BAI YUN
vodca 0 33
แนะนำเลยว่า ถ้าชอบดูวิวสวยๆ ของ กทม ต้องมาตึกนี้ แม้จะหรูน้อยกว่า Sirrocco แต่กูรูท่านว่า work กว่าเห็นๆ เพราะเห็นวิวด้านนึงเป็นสวนลุม อีกด้านเป็นแม่น้ำจนไปสุดลูกหูลูกตาค่ะ และอาหาร เครื่องดื่มไม่แพงเกินเหตุด้วยจ้า ไปดูกันว่า วันนี้พาไปหม่ำอะไรกันบ้าง
ต้องบอกสาเหตุที่มาก่อนว่า ของป้าพริ้งวันนี้ ท่านเป็นผู้มีอันจะกินหน้าตาดี ท่านได้บัตรนี้มาเพราะเป็นสมาชิกอะไรซักอย่างของที่นั่น จึงมาชวนเราไปเดทวันนี้แหละฮร๊า
ร้านนี้มีนามว่า “BAI YUN” ซึ่งแปลว่า ก้อนเมฆ
LOCATION
ตั้งอยู่ที่ชั้น 60 ของ โรงแรม Banyantree Bangkok
21/100 ถนนสาธรใต้ กรุงเทพ 10120
เปิดบริการเวลา 11.30-14.30,18.30-23.00
Tel 02 - 6791200
บอก ก่อนว่า ถ้าใครมาจากเส้น ถ. พระราม 4 เนี่ย พอเลี้ยวมาแล้วแค่ซัก 300 ม ให้ชิดซ้ายเลย แล้วต้องมองป้ายดีๆ เดี๋ยวเลยค่ะ ที่จอดรถต้องวนหลายชั้นมากกว่าจะจอดได้ เหนื่อยนิดหน่อย แต่เห็นบัตรจอดรถแล้ว ตกใจแบบแทบสิ้นสติ ก็คือว่า ถ้าไม่stamp ตราโรงแรม คิดค่าที่จอดรถ 200 บาท/ 1 ชม แต่ถ้ามี stamp คิดค่าที่จอดรถ 50 บาท/ 1 ชม โอ้ววว สงสัยค่าที่ดินแถวนั้นจะแพงมั่กมาก แต่สุดท้ายเราไม่เสียซักบาทค่ะ เพราะมาทานอาหารในโรงแรม
ตัดกลับมา เข้าเรื่องเลยดีกว่า ..ว่าแล้วเราก็ขึ้นlift กดไปที่ชั้น 60 กว่ากันเลยทีเดียว เล่นเอาหูอื้อไปหลายวินาที แต่ lift เร็วปรื๊ดมากค่ะ
ATMOSPHERE
สไตล์ จักรรรดิ์จีนร่วมสมัยที่มีความหรูหรา สง่างามแฝงความสบายและเป็นกันเองภายใต้คอนเซ็ปโทนสีเงินและแดงเบอร์กันดี้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์สวยหรูดูมีเสน่ห์ ขอเชิญทุกท่านมาเลือกลิ้มลองสุดยอดเมนูสุดยอดเมนูอาหารจีนกวางตุ้งที่ได้รับ รางวัลจากหลายสถาบันหาอาหารชั้นนำ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกบนตึกระฟ้าใจกลางมหานครกรุงเทพฯ
คำโปรยจาก
ขึ้น มาถึงชั้น 60 ปั๊บ ก็เจอน้องพนักงานยิ้มแย้ม บอกว่า ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 1 ชั้นนะคะ ถึงจะถึงร้าน ก็เดินขึ้นไปกันค่ะ พอขึ้นไปถึง กรี๊ดดดดด วิวสวยมากจริงๆ กรี๊ดกะวิวมาก จนการตกแต่งร้านที่เค้าก็ใช้ได้ เรามิค่อยได้สนใจดูเลยค่ะ เนื่องจาก วิวด้านนอกสวยงามกว่าตั้งเยอะ กรี๊ดๆๆๆ
และ เนื่องจากวันที่ไปโชคดีมากกกก ฟ้าใส เพราะฝนตกก่อนหน้านั้น กลบฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศของกรุงเทพซะ มิดเลยล่ะ เลยทำให้เห็นวิวชัดใสยิ่งขึ้น เห็นวิวแบบนี้ ที่มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาแล้วสบายใจดีจ้ะ
“BAIYUN” ในภาษาจีน แปลว่า ก้อนเมฆ คิดว่า คนตั้งชื่อคงคิดว่าร้านนี้ขายอาหารจีน และตั้งอยู่สูงเสียดฟ้าแบบนี้ เลยตั้งชื่อแบบนี้ แล้วการตกแต่งทั้งร้าน ก็จะมีไอ้เจ้าก้อนเมฆลอยไปลอยมาอยู่ทั้งที่หมอนอิง เมนู หรือเสา ชอบจังเลยยยย น่ารักมาก ไอ้ลายเมฆแบบจีนๆเนี่ย
มี บอกว่า ไม่ชอบเก้าอี้ของที่นี่ ที่พนักสูงแล้วบังวิว จริงๆ เรามองว่า มันเป็นวิธีการมองวิวอีกวิธีนึง ที่สวยงามไปอีกแบบ ไม่เชื่อดูรูปได้ แต่แอบบอกนิดนึงว่า เก้าอี้สวยมาก ถ่ายรูปออกมางามงด แต่ว่า นั่งไม่สบายนะ
ต้องบอกสาเหตุที่มาก่อนว่า ของป้าพริ้งวันนี้ ท่านเป็นผู้มีอันจะกินหน้าตาดี ท่านได้บัตรนี้มาเพราะเป็นสมาชิกอะไรซักอย่างของที่นั่น จึงมาชวนเราไปเดทวันนี้แหละฮร๊า
ร้านนี้มีนามว่า “BAI YUN” ซึ่งแปลว่า ก้อนเมฆ
LOCATION
ตั้งอยู่ที่ชั้น 60 ของ โรงแรม Banyantree Bangkok
21/100 ถนนสาธรใต้ กรุงเทพ 10120
เปิดบริการเวลา 11.30-14.30,18.30-23.00
Tel 02 - 6791200
บอก ก่อนว่า ถ้าใครมาจากเส้น ถ. พระราม 4 เนี่ย พอเลี้ยวมาแล้วแค่ซัก 300 ม ให้ชิดซ้ายเลย แล้วต้องมองป้ายดีๆ เดี๋ยวเลยค่ะ ที่จอดรถต้องวนหลายชั้นมากกว่าจะจอดได้ เหนื่อยนิดหน่อย แต่เห็นบัตรจอดรถแล้ว ตกใจแบบแทบสิ้นสติ ก็คือว่า ถ้าไม่stamp ตราโรงแรม คิดค่าที่จอดรถ 200 บาท/ 1 ชม แต่ถ้ามี stamp คิดค่าที่จอดรถ 50 บาท/ 1 ชม โอ้ววว สงสัยค่าที่ดินแถวนั้นจะแพงมั่กมาก แต่สุดท้ายเราไม่เสียซักบาทค่ะ เพราะมาทานอาหารในโรงแรม
ตัดกลับมา เข้าเรื่องเลยดีกว่า ..ว่าแล้วเราก็ขึ้นlift กดไปที่ชั้น 60 กว่ากันเลยทีเดียว เล่นเอาหูอื้อไปหลายวินาที แต่ lift เร็วปรื๊ดมากค่ะ
ATMOSPHERE
สไตล์ จักรรรดิ์จีนร่วมสมัยที่มีความหรูหรา สง่างามแฝงความสบายและเป็นกันเองภายใต้คอนเซ็ปโทนสีเงินและแดงเบอร์กันดี้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์สวยหรูดูมีเสน่ห์ ขอเชิญทุกท่านมาเลือกลิ้มลองสุดยอดเมนูสุดยอดเมนูอาหารจีนกวางตุ้งที่ได้รับ รางวัลจากหลายสถาบันหาอาหารชั้นนำ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกบนตึกระฟ้าใจกลางมหานครกรุงเทพฯ
คำโปรยจาก
ขึ้น มาถึงชั้น 60 ปั๊บ ก็เจอน้องพนักงานยิ้มแย้ม บอกว่า ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 1 ชั้นนะคะ ถึงจะถึงร้าน ก็เดินขึ้นไปกันค่ะ พอขึ้นไปถึง กรี๊ดดดดด วิวสวยมากจริงๆ กรี๊ดกะวิวมาก จนการตกแต่งร้านที่เค้าก็ใช้ได้ เรามิค่อยได้สนใจดูเลยค่ะ เนื่องจาก วิวด้านนอกสวยงามกว่าตั้งเยอะ กรี๊ดๆๆๆ
และ เนื่องจากวันที่ไปโชคดีมากกกก ฟ้าใส เพราะฝนตกก่อนหน้านั้น กลบฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศของกรุงเทพซะ มิดเลยล่ะ เลยทำให้เห็นวิวชัดใสยิ่งขึ้น เห็นวิวแบบนี้ ที่มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาแล้วสบายใจดีจ้ะ
“BAIYUN” ในภาษาจีน แปลว่า ก้อนเมฆ คิดว่า คนตั้งชื่อคงคิดว่าร้านนี้ขายอาหารจีน และตั้งอยู่สูงเสียดฟ้าแบบนี้ เลยตั้งชื่อแบบนี้ แล้วการตกแต่งทั้งร้าน ก็จะมีไอ้เจ้าก้อนเมฆลอยไปลอยมาอยู่ทั้งที่หมอนอิง เมนู หรือเสา ชอบจังเลยยยย น่ารักมาก ไอ้ลายเมฆแบบจีนๆเนี่ย
มี บอกว่า ไม่ชอบเก้าอี้ของที่นี่ ที่พนักสูงแล้วบังวิว จริงๆ เรามองว่า มันเป็นวิธีการมองวิวอีกวิธีนึง ที่สวยงามไปอีกแบบ ไม่เชื่อดูรูปได้ แต่แอบบอกนิดนึงว่า เก้าอี้สวยมาก ถ่ายรูปออกมางามงด แต่ว่า นั่งไม่สบายนะ
FOOD
สำหรับ อาหารที่นี่เป็นอร่อยแบบเรียบง่าย เน้นคุณภาพวัตถุดิบมากกว่าที่อื่น และปรุงรสแบบอ่อน ไม่รสจัดแบบที่อื่น ก็นะเป็นติ่มซำซะส่วนใหญ่ (ที่นี่มื้อกลางวันจะเป็น Dimsum Buffet) และ ที่สำคัญรู้สึกว่า ที่นี่เค้ามีสูตรอาหาร หรือเมนูบางอย่างที่เค้าคิดเองหลายเมนูด้วยกัน เราก็เลยชอบเลยล่ะ
เริ่มต้นมาด้วยของBasic ซึ่งควรจะเริ่มสั่งเพื่อtest ก่อนว่า ร้านนี้เค้าทำรสประมาณไหน โดยที่เราเลือกจานที่เรากินอยู่ประจำเวลาที่เราไปกินติ่มซำที่อื่นๆ ซึ่งล๊อตแรกที่สั่งมามี 4จาน คือ ฮะเก๋า ขนมจีบปู ซาลาเปานมสด กับจานที่ไม่ธรรมดา 1 จาน คือ ปลาแซลม่อนซอสอะไรซักอย่าง
ขนมจีบปู โรยหน้าด้วยไข่กุ้งมาสวยงาม กินเข้าไปรสชาติปูแบบเน้นๆ ในเป็นวิญญาณปูแบบที่อื่น แป้งก็บางกำลังดี แถมไข่กุ้งกรุบๆเวลาเคี้ยว คิดถึงแล้วน้ำลายไหลขึ้นมาอีกรอบ ให้ A++++
ฮะเก๋า กุ้งเป็นกุ้ง และสด แต่ความหนึบของแป้ง หรือรสชาติเราว่างั้นๆ
ซาลาเปานมสด จานนี้เราไม่เคยเห็นที่อื่น แต่คนอื่นอาจจะเคยเห็นนะคะ คิดว่าเป็น สูตรของทางร้านเอง ไส้ครีมหวานๆ เนื้อแป้งซะลาเปาจะเป็นเมือกๆ เหนียวๆ และเหลือง หน้าตาอาจจะไม่ค่อยหน้าทานสำหรับบางคน แต่สำหรับเรา เราว่ามันหร่อยมากๆ เหมาะกะตบเป็นของหวานท้ายๆ ติ่มซำ อร่อยจังอยากกินอีกกกก ให้ A++
ปลาแซลม่อนซอสอะไรซักอย่าง (ขอโทษจริงๆค่ะที่จำชื่อไม่ได้ ก็ชื่อมันไฮโซวขนาดนั้น) เป็นปลาแซลม่อน ชิ้นโต ปรุงสุกมาอยู่ภายใต้ซอสออกเค็มๆ หอมผักที่โรยมาด้านหน้า
ฮะเก๋า
ขนมจีบปู
ซาลาเปานมสด
แซลม่อนซอสอะไรซักอย่าง
ชุด ที่ 2 ที่สั่งมาจะเป็น เผือกทอด ปลาหิมะหน้าเต้าหู้ ขนมจีบหอยเชลล์ สาหร่ายไส้กุ้งซอสกระเทียม และปลาหิมะ มาดูกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง
เผือกทอด ไม่เหม็นน้ำมัน แถมไส้ข้างในยังพิเศษกว่าที่อื่น เพราะเป็นซุปข้าวโพดเลย ออกรสชาติและกลิ่นข้าวโพดชัดเจนมาก เราว่ารสชาติไส้ก็งั้นๆ รสชาติเผือกที่หุ้มด้านนอกพอโอเคกินได้ แต่ก็เคยกินอร่อยกว่านี้มาแล้วอ่ะ
ปลาหิมะหน้าเต้าหู้ จานนี้อร่อยแบบเรียบร้อยไปนิด สำหรับเรารอดตรงความสดของปลา แต่รสจืดไปอ่าดิ่ แต่ก็นะ ปลาหิมะไปสั่งทำเป็นจานๆ ก็คงไม่ต้องกินข้าวไปอีกหลายวัน นานๆได้กินแบบนิดๆหน่อยๆ แบบนี้ก็อร่อยไปอีกแบบ
ขนมจีบหอยเชลล์ กรี๊ดดดดดดดด อันนี้ก็เป็นเมนูที่ไม่เคยเห็นที่อื่นอีกเช่นกัน แล้วเค้าโรยปลาแห้งมาบนหน้าด้วยยย แงะออกมาดูเห็นหอยเชลล์ตัวโข่งอยู่ในก้อนขนมจีบบบ จิ้มน้ำจิ้มซักนิดนึง กัดในปากเคี้ยวได้แบบเด้งๆ หนึบๆเลยล่ะ ชอบๆๆ อยากกินอีกเลยให้ A+++
สาหร่ายไส้กุ้งซอสกระเทียม เป็นอีกเมนูที่เราว่า เฉยๆ แต่ถ้าคนชอบกระเทียม และกลิ่นของมันคงชอบ เพราะปรุงซอสมาได้รสจัด และ กลิ่นกระเทียมหอมอบอวล เอ... จะว่าไปจานนี้ไม่เหมาะกะการสั่งเวลาไปเดทเท่าไหร่ เพราะว่า กินแล้วปากเหม็นอ่ะดิ่
จานรองสุดท้าย สุดยอดประทับใจ อีก 1 จาน คือ ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู เป็นแป้งเส้นบาง ห่อด้านในด้วยอะไรไม่รู้อ่ะ แต่รสชาติกรอบนิดๆ (คาดว่าเจ้าสิ่งนั้นต้องเอาไปทอดมาก่อน) เนื้อปูคลุกเคล้าน้ำที่ราดว่า เค็มนิดๆ ทานคู่กะผักเคียงมาให้ อร่อยยยยยมาก อยากไปทานรอบสอง แล้วไปแหวกดูว่าเค้าใส่อะไร ตอนนั้นอร่อยแบบลืมตาย ลืมสิ้นทุกสิ่ง ให้ A+++
เผือกทอด
ปลาหิมะหน้าเต้าหู้
ขนมจีบหอยเชลล์
สาหร่ายไส้กุ้งซอสกระเทียม
ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู
หลัง จากนั้นน้องพนักงานก็เดินมาถามด้วยความสุภาพสุดๆว่า จะสั่งซุปอะไร (แอบสงสัยว่าครัวจะปิด) เราเลยสั่งซุปข้นหมูสับ ส่วนคุณชายสั่งซุปไก่ ... แต่ลืมถ่ายรูปซุปไก่มา ขอรีวิวแต่ ซุปข้นหมูสับ ว่า ไม่อร่อยอ่า เพราะว่ามากินตอนอิ่มแล้วด้วย แล้วซุปมันข้นๆเหมือนราดหน้าเลยล่ะ เหนียวคอมากกกกก แต่หลังจากจิบซุปไปนิดเดียวจริงๆ ก็ตามมาด้วยของหวาน คือ ผลไม้ ที่เรียงมาอย่างสวยงามตามที่เห็นจ้า
ซุปข้นหมูสับ
ผลไม้
SERVICE
อ้อ ชอบที่พนักงานผู้หญิงใส่กี่เพ้าสีแดง สมเป็นห้องอาหารจีนน่ารักดี แต่ว่าพนักงานบางคนเนี่ย เรียกมาถามส่วนประกอบก็บอกไม่ได้ จดเป็นอย่างเดียว ท่าทางเหมือนเด็กฝึกงาน หรือไม่ก็พนักงานของห้องอาหารอื่น แต่ต้องมาช่วยที่นี่มากเลยอ่ะ -*- แต่บริการอย่างอื่นก็ยิ้มแย้มดีนะ เรื่องเซอร์วิส น้ำเติมตลอด ก็ต้องน่าจะได้แหละ เสียค่า service charge ราคาแพง หุหุ
VALUE
ราคา เต็มถ้าต้องจ่ายเอง คือ 700 บาท ++ ซึ่งยังไม่รวมค่าน้ำที่เค้าแยกต่างหากออกจาก BUFFET รวมแล้วหารออกมาตกหัวละ 900 กว่าๆ ซึ่งถ้าจะให้คิดเป็นค่าอาหารจริงๆ เราว่า ค่าอาหารน่ะ แค่ 550 บาท ที่เหลือเนี่ย เป็นค่าชมวิวชั้นที่ 60 น่ะจ้า จะว่าคุ้มไหม ก็คุ้มนะ สำหรับคนที่อยากชมวิวด้วย+ทานอาหารในราคาไม่แพงมากๆๆ ที่อื่นได้ชมวิวด้วยแต่แพงกว่ามากกกก เลย แต่ถ้าคนชอบกินอย่างเดียว แนะว่าให้ไปที่อื่นดีกว่า
DRESS CODE
ร้านนี้ค่อนข้างหรู เลยค่ะ ออกแนวไปนั่งกินต้องนั่งเชิดเล็กน้อย ควรจะแต่งตัวให้สวยเริศไปเลยค่ะ แต่ถ้าไปกลางวันอย่างเราก็อย่าวิบวับมากนัก แต่ถ้าจะวิบวับก็ไม่แปลกเลยค่ะ รองเท้าอย่าลืมรองเท้าหุ้มส้นนะคะ จะได้ดูสุภาพหน่อย และอย่าใส่กี่เพ้าไปล่ะ เดี๋ยวโต๊ะอื่นจะนึกว่า เป็นพนักงาน : P
REFERENCE :