

How to สาวผิวแทนอยากแชร์...แต่งหน้าปากแดงยังไงไม่ให้เป็นกาคาบพริก

สวัสดีค่าาา หลายๆคนคงสังเกตแน่นอนว่าหลังๆมานี้เทรนสาวผิวแทนกำลังมาแรงเหลือเกินน สาวๆเลยแข่งกันแต่งหน้ากันแบบจัดเต็ม ซึ่งผิวแทนอย่างเราๆก็ผ่านสีลิปที่อินเทรนด์กันสุดๆอย่าง ลิปสีอิฐ สีน้ำตาล สีนู้ด กันมามากมาย วันนี้เลยได้สีลิปแดงแท่งแรกมาประดับโต๊ะเครื่องแป้งสมใจอยากแล้ว

วันนี้เราจะมาลองทำ How to ต้อนรับเดือนแห่งความรักกันดีกว่า เผื่อสาวๆคนไหนอยากจะลองเปลี่ยนลุคให้สวยแซ่บมากขึ้น เผื่อวันวาเลนไทน์ที่ใกล้จะถึงนี้จะได้สละโสด หรือได้มีเดทกับเขาบ้างเนอะ เราเลยจะมานำเสนอลุค ปากแดงแซ่บๆ จะมาแชร์วิธีการแต่งหน้าปากแดงที่ไม่กาคาบพริก และสามารถแต่งไปทำงานได้ทุกวัน

ลิปสีแดงของเราที่จะมา How to กันวันนี้เป็นของ ILLAMASQUA นั้นเอง เป็นลิปสีใหม่เพิ่งคลอดออกมาเลย เห็นรีวิวเค้าว่ากันว่าเป็นเฉดสีแดงที่ดีที่สุด ทาได้ทุกสีผิวและทาแล้วทำให้ฟันดูขาวอีกด้วย คนที่กำลังหาลิปสติกสีแดงอย่างเราก็ไม่รอช้า ไปจัดมาเรียบร้อยค่า แต่ด้วยความที่พอไปถึง Shop เซ็นทรัลเวิร์ดนั้นมันไม่ได้มีแค่ลิปไงที่น่าโดนและด้วยความที่เป็นช่วงสิ้นเดือนเงินเดือนออก กลายเป็นว่าได้ทั้ง รองพื้น แป้งผสมรองพื้น กลับบ้านมาด้วยจ้าา ลุคนี้จะออกมาเป็นยังไง ตามไปดูกันเล้ยยยย

STEP 1 : Face
​
ขั้นตอนของการลงผิวนั้นมันทำให้เราเป็นกาคาบพริกได้ง่ายมากๆ ถ้าเราเลือกรองพื้นผิดเบอร์!! แต่ Foundation ของ ILLAMASQUA มันพอดีกับสีผิวเราเป๊ะ เพราะเขามีสีให้เลือกเยอะมาก รองพื้นของตัวนี้จะให้ลุคที่ไม่ได้หนาจนโบ๊ะแต่ปกปิดได้ดี และเนื้อเกลี่ยง่าย ใช้นิดเดียวก็ทาได้ทั้งหน้า ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทาได้งานผิวใสๆกันไป รองพื้นตัวนี้ไม่ดรอประหว่างวัน เราใช้รองพื้นตัวนี้แต่งไปทำงานตั้งแต่เช้าจนเย็น ซับหน้าไป 1-2 รอบ ไม่ได้เติมแป้งเพิ่ม ก็ยังได้ลุคที่ดูโกลๆ ดูธรรมชาติสุด

หลังจากรอรองพื้นเซ็ทตัว ต่อมาก็ลงแป้งผสมรองพื้นของ ILLAMASQUA แป้งผสมรองพื้นตัวนี้สามารถเลือกการปกปิดได้เอง จะใช้คู่กับแปรง หรือใช้ฟองน้ำลงก็ได้อีกลุคที่ดู Full coverage มากขึ้น แป้งของเขาตัวนี้เนื้อเนียนนุ่มมาก ติดทน ปกปิดดี และคุมมันด้วย ถ้าใครที่ผิวดี ไม่มีปัญหาผิวแบบเรา แนะนำให้ลงเดี่ยวๆไม่ต้องทารองพื้น ได้ลุคที่ดูเบาๆเป็นธรรมชาติไปอีกแบบ

และต่อมาก็ปกปิดใต้ตาหมีแพนด้าและส่วนที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษด้วย Concealer ของ NARS ค่ะ คอลซีลเลอร์ตัวนี้เราชอบมากเพราะเนื้อมันบางบางแต่ปกปิดดี แต่เนื้อของมันค่อนข้างแห้งหน่อยๆ แต่ก็ยังคงเกลี่ยง่าย และไม่เป็นคราบด้วยน๊าา

STEP : 2 Eyes&Eyebrown

เริ่มจากการเขียนคิ้วด้วยของถูกและดีอีกชิ้นที่เราใช้มาตลอดคือ Mei Linda สี Black Brown แท่งนี้ โดยเริ่มเขียนตามทรงคิ้วของตัวเองค่ะ หลังจากนั้นเราใช้ Eyeshadow ของ Tartelette toasted โดยเริ่มจาก

1. ใช้สี Cashmere ทาทั่วเปลือกตา
2. ตามด้วยสี warmth และสี Cozy บริเวณหางตา 
3. และตามสีสุดท้ายตามด้วยสีชิมเมอร์วิ้งๆ Candle บริเวณหัวตาค่ะ 
4. หลังจากนั้นก็เขียน Eyeliner ด้วย Mistine Super Black ในตำนาน ปกติเราเป็นคนหน้ามันมาก ไม่ว่าจะเขียน Eyeliner แบรนด์ไหนก็แพนด้าตลอดเลยค่ะ จนมาเจอแท่งนี้ 
5. และขั้นตอนสุดท้ายด้วยการดัดขนตา และปัด Mascara ของ Maybeline ค่ะ

STEP 3 : Contour Highlight and Blusher
​
ลุคนี้เราอยากได้แก้มที่ดูธรรมชาติ ซึ่งเราใช้ที่ปัดแก้มของ ILLAMASQUA สี Tremble จะออกสีชมพูอมส้มหน่อยๆ ใช้แล้วดูหน้าขาว มีเลือดฟาด ดูสุขภาพดี ชิ้นนี้คือเลิฟมากกก ใช้ทุกครั้งที่แต่งหน้า เพราะเป็นเฉดสีที่เข้ากับทุกลิปสติกและทุกสีผิว ผิวแทนอย่างเราก็รอดนะจ้ะ เม็ดสีชัด สวยมากๆ ยิ่งปัดและตามด้วย Contour และ Highlight ของ Sleek ค่ะ สีมันก็จะเข้ากั๊นเข้ากัน ได้สีแก้มที่สวยๆ โกลๆ

STEP 4 : LIP

ขั้นตอนของนางเอกของเรา ลิปสีแดงของ ILLAMASQUA สี Fire ลิปแท่งนี้เป็นลิปสีแดงก่ำแท่งแรกของเรา ซึ่งประทับใจมาก เพราะสีนี้ทาแล้วฟันไม่เหลือง สีลิปทาแล้วทำให้เปลี่ยนลุคเป็นสาวแซ่บๆได้ทันที เม็ดสีชัดมากทานิดเดียวก็ทั่วทั้งปาก เป็นเนื้อแมทแต่ปากไม่แห้ง ไม่หนักปาก และติดแน่นโคตร กินน้ำ กินข้าวก็ยังไม่หลุด
สำหรับลุคนี้สามารถทาได้หลายแบบ

ภาพที่ 1 คือเราทาเดี่ยวๆแบบเต็มปากก็ได้ลุคสวยแซ่บ เป็นผู้หญิงมั่นใจขึ้นมาทันที
ภาพที่ 2 ทาแบบบางๆเบาๆก็ดูโคเรียเกิร์ล
ภาพที่ 3 ทา ombre กับลิป Kylie สี Love bite ก็ดูลึกลับไปอีกแบบจ้า