เปิดกรุ Aesop ที่หลงรัก...เพราะช่วยดูแลผิวผสมได้ตรงจุด
iameark 25 3
ช่วงนี้ว่างๆ เลยกลับมานั่งอ่านบทความของตัวเองเล่นๆ อ่านไปอ่านมา เอ๊ะ ทุกๆ อันที่เคยเขียนแนะนำเพื่อนๆ ไป 2-3 อัน มันมีของ Aesop เป็นองค์ประกอบรวมอยู่ด้วยมันทุกอันเลยแฮะ นี่ก็เลยได้ไอเดีย รวมเอา Aesop ที่ใช้อยู่ทั้งหมดมาเป็นหนึ่งบทความที่จะมาแนะนำเพื่อนๆ มันซะเลย เก๋ๆ ไหนๆ ก็ใช้อยู่แล้ว เอามาเขียนมันซะหน่อย เพราะตอนนี้ไม่ได้มีไอเทมใหม่อะไรที่ใช้เลย เอาของเก่าที่ใช้ดีเป็นประจำนี่แหละมาแนะนำกันในมุมมองใหม่
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าคนไทยส่วนใหญ่นั้น (รวมถึงตัวเอิ๊กด้วย) เป็นผิวผสม ซึ่งผิวผสมคือเป็นชนิดผิวที่ได้รับส่วนผสมของทุกสภาพผิวอยู่ในหนึ่งเดียว ทั้งผิวมัน ผิวธรรมดา หรืออาจจะรวมไปที่ผิวแห้ง ดังนั้นการหาสกินแคร์ที่ใช้สำหรับบำรุงผิวสำหรับผิวผสมอย่างเอิ๊กนั้นก็ต้องเลือกให้ดีกันหน่อย เพราะใบหน้าคือสิ่งที่คนจะมองเป็นอันดับแรกๆ จะให้เอาอะไรมาทาๆ ถูๆ มั่วซั่วอันนี้ไม่ได้ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้หน้าตัวเองเท่านั้น
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าคนไทยส่วนใหญ่นั้น (รวมถึงตัวเอิ๊กด้วย) เป็นผิวผสม ซึ่งผิวผสมคือเป็นชนิดผิวที่ได้รับส่วนผสมของทุกสภาพผิวอยู่ในหนึ่งเดียว ทั้งผิวมัน ผิวธรรมดา หรืออาจจะรวมไปที่ผิวแห้ง ดังนั้นการหาสกินแคร์ที่ใช้สำหรับบำรุงผิวสำหรับผิวผสมอย่างเอิ๊กนั้นก็ต้องเลือกให้ดีกันหน่อย เพราะใบหน้าคือสิ่งที่คนจะมองเป็นอันดับแรกๆ จะให้เอาอะไรมาทาๆ ถูๆ มั่วซั่วอันนี้ไม่ได้ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้หน้าตัวเองเท่านั้น
ซึ่งสกินแคร์ที่เอิ๊กใช้เป็นรูทีนก็จะมีอยู่หลายตัว แต่ในครั้งนี้บอกแล้วว่ายกมาเฉพาะตัวของ Aesop ลูกรัก เท่านั้น ซึ่งก็จะมี
- Aesop In Two Minds Facial Toner
- Aesop Lucent Facial Concentrate
- Aesop In Two Minds Facial Hydrator
Aesop In Two Minds Facial Toner
เรามาเริ่มกันที่ตัวแรกกันก่อนเลย กับ Aesop In Two Minds Facial Toner สำหรับเอิ๊กมองว่าการใช้โทนเนอร์หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะจัดเป็น Priority อันดับต้นๆ เลย เพราะว่าการเช็ดหน้าทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์นั้นเหมือนเป็นการปรับผิว เพื่อเตรียมพร้อมให้ผิวได้รับการซึมซับครีมบำรุงได้อย่างเต็มที่นั่นเอง ดังนั้นสำหรับเอิ๊กโทนเนอร์คือตัวแปรสำคัญในการบำรุงผิวเลยแหละ
ตัวของ In Two Minds Facial Toner มีส่วนผสมของ ซาลิไซลิก เอสิค ที่ช่วยในการทำความสะอาดผิวให้เกลี้ยง รวมไปถึงการช่วยปรับช่วยปรับสมดุลผิว ให้ผิวไม่มันและยังเพิ่มความชุ่มชื่นได้ในเวลาเดียวกัน อันนี้ที่ใช้มาแล้วรู้สึกเองนะ คือหลังจากที่ใช้ไปพวกสิวอุดตันที่มันเคยมี มันหายไปจริงๆ นะ แถมพวกรอยแดงจากสิวที่มีจากลงไปเร็วมาก อันนี้คือเห็นได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ แถมกลิ่นก็หอมแบบบางๆ ไม่ใช่หอมแบบเคมี ฟีลแบบน้ำมันหอมระเหยเลยเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันสกัดลาเวนเดอร์ เสจ และโรสแมรี่ ช่วยแต่งกลิ่น และให้คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านแบคทีเรียได้ ใครสายสกินแคร์ที่ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย อันนี้แหละโดนเลย และนอกจากนั้นแล้ววันไหนที่แบบรีบๆ (ประมาณว่าตื่นสายไปทำงานไม่ทัน) แค่ล้างหน้าแล้วต่อด้วยเช็ดด้วยโทนเนอร์ตัวนี้ก็เรียกว่าเอาอยู่สำหรับวันที่เริ่งด่วนนะ เพราะจากประสบการณ์ตรงที่แบบเช็ดๆ เพียงแค่ตัวเดียว ไม่ได้ใช้ตัวบำรุงตัวอื่นนอกจากลงกันแดด รู้สึกได้เลยว่าผิวยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ไม่แห้งตึงด้วย อันนี้แหละบอกเลยว่าเป็นไพ่ตายของเอิ๊กจริงๆ
มาว่าด้วยตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กัน ตัวเนื้อโทนเนอร์ เป็นสีเหลืองอ่อนๆ ฝาปิดเปิดใช้งานง่ายกำหนดปริมาณการใช้ได้ไม่ยาก การใช้ ส่วนตัว เอิ๊กใช้ 2 แบบ วันไหนที่รีบจริงๆ ในตอนเช้า ก็จะเทโทนเนอร์ใส่มือแล้วประคบลงผิวเลย นวดๆ นิดๆ หน่อยๆ แล้วลงตัวอื่นต่อถ้ามีเวลา ถ้าวันไหนรีบมาก (เพราะตื่นสาย) ไม่มีเวลาก็โทนเนอร์แล้วกันแดดจบเลย เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างบน แค่โทนเนอร์ก็เอาอยู่แล้ว เพราะมันไม่ทำให้หน้ามันหลังใช้ แถมใช้แล้วผิวรู้สึกชุ่มชื้นสบายผิว บอกเลยว่าคนผิวผสมนี่ใช้แล้วยิ้มเลย ส่วนในตอนกลางคืนก็จะเทโทนเนอร์ลงบนสำลีแล้วค่อยๆ เช็ดผิว ให้ตัวโทนเนอร์เข้าไปบำรุงผิวแบบปลอบประโลมก่อนที่จะลงสกินแคร์บำรุงผิวตัวอื่นๆ ตาม
ตัวของ In Two Minds Facial Toner มีส่วนผสมของ ซาลิไซลิก เอสิค ที่ช่วยในการทำความสะอาดผิวให้เกลี้ยง รวมไปถึงการช่วยปรับช่วยปรับสมดุลผิว ให้ผิวไม่มันและยังเพิ่มความชุ่มชื่นได้ในเวลาเดียวกัน อันนี้ที่ใช้มาแล้วรู้สึกเองนะ คือหลังจากที่ใช้ไปพวกสิวอุดตันที่มันเคยมี มันหายไปจริงๆ นะ แถมพวกรอยแดงจากสิวที่มีจากลงไปเร็วมาก อันนี้คือเห็นได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ แถมกลิ่นก็หอมแบบบางๆ ไม่ใช่หอมแบบเคมี ฟีลแบบน้ำมันหอมระเหยเลยเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันสกัดลาเวนเดอร์ เสจ และโรสแมรี่ ช่วยแต่งกลิ่น และให้คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านแบคทีเรียได้ ใครสายสกินแคร์ที่ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย อันนี้แหละโดนเลย และนอกจากนั้นแล้ววันไหนที่แบบรีบๆ (ประมาณว่าตื่นสายไปทำงานไม่ทัน) แค่ล้างหน้าแล้วต่อด้วยเช็ดด้วยโทนเนอร์ตัวนี้ก็เรียกว่าเอาอยู่สำหรับวันที่เริ่งด่วนนะ เพราะจากประสบการณ์ตรงที่แบบเช็ดๆ เพียงแค่ตัวเดียว ไม่ได้ใช้ตัวบำรุงตัวอื่นนอกจากลงกันแดด รู้สึกได้เลยว่าผิวยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ไม่แห้งตึงด้วย อันนี้แหละบอกเลยว่าเป็นไพ่ตายของเอิ๊กจริงๆ
มาว่าด้วยตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กัน ตัวเนื้อโทนเนอร์ เป็นสีเหลืองอ่อนๆ ฝาปิดเปิดใช้งานง่ายกำหนดปริมาณการใช้ได้ไม่ยาก การใช้ ส่วนตัว เอิ๊กใช้ 2 แบบ วันไหนที่รีบจริงๆ ในตอนเช้า ก็จะเทโทนเนอร์ใส่มือแล้วประคบลงผิวเลย นวดๆ นิดๆ หน่อยๆ แล้วลงตัวอื่นต่อถ้ามีเวลา ถ้าวันไหนรีบมาก (เพราะตื่นสาย) ไม่มีเวลาก็โทนเนอร์แล้วกันแดดจบเลย เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างบน แค่โทนเนอร์ก็เอาอยู่แล้ว เพราะมันไม่ทำให้หน้ามันหลังใช้ แถมใช้แล้วผิวรู้สึกชุ่มชื้นสบายผิว บอกเลยว่าคนผิวผสมนี่ใช้แล้วยิ้มเลย ส่วนในตอนกลางคืนก็จะเทโทนเนอร์ลงบนสำลีแล้วค่อยๆ เช็ดผิว ให้ตัวโทนเนอร์เข้าไปบำรุงผิวแบบปลอบประโลมก่อนที่จะลงสกินแคร์บำรุงผิวตัวอื่นๆ ตาม
Aesop Lucent Facial Concentrate
มาต่อกันที่นังลูกรัก ที่โผล่มาบ่อยมากในบทความเก่าๆ ที่เคยเขียนไป กับเจ้าเซรั่มบำรุงผิวที่มีความเข้มข้นแต่ไม่หนักหน้า มีความสบายผิวอย่างดีงาม ไม่รู้สึกหนัก บอกเลยว่านอกจากจะเข้ากับผิวคนไทย (ผิวผสม) แล้ว มันยังเข้ากับอากาศแบบไทยๆ (ที่ร้อนมากกกก) อีกด้วย เพราะตัวเซรั่มไม่ทำให้หน้ามันนั่นเอง พร้อมส่วนผสม Sodium Ascorbyl Phosphate เป็นอนุพันธ์วิตามินซีเสถียรที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ เป็นไวท์เทนนิ่งช่วยในความกระจ่างใสได้ แถมเรื่องกลิ่นก็หอม ตามสไตล์ Aesop เขาแหละ หอมแบบอโรมาเธราพีผ่อนใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลายดี ส่วนที่เห็นได้ชัดหลังใช้นั้น ที่เด่นๆ เลยคือผิวหน้าดูกระจ่างขึ้น สีผิวมีความเสมอกัน ไม่ได้แบบกระจ่างเวอร์หน้ามือเป็นหลังมือนะ แต่แบบสังเกตุได้ว่าเปลี่ยนแปลงจริงๆ ถือว่าอันนี้โอเคเลย เอาอยู่ทั้งผิวหน้าไม่แห้งมีความชุ่มชื้นกับผิวดูกระจ่างแบบ 2 in 1
มาว่าด้วยตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กัน เซรั่มมีความข้น สีออกเหลืองจาง ๆ ตัวหัวดร็อปใช้งานง่ายมาก สามารถกำหนดปริมาณที่จะใช้ได้แบบสบายๆ การใช้งานเอิ๊กจะหยดลงบนมือ 3-4 ดร็อป แล้วค่อยๆ นวดลงบนผิวหน้าเบาๆ ให้ทั่ว บอกเลยว่าเนื้อสัมผัสกลื่นไปกับผิวได้ไวและไม่เหนอะหนะ เหมาะจริงๆ สำหรับคนผิวผสมเพราะไม่ทำให้หน้ามันเลย ทั้งๆ ที่ตัวเนื้อเซรั่มเป็นออกจะเข้มข้นมากๆ สิ่งที่ชอบมากๆ คือมันให้ความชุ่มชื่นในระดับมอยซ์เจอไรเซอร์ไปในตัวด้วยนะ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวผสม ถึงผิวมันในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทยเราจริงๆ แต่อันนี้บอกก่อนนะว่า วิตามินซีควรใช้แต่ตอนกลางคืนเท่านั้นเพราะวิตามินจะไวต่อแสงมากๆ อย่าทำเปรี้ยวทาไปออกแดดล่ะ //วันไหนเห็นฟ้าครึ้มแดดน้อยค่อยทาออกไปก็ได้ แต่ทางที่ดีกลางคืนจะดีที่สุด
มาว่าด้วยตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กัน เซรั่มมีความข้น สีออกเหลืองจาง ๆ ตัวหัวดร็อปใช้งานง่ายมาก สามารถกำหนดปริมาณที่จะใช้ได้แบบสบายๆ การใช้งานเอิ๊กจะหยดลงบนมือ 3-4 ดร็อป แล้วค่อยๆ นวดลงบนผิวหน้าเบาๆ ให้ทั่ว บอกเลยว่าเนื้อสัมผัสกลื่นไปกับผิวได้ไวและไม่เหนอะหนะ เหมาะจริงๆ สำหรับคนผิวผสมเพราะไม่ทำให้หน้ามันเลย ทั้งๆ ที่ตัวเนื้อเซรั่มเป็นออกจะเข้มข้นมากๆ สิ่งที่ชอบมากๆ คือมันให้ความชุ่มชื่นในระดับมอยซ์เจอไรเซอร์ไปในตัวด้วยนะ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวผสม ถึงผิวมันในสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทยเราจริงๆ แต่อันนี้บอกก่อนนะว่า วิตามินซีควรใช้แต่ตอนกลางคืนเท่านั้นเพราะวิตามินจะไวต่อแสงมากๆ อย่าทำเปรี้ยวทาไปออกแดดล่ะ //วันไหนเห็นฟ้าครึ้มแดดน้อยค่อยทาออกไปก็ได้ แต่ทางที่ดีกลางคืนจะดีที่สุด
Aesop In Two Minds Facial Hydrator
มาถึงตัวสุดท้ายกับ Two Minds Facial Hydrator ตัวครีมบำรุงที่มีความ Amazing ไม่แพ้ตัวอื่น เนื้อครีมมีสีขาว ดูมีความเข้มข้นมากๆ แต่ที่แปลกคือเมื่อทาลงบนผิว กลับมีความเบาบางและสบายผิวมากๆ และที่สำคัญซึมเร็วเวอร์ ไม่เหนียวเหนอะหนะ กับส่วนผสมของ Copaifera Officinalis (Balsam Copaiba) Resin ที่มีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพที่ช่วยป้องกันปัญหาแบคทีเรียและสาเหตุจากการเกิดสิว ด้าน ส่วนกลิ่นมีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย ซึ่งชิ้นนี้มีส่วนผสมที่สกัดมาจากน้ำมันมะพร้าวอีกด้วย ชอบตรงที่เนื้อครีมจะดูหนักแต่ออกมาเบาและช่วยในการคุมมันเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ หลังจากที่เอิ๊กใช้แล้ว รู้สึกว่าบอกลาปัญหาสิวไปรัวๆ เลย เพราะอย่างที่บอก ตัวเนื้อครีมมีส่วนผสมที่ช่วยลดปัญหาสิวด้วย เท่าที่สังเกตด้วยตัวเองหลังใช้ตัวนี้มาสักระยะ สภาพผิวหน้าดูดีงามขึ้น ความมันที่มีดูเบาบางลง และงานสิวที่มักโผล่มาเซย์ฮัลโลวแบบประปรายมันหายไปเลยจริงๆ
มาว่าด้วยตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กัน ตัวเนื้อครีมเป็นเนื้อครีมที่ทาแล้วจะกลายเป็นเจลทำซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย เป็นหัวปั๊มใช้งานสะดวก เอิ๊กจะบีบเนื้อครีมลงบนฝ่ามือ ประมาณ 4 ครั้ง แล้วเอานิ้วแต้มไปให้ทั่วผิวหน้า ก่อนที่จะนวดๆ ให้ครีมซึมเข้าสู่ผิว พอทาแล้วจะให้ความรู้สึกเซ็ทตัวบนผิวหน้าได้เลย เนื้อครีมทาแล้วไม่มีความมันวาวเหมือนครีมบำรุงผิวทั่วไป เหมาะจริงๆ สำหรับผิวผสม และผิวมัน รวมไปถึงยังให้ความชุ่มชื้นและสบายผิวในเวลาเดียวกันแถมได้ปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายจากลิ่นหอมอโรมาเธอราปีจากตัวครีมด้วย
มาว่าด้วยตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กัน ตัวเนื้อครีมเป็นเนื้อครีมที่ทาแล้วจะกลายเป็นเจลทำซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย เป็นหัวปั๊มใช้งานสะดวก เอิ๊กจะบีบเนื้อครีมลงบนฝ่ามือ ประมาณ 4 ครั้ง แล้วเอานิ้วแต้มไปให้ทั่วผิวหน้า ก่อนที่จะนวดๆ ให้ครีมซึมเข้าสู่ผิว พอทาแล้วจะให้ความรู้สึกเซ็ทตัวบนผิวหน้าได้เลย เนื้อครีมทาแล้วไม่มีความมันวาวเหมือนครีมบำรุงผิวทั่วไป เหมาะจริงๆ สำหรับผิวผสม และผิวมัน รวมไปถึงยังให้ความชุ่มชื้นและสบายผิวในเวลาเดียวกันแถมได้ปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายจากลิ่นหอมอโรมาเธอราปีจากตัวครีมด้วย
นี่แหละคือกรุ Aesop ที่เอิ๊กใช้ทั้งหมดในช่วงนี้ บอกเลยว่าไอเทมทั้งหมดนั้นเหมาะสำหรับ เพื่อนๆ ที่เป็นคนผิวมันและปัญหาสิวแบบเบาๆ ใครมีปัญหาเรื่องแบบนี้อยู่แล้วยังไม่รู้ว่าจะใช้สกินแคร์ตัวไหนดี ก็ขอให้บทความแนะนำไอเทมจากเอิ๊กเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเพื่อนๆ นะครับ เอาล่ะ ครั้งนี้ก็ต้องบ๊ายบายกันไปก่อน ถ้ามีอะไรดีๆ เด็ดๆ ที่เอิ๊กใช้แล้วรู้สึกว่าดีจริงอีก เอิ๊กจะมาแนะนำใหม่นะครับ ><*