FAVORITE APRIL :: รวมมิตร Skincare & Makeup ใช้ดีบอกต่อเดือนเมษา

สวัสดีเพื่อนๆชาวจีบันทุกคนค่าาา

เผลอแปบเดียว ปีนี้ก็ผ่านไป 4 เดือนแล้ววว

รู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ผ่านไตรมาสแรกของปีไปซะแล้ววว

เข้าเรื่องเลยละกันโนะ

ตั้งแต่เริ่มปีใหม่นี้มาถึงตอนนี้ ก็รู้สึกว่ามีของหลายอย่างที่ใช้ละชอบ

อยากจะแชร์ต่อให้เพื่อนชาวจีบันฟังเหมือนเคยค่า เจอของชอบก็ต้องบอกต่อ 555

มีอะไรมั่ง ไปดูเลยจ้าา

มาดูรวมๆกันก่อนเลยเนาะ

เยอะเหมือนกันนะเนี่ย

ตอนแรกที่เริ่มเขียนนึกว่าจะมีไม่กี่ตัว 555

หยิบไปหยิบมา เอ้า ทำไมหลายตัวจัง

มาดูทีละหมวดก่อนเลยละกัน

เริ่มที่การล้างหน้าก่อนเลยยยย

อย่างแรกก็ต้องคลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางกันก่อน

ปีนี้มาเจอคลีนซิ่งออยสุดเทพถึง 2 ตัววววว

ตัวแรก เป็นคลีนซิ่งที่แนะนำโครตตตต

ชอบมากกก ไม่รู้ทำไมเพิ่งได้มาเจอกัน นั่นก็คือออ

จริงๆหมวดคลีนซิ่งนี่เราเพิ่งเขียนรีวิวไปเลย คือพร่ำเพ้อถึงตัวนี้ไว้ยาวมาก 555

เนื้อมันเหลวกำลังดี กลิ่นก็หอมอโรม่าสุดๆ ( จนแอบมากไปนิด 555 )

แต่มันก็ไม่ได้ถึงขนาดเหม็นหรือฉุนไรมากนะ

นวดๆไปก็หอมดี ล้างได้สะอาดหมดจดดีมากกกกก

เครื่องสำอางที่ตาไรงี้ก็เอาออกหมด

แถมที่สำคัญ ล้างแล้วผิวนุ่มมากกกกกกก ชอบมาก รู้สึกทั้งสะอาดทั้งบำรุง

ราคาอาจจะปาดเหงื่อกันสักหน่อย

กะคลีนซิ่ง 200ml ราคา 1800 บาท ล้างแล้วลงท่อไปเลยจ้าาา 555

แพงไปนิด แต่ถ้างบถึงควรจัดสุดๆ

ถ้าตัวเมื่อกี้มันแพงไป เราก็มีทางเลือกดีๆที่ถูกกว่าให้ได้ลอง 5555

นั่นก็คืออออ Positif Phyto Crystal Purifying Cleansing Oil

ราคาเบาๆ จับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าจ้า

แต่เรื่องคุณภาพคือดีไม่แพ้กันเลยยยย

เอาจริงๆ เราว่ามันดีพอๆกันเลยนะ แบบล้างได้สะอาดเหมือนกัน

ออยตัวนี้จะหนืดกว่า แต่ตอนนวดๆล้างๆจะมีความอุ่นๆ

ซึ่งพอมันอุ่นใช่มะ มันก็ให้อารมณ์แบบเปิดรูขุมขน ทำความสะอาดล้ำลึกไรงี้

แต่หลังล้างแล้ว ตัวนี้จะเหลือความชุ่มชื่นน้อยกว่า ผิวนุ่มน้อยกว่า Three

เลยให้คะแนนฟีลลิ่งในการล้าง Three มากกว่าหน่อย

แต่มาด้วยราคาแบบ 200ml 950 บาท ถูกกว่ากันเกือบเท่าตัว

ก็นะ เรื่องแค่นี้ก็คืออภัยให้ได้มะ เดี๋ยวก็ล้างโฟมต่อละทาครีมอยู่ละ 5555

ต่อไปที่โฟมมั่ง...เอิ่ม ถึงตัวนี้จะไม่ใช่โฟมก็ตาม 555

เป็นเจลล้างหน้าจ้า

เราจะใช้แค่ตอนเช้า ( ตอนเย็นรู้สึกต้องการอะไรที่รุนแรงกว่านี้ 5555 )

เป็นเจลใสๆ หนืดๆ กลิ่นหอมม้ากกกก หอมแบบสมุนไพรๆ

คือนวดๆไป ดมไป คือฟินอะ

ตอนเช้าล้างหน้าได้สะอาดดี คือล้างละหน้ายังมีความชุ่มชื่น

แต่ล้างความมันตอนตื่นมาได้หมด

คือรู้สึกมันเหมาะกับผิว Sensitive จริงๆ รู้สึกมันอ่อนโยนอะ

ล้างแล้วหน้าไม่แห้งมาก ทำความสะอาดแบบอ่อนโยนไรงี้

แถมล้างแล้วอารมณ์ดีอะ เพราะมันหอม 5555

ยังคงอยู่ในหมวดการล้างหน้า

จะล้างเยอะไปไหนเนาะ 5555

คราวนี้เป็นอุปกรณ์ในการล้างหน้ามั่ง

ตัวนี้ทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่ ( หรือเปล่า )

เป็นแปรงล้างหน้าจาก Clarisonic นั่นเองงง

อันนี้เป็นรุ่น Clarisonic Mia 2 ค่า

จริงๆข้าวจดๆจ้องๆ อยากจะได้แปรงของ Clarisonic มานานละ

มีแต่คนรีวิวว่ามันดียังงั้นยังงี้ แต่ราคานี่ บาดตาบาดใจเหลือเกิน 5555

เครื่องนี้ ราคาเต็มอยู่ที่ประมาณ 6000 กว่าบาทท

แต่นี่ซื้อมาปีที่แล้วตอนซื้อ 1 แถม 1

เอาจริงๆ จากการไปเสิร์ชหาราคา ทำให้เพิ่งรู้ว่า เขาเลิกขายในไทยละเหรอ แง้

ต่อไปจะซื้อหัวแปรงจากไหนละนี่

ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจ อาจจะหาซื้อยากกันนิดนึงละแหละ -w-

อะๆ เข้าเรื่องต่อ

คือตั้งแต่ซื้อมาใช้ละรู้สึกล้างหน้าสะอาดขึ้นมาก

สิวก็ไม่ค่อยขึ้น หน้าเนียนละเอียด จับละละมุนมาก

แล้วตอนแรกคือมีความแอบกลัวว่าเครื่องล้างหน้ามันจะสากมั้ย

ล้างแล้วจะเจ็บหน้า บาดหน้าหรือเปล่า

แต่ไม่เลยยย ไม่เจ็บเลย สบายมาก ยิ่งเลือกหัวแปรงนุ่มๆ ยิ่งฟินเลย

เดี๋ยวข้าวรีวิวหัวแปรงให้ฟังสั้นๆข้างล่างด้วย

แถมใช้เวลาล้างไม่นาน แค่นาทีเดียว

คือเครื่องมันจะมีโปรแกรมของมัน

ให้ล้างหน้าผาก 20 วิ จมูกคาง 20 วิ แก้มอีกข้างละ 10 วิ

พอกดใช้ เวลาต้องเปลี่ยนไปล้างโซนอื่น เครื่องมันก็จะสั่นๆ ให้เรารู้ว่าต้องย้ายที่ละนะ

คือแต่ก่อนข้าวว่าข้าวล้างหน้านานอะ กลัวไม่สะอาด 555

พอมีเครื่องนี้ละแบบ เฮ้ย ใช้เวลาแค่นาทีเดียว แก้มงี้ แค่ข้างละ 10 วิ

เอ้าาา สะอาดเฉย สิวไม่มี คือรู้สึกดี 555

อันนี้เป็นหัวแปรงทั้งหมดที่เคยลองมา

เรียงลำดับจากความนุ่มมากสุด ไปความนุ่มน้อยสุดเลย

อันริมซ้ายสุดเป็นรุ่น Radiance ซึ่งขนแปรงมีความนุ่มละมุนมาก ล้างละฟินมาก

จริงๆได้ยินว่าอีกรุ่นนึง รุ่น Luxe ซึ่งเป็นขนแคชเมียร์จะนุ่มกว่า

ซึ่งทางเราก็ซื้อมาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลอง

เพราะเพิ่งซื้อแปรงมาได้แค่ประมาณ 5 เดือนเองง่ะ 555

อันที่สองรุ่น Sensitive

คือชื่อ Sensitive แต่ไม่เห็นจะนุ่มเท่าไหร่ 55

เป็นรุ่นที่แถมมาให้ตอนซื้อเครื่องเลย

ความนุ่มของขนก็คือกลางๆ ไม่นุ่มไม่แข็ง แต่ล้างละไม่ฟินเท่าไหร่

ลอง Radiance ละไม่อยากกลับไปใช้ Sensitive อีก 555

ตัวสุดท้ายคือรุ่น Deep Pore

รุ่นนี้แข็งสุด สากสุด เท่าที่เคยใช้มา

เหมือนไม่ควรใช้บ่อยๆ ใช้แค่วันที่ต้องการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก

คือล้างละก็รู้สึกว่าสะอาดขึ้นจริง

อาจเพราะขนแปรงมันแข็งสุด

รู้สึกมันสามารถขูดเอาความสกปรกออกไปได้มากกว่าขนนุ่มๆ 555

เย้ จบจากหมวดล้างหน้าซะทีจ้า ยาวนานหลายตัวมากเว่อร์ 555

ต่อไปเป็นเซรั่ม

ซึ่งก็ได้ยินชื่อเสียงมานานละ แต่เพิ่งเคยใช้เลย คือตัว

Clarins Double Serum นั่นเอง

ที่มันชื่อ double serum เพราะมันจะมี 2 เนื้อในขวดเดียวแหละ

เนื้อเซรั่มกับเนื้อน้ำมัน ตอนปั๊มออกมาจากขวดจะเห็นแยกกัน 2 เนื้อเลย

ก็ถูๆให้เข้ากัน แล้วก็ทาที่หน้า

กลิ่นเซรั่มคือหอมมาก ฟินมาก

แล้วถึงจะมีน้ำมัน แต่ไม่มันเลย ( ถ้าไม่ใช้มากเกินไป 5555 )

คือวันแรกที่แกะลองใช้ ช่วงนั้นหน้าเป็นผด เพราะมันหน้ามันไปแห้งแพ้อะไรเข้า

แต่ข้าวดันเข้าใจว่าเป็นสิว เลยไปทาเบนแซค

ทาอยู่พักนึง สรุปหน้าแห้งพังไปเลยจ้า ผดงี้ลุกลามไปกันใหญ่

เพราะเหมือนหน้ามันอ่อนแอ หรืออะไรประมาณนั้น

ช่วงรอบปากนี่คือแห้งแตกเป็นขุยๆเลย

อะ ก็หยุดทาเบนแซค ทาครีมทาไรไป

ละได้ตัวนี้มาพอดี แม่ซื้อมาฝาก

เลยเอาไปทา

คืนเดียว ที่เป็นขุยๆรอบปากคือหายเลย

หน้าดีขึ้นมากกกกก ชุ่มชื่นขึ้นมากกก ที่แห้งๆลอกๆอยู่หลายวัน หายเฉยเลยจ้าาา

เฮ้ยยยยย คือโครตดี ตกใจมาก

มันให้ความชุ่มชื่นได้ดีมากๆ

ใช้แล้วตื่นมาหน้านุ่มฟูมากกกก

เอาเป็นว่า ซื้อขวด 2 รอแล้วอะ 5555

คือเขาเคลมว่าจะช่วยลดริ้วรอยอะไรแบบนี้ด้วยนะ

แต่ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เลยยังไม่รู้ 555

แต่ใช้ละรู้สึกหน้าเนียนละเอียด ฟูขึ้นจริงไรจริง รูขุมขนก็แอบเล็กลงด้วยอีก

แนะนำจริงๆ ราคาอาจจะแรงไปนิด

30 ml 3700 บาทจ้าา แต่งบถึงควรจัดอีกตัว 555

ตัวถัดไปเป็นมาส์กตาจากแบรนด์ Faith in Face ค่า

ชื่อรุ่น Eye Am Not Tired

ชื่อรุ่นคือแบบมีความน่ารักเก๋ไก๋สุดๆ 555

จริงๆชอบชื่อรุ่นกับแพคเกจของยี่ห้อนี้มาก

คือมันเก๋แล้วก็มีกิมมิคทุกตัวเลย

สำหรับมาส์กตัวนี้ เป็นมาส์กรอบดวงตา แบบไฮโดรเจล

คือมันจะเป็นเจลดึ๋งๆ ไม่ใช่ผ้าไรงี้นะ

ซึ่งแปะไปใต้ตาแล้วมันติดดีมาก 5555

แถมมาส์กแล้วให้ความรู้สึกเย็นๆ ช่วยผ่อนคลายดวงตาได้ดีมาก

คือถ้าตาเหนื่อยตาล้ามา มาส์กไปแล้วคือผ่อนคลายเลยอะ

มาส์กครึ่ง ชม แล้วลอกออก

ตัวมาส์กส่วนไฮโดรเจลมันจะยุบหายไปเลยอะ

เห็นละรู้สึกดี รู้สึกได้รับการบำรุง ว่าแบบที่หายไป คือซึมเข้าผิวเรา 5555

จริงๆ เขาเคลมว่าใช้ติดต่อกันละจะช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตาได้ด้วยนะ

แต่เราใช้ละยังไม่เห็นผลเท่าไหร่

ซึ่งจริงๆ รอยคล้ำใต้ตาเราเพราะเราเป็นภูมิแพ้

ซึ่งตราบใดที่ยังไม่หาย มันคงไม่หายไป T^T ฮืออ เศร้า

แต่ใช้มาส์กตัวนี้ละรู้สึกใต้ตามันฟูขึ้นจริงๆ

เหมือนแบบมันได้รับความชุ่มชื้นเต็มที่อะ

วันไหนนอนดึกๆ ตาโหลๆ ก็โปะเลย

ตาจะฟูนุ่มชุ่มชื่นเหมือนได้นอนหลับมาตลอดคืน 55555

กล่องนึงราคา 279 บาททท

จะมีอยู่ 4 คู่ เป็นซองสีเงินๆยังงี้อยู่ในกล่องเลยย

ใครนอนน้อยบ่อยๆ ละแบบใต้ตาแห้งมากๆคือแนะนำ

ยิ่งใช้ติดต่อกัน จะยิ่งรู้สึกว่าเห็นผลมากขึ้น

แบบแผ่นแรกอาจจะยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่แบบถ้าใช้ติดต่อกัน

เหมือนผิวใต้ตามันจะค่อยๆดีขึ้นอะ แต่งหน้าไรงี้ก็ติดดีเลย

ผิวใต้ตาก็จะเรียบเนียน ไม่โหลๆโบ๋ๆอะ นึกออกมะ 555

ต่อไปเป็นตัวสุดท้ายในหมวดสกินแคร์แล้วค่า

เป็นครีมกันแดด Sunplay Ultra Lotion SPF50+ PA++++

 SPF เยอะจุใจกันไปเลยค่า 555

คือเมื่อต้นเดือนเนี่ย ไปเที่ยวเกาะพยามกะเพื่อนๆมา

ก่อนไปก็ไปหาซื้อกันแดด เห็นเจ้านี่มันซื้อ 1 แถม 1 อยู่

ด้วยความที่เห็นว่ามันเขียนว่ากันน้ำ

แล้วมันก็ลดราคาด้วย ( อันนี้สำคัญ 555 )

เลยคว้ามาเลยจ้า

เอาไปใช้ช่วงที่ไปเที่ยว

ละมีวันนึง ไปเล่นน้ำในทะเลตอนเที่ยงวัน

ย้ำว่าเที่ยงวัน ( จะไปเล่นตอนเที่ยงทำไมฟะ 5555 )

ก่อนลงน้ำคือทาตัวนี้ทั่วหน้าแล้วก็คอ

ส่วนตัว แขนขานี่ใช้กันแดดตัวอื่น

เพราะเจ้านี่ขวดเล็ก กลัวเปลือง กลัวอยู่ได้ไม่จบทริป 5555

คือเล่นตั้งแต่ตอนประมาณ 10-11 โมง ยาวยันบ่ายเลยจ้า

ไม่มีเติมกันแดดใดๆทั้งสิ้น ( ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างจริงๆ TT )

ตอนอยู่ในน้ำมันก็ไม่ร้อนเท่าไหร่ใช่มะ

แต่ขึ้นมานี่ รู้เรื่อง 555555

ตัวนี่ดำเลยจ้าาาา

แต่หน้านี่คือ คล้ำลงน้อยกว่าตัวมากนะ แถมไม่มีแสบไม่มีเบิร์นเลย

เพื่อนๆที่เล่นด้วยกัน ตอนขึ้นมาบางคนก็บ่นว่าโดนแดดเผา แสบหน้าไรงี้

แต่เราไม่มีเลยจ้า นอกจากดำขึ้นเล็กน้อย 555

เลยรู้สึกว่า เออ กันแดดได้โอเคเลย

เนื้อกันแดดเป็นน้ำนมเหลวๆสีขาวๆ เนื้อค่อนข้างเบา ทาแล้วซึมง่าย

แต่ทาเยอะก็แอบวอกนิดนึงอยู่นะ ( พอดีตอนไปเที่ยวโบกตลอดเวลา 555 )

ราคาเต็มอยู่ที่ 35ml 329 บาทจ้า

มาถึงหมวดเครื่องสำอางแล้ววว ><

ตัวแรกนี้เป็นแป้งฝุ่นจาก cute press เลย

ออกมานานละ และก็ได้ยินเสียงเล่าลือว่าดีมานานแล้วเช่นกัน 5555

แต่เพิ่งได้มาลองใช้จริงจัง ( จริงๆก็ซื้อมานานแล้ว แต่ดองไว้ 5555 )

ตัวนี้เป็นสูตร Natural White ที่ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสอ่อนเยาว์ไรงี้

ตัวแป้งเป็นสีเนื้ออ่อนๆ ละเนื้อแป้งนุ่มละมุนมากกก

ทาแล้วไม่ขาวไม่วอก ทำให้หน้าดูผ่องขึ้นนิดนึง

ช่วยควบคุมความมันได้ดีมากกกก

แถมทำให้หน้าดูเนียนผ่องเด้งทั้งวันเว่อร์

ใช้เซตกับรองพื้นก็ดี

ทาเปล่าๆก็ดีเหมือนกัน

เข้าคอนเซปทากับอะไรก็อร่อยมากจ้า ( ผิด 555 )

นั่นแหละ สรุปว่าดี ตลับเล็กด้วย พกง่าย ราคาไม่แพง

กระปุกนี้ 6 กรัม 129 บาทเอง เบาๆชิวๆ

มีพัฟจิ๋วมาในตลับด้วยนะ นุ่มนิ่มใช้ได้จริง ถ้าไม่นับว่ามันเล็กอะนะ 555

ปีที่แล้วข้าวสครีมมากเว่อร์กับตัว Lancom Matte Shaker

คือมันดีมากกกก 5555

ปีนี้เลยลองซื้อตัวนี้มาใช้มั่ง

คือเนื้อจะต่างกันเลยอะ ตัวนี้เนื้อไม่แมทเลย

เนื้อลิปจะฉ่ำๆ Juicyๆ เหมือนชื่อรุ่นเลย

อันนี้เป็นเบอร์ 151 Cherry Symphony

คือดูจากแท่ง(?) แล้วอาจจะดูแดงๆ แต่จริงๆสีมันจะเป็นสีแดงใสๆเรื่อๆ น่ารักมากกกก

เนื้อลิปคือถ้าตั้งทิ้งไว้จะเห็นมันแยกชั้นกันเลย

เป็นชั้นออยกับเนื้อสี ต้องเขย่าๆให้เข้ากันก่อนทา

แถมกลิ่นคือหอมมากกกก หอมแบบหอมหวาน หอมขนมๆ

ทาไปฟินไปอะ จริงๆ 555

ให้ดูสี สีน่ารักมากกกก ><

อันนี้บนแขนคือทาทับกันหลายครั้งอยู่นะ

ถ้าทาบางๆครั้งเดียวก็อาจจะไม่ได้สีชัดขนาดนี้

แล้วมันให้สีเรื่อๆบางๆ น่ารักมากกกกกก

อาจจะไม่ได้ติดทนมากก

แต่ก็ไม่ได้หลุดง่ายขนาดนั้นนะ

คือทาไปบนปากใช่มะ สักพักถ้ากินนั่นนี่นิดหน่อย ละตัวออยมันหลุดไป

มันจะยังเหลือสีนิดๆเหมือนติดอยู่กะปากอยู่นะ

แต่ถ้าอยากให้สีชัดทั้งวันก็ต้องคอยเติมอยู่เรื่อยๆอะ

แต่ลิปมันฉ่ำ ฟีลดีมาก เหมือนทาลิปมันเลย

แต่ไม่ได้เยิ้มเหมือนไปกินไก่มานะ แค่แบบฉ่ำๆ เหมือนปากสุขภาพดีไรงี้

ไม่ทำให้ปากแห้งเลย แถมทำให้ชุ่มชื่นไปอีก ชอบมาก

ใครปากแห้งเหมือนเราต้องชอบอะ เอาจริง 555

ราคาแรงสไตล์ลังโคม

6.5 ml 990 บาทจย้าา

ตัวนี้เป็นน้ำหอมจ้า เป็นแบรนด์ของคนไทย

เหมือนข้าวยังไม่ค่อยเห็นใครพูดถึงเลย จริงๆข้าวเองก็เพิ่งรู้จัก 555

ชื่อแบรนด์ Butterfly

ตัวนี้เป็นกลิ่นพลับพลึงแพร์

เห็นเขาว่าเป็นกลิ่นที่ผสมผสานความหอมของดอกพลับพลึงกับลูกแพร์ ไรงี้

ซึ่งไม่ใช่ไร ที่ไปรู้จักแบรนด์นี้อะ เพราะไปเจอมาว่า

กลิ่นพลับพลึงแพร์คือเหมือน English Pear & Freesia ของ Jo Malone เลย

เลยไปลองดมดู

เฮ้ย เหมือนจริงงงง หอมมากกกก

แต่ออกตัวก่อนว่าไม่เคยใช้โจมาก่อน 5555

แต่เคยดม เคยได้กลิ่น

เลยซื้อมาใช้

ละความพีคคือฉีดไปทำงาน มีพี่ที่ทำงานมาทัก ว่าแบบฉีดโจมาใช่ไหม

พีคคค แสดงว่าเหมือนจริงๆ 55555

ละน้ำหอมยี่ห้อนี้เขามีเบสเป็นออยอะ

เวลาฉีดตอนแรกคือจะมันๆนิดนึงเลย แต่ก็ซึมหายไปนะ

กลิ่นติดทนพอสมควรเลย น่าจะเพราะมันเป็นน้ำมันด้วย

แต่หัวฉีดมันจะไม่ได้เป็นสเปรย์ฟุ้งๆนะ คือจะออกมาเป็นเส้นแบบเส้นเดียวเลย

คือตอนแรกที่เจอก็งงว่าของเราแปลกหรือเปล่าหว่า 555

เลยไปหาอ่านในเพจ ละก็เห็นว่าเขาใช้แบบนี้นี่เอง

ซึ่งจริงๆเราว่าก็สะดวกดีนะ เพราะพอเบสเป็นออยก็ไม่ค่อยอยากให้กระจายใส่เสื้อผ้าเท่าไหร่

พอมันเป็นเส้นๆแบบนี้ก็ควบคุมง่ายดี

ขวดก็สวยแบบเรียบๆดีอยู่น้า

ขวดนี้ 60ml ราคา 959 บาทจ้า

ตอนไปซื้อกลิ่นนี้ได้ลองอีกหลายกลิ่นเลย หอมหลายกลิ่นมาก

ละกลิ่นเขาจะมีกลิ่นแบบไทยๆแปลกๆอีกหลายกลิ่นเลย

เช่นกลิ่นข้าวเหนียวมะม่วง กลิ่นชามะตูม กลิ่นเทียนอบ กลิ่นใบมะม่วง

คือเหมือนใบมะม่วงมากจริงๆ 555

แล้วก็มีกลิ่นควันไม้กฤษณา คือกลิ่นเป็นควันไม้จริงๆ แต่หอมนะ มีเอกลักษณ์สุดๆ

แล้วเราได้เทสเตอร์กลิ่นกฤษณากำยานมาลองด้วย คนขายบอกว่าเป็นแบบ

Best Seller ของร้านไรงี้เลย อันนี้ก็หอมเหมือนกัน

เดี๋ยวคงได้โดนซ้ำมาอีก กำลังพยายามห้ามใจตัวเองอยู่ เอาใจช่วยเราด้วยยย 555

ตัวสุดท้ายแล้วจ้าาาา แต่เป็นตัวสุดท้ายที่ประกอบไปด้วยหลายตัวไปอีก 555

เป็น set makeup box จาก Clarins

จริงๆเราได้มานานละ จากขุ่นแม่...อีกแล้ว 555

แต่ช่วงที่ผ่านมารู้สึกว่าเราไปเที่ยวมั่ง ไปนั่นไปนี่ ไป ตจว ค่อนข้างบ่อย

แล้วเราก็หยิบเจ้ากล่องนี้ไปกล่องเดียว เพราะรู้สึกว่ามันครบดี

มีแป้ง บลัช อายแชโดว์ มาสคาร่าให้เรียบร้อย พร้อมแต่ง 555

พอใช้ๆไปก็รู้สึกว่า เออ มันดีแฮะ เอามาใช้แต่งแล้วก็ติดทนทั้งวันดี

สีอะไรแบบนี้ก็สวย

เดี๋ยวพูดให้ฟังทีละตัวๆเลย

นี่เป็นรายละเอียดของที่อยู่ในกล่องจ้า

ทำไมบางอันก็เหมือนไม่มีชื่อ เช่น บลัช เขียนมาแต่ Blush แล้วรุ่นอะไรละเนี่ย 555

แล้วก็ได้ยินว่า Clarins เอาไลน์ make up เข้ามาแล้วด้วย

จะได้หาซื้อได้ง่ายๆ ( หรือเปล่า ? )

มันจะมีขายไหมอ่าา 555

ขอพูดถึงตัวแรกเลย คือตัวมาสคาร่าจ้า ><

เป็นตัว Wonder Perfect Mascara

ตัวนี้เขียนชื่อมาชัดเจนดี 5555

คือลองใช้ละแบบ เหยยย มันดี

ปัดได้งอนสวย ต่อขนตาได้ยาวด้วย ปัดละขนตาแยกเป็นเส้นๆสวยเลย

แต่ไม่ช่วยเรื่ืองความหนาเท่าไหร่ ช่วยเรื่องงอนยาวซะมากกว่า

แต่เราชอบมาก ติดทนด้วย ไม่ค่อยร่วงด้วย

ตอนล้างก็ล้างค่อนข้างง่ายนะ เหมือนรูดออกมาละมันติดออกมาเป็นเส้นๆเลย

ไม่ได้เละเทะ

ต่อไปเป็นแป้งกับบลัชจ้าา

พูดรวมๆเลยละกัน

แป้งเห็นเขียนไว้บนกล่องว่า Powder Compact คือไม่มีชื่อรุ่นเหรอ

หรือนี่ชื่อรุ่นแล้ว 5555

แป้งคือปัดละหน้าผ่องมากกก

ติดทนสุด แถมคุมมันดีมากกก

ชอบมากกกก

เวลาถือไปเที่ยวละแบบเราไม่ได้ทารองพื้น

แค่กันแดดแล้วก็ปัดแป้งตัวนี้ทับ หน้าคือผ่องทั้งวันเลย

ส่วนบลัช อันนี้ไม่รู้จริงๆว่ารุ่นไร

เป็นสีชมพูอมส้ม แล้วก็มีกลิตเตอร์เล็กๆ

นี่คือพยายาม Swatch บลัชให้ดู ไม่รู้เห็นหรือเปล่า 55

คือสีมันดีมากกก เป็นสีแบบชมพูพีชๆใสๆ แอบมีกลิตเตอร์เงาๆเล็กๆด้วย

คือน่ารักมาก ปัดได้ทุกวันเว่อร์

ติดทนอีกต่างหาก ปัดเช้า สีคือติดอยู่ถึงเย็นอะ

เนื้อมีความปัดง่าย เบลนง่าย

ชอบมากจนอยากจะงัดมันออกมาพกแยก 5555

อันนี้เป็นอย่างสุดท้ายที่จะพูดถึงละจ้าาา คืออายแชโดว์

ไม่พูดถึงลิปกลอสละกันโนะ เพราะเราเฉยๆอ่า

อายแชโดว์คือเนื้อดีนะ

pigment อาจจะไม่ได้แน่นมาก แต่เราว่าสีก็น่ารักดี

ให้ดู Swatch จ้า

เอาจริงๆมี 6 สีนี้ก็แต่งได้หลายลุคแล้วนะ

แบบใสๆ น่ารักกรุบกริบ ไปจนแบบเข้มๆสโมคกี้อายไปอีก คือครบอะ

เราถือไปเที่ยวนี่คือ แต่งได้หลายลุคอยู่นะ 555

แต่ Swatch ที่เห็นนี่คือพวกสีอ่อนๆปาดหลายครั้งอยู่น้า

คือ pigment ไม่ได้ชัดขนาดปาดครั้งเดียวชัดเลย ( ยกเว้นสีเข้ม )

แต่เราว่าเนื้อก็โอน้า เนื้อนุ่ม ไม่เป็นฝุ่นมาก ไม่ค่อยร่วง ติดทนดี

เสียอย่าง เราไม่แน่ใจว่ามันคือรุ่นอะไร 55555

จริงๆลองเอาไปเสิร์ชแล้ว เห็นว่าเป็นรุ่น Ombre Matte น้า

แต่มันมีเนื้อชิมเมอร์ด้วยนะ งงเบาๆ 555

เย้ จบแล้วจ้าาาา

ยาวมากกก อีกแล้ว 555

อุตส่าห์นึกว่าจะเขียนสั้นๆ เขียนทีไร ยาวทุกที 555

ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านจนจบมากน้า

มีใครชอบอะไรใช้อะไรก็แชร์กันมั่ง เผื่อจะลองซื้อมาใช้ตามบ้าง

ถ้ามีอะไรจะพูดคุยสอบถามก็เม้นท์ได้เลยน้าาา ><

ไปละจ้าาา บ้ายบายยย