สกินแคร์ 13 ชิ้นที่ใช้แล้วชอบที่สุดในปีนี้ Favorite Skincare Products 2018

31 4
1.Shu Uemura Ultime 8 Sublime Beauty Cleansing Oil 450 ml.
ราคา  4,050 บาท
มาเริ่มที่ตัวล้างเครื่องสำอางค์กันก่อนค่ะ ปกติเป็นคนแต่งหน้าทุกวัน เลยต้องใส่ใจเรื่องการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นพิเศษ เมื่อก่อนเคยใช้ Shu ตัวที่เป็นออยในขวดสีเขียวก็ชอบเหมือนกัน แต่เห็นตัวนี้ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นออยในตำนาน เลยต้องลองซะหน่อย ผลคือ ไม่ผิดหวังค่ะ ล้างคราบรองพื้น eye makeup ได้หมดจด แต่ตัวมาสคาร่าที่กันน้ำแน่นๆ อาจจะต้องนวดนานกว่าปกติค่ะ เมื่อล้างน้ำเปล่าแล้ว จะกลายเป็นน้ำนมสีขาว ไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้า ไม่แสบตา และก็ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง กลิ่นหอมเหมือน essential oil ในสปา 
  • ข้อดี : หอม ล้างเครื่องสำอางค์ได้สะอาด อ่อนโยนต่อผิว
  • ข้อเสีย :  มีอย่างเดียวคือ ราคา ค่ะ


2. La Mer The Treatment Lotion 150 ml.
ราคา 5,100 บาท
น้ำตบของลาแมร์นั่นเองค่ะ ลักษณะเป็นน้ำใสๆ มีความหนืดน้อยมาก ค่อนข้างเหลวทีเดียวค่ะ กลิ่นดมผ่านๆถือว่าโอเคอยู่ แต่ถ้าดมใกล้ๆจะเหมือนคาวๆทะเล อธิบายไม่ถูกแต่พอรับได้ค่ะ  ตัวนี้ชอบมากกกก เหมือนเป็นการเตรียมผิวสำหรับการบำรุงขั้นต่อไป ส่วนตัวไม่ค่อยถูกกับพวก pre serum ทั้งหลาย น้ำตบตัวนี้จึงตอบโจทย์เราได้ดีค่ะ ใช้แล้วผิวดูอิ่มน้ำ แล้วรู้สึกว่าทำให้สกินแคร์ตัวต่อไปซึมซับได้ดีขึ้น บางวันที่ง่วงมากๆ ล้างหน้าเสร็จ ตบตัวนี้แล้วนอนเลยค่ะ ซึ่งไม่ควรทำบ่อย แต่รู้สึกไปเองว่าดีกว่าไม่ได้บำรุงอะไรเลย 555
  • ข้อดี : ซึมเร็ว ไม่เหนียว ผิวดูชุ่มชื่น พร้อมรับการบำรุงขั้นถัดไป
  • ข้อเสีย : ไม่มี ถึงราคาจะแอบแรง แต่ใช้ได้นานค่ะ
3. SK-II GenOptics Aura Essence 50 ml.
ราคา 7,700 บาท
เซรั่มในดวงใจเลยค่ะตัวนี้ เป็นสกินแคร์ชิ้นเดียว ชิ้นแรกที่รู้สึกว่าเห็นผลจริงๆ ในเรื่องของความกระจ่างใส ใช้ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ก็สังเกตุได้แล้วว่าผิวดูใสขึ้น ตัวนี้ไม่ได้ทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ เรียกว่า ผิวดูสว่าง ใส และ สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้นค่ะ ในเรื่องของจุดด่างดำนั้น ถ้าเป็นจุดจางๆที่เกิดขึ้นไม่นาน ตัวนี้ช่วยให้จางลงได้ค่ะ แต่สำหรับจุดเข้มๆที่มีมานานแล้ว คิดว่าไม่น่าจะช่วยได้ เคยหมดไปแล้วไม่ได้ซื้อต่อ ผิวหน้าไม่ได้กลับมาคล้ำลง แต่รู้สึกว่าความใส ออร่า มันหายไป ไม่เหมือนตอนที่ใช้อยู่ เลยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องซื้อซ้ำอยู่ตลอดค่ะ
  • ข้อดี : ทำให้ผิวสว่าง กระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ได้จริงตามคำเคลม
  • ข้อเสีย : ราคาโหดร้ายมากค่ะ แต่ได้ผลจริงก็ยอมซื้อต่อ
4. SK-II CELLUMINATION MASK-IN LOTION 100 ml.
ราคา 3,150 บาท
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์โลชั่น เนื้อเป็นสีขาวน้ำนม เหลวพอสมควร แต่ตบไปแล้วให้ความชุ่มชื้นได้ดี อาจจะต้องรอซักนาทีให้ซึมลงผิวก่อน ที่จะบำรุงตัวต่อไปค่ะ ช่วงไหนที่รู้สึกว่าหน้ามันมากๆ ก็จะสลับใช้ตัวอื่นก่อน เรื่องความกระจ่างใสอันนี้ยังเห็นผลไม่ชัดค่ะ แต่ความชุ่มชื้นถือว่าผ่าน
  • ข้อดี : เติมความชุ่มชื้นได้ดีมาก
  • ข้อเสีย : ต้องรอให้ซึม อาจทิ้งความเหนอะไว้บนผิวนิดหน่อย
5. SK-II CELLUMINATION DEEP SURGE EX
ราคา 5,150 บาท
เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา ที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ซื้อมาพร้อมๆกับตัวอื่นในซีรีย์เดียวกัน สิ่งที่ชอบมากๆคือ ตัวเนื้อครีมเบามาก กึ่งๆเนื้อเจล ทาแล้วซึมเร็วแต่รู้สึกชุ่มชื้น ใช้กับตัว Aura Essence แล้วรู้สึกเห็นผลเร็วขึ้น
  • ข้อดี : เนื้อเบา ซึมเร็ว
  • ข้อเสีย : -
6. SK-II R.N.A. Essence 50 ml.
ราคา 5,700 บาท
เป็น essence  เนื้อน้ำนม ซึมเร็ว ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแข็งแรง นุ่ม และละเอียดขึ้น เรื่องริ้วรอยไม่สามารถสรุปผลได้ เพราะยังไม่มีริ้วรอยที่ชัดเจน แต่ตัวนี้เป็น essence อีกหนึ่งตัวที่ซื้อซ้ำ เพื่อมาสลับใช้กับตัว Aura Essence ค่ะ
  • ข้อดี : ผิวแข็งแรง นุ่ม ละเอียด
  • ข้อเสีย : -
7. Estee Lauder Advanced Night Repair Intensive Recovery Ampoules
ราคา 5,200 บาท (60แคปซูล)
เนื่องจากชื่นชอบเซรั่มยอดฮิต ANR อยู่แล้ว เมื่อทางแบรนด์ออกตัวนี้มาจึงลองซื้อมาใช้ ตัวผลิตภัณฑ์เป็นเนื้ออย บรรจุอยู่ในเม็ดแคปซูล ที่ต้องบิดจุกออกแล้วใช้น้ำมันนวดลงไปบนหน้า ทางแบรนด์แนะนำให้ใช้หลังตัว ANR และใช้ต่อเนื่อง ทุกคืน 2 สัปดาห์ หรือใช้เตรียมผิว 1 สัปดาห์หากทราบล่วงหน้าว่าผิวจะต้องเจอกับความเครียด เช่น การเดินทาง  ส่วนตัวแล้ว ยังไม่เคยใช้ได้ติดๆกัน 2 อาทิตย์ แต่จะใช้เฉพาะช่วงที่ นอนดึก หรือ เครียด แล้วรู้สึกว่าผิวดูโทรม ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ ถ้าต้องเดินทางไกล ที่นอนไม่เป็นเวลา จะพกติดไปใช้ด้วยตลอดค่ะ
  • ข้อดี : ผิวแข็งแรงขึ้น 
  • ข้อเสีย : เนื้อเป็นน้ำมัน ทาแล้วมันมากๆ แต่ก็ใช้เฉพาะกลางคืน , ปริมาณต่อแคปซูลมากไป ใช้แล้วเหลือ แต่ไม่สามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้
8.Drunk Elephant Protini™ Polypeptide Cream
ราคา $68 
ตัวนี้อาจจะไม่มีขายในไทย แต่เป็นครีมที่เราเรียกว่า ครีมสามัญประจำบ้าน 555 คือเป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เบสิค ไม่แพ้ ชุ่มชื้น วันไหนรีบ หรือขี้เกียจ ทาตัวนี้แล้วตามด้วยกันแดดคือจบ หรือช่วงที่รู้สึกว่าหน้า แพ้ หรือลอก ไม่อยากใช้ตัวไวท์เทนนิ่งก็จะใช้ตัวนี้แค่ตัวเดียว Drunk Elephant เป็นแบรนด์ที่เน้นความปลอดภัยของผู้ใช้ โดยที่ไม่มีส่วนผสมของ Essential Oils, Drying Alcohols, Silicones, Chemical Screens, Fragrance/Dyes and SLS 
  • ข้อดี : ใช้ได้ตลอด ชุ่มชื้น ไม่แพ้
  • ข้อเสีย : ยังไม่มีขายในไทย
9. Chanel Le Lift Eye Cream
ราคา $105 (ราคาไทย ประมาณ 3600 บาท)
เป็นอายครีมเนื้อไม่ข้นมาก เกลี่ยง่าย ซึมได้ดี สามารถแต่งหน้าทับได้โดยไม่เป็นคราบ เป็นไลน์ Firming Anti-Wrinkle ส่วนตัวยังไม่ค่อยมีริ้วรอยที่เห็นได้ชัด จึงไม่สามารถสรุปผลเรื่องริ้วรอยได้ คิดเอาเองว่าอาจจะช่วยชะลอให้มีริ้วรอยมาช้าลงมั้ง 555 แต่ช่วยเรื่อความชุ่มชื้นได้ดีมาก ช่วงที่พักผ่อนไม่พอ ใต้ตาจะดูแห้งกร้าน ดูใต้ตาลึก ตัวนี้สามารถช่วยได้ดี แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องแพนด้าแต่อย่างใด
  • ข้อดี : ชุ่มชื้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • ข้อเสีย : -
10.Fresh Sugar Lip Treatment Advanced Therapy / Sugar Lip Treatment Sunscreen SPF 15
ราคา 1,080 / 980 บาท
Fresh เป็นลิปบาล์มยี่ห้อแรกที่เรายอมซื้อแพงขนาดนี้ ปกติใช้แต่ ยี่ห้อ Drugstore ทั่วๆไป แต่หลังจากเปลี่ยนมาใช้ Fresh เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ไม่ได้กลับไปใช้ยี่ห้ออื่นอีกเลย นี่น่าจะเป็นแท่งที่ 6 แล้ว คือมีความชุ่มชื้น ปากนุ่ม แต่ไม่มันเยิ้ม ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรมากองบนริมฝีปาก ทาก่อนนอนทุกคืน ตอนเช้าก็ทาทิ้งไว้ก่อนแต่งหน้า แล้วซับออกก่อนทาลิปสติก ก็จะทำให้ไม่ลิปไม่แห้งตกร่อง ตัว Advanced ทางแบรนด์เคลมว่า ให้ความชุ่มชื้น 24 ชั่วโมง ตัวสูตรธรรมดา 6 ชั่วโมง แต่ส่วนตัวคิดว่า ทั้งสองสูตรไม่ค่อยต่างเรื่องความชุ่มชื้น ใช้ได้ดีพอๆกันค่ะ
  • ข้อดี : ดีทุกอย่าง สุดยอดของลิปบาล์ม 
  • ข้อเสีย : ไม่มี เพราะนางดีจริงๆ ยกเว้นแค่เรื่องราคา



11. Papa Recipe Bombee Black Honey Mask
ราคา แล้วแต่ร้าน
มาส์กตัวนี้ได้มาจากร้านขายเครื่องสำอางค์เกาหลีที่อเมริกา แผ่นละประมาณ $3 ที่ไทยเห็นมีขายออนไลน์ราคาหลากหลายมาก ควรซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะของเลียนแบบก็มีเยอะมากเช่นกันค่ะ 
เป็นมาส์กที่ราคาไม่แพง กลิ่นหอมน้ำผึ้งอ่อนๆ แผ่นมาส์กแนบไปกับผิวหน้าได้ดี ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นถึงขีดสุด ตื่นเช้ามา ผิวยังดูอิ่มน้ำอยู่เลย
  • ข้อดี : ไม่แพง ผิวชุ่มชื้นสุดๆ
  • ข้อเสีย : ยังหาร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยไม่เจอ 

12. Kracie Hadabisei 3D Face Mask (Aging-care Brightening)
ราคา แล้วแต่ร้าน ( แผ่นละไม่เกิน 100 บาท โดยประมาณ)
เป็นมาส์กเพื่อผิวขาว กระจ่างใส และลดริ้วรอย ส่วนตัวไม่ได้หวังผลเรื่องนั้น แต่ชอบตรงที่ทำให้ผิว ชุ่มฉ่ำมาก แล้วตัวแผ่นมาส์ก ตรงส่วนจมูกคือ เป็นเหมือนถุงหุ้มทั้งจมูกไปเลย แล้วแผ่นยังยาวลงมามาส์กคอได้อีกด้วย 
  • ข้อดี : แผ่นมาส์กแบบ 3D แนบสนิท ทำให้ผิวฉ่ำน้ำ
  • ข้อเสีย : หาซื้อยาก ใครไปญี่ปุ่นควรซื้อตุนไว้
13. Smooth E Acne Plus Super Rapid Action Hydrogel
ราคา ประมาณ 260 บาท
เจลแต้มสิวที่ต้องมีติดไว้ คนขายแนะนำว่าสำหรับสิวที่เริ่มอักเสบ ไม่มีหัว ปกติจะมีสิวขึ้นบ้าง เดือนละ 1-2 เม็ด ก่อนประจำเดือนมา หากคลำเจอว่าเริ่มมีนูนๆใต้ผิวหนัง จะรีบแต้มตัวนี้ไว้ทันที ช่วยทำให้สิวที่กำลังจะเริ่มขึ้น ไม่อักเสบ หรือที่อักเสบไปแล้ว ยุบเร็วขึ้น แต่หากเป็นสิวที่มีหัวแล้ว แนะนำให้ใช้อีกสูตรที่เป็นหลอดสีขาวล้วน
  • ข้อดี : สิวที่เริ่มอักเสบ ยุบเร็วขึ้น
  • ข้อเสีย : ผิวลอก หากใช้ติดต่อกัน , ทิ้งคราบขาวไว้ตอนแห้ง 

ขอขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาสกินแคร์อยู่ ถ้าใครมีตัวไหนแนะนำ สามารถคอมเม้นต์บอกกันด้านล่างได้เลยค่ะ :)


patcharapa_taew

patcharapa_taew

FULL PROFILE