Gradient lips Vs Ombre lips เมื่อมีปากเดียว แต่ลิปไม่ได้มีแท่งเดียว เป็นยังไงมาดูกันเล๊ยย

สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ วันนี้เราจะมาแบ่งปันวิธีทาปากแบบ Gradient lips ค่ะ หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่า แล้วมันต่างกับการทาแบบ Ombre lips ยังไง? มาค่ะสาวๆ เราพร้อมแล้ววว…จากการหาข้อมูล และสรุปตามความเข้าใจของเรานะคะ

Ombre (ออม-เบร) เป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ ซึ่งแปลว่าเงาหรือแรเงา ใช้เรียกการไล่เฉดสี จากสีเข้มไปสีอ่อนหรือจากสีอ่อนไปสีเข้ม โดยใช้ตั้งแต่ 2 สีขึ้นไป หรือหลายๆสีเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งอาจเป็นสีที่ใกล้เคียงกัน หรือแตกต่างกันมากๆ เช่น ดำ-แดง ฟ้า-ชมพู หรือจะเป็นสีรุ้งก็ไม่ว่ากัน การทาแบบ Ombre lips สามารถทาได้หลายแบบเลย เช่น 

1.ทาสีเข้มจากด้านนอก ตั้งแต่บริเวณขอบปากหรือมุมปาก ไล่มาสีอ่อนที่กลางปากหรือด้านในของริมฝีปาก 

2.ทาสีเข้มที่ริมฝีปากบน แล้วไล่สีลงมาที่ริมฝีปากล่าง 

3.ทาสีเข้มที่ริมฝีปากล่าง ไล่สีขึ้นมาที่ริมฝีปากบน

* Finished look ที่ได้ คือ ริมฝีปากจะดูอิ่มเอิบแบบสาย ฝ. เลยค่ะ ปังๆปัวๆ

Gradient (กรา-เดียน) จะแปลว่า การไล่ระดับสีค่ะ ตรงตัวเลยเนอะ ซึ่งเป็นการทาสีเข้มบริเวณกึ่งกลางปากและไล่สีให้อ่อนลงเรื่อยๆจนถึงขอบปาก อาจใช้ลิปเพียง 1 สี หรือ 2-3 สี ซึ่งสีลิปจะต้องอยู่ในโทนสีเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันค่ะ เช่น ชมพูเข้ม-ชมพูอ่อน บางครั้งอาจใช้ทิ้นท์เพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือเพิ่มความแวววาวด้วยลิปกลอสก็ดูน่ารักไปอีกแบบ สำหรับคนที่ริมฝีปากคล้ำ หรือแดงมากๆ อาจลงคอนซีลเลอร์ก่อน เพื่อกลบสีปากเดิมให้อ่อนลง เวลาลงสีจะช่วยให้ไล่สีได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้ขอบปากดูเบลออีกด้วยค่ะ

* Finished look จะเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสา ใสๆดูเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากระเรื่อๆ ดูสุขภาพดี และริมฝีปากดูเล็กลง เหมือนแค่กัดริมฝีปาก หรือเพิ่งทานเชอรี่มาแค่นั้นเอ๊งง สีปากก็เป็นแบบนี้เลย ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ อิอิ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่สาวๆเกาหลีมานานแล้วค่ะ เรียกว่า Korean gradient lips 

เกริ่นมายาวมาก มาค่ะไปเริ่ม Mini How-to ของเรากันเลยย 

Mini How-to Gradient lips #1

Step 1. เริ่มจากทาลิป 3CE Mood Recipe Matte Lip Color สี Rows
ให้ทั่วริมฝีปาก
Step 2. ใช้ Wet n Wild MegaSlicks Balm Stain สี Lady and the vamp ทาบริเวณด้านในของริมฝีปาก
Step 3. เบลนด์สีลิปให้เข้ากัน โดยใช้ cotton bud เพื่อไล่สีให้ดูกลมกลืน และไม่เห็นรอยต่อระหว่างลิปทั้ง 2 สี เพื่อนๆสามารถใช้นิ้วมือเกลี่ยหรือใช้แปรงทาลิปก็ได้เช่นกันค่ะ ตามความถนัดได้เลย หากใช้แปรงแนะนำว่าควรล้างแปรงลิปก่อนใช้นะคะ เพื่อป้องกันสีเพี้ยน ส่วนเราถนัดใช้ cotton bud ค่ะ เพราะมีขนาดเล็ก และควบคุมได้ง่ายกว่า
Step 4. ใช้ cotton bud อีกด้านเกลี่ยบริเวณขอบปาก เพื่อไม่ให้ขอบปากชัดเกินไป ทำให้ดูฟุ้งๆ เบลอๆค่ะ
Step 5. เสร็จแล้วจ้า

Mini How-to Gradient lips #2

Step 1. เริ่มจากทาลิป bobbi brown luxe lip color สี Uber Beige
ให้ทั่วริมฝีปาก
Step 2. ใช้ 3CE Mood Recipe Matte Lip Color สี Smoked rose ทาบริเวณด้านในของริมฝีปาก
Step 3. เบลนด์สีลิปให้กลมกลืนกัน และไม่เห็นรอยต่อระหว่างลิปทั้ง 2 สี โดยใช้ cotton bud อาจใช้นิ้วมือเกลี่ยหรือใช้แปรงทาลิปก็ได้ ตามความถนัดเลยจ้า
Step 4. เพิ่มมิติของสี โดยแตะ Burberry Liquid lip velvet สี oxblood เพิ่มอีกเล็กน้อยบริเวณริมฝีปากด้านใน ค่อยๆเบลนด์สีให้ไล่ระดับกัน แนะนำให้ใช้ cotton bud นะคะ และอย่าลืมเกลี่ยบริเวณขอบปาก เพื่อให้ขอบปากดูเบลอๆ ไม่คมชัดเกินไปด้วยน้า
Step 5. เสร็จแล้วจ้า

มาสรุปกันเลยนะคะ คือ การทาปากแบบ Gradient lips และ Ombre lips แตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่การทาแบบ Gradient lips จะดูละมุนกว่าการทาแบบ Ombre lips ของชาวตะวันตก ซึ่งเราได้ยินกันบ่อยๆ และรู้สึกคุ้นเคยกว่า แต่ทั้ง 2 แบบก็คือการทาลิปแบบไล่สีเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าอยู่ที่ใครจะสะดวกเรียกแบบไหน จะ “Gradient”หรือ “Ombre” ก็ได้ค่ะ เข้าใจตรงกันเนอะ อิอิ จบแล้วจ้า หวังว่าจะไม่งงกันนะทุกคน

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ เป็นกระทู้แรกเลยสำหรับ Mini How-to เนื้อหาในกระทู้เป็นเพียงข้อมูลที่เราเข้าใจ อาจยังไม่ถูกต้อง และมีส่วนของข้อมูลที่ยังผิดพลาดอยู่ เพื่อนๆ สามารถชี้แนะ หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ยินดีมากๆเลยค่ะ

ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ สวัสดีค่ะ <3

Reference