[Review+แนะนำ] ลิปแดงสมัครแอร์กระชากใจกรรมการ
PRISHZY 36 9
สวัสดีค่าาา ห่างหายกับการตั้งกระทู้ในจีบันนานม้ากกกกมากกกก วันนี้เลยกลับมาพร้อมรีวิวแบบเน้นๆเด็ดๆที่ตั้งใจทำสุดมาให้ทุกคนรับชมกัน
ต้องขอบอกก่อนว่าจริงๆตอนแรกอัพลงแล้วในบล็อคตัวเอง แต่มีรุ่นพี่แนะนำมาว่าให้เอามาลงเอามาแชร์ในจีบันไปเล้ยยยย นี่ก็เลยจัดไปตามนั้นเลยค่าา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
ต้นตอของการทำรีวิวนี้เกิดจากเก็บบ้านแล้วพบว่าตัวเองมีลิปแดงเยอะพอสมควร มีทั้งแดงเกาหลี แดงสด แดงเข้ม แดงทึบ มาให้หมด!
แต่วันนี้จะมารีวิวและแนะนำลิปแดงที่สามารถใช้ทาไปสมัครแอร์ได้แล้วกันเนาะ พวกแดงทึบๆเข้มๆนี่ต้องพักก่อน เดี๋ยวกรรมการตกใจ เก็บไว้ทางานอื่นละกันเด้อ ส่วนลิปแดงสไตล์เกาหลีจริงๆก็ใช้ทาได้เหมือนกัน แต่วันนี้เลือกหยิบมาเฉพาะตัวธรรมดาพอ
ที่หยิบมาวันนี้มีเกรดที่หลากหลาย สามารถหาซื้อได้ทั่วไปแน่นอลลล และที่สำคัญคือตอนสมัครก็ใช้พวกนี้แหละทาไปจริงๆ สวย สุภาพ ไม่แฟชั่นแปลกตาอีกด้วยค่ะ
ต้องขอบอกก่อนว่าจริงๆตอนแรกอัพลงแล้วในบล็อคตัวเอง แต่มีรุ่นพี่แนะนำมาว่าให้เอามาลงเอามาแชร์ในจีบันไปเล้ยยยย นี่ก็เลยจัดไปตามนั้นเลยค่าา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
ต้นตอของการทำรีวิวนี้เกิดจากเก็บบ้านแล้วพบว่าตัวเองมีลิปแดงเยอะพอสมควร มีทั้งแดงเกาหลี แดงสด แดงเข้ม แดงทึบ มาให้หมด!
แต่วันนี้จะมารีวิวและแนะนำลิปแดงที่สามารถใช้ทาไปสมัครแอร์ได้แล้วกันเนาะ พวกแดงทึบๆเข้มๆนี่ต้องพักก่อน เดี๋ยวกรรมการตกใจ เก็บไว้ทางานอื่นละกันเด้อ ส่วนลิปแดงสไตล์เกาหลีจริงๆก็ใช้ทาได้เหมือนกัน แต่วันนี้เลือกหยิบมาเฉพาะตัวธรรมดาพอ
ที่หยิบมาวันนี้มีเกรดที่หลากหลาย สามารถหาซื้อได้ทั่วไปแน่นอลลล และที่สำคัญคือตอนสมัครก็ใช้พวกนี้แหละทาไปจริงๆ สวย สุภาพ ไม่แฟชั่นแปลกตาอีกด้วยค่ะ
ขอนอกเรื่องแป๊ปปปปปปปปปปป
จะบอกว่าการทำอะไรแบบนี้เนี่ย ยากกว่าที่คิดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตั้งแต่การจัดแสงให้เหมือนกันทุกรูป การทำปากให้เหมือนเดิมที่สุด กว่าจะกดชัตเตอร์ได้ กว่าจะเขียนขอบปากให้สวย กว่าจะทาลิปให้เนียน กว่าจะเก็บรายละเอียดให้กริบ กว่าจะทำให้มันเท่ากัน
โอ้โห..ต้องมีสติทุกอย่าง เพราะถ้าพลาดแล้วแก้ยากมากโดยเฉพาะกับลิปแดงเนี่ย ไม่เคยคิดว่าการทำรีวิวลิปจะยากขนาดนี้มาก่อน นี่ขนาดทาๆลบๆแค่ 5 สีนะ ยังเช็ดกันจนปากเปื่อย ยอมใจบิวตี้บลอคเกอร์มากกก ทากันเป็นสิบๆสี แถมยังถ่ายรูปและรีวิวกันออกมาสวยงามอีก กราบบบบ
อะ ก่อนเข้ารีวิว ต้องบอกก่อนว่าทุกอย่างในนี้คือรีวิวตามความรู้สึกตัวเอง รีวิวแบบบ้านๆ อาจจะไม่ได้รู้ข้อมูลลึกหนาบางตื้นอะไรมากเท่าไหร่ ทาแล้วรู้สึกแบบไหนก็เขียนแบบนั้นเลยเด้อ อีกอย่างคือกราบขออภัยในความแสงที่ไม่ค่อยเท่ากัน พยายามสุดๆแล้วจีจี T___T
อย่างที่รู้ๆกันว่าลิปสีแดงมีหลายเฉดแตกต่างกันออกไป การจะเลือกลิปแดงให้เหมาะกับตัวเองแบบง่ายๆคือการเลือกสีตามโทนผิว เพราะบางสีกับบางคนอาจจะทาแล้วไม่ขึ้น หรืออีกอย่างคือทาออกมาจะได้สีไหนนั้นขึ้นอยู่กับสีปากธรรมชาติด้วย เพราะฉะนั้นไปหาข้อมูลกันด้วยนะจ๊ะ
โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผิว ขาว / ขาวเหลือง
สีปากธรรมชาติ ชมพู ไม่คล้ำ
มา! เริ่ม!
จะบอกว่าการทำอะไรแบบนี้เนี่ย ยากกว่าที่คิดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตั้งแต่การจัดแสงให้เหมือนกันทุกรูป การทำปากให้เหมือนเดิมที่สุด กว่าจะกดชัตเตอร์ได้ กว่าจะเขียนขอบปากให้สวย กว่าจะทาลิปให้เนียน กว่าจะเก็บรายละเอียดให้กริบ กว่าจะทำให้มันเท่ากัน
โอ้โห..ต้องมีสติทุกอย่าง เพราะถ้าพลาดแล้วแก้ยากมากโดยเฉพาะกับลิปแดงเนี่ย ไม่เคยคิดว่าการทำรีวิวลิปจะยากขนาดนี้มาก่อน นี่ขนาดทาๆลบๆแค่ 5 สีนะ ยังเช็ดกันจนปากเปื่อย ยอมใจบิวตี้บลอคเกอร์มากกก ทากันเป็นสิบๆสี แถมยังถ่ายรูปและรีวิวกันออกมาสวยงามอีก กราบบบบ
อะ ก่อนเข้ารีวิว ต้องบอกก่อนว่าทุกอย่างในนี้คือรีวิวตามความรู้สึกตัวเอง รีวิวแบบบ้านๆ อาจจะไม่ได้รู้ข้อมูลลึกหนาบางตื้นอะไรมากเท่าไหร่ ทาแล้วรู้สึกแบบไหนก็เขียนแบบนั้นเลยเด้อ อีกอย่างคือกราบขออภัยในความแสงที่ไม่ค่อยเท่ากัน พยายามสุดๆแล้วจีจี T___T
อย่างที่รู้ๆกันว่าลิปสีแดงมีหลายเฉดแตกต่างกันออกไป การจะเลือกลิปแดงให้เหมาะกับตัวเองแบบง่ายๆคือการเลือกสีตามโทนผิว เพราะบางสีกับบางคนอาจจะทาแล้วไม่ขึ้น หรืออีกอย่างคือทาออกมาจะได้สีไหนนั้นขึ้นอยู่กับสีปากธรรมชาติด้วย เพราะฉะนั้นไปหาข้อมูลกันด้วยนะจ๊ะ
โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผิว ขาว / ขาวเหลือง
สีปากธรรมชาติ ชมพู ไม่คล้ำ
มา! เริ่ม!
1. YSL Tatouage Couture Matte Satin No.10
บอกตรงๆว่าไม่เคยมองลิปรุ่นนี้ยี่ห้อนี้อยู่ในสายตา แต่ที่ซื้อเพราะมันสลักชื่อได้!! ถถถถถถถถ แค่อยากมีชื่อตัวเองบนลิปสติกแค่นั้นแหละจริงๆ แต่พอไปซื้อก็ไม่รู้จะเอาสีอะไร เลยเลือกสีแดงมากะว่าไว้ทาสมัครแอร์ละกัน
ตัวนี้เม็ดสีจะอ่อนที่สุด และเป็นสีแดงที่สว่างที่สุดในบรรดา 5 ตัวที่หยิบมารีวิว ตอนทาค่อนข้างยากเพราะสีไม่ค่อยเข้มเลยต้องใช้เวลาเกลี่ยให้มันเท่ากันนิดนึง แต่..ทาแล้วมีความเบาบาง สบายปากมาก ไม่หนักปากและไม่รู้สึกรำคาญเลย ลุคที่ทาออกมาก็ตามชื่อเลยคือกึ่งแมทกึ่งซาติน
อีกอย่างคือตัวนี้เป็นตัวเดียวที่เป็นแดงอมฟ้าๆ นอกนั้นอีก 4 ตัวคือแดงอมส้มๆหมดเลยจ้า
ตัวนี้เม็ดสีจะอ่อนที่สุด และเป็นสีแดงที่สว่างที่สุดในบรรดา 5 ตัวที่หยิบมารีวิว ตอนทาค่อนข้างยากเพราะสีไม่ค่อยเข้มเลยต้องใช้เวลาเกลี่ยให้มันเท่ากันนิดนึง แต่..ทาแล้วมีความเบาบาง สบายปากมาก ไม่หนักปากและไม่รู้สึกรำคาญเลย ลุคที่ทาออกมาก็ตามชื่อเลยคือกึ่งแมทกึ่งซาติน
อีกอย่างคือตัวนี้เป็นตัวเดียวที่เป็นแดงอมฟ้าๆ นอกนั้นอีก 4 ตัวคือแดงอมส้มๆหมดเลยจ้า
ลักษณะแปรง : ค่อนข้างควบคุมยากช่วงขอบปาก
ความเบาสบาย : 4.5 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 2.5 / 5
ความติดทน : 4.5 / 5
ราคาโดยประมาณ : 1,300 – 1,500 บาท
ความเบาสบาย : 4.5 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 2.5 / 5
ความติดทน : 4.5 / 5
ราคาโดยประมาณ : 1,300 – 1,500 บาท
2. NARS Powermatte Lip Pigment #Don’t Stop
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินแค่สี Starwomen ที่เค้าฮิตๆกัน แต่สำหรับเราตัวนั้นมันจะออกแดงทึบ ส่วนตัวเราทาสีแดงทึบแล้วหน้าจะดุและดูมีอายุ ก็เลยชอบแดงที่สดๆแบบสี Don’t Stop เพราะทาแล้วหน้าสว่างม้ากกกกกกกก สีไม่ดร็อปด้วย
เนื้อลิปค่อนข้างเหลวต้องเกลี่ยให้ดี เม็ดสีแน่นปาดทีเดียวอยู่เลย พอทาแล้วต้องรอให้มันแห้งนิดหน่อย แต่มันแห้งไวมากๆ เซทตัวแล้วจะเป็นเนื้อแมท แต่!! ปากดูไม่แห้ง และค่อนข้างเบาสบายไม่หนักปากด้วย ตัวนี้ชอบมาก
เนื้อลิปค่อนข้างเหลวต้องเกลี่ยให้ดี เม็ดสีแน่นปาดทีเดียวอยู่เลย พอทาแล้วต้องรอให้มันแห้งนิดหน่อย แต่มันแห้งไวมากๆ เซทตัวแล้วจะเป็นเนื้อแมท แต่!! ปากดูไม่แห้ง และค่อนข้างเบาสบายไม่หนักปากด้วย ตัวนี้ชอบมาก
ลักษณะแปรง : ตรงหัวแปรงจะแข็ง ทำให้ทาได้ง่าย วาดขอบปากง่าย แต่ถ้าไม่ระวังคือลื่นมือทาเกินขอบปากได้ง่ายเช่นกัน
ความเบาสบาย : 4.5 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 4 / 5
ราคาโดยประมาณ : 1,000 – 1,200 บาท
ความเบาสบาย : 4.5 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 4 / 5
ราคาโดยประมาณ : 1,000 – 1,200 บาท
3. Fenty Beauty Stunna Lip Paint #Uncensored
ตอนแรกไปลองปาดที่ Sephora นี่กรี๊ดมากกกกก คือยังไงวันนั้นก็ต้องเสียตังแน่ๆ มันสวยมากกกกกกก แล้วมาหาข้อมูลทีหลังก็เพิ่งรู้ว่าเค้าฮิตกันมากมายฝั่งยุโรป เลยรู้สึกดีที่ได้มา 555555 เค้าบอกว่าเป็นสี Universal Red ด้วยนะ คือสามารถทาได้ทุกสีผิวทุกคน
ตัวนี้เม็ดสีแน่นจริง กลบสีปากได้แน่นอนสำหรับคนสีปากเข้ม แต่เนื้อเหลวมาก เวลาทาเลยค่อนข้างยากที่จะควบคุม และต้องรอให้มันเซทตัวซักพักนึงเลยเพราะมันเหลวจริงๆ แต่ในความเหลวก็แอบรู้สึกว่าโอเคอยู่ ไม่ได้หนักปากอะไร (แต่ตัว NARS เบากว่า) ทาแล้วได้ลุคแมท แต่ไม่ทำให้ปากแห้ง สีตอนทาใหม่ๆจะสีสดกว่า ทิ้งไปซักพักรู้สึกว่ามันจะเข้มขึ้น (สีทึบขึ้น) เลยแอบเซงๆ แต่ก็ทำให้หน้าขาว ขับผิวเหมือนกัน
ตัวนี้เม็ดสีแน่นจริง กลบสีปากได้แน่นอนสำหรับคนสีปากเข้ม แต่เนื้อเหลวมาก เวลาทาเลยค่อนข้างยากที่จะควบคุม และต้องรอให้มันเซทตัวซักพักนึงเลยเพราะมันเหลวจริงๆ แต่ในความเหลวก็แอบรู้สึกว่าโอเคอยู่ ไม่ได้หนักปากอะไร (แต่ตัว NARS เบากว่า) ทาแล้วได้ลุคแมท แต่ไม่ทำให้ปากแห้ง สีตอนทาใหม่ๆจะสีสดกว่า ทิ้งไปซักพักรู้สึกว่ามันจะเข้มขึ้น (สีทึบขึ้น) เลยแอบเซงๆ แต่ก็ทำให้หน้าขาว ขับผิวเหมือนกัน
ลักษณะแปรง : อันนี้มาแปลก เป็นแปรงหัวลูกกลมๆเล็กๆ ง่ายต่อการเขียนขอบปากและง่ายต่อการทา
ความเบาสบาย : 4 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 4.5 / 5
ราคา : 960 บาท
ความเบาสบาย : 4 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 4.5 / 5
ราคา : 960 บาท
4. Giorgio Armani Lip Maestro No.400
**ตัวนี้ต้องขอแจ้งไว้ก่อนว่าส่วนตัวเป็นคนเลิฟๆลิปแมทมากกว่าลิปแบบอื่นค่า ความเห็นก็จะเอนเอียงไปทางลิปแมทมากกว่าน้า**
ก่อนซื้อตัวนี้ค่อนข้างกรี๊ดมาก เพราะดูคลิปบล็อคเกอร์ต่างประเทศแล้วอู้วว้าวสุดๆ แต่พอได้มาเองแล้วก็ไม่ได้ขนาดนั้น แต่สีสวยมากกกกกกกกกกก ขับผิวมั่กๆ แล้วอีกอย่างคือทาแล้วมันกัดปาก ทาแล้วรู้สึกปากชาๆ (เพื่อนเคยเตือนแล้วแต่ไม่เชื่อ 555555)
เม็ดสีเข้มมาก แน่นมาก และเนื้อหนืดมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นเลยรู้สึกค่อนข้างหนักปาก และอีกอย่างคือมันไม่แมทแห้งไปกับปาก เลยรู้สึกว่าค่อนข้างรำคาญ แต่สีกลบปากมิดมาก ฟินิชลุคคือกำมะหยี่สวยงามตามภาพเลย คือทาออกมาแล้วสวยมาก แต่อาจจะต้องระวังเลอะหน่อยนึง
ก่อนซื้อตัวนี้ค่อนข้างกรี๊ดมาก เพราะดูคลิปบล็อคเกอร์ต่างประเทศแล้วอู้วว้าวสุดๆ แต่พอได้มาเองแล้วก็ไม่ได้ขนาดนั้น แต่สีสวยมากกกกกกกกกกก ขับผิวมั่กๆ แล้วอีกอย่างคือทาแล้วมันกัดปาก ทาแล้วรู้สึกปากชาๆ (เพื่อนเคยเตือนแล้วแต่ไม่เชื่อ 555555)
เม็ดสีเข้มมาก แน่นมาก และเนื้อหนืดมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นเลยรู้สึกค่อนข้างหนักปาก และอีกอย่างคือมันไม่แมทแห้งไปกับปาก เลยรู้สึกว่าค่อนข้างรำคาญ แต่สีกลบปากมิดมาก ฟินิชลุคคือกำมะหยี่สวยงามตามภาพเลย คือทาออกมาแล้วสวยมาก แต่อาจจะต้องระวังเลอะหน่อยนึง
ลักษณะแปรง : ลักษณะรูปทรงมาตรฐาน แต่รู้สึกว่าทาง่ายกว่าปกติ เหมือนแปรงมันมีความยืดหยุ่นได้
ความเบาสบาย : 2.5 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 3 / 5
ราคาโดยประมาณ : 1,000 – 1,400 บาท
ความเบาสบาย : 2.5 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 3 / 5
ราคาโดยประมาณ : 1,000 – 1,400 บาท
5. Sephora Cream Lip Stain No.01
ตัวนี้เชื่อว่าลูกรักใครหลายๆคนแน่นอน เป็นตัวที่เหมาะแก่การเข้าวงการปากแดงมากที่สุด เพราะทายังไงก็รอด และราคาถูก ถูกและดีมีอยู่จริง!! ใช้มาแท่งที่สามแล้วววว ถึงแม้จะชอบลองตัวอื่น แต่สุดท้ายต้องคลานเข่ากลับมาหาตัวนี้ตลอด หรือคิดอะไรไม่ออก เลือกทาไม่ถูก จบที่นี่เลยเด้อ ที่สำคัญติดทนมากมากมากมากกกกกก
เม็ดสีแน่น กลบสีปากได้มิดแน่นอน ทาง่ายแต่เนื้อแห้งๆ เลยอาจจะทำให้ตกร่องบ้าง ตัวนี้ไม่ได้ทาแล้วรู้สึกเบานะ แต่ก็ไม่หนัก คือทาแล้วรู้สึกว่าทานั่นแหละ ฟินิชลุคคือแห้งไปกับปากเลย (ถ้าดูรูปเปรียบเทียบทั้ง 5 ตัว จะเห็นได้ชัดว่าตัวนี้แมทที่สุด)
คำเตือนสำหรับตัวนี้ ควรบำรุงปากก่อนทา และไม่ควรทาทับซ้ำๆหลายๆรอบ เพราะเป็นขุยง่ายจ้า
เม็ดสีแน่น กลบสีปากได้มิดแน่นอน ทาง่ายแต่เนื้อแห้งๆ เลยอาจจะทำให้ตกร่องบ้าง ตัวนี้ไม่ได้ทาแล้วรู้สึกเบานะ แต่ก็ไม่หนัก คือทาแล้วรู้สึกว่าทานั่นแหละ ฟินิชลุคคือแห้งไปกับปากเลย (ถ้าดูรูปเปรียบเทียบทั้ง 5 ตัว จะเห็นได้ชัดว่าตัวนี้แมทที่สุด)
คำเตือนสำหรับตัวนี้ ควรบำรุงปากก่อนทา และไม่ควรทาทับซ้ำๆหลายๆรอบ เพราะเป็นขุยง่ายจ้า
ลักษณะแปรง : รูปทรงมาตรฐาน หัวแปรงนุ่ม ปาดง่าย ปาดได้ไว
ความเบาสบาย : 3 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 5 / 5
ราคา : 490 บาท ตอนไหน Sephora เซลจะคุ้มมาก เหลือแท่งละประมาน 300 ต้นๆเอง
ความเบาสบาย : 3 / 5
ความแน่นของเม็ดสี : 5 / 5
ความติดทน : 5 / 5
ราคา : 490 บาท ตอนไหน Sephora เซลจะคุ้มมาก เหลือแท่งละประมาน 300 ต้นๆเอง
คราวนี้ลองมาเปรียบเทียบกันชัดๆบนแขนดูบ้าง จะเห็นชัดมากขึ้น
จากรูปจะเห็นได้ชัดว่า..
เม็ดสีอ่อนสุด : YSL
แมทที่สุด : Sephora
ลุคที่แตกต่างที่สุด : Giorgio Armani
ส่วน Nars และ Fenty จะค่อนข้างคล้ายกัน ต่างกันที่ Nars สีจะไม่ค่อยดร็อป
เม็ดสีอ่อนสุด : YSL
แมทที่สุด : Sephora
ลุคที่แตกต่างที่สุด : Giorgio Armani
ส่วน Nars และ Fenty จะค่อนข้างคล้ายกัน ต่างกันที่ Nars สีจะไม่ค่อยดร็อป
มาดูตอนเช็ดออกด้วย Makeup Romover 1 ครั้งกันบ้าง
ความติดทน : Sephora > Nars > Fenty Beauty > YSL > Giorgio
(เพราะว่าตัว Giorgio ไม่ได้เป็นลิปแมท อาจจะไม่เกาะปากเท่าตัวอื่นๆ เลยทำให้เช็คออกง่ายสุด และติดตทนน้อยที่สุด)
(เพราะว่าตัว Giorgio ไม่ได้เป็นลิปแมท อาจจะไม่เกาะปากเท่าตัวอื่นๆ เลยทำให้เช็คออกง่ายสุด และติดตทนน้อยที่สุด)
เช็ดด้วย Makeup Romover ประมาน 2-3 รอบ
ให้ภาพอธิบายเลย Sephora คือถึกทนแน่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ส่วนตัวอื่นๆเริ่มทนไม่ไหวกันแล้ว 5555555
รูปนี้คือใช้ Makeup Remover เช็ดออกจนหมด (ให้เกลี้ยงมากสุด)
ถึง Sephora จะติดทน แต่นางก็เช็คออกง่ายอยู่ ส่วนตัวที่ค่อนข้างเช็ดออกยากคือ Nars
ถ้าให้เลือกตัวที่ชอบที่สุด หรือตัวที่จำเป็นต้องมี จะขอเลือก Nars กับ Sephora ส่วนตัวอื่นคิดว่ายังไม่น่าซื้อขนาดนั้น (แต่ถ้ามีอยู่ก็ใช้ได้ เพราะสวยมากเช่นกัน)
ย้ำกันอีกทีว่าทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ผลลัพธ์แต่ละคนออกมาไม่เหมือนกันแน่นอน
ย้ำกันอีกทีว่าทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ผลลัพธ์แต่ละคนออกมาไม่เหมือนกันแน่นอน
ขอฝากทริคเล็กน้อยสำหรับการเลือกสีแดงและการทาปากแดงสำหรับมือใหม่
– บำรุงปากทุกครั้งก่อนทาลิป ป้องกันการแตกระแหงระหว่างวัน
– ถ้ามือไม่แม่นจริง หรือไม่เซียนจริง ขอร้องให้เขียนขอบปากทุกครั้งก่อนทา เพราะมันจะช่วยให้ทาได้กริบขึ้นมากๆ อย่าทิ้งให้ขอบปากหยึกหยักๆ มันไม่งามมมมมมมมม
– แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะเก็บรายละเอียดด้วยคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นรอบๆขอบปากตอนสุดท้าย ใช้แปรงค่อยๆปาดไประวังอย่าเลอะเข้าสีลิป มันจะทำให้กริบขึ้นมากและทำให้ปากดูเด่นขึ้นมากๆ
– อย่าเลือกสีแดงที่ทำแล้วทำให้ฟันเหลืองเด็ดขาด! เพราะฉะนั้นไปด้อมๆมองๆลองๆปาดที่เคาท์เตอร์กันก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้ไม่เสียตังฟรี
– อย่าลืมส่องกระจกตอนทาเสร็จ เพราะลิปอาจติดฟัน!
– ถ้าลิปติดฟันวิธีง่ายๆเลยคือให้อมนิ้วชี้แล้วรูดออก ลิปส่วนเกินจะติดนิ้วออกมา หมดกังวลเรื่องลิปติดฟันแน่นอลลล
– สุดท้าย…มีสติและสมาธิตอนทาด้วยจ้า ไม่งั้นมีแต่พังกับพัง 55555555
– บำรุงปากทุกครั้งก่อนทาลิป ป้องกันการแตกระแหงระหว่างวัน
– ถ้ามือไม่แม่นจริง หรือไม่เซียนจริง ขอร้องให้เขียนขอบปากทุกครั้งก่อนทา เพราะมันจะช่วยให้ทาได้กริบขึ้นมากๆ อย่าทิ้งให้ขอบปากหยึกหยักๆ มันไม่งามมมมมมมมม
– แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะเก็บรายละเอียดด้วยคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นรอบๆขอบปากตอนสุดท้าย ใช้แปรงค่อยๆปาดไประวังอย่าเลอะเข้าสีลิป มันจะทำให้กริบขึ้นมากและทำให้ปากดูเด่นขึ้นมากๆ
– อย่าเลือกสีแดงที่ทำแล้วทำให้ฟันเหลืองเด็ดขาด! เพราะฉะนั้นไปด้อมๆมองๆลองๆปาดที่เคาท์เตอร์กันก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้ไม่เสียตังฟรี
– อย่าลืมส่องกระจกตอนทาเสร็จ เพราะลิปอาจติดฟัน!
– ถ้าลิปติดฟันวิธีง่ายๆเลยคือให้อมนิ้วชี้แล้วรูดออก ลิปส่วนเกินจะติดนิ้วออกมา หมดกังวลเรื่องลิปติดฟันแน่นอลลล
– สุดท้าย…มีสติและสมาธิตอนทาด้วยจ้า ไม่งั้นมีแต่พังกับพัง 55555555