ฮายยยยย ซิสสสสสส

มาถึงตอนสุดท้ายตะลุยโจทย์ไฟนอลกันแล้วกับ Body Conscious หรือการใส่ใจในรูปร่างตัวเอง

เมื่อวานคิสพูดถึงเรื่อง Intake หรือการกิน เอาพลังงานเข้ากันไปแล้ว อีกส่วนที่คนเกือบทุกคนมักจะส่ายหัวหนีก่อนเลยเมื่อนึกถึงก็คือ การเอาออก หรือออกกำลังกาย

คิสสังเกตเองจากการดูวิธีการตั้งคำถามของคนที่อยากจะลดน้ำหนัก

"กินยาอะไรน้ำหนักจะลดลงไม่โยโย่คะ"

"ฝังเข็มลดน้ำหนักได้จริงมั๊ยคะ"

"ขอสูตรลดน้ำหนักเร่งด่วนด้วยค่ะ กำลังจะต้องไปงานแต่งแล้ว"

"ถ้ากินคลีนติดต่อกันจะลดน้ำหนักได้มั๊ยคะ"

มันจะวนๆในอ่างแบบนี้ละ

คือคนมักจะสนใจเรื่องการหาทางลัด ไม่ก็เรื่อง Intake และข้ามเรื่องการเอาออกด้วยการออกกำลังกาย(มีบ้างละที่มาถามเรื่องออกกำลังกายแต่น้อยมาก)

ไม่ก็มีคำระบุมาเลยว่า "ขี้เกียจออกกำลังกายค่ะ" "แต่เราไม่ชอบออกกำลังกายค่ะ"

ดีมากเลย ตรงๆใจๆ แบบนี้ละชอบ พูดมาเลยว่าไม่เอา ชั้นไม่ออก ไม่ชอบคือไม่ชอบ

แต่ออกกำลังกายไม่ได้แปลว่าเราต้องใส่ชุดไปยิมเสมอไปนะคะ

เปลี่ยนความคิดเรื่องการออกกำลังกายใหม่เลยค่ะ ใครหลวมตัวเข้ามาแล้ว อยากให้เข้ามาปรับทัศนคติด้วยกันไปเลย เพราะคิสอยากให้สาวๆปรับ Mindset เรื่องการออกกำลังกายใหม่

ถ้าสาวๆเคยไปเมืองจีน ไปเที่ยวฮ่องกง เกาหลี เวียดนามก็ได้

จะต้องตะลึงกับการกินของสาวๆที่นั่น เพราะกินกันได้ป่าเถื่อนที่สุด!! โหดมากกก

คิสคิดว่าตัวเองกินเก่งแล้วนะ เจอประเทศอื่น ยอมแพ้ ชั้นขอกราบหัวใจพวกหล่อน!!

เพราะเค้ากินเก่งไม่พอ กินไม่เลือกด้วย ของมันๆ ปลาหมึกผัดมันๆเยิ้มๆเลย แบบมันปลิ้นออกมาเป็นปาท่องโก๋ เค้ากินกันหน้าตาเฉย กินทีคิสเกรงใจค่ะ คือคิสกินไม่ลงอะบอกตรงๆ มันมาก คิสกินเบียร์อย่างเดียวเลย สาวๆประเทศอื่นที่เป็นเพื่อนๆกัน เค้ากินเป็นปรกติ ไม่ได้ฉลองให้คิส ไม่ได้กินโชว์ความน่ารักแกลโซเนะ เค้ากินเพราะเป็นวิถีชีวิตเค้า

แล้วพวกเค้าไม่อ้วนเลย!! ไม่เลย ขีดเส้นใต้ ทำไม?? ยีนส์ดี??

คิสขอตอบแทนผู้หญิงบางส่วนบนโลกว่าเค้าไม่อ้วนทั้งๆที่กินจุ ไม่ได้ไปฟิตเนสว่า

เค้าเดินเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก เดินเหมือนข้ามภูเขาหิมาลัยกันทุกวัน เดินเหมือนไปยืมขาคนอื่นมาใช้ เดินเหมือนขาไม่ใช่ขาตัวเอง เดินเป็นชีวิตจิตใจ

ซูมภาพกลับมาที่บ้านเราค่ะ อากาศ+มลภาวะ+ระบบขนส่งสาธารณะ(แย่)ระดับโลก

ทำให้เราปวดกะบาลที่จะต้องเดินแบบเค้า คืออาจจะได้มะเร็งปอดมาก่อนจะได้สวยว่างั้น 55555555

ไม่ต้องเครียดค่ะ แล้วก็ไม่ต้องหาข้ออ้างด้วย ถึงเราจะไม่สะดวกเดินฟุตบาธที่พร้อมจะดีดน้ำท่อพันปีใส่หน้าเราก็ตาม....เราทำได้ค่ะ ถ้าเราอยากจะทำมันจริงๆ

คิสขอเอาวิธีที่คิสใช้เองกับตัวมาตีแผ่เพื่ออิสตรีทุกคนค่ะ

การออกกำลังกาย ส่วนตัวคิสขอแบ่งเป็น;

- ออกแบบรู้ตัว

กับ

- ออกแบบไม่รู้ตัว

ออกกำลังกายแบบรู้ตัว คือแบบตั้งใจ ตั้งสติเปลี่ยนชุดใหม่ ใส่สนีคเกอร์ เข้าคลาสจริงจัง ซึ่งแบบนี้คิสก็ออกนะ แต่ไม่ได้ออกทุกวัน

ส่วนแบบไม่รู้ตัว(จริงๆมันก็รู้ตัวทั้ง 2 แบบนั่นละ) แต่คือเป็นแบบที่เราใส่มันลงไปในกิจวัตรประจำวัน จนเราไม่จำเป็นต้องไปยิม เข้าคลาสอะไรก็หุ่นสวยได้

การออกกำลังกายแบบจริงจัง คิสขอไม่พูดถึงนะคะ ทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้ว แต่ทำไม่ทำก็ต้องอยู่ที่ใจแล้วละว่าแข็งแรงแค่ไหน คิสมั่นใจว่าถ้าคนออกกำลังกายไปสักพัก ส่วนใหญ่จะติดใจค่ะ คือถ้าออกหนักๆ มันจะไม่อยากหยุดออก อยากจะ keep fit แต่ไม่ใช่ทุกคนพร้อมจะเดินทางไปได้ถึงจุดนั้น ข้ออ้างมันมีสารพัดค่ะ

จุดที่ยากที่สุดในการออกกำลังกายคือจุดเริ่มต้น

ความจริงที่ตลกที่สุดคือ "จริงๆแล้วทุกคนมี six pack ได้หมด แม้จะไม่เล่นเวท"

คือคิสเล่นเวทนะคะ เล่นท้องด้วย แต่จะบอกว่าตอนที่คิสมีไลน์กล้ามท้องขึ้นไม่ใช่ช่วงที่คิสเล่นส่วนแอปเลย

แต่เป็นช่วงที่ระดับไขมันคิสแตะที่ 16-17% แค่นั้นละ มันก็ขึ้นมาแล้วค่ะ

นั่นแปลว่า "คนเราทุกคนมีไลน์กล้ามท้องให้ชื่นชมกันได้หมดแม้จะไม่เล่นเวทเลย"

เพราะกล้ามเรามีกันหมดในตัวอยู่แล้ว แต่ที่มันไม่เห็น เพราะไขมันบังอยู่

แล้วทำยังไงถึงจะได้ละ

ไขมันเป็นสสารที่ใช้ระบบการกักเก็บแบบ LIFO(last in, first out)

เวลาที่ระดับไขมันมันลด มันจะไปลดส่วนอืนก่อน หน้าอก, หน้า, คอ, หลัง, แขน, ต้นขา และหน้าท้องเป็นลำดับท้ายๆ

นั่นแปลว่าหากเราสามารถอดทนลดระดับไขมันในร่างกายได้ถึงจุดนึง กล้ามมันก็จะโผล่ออกมาเซย์ฮัลโหลกับเราเอง

ส่วนวิธีการลดไขมัน คิสจะอธิบายแบบงูๆปลาๆ ถ้ามีผิดพลาด อยากขอให้ช่วยกันแนะนำด้วยนะคะ

การออกกำลังกายแบ่งเป็น 3 ประเภทกว้างๆ กว้างมาก

แอโรบิก เน้นการเผาผลาญพลังงานเป็นหลัก

เวท เน้นการสร้างกล้ามเนื้อ ด้วยการทำร้าย,ทำลายกล้ามเนื้อแล้วสร้างใหม่

โยคะ ฯลฯ เน้นการคลายกล้ามเนื้อ

การออกกำลังกายที่ดีควรประกอบด้วยทั้ง 3 อย่างนี้ ปั่นเข้ารวมกันทั้งหมด

ถ้าใครออกกำลังกายแบบจริงจัง ก็จัดตารางให้ตัวเองกันไป อะไรสลับอันไหน

แต่คนที่ไม่อยากออกกำลังกายละ??

คุณทำมันได้หมดเลยทุกอย่าง แค่ใส่ลงไปในกิจวัตรประจำวัน

แอโรบิก คิสใช้วิธีเต้น เต้นในห้องนอนเลยค่ะ ไม่ใช่แบบซุมบ้า ไม่ใช่แจสอะไรด้วย เต้นแบบขัดแย้งกับทุกหลักการเต้นบนโลกนี้ เต้นท่าอะไรก็ได้ ไม่ต้องแคร์เวริล

ไม่ต้องสนใจสเตป แต่ออกให้มันได้ทุกส่วน แล้วอย่าหยุดเต้น!! คิสไม่จับเวลาตัวเองว่าต้องออกกำลังกาย 30 นาที ไม่มีจับเวลา แต่คิสจะบอกตัวเองให้เต้นอย่างน้อย 8 แทรค++

บอกเลยว่าเหงื่อท่วม และสนุกมาก ไม่รู้สึกอึดอัด หรืออายที่เค้นตามคนอื่นไม่ทัน ใครก็เต้นตามชั้นไม่ได้ทั้งนั้นละ ปรมาจารย์เต้นสังกัดไหนก็มาเหอะ ลิซ่าก็ลิซ่า ก๊อปท่าคิสไม่ได้แน่นวล

อีกวิธีที่คิสมักจะทำคือ "เดินเร็ว"

คิส set เป้าหมายคิสไว้เลย ไม่ใช่ full marathon นะคะ เป้าหมายคิสคือร้านโจ๊กปริ้นซ์บางรัก!! 5555555555555

เส้นทางจากบ้านคิสไปร้านโจ๊กจะใช้เส้นทางประมาณ 4 กิโลเมตร คิสจับเวลาการเดินหลายครั้งและมั่นใจว่าจะใช้ระยะเวลาราวๆ 30 นาที ซึ่งทำให้คิสไม่ต้องสนใจเรื่องเวลาอีกเลย คิสจะไม่บอกตัวเองว่า "ชั้นจะไปเดิน 30 นาทีนะ" แต่คิสจะคิดแค่ "ชั้นจะเดินไปกินโจ๊ก" มันง่ายกว่ากันเยอะเลย

ทุกวันเสาร์/อาทิตย์ สาวๆคนไหนอยากเจอคิสก็ไปเจอกันได้ที่ร้านโจ๊กนะคะ เพราะคิสจะเดินจากบ้านไปร้านโจ๊กเสมอ เดินไปแล้วนั่งแทกซี่กลับนี่ละ ไม่ได้เดินกลับ และคิสไม่ได้รู้สึกแย่ด้วยที่ไม่ได้เดินกลับ เดินไปได้ก็บุญแล้วค่ะ

แล้วทำไมต้องร้านโจ๊ก?? ไม่มีอะไรเลย คิสชอบกินมาก และสร้างเงื่อนไขน่ารักๆให้ตัวเองว่า "ถ้าอยากกินก็ต้องเดินมากิน" 

อย่างน้อยๆคิสได้เดินแน่ๆละอาทิตย์ละ 30 นาทีแบบสูดควันพิษข้างนอก

และคิสมั่นใจว่าทุกคนมีร้านอาหารที่ตัวเองชอบกันอยู่แล้ว ลองไปปรับใช้ดูนะคะ

Motivation เราจะเป็นอะไรก็ได้บนโลกนี้ ขอแค่มันทำให้เราถึงเป้าหมายก็พอ

วิธีคิสจะค่อนข้างทุเรศทุกวิธีเลยนะคะ แต่คิสทำแบบนี้จริงๆ คิสใช้วิธีไหนก็ได้ที่ตัวเองยอมขยับตัว และไม่่ฝืนใจตัวเองเลย even a drop คิสอยากจะรู้สึกมีความสุขที่ทำ คิสจะทำมันได้นานๆ

มาต่อกันที่เวทค่ะ แบ่งเป็นบอดี้เวทและฟรีเวท

อันนี้บอกตรงๆว่าคิสออกเป็นเซทเล็กๆค่ะ สควอชทุกวันเวลาอาบน้ำ สระผม ทำวัน 100 - 200 วันไหนขี้เกียจจริงๆก็ 3 เซท

ตอนเช้าทุกๆวันคิสจะเปิดข่าวดู และจะหาจังหวะพักเบรคโฆษณาคั่นราวๆ 2 รอบ air time ในการออกเวทบริเวณหน้าท้อง เพราะ ads จะใช้เวลา on air ประมาณ 15 วินาที สลับคั่นกันไปจนจบเบรค คิสก็จะทำได้ราวๆ 2 เซท

ทุกวันทั้งเช้าและเย็น คิสจะล้างมือและแกว่งแขนจนกว่าน้ำจะแห้งโดยไม่เช็ดกับผ้าขนหนู เวลาแกว่ง คิสจะเกร็งช่วงแขน ท่านี้จะช่วยกระชับต้นแขนได้ดีมากๆ แต่ละครั้งที่ทำจะได้ประมาณ 150-200 ครั้ง

ทุกเช้า คิสจะเล่นบัลเล่ต์เลค ซึ่งใครอยากจะเล่นอะไรก็ได้ที่เซทเล็กๆแล้วไม่เหนื่อย แต่สามารถทำให้กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มในร่างกายให้ทำงานได้ตลอดทั้งวัน

ส่วนฟรีเวท หรือการเล่นเวทโดยใช้น้ำหนักจากสิ่งอื่น คิสเคยซื้อดัมเบลมาแต่ไม่ได้ใช้ค่ะ แค่คิสยกกระเป๋าตัวเองทุกวันนี้ก็ฟรีเวทแล้ว น้ำหนักกระเป๋าคิส 5-8 กิโล

สุดท้ายคือการเล่นโยคะหรือยืดกล้ามเนื้อ

อันนี้ยอมรับตรงๆว่าห่างจากการเล่นโยคะมานานมากแล้ว ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่โปรดปรานมาก เพราะไม่เหนื่อย ไม่ทรมาน แต่เหงื่อท่วม และทำให้หลับสบาย

(บอกว่าไม่เหนื่อย ไม่ทรมาน แต่คิสไม่เคยต่อคลาส 2 นะ คลาสเดียวก็หนีไปดื่มน้ำ ล้างตัว กลับบ้านแล้วค่ะ)

คิสแค่บิดขี้เกียจ และเลือกท่าที่ใช้วอร์มร่างกายของโยคะง่ายๆมาทำ ซึ่งก็ใช้เวลาแป่บเดียว 10 ท่า รับประกันไม่เกิน 10 นาที เสร็จแล้ว แต่ก็จะทำค่อนข้างไว

การออกกำลังกายอาจจะไม่จำเป็นเลย ถ้าเราใช้ชีวิตด้วยการใช้กำลังกายบ้าง

คิสค่อนข้างมั่นใจเรื่องนี้นะ ที่คนเราต้องมาออกกำลังกายเพราะวิถีชีวิตมันเปลี่ยนไปจริงๆ เรามีเครื่องทุ่นแรงมากขึ้น เราใช้ขีวิตอยู่หน้าจอมากขึ้น เรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเยอะแยะ จนขาเราจะเป็นง่อยกันอยู่แล้ว

ถ้าตัดตัวช่วยออกไป คนเราอาจจะไม่มีโรคอ้วนกันเลยก็ได้ค่ะ เพราะมันคือชีวิตของเรานั่นละ คิสยังซักผ้าด้วยมือบ้าง ทำงานบ้านเอง วันเสาร์คือวัน e แจ๋วของคิส ล้างดาดฟ้า, ล้างห้องน้ำ, ซักผ้า, รีดผ้า, กวาดบ้าน, ถูบ้าน เหงื่อท่วมค่ะ

หาวิธีไหนก็ได้ที่จะทำให้ชีวิตเราได้ใช้กำลังกาย ชอบทำอาหารก็เดินในซุปเปอร์ให้นานขึ้น ชอบเที่ยวก็ลองเดินเยอะๆบ้าง ชอบกินก็ลองเดินไปกินบ้าง เอามันกลับเข้าไปใส่ในชีวิตเราอีกครั้ง แล้วคุณจะไม่รู้สึกว่าต้องฝืนใจในการออกกำลังกายเลย

คิสหวังมากๆว่าคิสจะทำให้สาวๆได้ลองเปิดใจกับการใช้ชีวิตแบบใหม่ไปกับคิส

อย่าไปกะเกณฑ์ ต้องลดเท่านั้น ต้องได้เท่านี้ ต้องออกกี่นาที ต้องกินไอนี่ ต้องดื่มไอนั่น แต่ไม่ได้แปลว่าใช้ชีวิตเละเทะ กินไรก็กินมั่วซั่ว โซเดียมอะไรเลี่ยงได้ก็เลี่ยง คิสบังเอิญโชคดีที่เกลียดของหวาน และชอบดื่มน้ำ แต่ในความโชคดี คิสก็ดันชอบกินเยอะๆ ชอบดื่มแอลกอฮอล์(คิสไม่ใช่ party queen แต่ชอบดื่มเพราะคุยกับเพื่อนสนุกดี ดื่มเบียร์ ดื่มไวน์ คิสดื่มแก้วเดียวก็เมาแล้วค่ะ) 

คิสมีสติตลอดว่าถ้าคิสทำแบบนี้ คิสต้องไปลดทอนอะไร ถ้าคิสทำแบบนี้ เดี๋ยวคิสต้องออกกำลังกายอะไรเพิ่ม ถ้าคิสกินไอนี่ คืนนี้คิสต้องยกขา 200 ทีเพื่อเอามันออก แล้วถ้าคิสอยากกิน คิสก็จะแฮปปี้ที่จะยกขาคืนนั้น

คิสไม่ได้พูดถึงหลักการเลยนะว่าเล่นเวทเล่นไปเพื่ออะไร ต้องเล่นแบบไหนให้กล้ามเนื้อไม่หาย, เล่น circuit, เล่น HIIT เล่นยังไงให้เผาผลาญได้ดีในเวลาที่สั้นที่สุด เพราะไอพวกนี้หาอ่านที่ไหนก็ได้ และดีไม่ดี ทุกคนก็รู้เหมือนที่คิสรู้

คิสมาบอกเล่าวิธีคิด "principle" ที่คิสใช้กับชีวิตตัวเองแล้วได้ผล แล้วมันก็มีความสุขซะด้วยสิ คิสอยากให้ทำอะไร แล้วเรา "มีความสุขกับมันได้ตลอดไป" 

ไปแล้วน้า หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนบ้าง ขอให้ได้หุ่นในฝันตามที่ตั้งใจกันนะคะ คิสก็จะอยู่กับหุ่นหลักกิโลของคิสต่อไปอย่างมีความสุขค่ะ