#ชวนใช้ - Innisfree The Green Tea Seed Serum & It’s Skin Power 10 Formula GF Effector

ทำไมถึงมาชวนใช้?

เพราะว่าแน่ใจมากแล้วจริงๆค่ะว่าดี และถ้าใครมีปัญหาแบบเราก็ควรมีเด้อออ

- พื้นเพหน้าเราเป็นคนผิวมันขาดน้ำ และเป็นสิวง่ายนะคะ -

มาพูดถึงตัวแรกกันก่อน

"Innisfree The Green Tea Seed Serum"

(ขนาด80ml. ราคาช็อปไทย 1,000 บาท)

คำเคลมจากเว็บของแบรนด์คือ

"Dual Moisture-Rising Technology™จากใบชาเขียวและน้ำมันเมล็ดชาเขียว

สารสกัดจากใบชาเขียวสดใหม่ที่จะช่วยเติมเต็มน้ำให้ผิวของคุณอย่างล้ำลึก

และน้ำมันสกัดจากเมล็ดชาเขียวที่จะสร้างเกราะห์กักเก็บความชุ่มชื้น

ให้กับผิวของงคุณอย่างยาวนาน"

ถ้าตอนเราใช้สูตรเก่าเราว่ามันไม่ได้ชุ่มชื่นมากอะไรขนาดนั้นนะ

แต่ไม่รู้ว่าคำเคลมในเว็บอันนี้เปลี่ยนใหม่ตอนปรับสูตรใหม่

ที่ว่าเพิ่มความชุ่มชื่นให้มากขึ้นอีกรึเปล่า

ตอนสูตรเก่าเราใช้ไปทั้งหมด2ขวดค่ะแล้วก็หยุดใช้ไป

ไปซื้อสูตรขวดสีน้ำเงินที่ให้เลือกผสมสูตรเซรั่มเองมาใช้

ตอนที่ใช้ก็ไม่รู้สึกว่ามันดียังไงนะคะ จนเข้าขวดที่2

เพื่อนเริ่มทักว่ารอยสิวมันจางลงเยอะนะ ปกติแต่งหน้าก็จะยังเห็นค่ะ

เพราะไม่ได้ลงคอนซีลเล่อกลบอะไร หน้ามันก็มันเป็นปกติ

ขาวใสอะไรมันก็ไม่ได้ช่วยอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่กลุ่มวิตามินซีเนาะ

อ่าว แล้วมันน่าใช้ตามตรงไหน...

อย่างที่บอกไปแหละค่ะว่าหยุดใช้นางไปประมาณ4เดือนได้

เพราะด้วยความไม่รู้ว่ามันดียังไงนั่นแหละค่ะเลยคิดว่าหยุดใช้ก็คงไม่ต่างอะไร

ค่ะ.. แล้วความฉิ_หายก็มาเยือน

เราเริ่มสิวขึ้นง่ายกว่าปกติ ยิ่งช่วงมีรอบเดือนคือเหมือนมีงานคืนสู่เหย้า

สิวมามากกว่าหนึ่งอ่ะค่ะ สิวขึ้นง่ายเบอร์ที่แบบแต่งหน้าวันนี้

พอตกกลางคืนเริ่มมีนูนๆแล้ว ทั้งๆที่สำลี คลีนซิ่ง โฟมล้างหน้าใช้ปกติ

เป็นสัญญาณว่าผิวอ่อนแอมากแล้ววววว

แต่มีสมมติฐานร่วมก็คือช่วงนั้นไม่ได้เลือกกิน นอนไม่เป็นเวลา

กินน้ำน้อย ซึ่งน่าจะมีส่วนอย่างมาก!!!

แต่ช่วงที่ใช้เจ้าตัวนี้ก็มีช่วงปล่อยตัวแบบนี้นะคะ

แต่มันก็ไม่ยักเจอปัญหาผิวแบบนี้เลยอ่า y - y ก็เลยได้รู้ซึ้งค่ะ

ว่าเจ้าเซรั่มตัวนี้มันดียังไง เลยเพิ่งไปซื้อมาใช้ไม่นานนี้ค่ะ

ตัวใหม่ชุ่มชื้นขึ้นจริงๆนะคะเค้าไม่หลอก5555555 แต่ซึมไวเหมือนเดิม

เหมาะกับคนผิวมันมากเลยล่ะค่ะ

คะแนน 4.9/5

ยิ่งสูตรใหม่เพิ่มความชุ่มชื้นมาก็ไม่รู้จะหักอะไร

แต่ขอไว้0.1แล้วกันค่ะเรื่องว่าต้องใช้เวลาอดทนกับเค้าหน่อยถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดมากๆสำหรับเรา

ตัวถัดมาก็คือ

"It’s Skin Power 10 Formula GF Effector"

(ขนาด30ml. ราคาช็อปไทย 690 บาท

แต่ที่เราซื้อมาคือขนาด60ml.นะคะ ลืมราคาไปแล้วฮือ)

คำเคลมจากเว็บๆนึงก็คือ

แอมพู(เซรั่ม)เข้มข้นที่เน้นให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหน้า
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้า และฟื้นฟูผิวที่เสียหายให้กลับมาเปลั่งปลั่งสุขภาพดีอีกครั้ง
เนื้อเซรั่มบางเบาแต่สามารถให้ความชุ่มชื่นได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและบอบบางมาก เช่น หลังทำเลเซอร์ หรือหลังรักษาผิวหน้า
เติมเต็มความชุ่มชื่นผิวด้วย ไบโอ-เบส พอลิเมอร์ และสารสกัดจากเห็ดไมตาเกะ ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงผิว และช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี
เป็นผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มความชุ่มชื่นทีดี
เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ และในช่วงที่พักผ่อนน้อย

วะะะะะ
มันจะอะไรขนาดนั้นนน

แต่สารภาพตามตรงค่ะว่าตอนซื้อไม่ได้ดูรีวิวตัวนี้เลย ไปดูอีกตัวนึง555555
ซึ่งถ้าเห็นผลว่าตัวนั้นดียังไงชัดกว่านี้จะเอามาชวนใช้กันนะคะ
ซื้อมาเพราะพี่บีเอสาขาเซนทรัลเวสเกตสิงค่ะ ไม่ได้สิงเราหรอก สิงพี่สาวเรา
พี่หันมาถามเราว่าเอามั้ยๆเราก็เออๆออๆ แต่คนใช้ก็คือเราค่ะ เอ๋า

ใช้ไปครบอาอาทิตย์นึงแล้วล่ะค่ะแล้วถึงมาหาว่ามันช่วยอะไร
แล้วก็รู้สึกว่าจริงตามคำเคลม!!!! มันซึมช้ากว่าตัวอื่นแหละค่ะ
เราเอาไว้ลงหลังสุด แล้วก็ไม่ได้ลงสกินแคร์พวกเนื้อครีมข้นๆอะไรต่อ
เราอยู่ห้องแอร์ตลอดทั้งวันทั้งคืนค่ะ แต่ตอนจับหน้ามันไม่รู้สึกว่า
หน้าสากๆแห้งๆแบบที่เคยเป็น หน้ามันนิ่มแต่จับแล้วเหมือนจะหนืดๆหน้า
แต่ไม่มีอะไรติดมือมานะคะ
ส่วนเรื่องความมันบริเวณT-ZONEก็น้อยลงกว่าปกติประมาณนึง
แต่ไม่ได้แบบว้าวมากกับผลลัพธ์ขนาดนั้น
แต่เราว่าลงตอนเช้าก่อนแต่งหน้าคงไม่เหมาะ
มันซึมช้าอะเดี๋ยวรองพื้นไหลเอาไว้ลงเฉพาะกลางคืนแล้วกันค่ะ55555555
เอ้อ เค้ามีกลิ่นหอมๆด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่ามีน้ำหอมอะไรหนักหนามั้ย แต่เราชอบนะ