☆Daily Routine & NEW! Makeup Base☆
KarimuKram Panuim 12 3- กระทู้หลักของหัวข้อนี้ ตามไปอ่านรีวิวมหากาพย์กู้หน้าขั้นสุด+ขั้นกว่า และ กระทู้กู้ความงามให้นหน้าพัง ที่เราเคยเขียนไว้ประกอบกันนะคะ :))
- เราเป็นคนผิวมัน แพ้ง่าย มีสิวประปราย มีรอยแผลเป็นจากสิว
- ตัวผลิตภัณฑ์อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนนะคะ เพราะผิวคนเราไม่เหมือนกัน
Recovery Assistant
[•Recover from Disaster•]
กระทู้นี้จะเพิ่มเติมให้จากมหากาพย์ตอนที่ I , II นะคะ เนื้อหาบางทีเขียนตอนเดียวไม่หมด เพราะค่อนข้างยาว 555+ และเราเองก็ยังทำการเสาะหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆตลอดเวลา ก็จะมาอัพเดทกันไปค่ะ
สภาพผิวเราก็เหมือนกับสภาพอากาศนะคะ แต่ละวันก็ไม่เหมือนกันเลย บางวันอากาศร้อน+ชื้น หน้าเมือกได้ง่ายๆ หรือ วันไหนต้องออกแดดจัด หน้าก็ต้องสู้แดด ;//
นั่นหมายความว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องมีการปรับให้เข้ากับสภาพผิว + สถานการณ์ที่เราต้องเผชิญในวันนั้นๆด้วยค่ะ
วันที่ต้องออกแดด♢
°Sunny Day Routine°
วันไหนต้องอยู่นอกอาคารนานๆ หรืออยู่ในที่อากาศร้อนๆ หรือต้องทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อกาฬชุ่มโชก x(( เราจะเน้นน้อยๆไว้ก่อนเลย
" LESS IS MORE "
-Mies van de Rohe-
พูดให้เก๋แบบเจ้าพ่อยุคโมเดิร์นค่ะ " น้อยแต่มาก "
คือแต่งไม่ต้องเยอะ และสาระครบถ้วน ;)) สำหรับวันแบบนี้นะคะ บอกเลยว่าต้องทำใจว่าเราจะพยายามไม่ปกปิดแบบจัดเต็ม ไม่งั้นใช้ของดีแค่ไหน สิวก็มีสิทธิ์ปูดได้ ;// ควรพกพาไปเติมระหว่างวัน เช่น Cushion , Sunscreen แทนนะคะ เพิ่มเติมคือเกราะป้องกัน เช่น หมวก ร่ม
วันนี้เอาลิปให้สวยเลยค่ะ คิ้วเป๊ะๆ ให้คนไปโฟกัสที่ปากกับคิ้วเรา แทนรอยด่างดำบนใบหน้าที่เราไม่ได้จัดเต็ม อันนี้เราส่วนตัวชอบทาไฮไลต์ในวันที่แดดจัดค่ะ มันเปรี้ยงปร้างสะใจ 555+ ♡
วันที่ฝนตก ชุ่มฉ่ำ♡
°Rainy Day Routine°
เมืองไทย โดยเฉพาะกรุงเทพ แม้วันที่ฝนพร่ำก็ร้อนระอุ แถมยังอบอ้าวมาก ;// เพราะเมืองไทยเป็นเขตร้อนชื้น มีมรสุมประปราย ยิ่งกรุงเทพที่ไม่มีพื้นที่ธรรมชาติมากนัก จึงกลายเป็นเหมือนกระทะคอนกรีตอบความร้อนและฝุ่นละออง?
วันนี้เราจะงดทุกอย่างที่เป็น oil base เลยค่ะ เพราะเราก็เป็นคนหน้ามันอยู่แล้ว การแต่งหน้าวันนี้จะเน้นสีสัน แต่ไม่เน้นไฮไลต์หรือชิมเมอร์ต่างๆ เพราะหน้าก็มีแนวโน้มที่จะมันวาวมากอยู่แล้ว? 5555+ แต่จริงๆคือเราไม่ต้องการลงอะไรมากเกินไปค่ะ และอาจมีการตบแป้งบางๆให้ดู matte เพิ่ม ส่วนแป้งที่ว่า เราใช้แป้งเด็กค่ะ?
นอกจาก Primer ของ Fenty Beauty เราก็พยายามหาตัวอื่นที่เข้ากับหน้าเราตลอด พยายามไม่ใช่ product ซ้ำๆที่อาจจะทำให้เกิดอาการดื้อยาของผิว ผิวหน้าจะได้แข็งแรง
วันก่อนเราสั่งน้ำยาล้างเครื่องสำอางมาจากแอพวัตสันค่ะ เพราะ 1 แถม 1 แล้วตอนนั้นยังส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ(ปกติซื้อ 800 บาทขึ้นไปถึงจะส่งฟรีค่ะ) เขาก็แถมนี่มา...
พอได้มา หลังจากนั้นไม่กี่วัน jeban ก็มีขึ้นรีวิวในหน้าเว็บด้วย เราเลยคิดว่าต้องลองซะหน่อย~
ให้ Oil Control มาเหมือนรู้ใจ? เอ๊ะ หรือว่าเราจะทำแบบสอบถามไป จำไม่ได้เหมือนกันค่ะ 555+ แต่ดีมาก เราก็อยากรู้ว่าเป็นยังไง
เราก็พยายามหาส่วนประกอบบนซอง...แต่คุณพระ เป็นคันจิหมดเลย น้องอ่านไม่เข้าใจ? แต่เอาไงเอากัน! เรามาลองดูบนหน้าบอบบาง มีสิว แพ้ง่าย ของเรากันนน!!!
ผลลัพธ์ที่ออกมา...
ตอนทาเนื้อไม่เหลวมาก กำลังดี เหมือนทาตัว Primer Foundation ของ Laura Mercier ประมาณนั้นค่ะ แต่เนื้อบางกว่า กลิ่นฉุนแอลกอฮอล์ แต่ครู่เดียวกลิ่นก็จาง
ทาๆไป...โอเค ไม่แสบผิวหน้า ไม่ได้ทำให้รู้สึกมันมาก แม้จะล้างเครื่องสำอางแล้วตอนกลับมาบ้าน?ก็อยากลอง เลยทาหมดทั้งหน้า จุดไหนทาซ้ำก็ไม่เหนอะหนะ ทาทั้งหน้าเหมือนผิวจะสว่างขึ้นนิดนึง คือตัวเบสมีสีจางๆ แต่ไม่ได้ทำให้วอกค่ะ ทิ้งไว้ครู่หนึ่ง โอ๊ะ! นี่มันก็โอเคนะเนี่ย ลองเอารองพื้นมาทา...หืออออ
เรียกได้ว่าประทับใจ! หน้าไม่ลอย ไม่เยิ้มตอนลงรองพื้นทับ หน้าแพ้ง่ายก็ไม่ได้ทำให้ระคายเคือง เนื้อนุ่ม รู้สึกเลยว่าไม่ได้อุดตันผิว คุณสมบัติไม่สู้ Primer แต่เป็นเบสเนื้อดีจริงๆค่ะ ประทับใจแบบที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับตัวกันแดดของญี่ปุ่นมานานแล้ว!!
เรา skip กันแดดเวลาฝนตก
แต่ตัวนี้ทำให้เรามีความหวังขึ้นมา~
ประทับใจค่ะ เบสให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากๆ หน้าไม่มันวาว ไม่รู้สึกหนักรูขุมขน เราให้ 9/10 เลยค่ะ หักคะแนนที่เหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์มากไปหน่อย แต่ที่เหลือถือว่าใช้ได้ดี ;))
คาดว่าถ้า Primer ของ Fenty Beauty หมด(ซึ่งน่าจะอีกนาน?) เราจะลองซื้อตัวนี้มาใช้แทนแน่ๆค่ะ ประทับใจเลย~ ตอนนี้อยากลองอีก 2 สูตรขึ้นมาทันที! คือ Bright Up Base UV กับ Covering Base UV >_<~ สงสัยต้องเอา Primer ไปแบ่งพี่สาวใช้บ้างซะแล้ว จะได้ลองซื้อตัวใหม่มาใช้? 5555+ ล้อเล่นค่ะ เราถือคติซื้อเท่าที่จำเป็นก็พอ ;)) แต่...เราก็เพิ่งสั่งของมา?คงมีรีวิวติดๆกันให้ทุกคนได้ดูนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อน้อง~♡♡