Review เปิดกรุมาสก์หน้าประจำครึ่งปี 2018 ตัวไหนปัง ตัวไหนพัง มีทั้งถูก ทั้งแพงและ DIY

สวัสดีค่ะ เมื่อไม่นานมานี้เรามีความบ้า (เห่อ) มาสก์หน้ามากเพราะเป็นชะนีที่กำลังเข้าวัยเลข 3 ที่รู้สึกว่าทั้งความผิวแห้ง ทั้งริ้วรอยก็เริ่มนัดกันมา ฮือออ T_T

เราเคยไปอ่านเจอมาว่ามีคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่มาสก์หน้าทุกวัน ทำให้ผิวดูเด็กกว่าอายุจริงเป็น 20 ปี! โอ้ววว แบบนี้จะต้องลองดูกันหน่อยแล้วค่ะว่าการมาสก์หน้าทุกวันจะช่วยกู้หน้าชะนีวัยเลข 3 ได้รึเปล่า และก็นี่เลยค่ะ มาสก์ 14 ตัว คลังแสงย่อมๆของเราเองค่ะ

มาเริ่มกันที่มาสก์แบบต้องล้างออกกันก่อนนะคะ

1. Rose Face Mask จาก Fresh
จุดเด่น: เป็นมาสก์กุหลาบที่มีกลีบกุหลาบจริงๆผสมอยู่ด้วยค่ะ เนื้อสัมผัสจะเป็นเหมือนเจลเพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ด้วย

ความรู้สึกแรก: ทาแล้วจะรู้สึกเย็นๆผิว หอมกลิ่นกุหลาบ ผ่อนคลายดีค่ะ

ผลที่ได้: รู้สึกได้ว่าผิวชุ่มชื่น ดูสุขภาพดีขึ้น สำหรับเราช่วยให้สิวอักเสบน้อยลงด้วยค่ะ

ราคา: 30 มล. 980 บาท

คะแนน: ตัวนี้ให้ 10/10 เต็มไปเลยค่ะ ถึงแม้ว่าแอบแพงไปหน่อย แต่ถือว่าเหมาะกับการกู้หน้าชะนีวัยเลข 3 ที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้ง สิวและริ้วรอยค่ะ

2. Vitamin Nectar Vibrancy Boosting Face Mask
จุดเด่น: เป็นมาสก์ที่มีเนื้อผลไม้จริงๆกว่า 50% เลยค่ะ น่ากินเหมือนแยมส้มเบย ฮ่าๆๆ ซึ่งแน่นอนว่าเน้นในเรื่องของความกระจ่างใส

ความรู้สึกแรก: กลิ่นส้มหอมสดชื่นมากกก

ผลที่ได้: ผิวกระจ่างใสขึ้น เปลือกส้มเล็กๆให้อารมย์เหมือนได้สครับผิวหน้าไปในตัว

ราคา: 30 มล. 900 กว่าบาท

คะแนน: 9/10 ตัวนี้ก็ชอบน๊า แต่ขอหักตรงที่ราคาแรงไปนี๊สนึง

3. Lotus Youth Preserve Rescue Mask
จุดเด่น: เป็นมาสก์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นดอกบัวกับสาหร่าย เคลมว่าเป้นมาสก์ที่ช่วยฟื้นฟูกู้ผิวภายใน 5 นาที

ความรู้สึกแรก: เราชอบกลิ่นหอมผ่อนคลายสไตล์เฟรช ตัวนี้จะเป็นกลิ่นดอกบัวหลวงเลยค่ะ แล้วก็จะมีเกล็ดสาหร่ายให้สครับผิวด้วย

ผลที่ได้: ผิวดูไบรท์ขึ้น 1 สเต็ป แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็เหมือนเดิมค่ะ ฮ่าๆ

ราคา: 15 มล. 480 บาท อันนี้เราซื้อไซส์ทดลองมาค่ะ เพราะขนาดจริง 100 มล. ราคา 2,700 บาท พี่สู้ไม่ไหวจริงๆค่ะ

คะแนน: 7/10 เรารู้สึกว่าผลที่ได้ยังไม่คุ้มกับราคาเท่าไหร่นะคะ

4. มาสก์มะขาม เขาค้อทะเลภู
จุดเด่น: มาสก์มะขามเนื้อละเอียดที่มีสมุนไพรอื่นๆผสมด้วย ซึ่งแน่นอนว่าช่วยเรื่องความกระจ่างใส

ความรู้สึกแรก: กลิ่นโอเคไม่สมุนไรจ๋า มาเป็นถ้วยเล็กๆ ใช้ง่ายดีค่ะ ซึ่งความมะขามก็จะแอบผิวยิบๆนิดหน่อย

ผลที่ได้: สำหรับเราอันนี้คือดีงามพระราม 8 9 10 มากค่ะ เพราะใช้แล้วรู้สึกว่านอกจากความกระจ่างใสแล้ว ผิวก็นุ่ม เนียนขึ้นด้วยค่ะ

ราคา: 25 บาท รู้สึกว่าคุ้มค่ามาก เพราะเราแบ่งใช้ได้ตั้ง 2 ครั้งแน่ะ แถมหาซื้อง่ายด้วยค่ะ เพื่อความคุ้มกว่าเราก็ไปสั่งซื้อในเพจเขาค้อทะเลภูมาเป็นกล่องแบบครึ่งโหลเลยค่ะ เฉลี่ยเหลืออันละประมาณ 23 บาทกว่าๆ มาสก์กันให้หนำใจไปเล้ยยย

คะแนน: 10/10 แน่นอนค่ะ ถูกและดีงามขนาดนี้ แถมเป็นธรรมชาติด้วย ทางแบรนด์เคลมว่าไม่ใส่สารกันเสียด้วยนะเนี่ย

มาต่อกันที่มาสก์แบบที่สอง "สลีปปิ้งมาก์" 

5. Black Tea Firming Overnight Mask
จุดเด่น: ช่วยให้ผิวเฟิร์ม กระชับขึ้น

ความรู้สึกแรก: กลิ่นหอม เนื้อครีมข้นๆหน่อย

ผลที่ได้: เราไม่ได้รู้สึกถึงความกระชับเท่าไหร่นะคะ แต่ได้ในเรื่องของความชุ่มชื่นมากกว่า แต่เนื้อครีมก็ไม่ได้ซึมเข้าผิว เหมือนจะเคลือบๆอยู่มากกว่าค่ะ เพราะตื่นมาแล้วหน้าจะมันๆหน่อย เราว่าตัวนี้จะเหมาะมากถ้าใช้ในที่ที่อากาศหนาวๆ

ราคา: อันนี้ซื้อมาเป็นเซ็ตพร้อมอย่างอื่นอีก 2 ตัว ถ้าซื้อแยกเป็นไซส์เล็กขนาดนี้ราคาน่าจะ 400 กว่าๆค่ะ

คะแนน: 7/10 ค่ะ เพราะยังไม่ค่อยโอเคกับราคาและผลที่ได้เท่าไหร่ค่ะ

6. Tea Tree Imperfection Night Mask จาก The Body Shop
จุดเด่น: ช่วยลดความมัน ลดสิว

ความรู้สึกแรก: เย็นๆ กลิ่นหอมทีทรี เนื้อเกือบๆจะเป็นเจล

ผลที่ได้: ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ นอกจากความเย็นของทีทรี เรื่องสิวก็ไม่ได้เห็นผลเท่าไหร่ อีกอย่างเราว่านางไม่เหมาะเป็นสลีปปิ้งมาสก์ด้วยค่ะ เพราะทาทิ้งไว้แล้วมันเหนียวๆ มีความเลอะ ติดผม ติดหมอน แถมล้างออกยากอีกค่ะ ตอนหลังเราเลยมาสก์ไว้แค่ 20-30 นาทีแล้วล้างออก ก็ยังล้างออกยากอยู่ดี

ราคา: 75 มล. 850 บาท (ดีนะที่เราซื้อมาตอนลด 50% เลยจ่ายไปแค่ 400 กว่าบาท)

คะแนน: ให้ 5/10 แล้วกันค่ะ 

7. Rosense Moisturising Mask
จุดเด่น: ช่วยเติมความชุ่มชื่น เป็นมาสก์ที่มีส่วนผสมของดอกกุหลาบ แตงกวาและดอกคาโมมายล์ซึ่งเคลมว่าช่วยลดการระคายเคือง สิวผดอะไรแบบนี้ได้ด้วยค่ะ

ความรู้สึกแรก: เนื้อครีมแบบเจลสีขาวขุ่น ใช้ง่ายเหมือนครีมทั่วๆไป กลิ่นหอมผ่อนคลายดีค่ะ (เค้าเคลมว่าเป็นกลิ่นดอกคาโมมายล์ช่วยให้หลับสบายด้วยนะคะ)

ผลที่ได้: ตื่นมาแล้วเนื้อมาสก์ซึมเข้าผิวไปหมดเลย ผิวดูชุ่มชื่นชื่นขึ้น นุ่นและเนียนขึ้นด้วยค่ะ นางแอบมีส่วนช่วยให้สิวเราอักเสบน้อยลงด้วยค่ะ (น่าจะเป็นเพราะดอกกุหลาบเหมือนมาสก์ของ Fresh)

ราคา: 100 มล. 690 บาท  ถือว่าคุ้มเกินราคามากเลยค่ะ เพราะหลอดขนาดนี้ใช้ได้นานหลายเดือนเหมือนกันค่ะ ตอนนี้เราเอามาใช้ทาแทนครีมกลางคืนไปเลยค่ะ

คะแนน: 10/10 ไปเลยจ้า ดีและราคาน่ารักแบบนี้

มาที่มาสก์แบบแผ่นกันบ้างค่ะ 

8. Lululun Lavender
จุดเด่น: ช่วยเติมความชุ่มชื่น ลดการอักเสบของสิว ลดความมัน

ความรู้สึกแรก: หอมกลิ่นลาเวนเดอร์ ผ่อนคลายดีค่ะ แต่ทำช่องสำหรับตาและปากเล็กไปหน่อยนะคะ ทั้งที่เราก็ไม่ได้ตาโตอะไร

ผลที่ได้: สำหรับเราได้แค่ความชุ่มชื่นและผ่อนคลายค่ะ เรื่องสิวเราไม่รู้สึกว่าได้ผลเท่าไหร่ค่ะ 

ราคา: 7 แผ่น 195 บาท

คะแนน: 8/10 

9. Lululun Tea Flower
จุดเด่น: ปกป้องริ้วรอย ผิวเนียนนุ่ม เปล่งประกาย

ความรู้สึกแรก: กลิ่นเฉยๆค่ะ ไม่ได้ฟีลชาหรืออะไรเท่าไหร่นะ ส่วนเรื่องช่องตากับปากก็เล็กเหมือนเดิม

ผลที่ได้: อันนี้เราแอบเซอร์ไพรส์ เพราะหลังจากมาสก์แล้วตื่นมาคือผิวดูเนียนขึ้น ใสขึ้น และสิวยุบลงด้วยจ้า ถือว่าอันนี้นางทำได้เกินที่เคลมไว้อีกนะเนี่ย

ราคา: 7 แผ่น 195 บาท

คะแนน: 10/10 เต็มไปเลยจ้าา

10. Lululun Citrus Scent
จุดเด่น: ช่วยเติมความชุ่มชื่น กระจ่างใส และสดชื่น
ความรู้สึกแรก: หอมกลิ่นซีตรัส ผ่อนคลายดีค่ะ เอสเซ้นเยอะมาก

ผลที่ได้: สำหรับเราได้แค่ความชุ่มชื่นและผ่อนคลายค่ะ เรื่องอื่นเราไม่รู้สึกว่าได้ผลเท่าไหร่นะคะ

ราคา: 7 แผ่น 400 เยน

คะแนน: 8/10 

11. Lululun Acerola
จุดเด่น: ช่วยเติมความชุ่มชื่น กระจ่างใสและลดริ้วรอย

ความรู้สึกแรก: กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ค่อยโอเคกับช่องปากและตาเหมือนเดิมค่ะ

ผลที่ได้: อันนี้รู้สึกแค่ว่าผิวชุ่มชื่นขึ้นแค่นั้นเองค่ะ อย่างอื่นไม่ได้รู้สึกอะไร เอสเซ้นส์แอบเหนอะๆด้วยค่ะ

ราคา: 7 แผ่น 400 เยน

คะแนน: 8/10 

12. Lululun Hisbicus Scent
จุดเด่น: มีส่วนผสมของดอก Getto ที่เป็นพืชพื้นเมืองของโอกินาว่า ช่วยเติมความชุ่มชื่น ลดการอักเสบของสิว ลดความมัน

ความรู้สึกแรก: เอสเซ้นส์เยอะมากกก แต่เจาะช่องตากับปากมาเล็กเหมือนเดิมเลย

ผลที่ได้: รู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นขึ้น ตื่นเช้ามาผิวดูโกลว์ๆดีค่ะ แต่แอบไม่ชอบตรงความเหนอะๆผิวหลังมาสก์ รู้สึกไม่ค่อยสบายผิว ครั้งหลังที่มาสก์เราจะใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าให้หายเหนอะอีกทีค่ะ

ราคา: 5 แผ่น 1000 กว่าเยน (ไม่ค่อยแน่ใจราคานะคะ)

คะแนน: 9/10 

13. มาสก์ DIY กับน้ำกุหลาบ Rosense
จุดเด่น: ช่วยเติมความชุ่มชื่น กระชับรูขุมขน ให้ผิวดูกระจ่างใส อันนี้ต้องบอกก่อนว่าตั้งใจซื้อน้ำกุหลาบมาใช้เป็นโทนเนอร์ เพราะเค้าเคลมว่าเป็นน้ำกุหลาบ 100% ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ แต่บังเอิญว่าเค้าแถมแผ่นมาสก์หน้ามาให้ใช้กับน้ำกุหลาบด้วย เลยลองซะหน่อยค่ะ

ความรู้สึกแรก: เย็นๆผิว หอมกลิ่นกุหลาบแบบธรรมชาติสุดๆ

ผลที่ได้: อันนี้คือเซอร์ไพรส์มากกกก ไม่คิดว่านางจะดีขนาดนี้ค่ะ ฟีลหลังมาสก์เสร็จ ผิวก็จะดูใสๆ ชุ่มชื่นขึ้น สบายผิวเลยค่ะ เราก็คิดว่านางคงแค่นี้แหละ แต่เปล่าจ้า ตื่นมาสิวยุบด้วย

ราคา: 300 มล. 995 บาท ขวดใหญ่ใช้ได้นานเลยค่ะ ส่วนใหญ่เราจะใช้เป็นโทนเนอร์เช็ดผิว ช่วงไหนเป็นสิวก็หยิบนางมามาสก์ รู้สึกว่าคุ้มมาก

คะแนน: 10/10 ไปเลยจ้ากับการเหนือความคาดหมายของนาง แล้วไว้วันหลังเราจะมาแชร์วิธีมาสก์หน้ากับน้ำกุหลาบให้ดูกันนะคะ

อันสุดท้ายเป็นมาสก์แบบลอกค่ะ

14. Clear Nose Intensive Facial Black Mask Rose Water
จุดเด่น: กำจัดสิวเสี้ยน ทำความสะอาดได้ล้ำลึก และช่วยให้ผิวกระจ่างใส

ความรู้สึกแรก: เหมือนใช้กาวลาเท็กซ์ทาหน้า ฮ่าๆ นางมีความเหนียวๆและกลิ่นแอบเหมือนกาวอยู่นะคะ ถึงแม้ว่าจะมีกลิ่นกุหลาบบางๆมาให้สัมผัสบ้าง

ผลที่ได้: สิวเสี้ยนหลุดไปเยอะมากกก รู้สึกผิวลื่นขึ้น แอบดูใสขึ้นด้วยค่ะ แต่แอบมีน้ำตาเล็ดตอนลอกเนี่ยแหละ ฮ่าๆ

ราคา: 25 กรัม อันนี้ซื้อมาเป็นเซ็ตพร้อมอย่างอื่นด้วยค่ะ

คะแนน:  9/10 ขอหักเรื่องความเจ็บตอนลอก กับรู้สึกว่าหลอดเล็กไปหน่อยเพราะต้องโบกหนาๆ ไม่งั้นจะลอกยาก

หมดแล้วค่าา มาสก์ทั้ง 14 ตัวของเราที่ใช้วนๆมาตลอดครึ่งปีนี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนจบนะคะ ใครมีตัวไหนแนะนำหรืออยากถามตัวไหนเป็นพิเศษเพิ่มเติมก็คอมเม้นท์ไว้ได้เลยน๊าาา วันนี้ไปก่อนค่าา ม๊วฟฟฟ