สวัสดีสาวๆจีบันทุกคนค่า วันนี้เราจะมาพูดกันว่าด้วยเรื่องความขาวววว
ที่ใครก็ปรารถนากัน
ใครๆก็อยากจะมีผิวที่ขาว กระจ่างใส นวลเนียน กันทุกคน จริงมั้ย

แล้วจะทำยังไง ถ้าเราไม่ได้ผิวขาวแต่กำเนิด
หรือ ไม่มีเงินมากมายพอที่จะไปเข้าคอร์สแพงๆ

ที่ช่วยทำให้เพื่อผิวขาวกระจ่างใส

แน่นอน วิธีที่ง่ายที่สุดในการดูแลผิวของเราให้สวย วิ๊งว้าว
จนผู้ชายเหลียวหลัง ก็คือ การทาโลชั่นนั่นเอง

แหม..พูดมายืดยาว มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
โลชั่นเพื่อผิวขาวที่ขายกันอยู่นั้นมีมากมายเลย
แต่วันนี้เราจะหยิบขึ้นมาพูด3ตัวเด็ดกันค่ะ
ซึ่ง3ตัวนี้ ทุกโพล ต่างเทใจให้อย่างล้นหลาม แต่ตัวไหนหละ จะเป็นที่สุดในใจ
เรามาดูกันเลยว่าตัวไหนปัง ตัวไหนคู่ควรทาให้สว่างไปถึงปากซอย
มาดูกันนนน

เริ่มจากตัวแรกกันเลย

ตัวนี้บอกเลยว่า เคียงคู่ที่บ้านมานาน ตั้งแต่สมัยแม่ มี2สี สีเหลืองกับสีชมพู
แต่สีชมพูนี่ เน้นไปทางผิวขาวสว่างใส ประดุจไข่มุกตามชื่อเค้า
เพราะเค้ากระจ่างใสด้วย ผงไข่มุกสกัดจากเกาหลี
ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น มีออร่า

เค้าบอกว่า ไข่มุกที่มาสกัด เป็นไข่มุกผ่านการคัดมากจากทะเลเกาหลี
เป็นไข่มุกที่มีคุณภาพ เต็มไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ กรดอะมิโน
ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส มีออร่า

และยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในบัวหิมะที่ช่วยเรื่องผิวขาวเข้าไปอีกก

ความรู้สึกหลังใช้ กลิ่นหอมแรงอยู่นะ เนื้อครีมค่อนข้างใส เหลว ไม่เข้มข้นมากนัก
ทาแล้วไม่เหนียวตัว ถ้าใครผิวแห้งมาก อาจจะไม่ชุ่มชื่นพอ
ช่วงนึงทาอย่างต่อเนื่อง ก็รู้สึกว่าผิวเรียบเนียนมากขึ้น
ส่วนตัวยังไม่รู้สึกว่า ขาวว๊าววอะไรมากนะคะ

แพคเกจ มีหลายขนาด แต่ตอนนั้นเราซื้อขวดหัวปั้มเพราะตอนนั้นมีโปร อิอิ
ก็ใช้งานง่าย แต่ไม่ค่อยชอบเวลาเอาไปไหนด้วย พกไม่ได้
เพราะอาจจะเผลอกด จะกด+หมุน เพื่อให้กลับไปล๊อคก็ขี้เกียจอะนะ

ตัวที่2 ตัวนี้น่าสนใจมาก ตอนนั้นซื้อมา เพราะสนใจเนื้อครีม

ที่ทางแบรนด์บอกว่าเป็นเซรั่ม เราก็รู้สึกว่า คงต้องบางเบามากแน่ๆ
และค่าSPFที่สูงกว่าโลชั่นทาผิวทั่วไป
โดดเด่นด้วยส่วนผสมแห่งความขาว นั่นคือ วิตามินซี 3 ชนิด

ทั้งสารสกัดจาก คามู คามู ที่แบรนด์บอกว่า เป็นวิตามินซีที่สูงกว่า50เท่า
เมื่อเทียบกับมะนาว นอกจากนี้ยังมี สารสกัดลิโคริช และ อะเซโรล่าเชอรี่
จริงๆไม่แน่ใจว่าคืออะไร แต่จำได้ว่าเคยดื่มน้ำเจ้าอะเซโรล่าเชอรี่นี่แหละ
ที่เค้าบอกว่าช่วยเรื่องความแข็งแรง และผิวกระจ่างใส
เท่ากับ นีเวียรุ่นนี้ รวมเอาตัวที่ช่วยเรื่องความขาวไว้เยอะกว่าใครเพื่อน

ความรู้สึกหลังใช้ กลิ่นหอมอ่อนๆ หลังทาเสร็จเนื้อเซรั่มซึมไวดี ไม่เหนียวตัวเลย
อ่านจากรีวิวหลายๆคนก็บอกว่ากระจ่างใสขึ้น ขาวขึ้นจริง ส่วนตัวตอนนี้ที่ใช้อยู่ประมาณอาทิตย์กว่า อาจยังเห็นผลไม่ชัดมาก แต่ก็รู้สึกว่าผิวดูใสขึ้น สุขภาพดีขึ้น เนียนขึ้น
ทาได้ทุกวันเพราะมีส่วนผสมของกันแดด เรียกได้ว่าตัวนี้ทั้งบำรุงและปกป้องผิวเลย 

แพคเกจ แพคเกจเค้าเป็นหลอดๆฝาฟลิบ เปิดปิดง่าย หลอดสีขาวนิ่มๆ
จริงๆไม่ต้องบีบแค่เปิดครีมก็ไหลออกมาแล้ว
เพราะเนื้อเบามาก สามารถพกพาไปเที่ยวต่างจังหวัดได้สบายๆ

สุดท้ายครีมเภสัชในตำนาน หลายคนบอกว่าขาวจริง ขาวจัง เราจะพลาดได้ไง

ถึงจะบอกว่าไม่ได้อยากขาว แต่เรื่องความกระจ่างใส

ใครๆก็ต้องการถูกมั้ยหละ ในเมื่อตัวนี้เค้าบอกขาว เราก็จัดมา

ความขาวของพี่เภสัช เค้าได้มาจาก วิตามิน อี ซึ่งช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น กระจ่างใส

ผลัดเซลล์ผิวได้ดีขึ้น และวิตามินบี3 ที่ช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีผิวได้ดีอีกด้วย

เค้าบอกว่ามีUVนะ แต่ไม่ได้บอกค่าSPFไว้

แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก ใครๆจึงตัดสินใจลองได้แบบไม่ยาก

เรียกว่าไม่เสียดายเลยทีเดียว

ความรู้สึกหลังใช้ หอมแรงม๊ากก หอมแบบแป้งติดตัวเลย
ส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เนื้อครีมเข้มข้นสุด ค่อนทางเหนียวไปนิดสำหรับเรา

โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบ เพราะเป็นคนขี้ร้อน ขี้รำคาญ
แต่ช่วงที่ซื้อมาใหม่ๆก็ลองอดทนใช้อยู่ซักพัก มันก็ผิวขาวจริงนะ
คือมันขาวทันทีเหมือนเค้ามีความปรับสีผิวเลย(ไม่แน่ใจนะ)

ส่วนเรื่องขนยาวนั้น ไม่แน่ใจเช่นกันเพราะเป็นคนมีขนแขนอยู่แล้ว
แต่อ่านรีวิวมา หลายคนบ่นว่าทำให้ขนยาว

แพคเกจ เป็นขวดเล็กแบนๆบางๆ น่าจะมีไซส์เดียวนะคะ(ไซส์อื่นไม่เคยเห็น)
ราคาไม่เกิน30บาท หาซื้อง่าย ขวดเป็นรูปผู้หญิงวาดๆ ดูมีความวินเทจ 

มาดูเนื้อครีมของแต่ละอันกันดีกว่า เราจะพูดสั้นๆตามความรู้สึกนะ

Citra Pearly White UV Lotion
เนื้อครีมสีขาว ความข้นกลางๆ กลิ่นหอมกลางๆ ความชุ่มกลางๆ

Nivea Extra White Repair&Protect
เนื้อครีมสีขาว ความข้นน้อย กลิ่นหอมกลางๆ ความชุ่มชื่นกลางๆ

Bhaesaj body whitening Lotion
เนื้อครีมสีขาว เข้มข้นมาก กลิ่นหอมแรง ความชุ่มชื่นสูง

เอาล่ะ! ลองมาดูความเหนียวเหนอะหนะของแต่ละตัวกัน โดยเราทดลองทาครีมเอาไว้เป็นช่องๆ โดยทาในประมาณ1หยดพอๆกัน ลูบๆๆซักพัก รอจนเนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิว แล้วทดลองโรยกระดาษฝอยๆลองบนแขนในแต่ละช่อง

สุดท้ายเราไปเจอวิธีทดลองอย่างนึงมา สำหรับพิสูจน์การกู้ผิวให้กลับมาขาว
ซึ่งเค้าเอาโลชั่นมาทดลองกับแอปเปิ้ล ทาไอโอดีน 

เราลงทุนซื้อแอปเปิ้ลมาลองเลย อยากรู้เหมือนกันว่าแอปเปิ้ลจะขาวขึ้นมั้ย

เริ่มต้นเราหั่นแอปเปิ้ลออกเป็นซีก โดยด้านนึงทาเบตาดีนลงไป
พอเบตาดีนลงไปปุ๊ป ผิวแอปเปิ้ลก็ดำๆ คล้ำลงทันทีเลย
ก็ทาๆให้ทั่ว เราพยายามหยดลงให้เท่าๆกัน
โดยหยดลงด้านละ2หยด แล้วเกลี่ยให้ทั่ว
ทำแบบนี้ทั้ง 3ชิ้น

ฝั่งนึงก็ทิ้งเบตาดีนไว้งั้นเลย
อีกฝั่งเอาโลชั่นทั้ง3มาลองทาๆๆ โดยหยดลงไป
พยายามให้ใกล้เคียงกันที่สุด

ได้ผลดังนี้

ค่อยๆขาวขึ้นตามละดับ ประมาณ2-3นาที ก็จะเริ่มขาวขึ้น แต่แอปเปิ้ลจะดูแห้งลงนิดๆ

แอปเปิ้ลขาวขึ้นแบบไวมากประมาณ1-2นาที ขาวขึ้นเลยอะ

ไม่ได้ขาวขึ้นทันทีนะ แต่ประมาณชั่วโมงนึง ก็เริ่มขาวตามมา

จากที่เรามองเห็นนะ คือ CitraกับNiveaขาวขึ้นในเวลาอันเร็วมาก
แต่ไวที่สุดจะเป็นNiveaนะ

ส่วนเภสัช ขาวขึ้นหน่อยนึง แต่ไม่เท่า2ยี่ห้อนั้นค่ะ

เราสรุปความรู้สึกหลังใช้ และส่วนผสมต่างๆมาให้ดูกันตามตารางนี้นะคะ

ทั้งหมดมาจากความรู้สึกส่วนตัวที่เราใช้
ซึ่งส่วนตัวแล้ว เราจะไม่ชอบครีมที่เหนียวๆ เพราะเราร้อน
แต่ในทางกลับกับครีมที่เหนียวเข้มข้น อาจจะเหมาะกับคนผิวแห้งก็ได้

หรือ เรื่องน้ำหอม เราชอบกลิ่นเบาๆ
แต่บางคนอาจชอบกลิ่นแรงหน่อย เพื่อจะได้หอมติดตัวทั้งวันค่ะ

ยังไงแล้ว ถ้าต้องการให้มีผิวที่ขาวนวลเนียนนั้นการทาครีมบำรุงผิว
จะเห็นผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อทาทุกวัน และต้องทากันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย

 ที่สำคัญ ต้องทานผักผลไม้ และดื่มน้ำเยอะๆค่ะ ถึงจะช่วยผิวได้

หวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะชอบรีวิวแบบนี้กันนะ
และหวังว่าจะช่วยเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกครีมทาผิวกันด้วย

วันนี้จบการรีวิวแค่นี้


ไปก่อนน๊าา บายย