HOW TO แต่งหน้าปิดผิวโทรมหมองคล้ำ ฉบับคนนอนน้อย ให้ผิวเนียนเป็นธรรมชาติ ดูสดใส สดชื่นนนน
aeoypimpich 23 3สวัสดีค่า~ ช่วงนี้มีใครติดซีรีย์ NETFLIX เหมือนเอ๋ยบ้างคะ ช่วงนี้มีซีรีย์สนุกๆเยอะมากกก ตอนนี้กำลังดู LIFE, INSATIABLE, My ID id Gangnam Beauty แถมพอดูจบตอนแล้วก็ต้องเลือกเรื่องใหม่ดูเพิ่มอีก นี่แค่จะเลือกซีรีย์ดูใน NETFLIX รู้ตัวอีกทีก็เกือบเที่ยงคืนละ ยังไม่รวมเวลาดูอีกนะ รู้ตัวอีกที ตี 1 ตี 2 ช่วงนี้เลยนอนดึกมากกก T_T ใต้ตาคือหมองคล้ำสุดๆ แต่ก็หยุดดูไม่ได้เช่นกัน 5555555
วันนี้เลยอยากมาลองแต่งหน้าเพื่อปกปิดความโทรมจากการนอนน้อย แถมใช้เวลาไม่นานด้วยค่ะ เพราะช่วงนี้ขี้เกียจสุดๆ เน้นแต่งเร็ว อุปกรณ์ไม่มาก และเน้นให้หน้าตาดูสดใสเหมือนนอนพอ!
เริ่มที่ขั้นตอนการบำรุงผิวและกันแดดด้วยสกินแคร์กันก่อนนะคะ
ลงสกินแคร์ตามลำดับค่ะ
1.) Serum: Innisfree Green Tea Seed Serum
2.) Cream: Innisfree Green Tea Seed Deep Cream
3.) กันแดด: ศรีจันทร์ Luminescence Fabulous UV Shield
ครั้งแรกที่ได้ลอง Innisfree Green Tea Seed Serum คือเราชอบมากกก ชอบกลิ่นของชาเขียว มันให้ความรู้สึกที่สดชื่นดีค่ะ เหมือน Refresh ผิว ทำให้กระปรี้กระเปร่า เนื้อซีรั่มก็ค่อนข้างบางเบา ไม่ทำให้หน้ามัน ถามว่ารู้สึกผิวหน้าดีขึ้นมั้ย อันนี้ไม่แน่ใจ เหมือนผิวแข็งแรงขึ้นนะและชุ่มชื้นขึ้นนิดหน่อย แต่คิดว่าถ้าอยากเพิ่มความชุ่มชื้นจริงจังก็ต้องใช้คู่กับครีมค่ะ พอได้โอกาสเลยไปสอยครีมตัวใหม่ของ Innisfree คือ Green Tea Seed Deep Cream มาเพิ่ม ตอนไปเที่ยวเกาหลีคือตกขวดละ 500 กว่าบาทเองอะ คุ้มมมากกกกๆ ตุนกันเป็น 10 ขวดเลยทีเดียว 55555 ส่วนกันแดดของศรีจันทร์ได้มาเพราะโปรโมชั่นล้วนๆแล้วค้นพบว่า มันดีอ้ะ เนื้อบางหน้าไม่ลอย แถมหน้าไม่มันด้วย จขกท.ซื้อที่ Watsons มีโปรฯชิ้นที่ 2 บาทเดียวค่ะ
เพราะว่าขี้เกียจแต่งหน้าหลายขั้นตอน วันนี้เลยขอข้ามขั้นตอนการลงคอนซีลเลอร์และรองพื้นไปนะคะ จะใช้แค่แป้งผสมรองพื้นอย่างเดียวเลย ซึ่งตัวนี้ของ GINO McCRAY จขกท.ใช้ 2 สีผสมกันค่ะ โดยที่ใช้สี #01 Creamery Creek ที่ขาวกว่า ปกปิดใต้ตาและหน้าผากให้ดูสว่างขึ้นนิดหน่อย ส่วนที่เหลือใช้สี #02 Vanilla Vanity เป็นสีที่กลืนกับสีผิวจริงไปเลยค่ะ ต้องบอกว่าสีแป้งเค้าพอดีกับผิวสาวไทยที่เป็น ผิวโทนเหลืองมากๆ แป้งผสมรองพื้นตัวนี้ปกปิดได้ Medium to High Coverage นะคะ ส่วนตัวชอบมากกก ราคาไม่แรงมากด้วย ประมาณ 500 กว่าบาท ปกปิดดี เป็นธรรมชาติ และควบคุมความมันได้ในระดับหนึ่ง แต่เราเป็นคนผิวมันช่วง T-Zone หนักมากก T_T คงต้องพึ่งพากระดาษซับหน้ามันอยู่ดี แต่โอเค ซับมันแล้วเติมแป้งก็ได้ ไม่เป็นคราบค่ะ
อุปกรณ์ที่ใช้ลงแป้ง จะใช้พัฟที่มีมาให้ในตลับแป้ง กดบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ เช่น รอยคล้ำใต้ตา รอยดำและรอยแดงจากสิว ส่วนที่เหลือใช้แปรงแต่งหน้า Real Techniques Brush Crush #300 Powder Blush ปัดวนๆไปทั่วใบหน้า แปรงตัวนี้เป็น Limited Edition ด้วย หรือเรียกว่าแปรงยูนิคอร์น น่ารักมากเว่อร์ ขนก็นุ่มมากด้วย ใช้แล้วฟินน ที่ซื้อเพราะความกลิตเตอร์วิ๊งๆนี่แหละค่ะ5555 เรากดสั่งซื้อจาก iHerb เลยได้ราคาดีกว่าร้านหิ้วที่ไทยค่ะ ค่าตัวน้องน่าจะประมาณ 380 บาท #เปย์รัวๆๆ
จากรูปจะเห็นว่าแป้งผสมรองพื้น GINO McCRAY อย่างเดียว สามารถปกปิดรอยสิวและใต้ตา แถมทำให้รูขุมขนดูเบลอๆ ที่สำคัญสีแป้งกลืนกับผิวมากกกก ไม่ลอย ไม่โป๊ะ ควรตำนะคะ เหมาะกับสาวขี้เกียจแบบชาวเรามากๆ ประหยัดเวลาลงรองพื้นได้หลายนาที! ^O^
เสร็จงานผิวแล้ว มาต่อที่บรัชออนและแต่งตากันค่ะ
เพราะความขี้เกียจล้วนๆ ก็ใช้แค่อายแชโดว์สีเดียว บรัชออนก็สีเดียวพอ!55555
วันนี้เลือกใช้สีที่แต่งแล้วหน้าตาดูสดใส เป็นโทนชมพูส้มๆ หรือโทน Coral นะคะ
Eye Shadow: ETUDE HOUSE Look at My Eyes #RD304 จะเป็นสีชมพูอมแดงตุ่นๆ ทาไปเลยให้ทั่วเปลือกตา แล้วใช้นิ้วมือเกลี่ยเอาค่ะ เร็วดี!
Blush-on: Benefit #GALifornia เป็นบรัชออนที่สีชัดสุดๆ แตะนิดเดียวสีแรงลื๊มมมม แต่ชอบมากค่ะ เนื้อมันจะมีกลิตเตอร์วิ๊งๆด้วย คือปัดแล้วรู้สึกโลกสดใส แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆสไตล์ Benefit ด้วยค่ะ ปลื้มมากกก สีสวยชัด และค่อนข้างติดทนนะคะ แต่งเช้า ตอนกลางคืนยังออกสีจางๆอยู่เลย ใช้คู่กับแปรงปัดแก้ม Real Techniques Brush Crush #302 Blush Brush ค่ะ
มาต่อที่เขียวคิ้วและปัดมาสคาร่ากัน~
ดินสอเขียนคิ้วของ ETUDE HOUSE นี่เป็นอีกไอเทมนึงที่ A Must เลยค่ะ เพราะถูกและดี นี่ใช้หมดไปเกิน 5 แท่งแล้วค่ะ และด้วยความโชคดีคือไม่เคยใช้แล้วไส้หักด้วยค่ะ ใช้หมดแท่งตลอด55555 ตอนไปเที่ยวก็ไปซื้อจาก Duty Free เป็นแพคๆมา ราคาน่ารัก ตกแท่งละ 70กว่าบาทได้ ผมเราสีเข้ม เลือกใช้สี #01 Dark Brown นะคะ ส่วนมาสคาร่า ก็ใช้ BQ Cover ราคาร้อยกว่าบาท แต่รู้สึกคุณภาพไปไกลกว่าราคามากค่ะ ปัดบางๆเพิ่มความยาวขนตา แล้วปัดซ้ำให้ดูเด้งขึ้นได้ ไม่จับตัวเป็นก้อน ที่สำคัญไม่เลอะระหว่างวันด้วยค่ะ เลิฟมากก ^^
ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ เรามาทาปากเพิ่มความสดใสเป็นขั้นตอนสุดท้าย!
ลิปสติกใช้ Nature Republic #08 Brick Velvet ตัวนี้ชื่อเป็นรุ่น Matte Lipstick แต่จากที่ใช้มา เรารู้สึกว่ามันออกกึ่งแมท กึ่งซาตินมากกว่าค่ะ คือไม่ได้แมทลืมมมม และติดทนขนาดนั้น แต่มีข้อดีคือให้ความชุ่มชื้นริมฝีปากด้วย และสีสวยมาก เกาหลีเว่อร์55555 อันนี้ทากลางปากแล้วใช้นิ้ว แตะๆไล่สีออกมานะคะ แล้วทาทับด้วยลิปกลอสจาก Clinique เป็นรุ่น Limited Edition ที่ทำร่วมกับ Marimekko ปลอกลิปน่ารักมากกก มีลายมาริด้วย ซึ่งลิปกลอสนี้เราได้มาเป็นของขวัญค่ะ จริงๆปกติไม่ได้เป็นคนที่ใช้ลิปกลอสบ่อย เพราะรู้สึกเหนียว ไม่สบายปาก แต่ตัวนี้เราทาแค่นิดเดียว เม้มปาก แล้วใช้ทิชชู่ซับออกเล็กน้อยค่ะ ได้ลุคที่ดูปากอิ่ม สุขภาพดีมากมาย จนตอนนี้กลายเป็นคนติดลิปกลอสไปแล้วค่ะ เพราะทาแล้วมันรู้สึกปากน่ารัก สดใสขึ้นอะค่ะ555555
Finished Look!!
เดี๋ยวลองออกไปใช้ชีวิตวันหนึ่งเต็มๆ แล้วกลับมาดูกันค่ะว่าจะเป็นยังไงบ้าง หน้าจะยังไหวมั้ยนะ หรือจะกลับมาโทรมเหมือนเดิม ไปดูกันค่ะว่าเครื่องสำอางที่แต่งแบบง่ายๆเร็วๆจะทำงานได้ดีแค่ไหนกัน!
V
V
V
หลังจากออกไปทำธุระนอกบ้าน เป็นเวลา 8 ชั่วโมงเต็มๆ ส่วนมากเป็นการเดินห้างและใช้ชีวิตทั่วไป อยู่ Outdoor นิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่อยู่ห้องแอร์ค่ะ ซึ่งเราไม่ได้พกแป้งและกระดาษซับหน้ามันไปด้วย ซึ่งความมันก็เริ่มมาแล้วค่ะ ตรง T-Zone และจมูกมีความมันชัดเจนมาก มันก็จะโกล์วๆหน่อยยย 5555 แต่ส่วนของหน้าดรอปและแป้งเป็นคราบ ไม่มีนะคะ แป้งยังคงทำหน้าที่ปกปิดได้ดี ไม่หาย ไม่ไหล และเครื่องสำอางยังอยู่ครบดี มาสคาร่ายังเด้งอยู่ มีสีบรัชออนที่จางลงเล็กน้อย คิ้วก็ยังอยู่ดี ส่วนลิปสติกต้องเติมแน่นอนค่ะ เพราะกินข้าวกินขนมไปเยอะมากกก หายหมดเกลี้ยงแล้ว5555 อันนี้เราเปลี่ยนสีลิปด้วย ในรูปล่างเป็น Liquid Lipstick ของ Wet n Wild สี Give Me Mocha ค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ กับลุคแต่งหน้าปกปิดความโทรม สามารถปิดความโทรมและดูสดใสขึ้นบ้างมั้ยคะ ~
วันนี้เอ๋ยต้องขอตัวก่อน หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ ถ้ามีข้อติชมก็สามารถคอมเม้นกันได้เลยยย แล้วเจอกันกระทู้หน้านะค้า ☺