[How To] แต่งหน้ารับปริญญา สเต็ปง่ายๆ สวยเองได้ ไม่ง้อช่าง >_<
Pimliberty 16 3สวัสดีค่า ^_^
พอถึงช่วงท้ายปีแบบนี้ แน่นอนว่างานที่เยอะที่สุดก็คืองานรับปริญญา
และแน่นอนว่าการรับปริญญา มีข้อจำกัดหลายอย่างในการแต่งหน้าของสาวๆ
ติดขนตาไม่ได้ ติดเทปตาสองชั้นก็ไม่ได้ พูดง่ายๆว่าขั้นตอนการงัดหน้าถูกจำกัดไปเยอะเลยค่ะ ฮ่าๆ
แล้วก็รวมไปถึงน้องๆหลายคนที่แต่งหน้าเองไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นยังไง แต่ก็อยากแต่งเองเพราะอยากประหยัดงบให้มากที่สุด
วันนี้พิมเลยจะมาแนะนำวิธีแต่งหน้า แบบเบสิคมากๆ ให้กับบัณฑิตป้ายแดงนะคะ :)
ขั้นตอนที่สำคัญนอกจากการลงเครื่องสำอางค์คือการเตรียมผิวนะคะ
ไม่แนะนำให้ลงสกินแคร์เยอะจนเกินไป เพราะหน้าอาจเยิ้มได้
แต่ว่าแนะนำให้ลงครีมกันแดดด้วยน้า
ทีนี้เรามาเริ่มแต่งหน้ากันเลยดีกว่าค่ะ ^_^
STEP 1: ลงรองพื้น
รองพื้นที่แนะนำในวันรับปริญญา คือรองพื้นที่ให้ความปกปิดดีถึงดีมาก
ควบคุมความมันปานกลาง-มาก (เผื่อบางคนหน้ามันหน้าแห้งไม่เหมือนกัน)
แล้วก็สำคัญที่สุดคือเลือกสีให้ตรงตามผิวเรานะคะ
หรือจะสว่างขึ้นกว่าผิวเราซักครึ่งเฉดหรือ1เฉด ก็จะช่วยให้หน้าดูผ่องขึ้นได้
แต่อย่าเลือกให้สว่างโดดจากพื้นผิวเราเยอะ ไม่งั้นหน้าจะลอยได้น้า
**สำคัญที่สุด ไม่ควรใช้เครื่องสำอางค์ที่ซื้อมาใหม่แกะกล่องเลย ให้ลองใช้ก่อนวันงานซัก 1-2 ครั้ง เพื่อความชัวร์ว่าเครื่องสำอางค์ตัวนั้นเหมาะกับหน้าเรานะคะ**
รองพื้นที่แนะนำในวันรับปริญญา คือรองพื้นที่ให้ความปกปิดดีถึงดีมาก
ควบคุมความมันปานกลาง-มาก (เผื่อบางคนหน้ามันหน้าแห้งไม่เหมือนกัน)
แล้วก็สำคัญที่สุดคือเลือกสีให้ตรงตามผิวเรานะคะ
หรือจะสว่างขึ้นกว่าผิวเราซักครึ่งเฉดหรือ1เฉด ก็จะช่วยให้หน้าดูผ่องขึ้นได้
แต่อย่าเลือกให้สว่างโดดจากพื้นผิวเราเยอะ ไม่งั้นหน้าจะลอยได้น้า
**สำคัญที่สุด ไม่ควรใช้เครื่องสำอางค์ที่ซื้อมาใหม่แกะกล่องเลย ให้ลองใช้ก่อนวันงานซัก 1-2 ครั้ง เพื่อความชัวร์ว่าเครื่องสำอางค์ตัวนั้นเหมาะกับหน้าเรานะคะ**
วันนี้รองพื้นที่พิมเลือกใช้คือ
Maybelline Fit Me Foundation ตัวนี้ค่ะ เป็นรุ่น Matte Poreless
วิธีลง แนะนำให้เทรองพื้นลงที่หลังมือ แล้วใช้นิ้วมือวนๆ เพื่อวอร์มเค้าก่อนนิดหน่อย
แล้วก็ลงที่หน้าเรา จะใช้มือก็ได้ หรือใช้ฟองน้ำในการช่วยลงรองพื้นก็ได้ค่ะ
(แนะนำว่าถ้าลงทุนกับฟองน้ำด้วยก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากค่ะ)
ใช้มือหรือฟองน้ำ กดๆรองพื้นให้ทั่วๆ ไม่แนะนำให้ปาดนะคะ
การค่อยๆกดให้รองพื้นกระจายทั่วหน้า จะทำให้รองพื้นกลืนกับหน้าเราได้ดีกว่า
ได้งานที่เรียบเนียนกว่ามากๆด้วยค่ะ แล้วก็ลดโอกาสที่รองพื้นจะกองอยู่บนผิวด้วยนะคะ ^_^
Maybelline Fit Me Foundation ตัวนี้ค่ะ เป็นรุ่น Matte Poreless
วิธีลง แนะนำให้เทรองพื้นลงที่หลังมือ แล้วใช้นิ้วมือวนๆ เพื่อวอร์มเค้าก่อนนิดหน่อย
แล้วก็ลงที่หน้าเรา จะใช้มือก็ได้ หรือใช้ฟองน้ำในการช่วยลงรองพื้นก็ได้ค่ะ
(แนะนำว่าถ้าลงทุนกับฟองน้ำด้วยก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากค่ะ)
ใช้มือหรือฟองน้ำ กดๆรองพื้นให้ทั่วๆ ไม่แนะนำให้ปาดนะคะ
การค่อยๆกดให้รองพื้นกระจายทั่วหน้า จะทำให้รองพื้นกลืนกับหน้าเราได้ดีกว่า
ได้งานที่เรียบเนียนกว่ามากๆด้วยค่ะ แล้วก็ลดโอกาสที่รองพื้นจะกองอยู่บนผิวด้วยนะคะ ^_^
STEP 2: ลงคอนซีลเลอร์
ส่วนตัวพิมคิดว่า คอนซีลเลอร์แบบครีม (จิ้มจุ่ม) ควรลงที่ใต้ตา
แล้วก็คอนซีลเลอร์เนื้อครีม เหมาะกับการปกปิดสิวค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ถ้าใครมีแค่อย่างใดอย่างนึง ก็สามารถใช้ได้นะคะ ^_^ ขอแค่มันถูกกับผิวเรา
แล้วก็สีตรงกันผิวเท่านั้นก็ได้แล้วค่ะ (สำหรับใต้ตาอาจจะสว่างกว่าผิวนิดนึงก็จะดีนะคะ)
ส่วนตัวพิมคิดว่า คอนซีลเลอร์แบบครีม (จิ้มจุ่ม) ควรลงที่ใต้ตา
แล้วก็คอนซีลเลอร์เนื้อครีม เหมาะกับการปกปิดสิวค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ถ้าใครมีแค่อย่างใดอย่างนึง ก็สามารถใช้ได้นะคะ ^_^ ขอแค่มันถูกกับผิวเรา
แล้วก็สีตรงกันผิวเท่านั้นก็ได้แล้วค่ะ (สำหรับใต้ตาอาจจะสว่างกว่าผิวนิดนึงก็จะดีนะคะ)
วันนี้พิมเลือกใช้ 2 ตัว
คือ Nars Radiant Creamy Concealer สำหรับใต้ตา และ
Cute Press Long Lasting Cover Concealer Stick สำหรับรอยสิวต่างๆค่ะ
วิธีลง สำหรับรอยสิว หลังจากลงคอนซีลเลอร์ไปแล้ว วิธีเกลี่ย ก็สามารถใช้มือแท็บเบาๆให้เนียนไปกับผิวเลยก็ได้ค่ะ สำหรับรอยสิวพิมก็ใช้มือเหมือนกัน รู้สึกมันให้การปกปิดที่ดีกว่าใช้ฟองน้ำ
สำหรับใต้ตา ใช้ฟองน้ำค่อยๆกดเหมือนตอนเราลงรองพื้นเลยค่ะ แต่พยายามกดไล่ให้เนื้อคอนซีลเลอร์ถูกเกลี่ยลงมาแถวหน้าแก้ม ตอนเกลี่ยให้นึกภาพสามเหลี่ยมไว้ค่ะ นึกให้ปลายแหลมอยู่ข้างล่าง แล้วพยายามเกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้เป็นตามรูปสามเหลี่ยมนั้น จะช่วยเรื่องการกระจายแสงใต้ตาได้ดีมากค่ะ ^_^
คือ Nars Radiant Creamy Concealer สำหรับใต้ตา และ
Cute Press Long Lasting Cover Concealer Stick สำหรับรอยสิวต่างๆค่ะ
วิธีลง สำหรับรอยสิว หลังจากลงคอนซีลเลอร์ไปแล้ว วิธีเกลี่ย ก็สามารถใช้มือแท็บเบาๆให้เนียนไปกับผิวเลยก็ได้ค่ะ สำหรับรอยสิวพิมก็ใช้มือเหมือนกัน รู้สึกมันให้การปกปิดที่ดีกว่าใช้ฟองน้ำ
สำหรับใต้ตา ใช้ฟองน้ำค่อยๆกดเหมือนตอนเราลงรองพื้นเลยค่ะ แต่พยายามกดไล่ให้เนื้อคอนซีลเลอร์ถูกเกลี่ยลงมาแถวหน้าแก้ม ตอนเกลี่ยให้นึกภาพสามเหลี่ยมไว้ค่ะ นึกให้ปลายแหลมอยู่ข้างล่าง แล้วพยายามเกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้เป็นตามรูปสามเหลี่ยมนั้น จะช่วยเรื่องการกระจายแสงใต้ตาได้ดีมากค่ะ ^_^
STEP 3: ลงแป้งฝุ่น
สำหรับการแต่งหน้าครั้งนี้ พิมแนะนำว่าให้ลงแป้งฝุ่นนะคะ
เพราะเราลงทั้งรองพื้น และคอนซีลเลอร์ไปแล้ว ถ้าลงแป้งผสมรองพื้นอีก
หน้าจะหนักมาก และอาจทำให้เกิดการตกร่องได้ง่ายด้วยค่ะ
สำหรับการแต่งหน้าครั้งนี้ พิมแนะนำว่าให้ลงแป้งฝุ่นนะคะ
เพราะเราลงทั้งรองพื้น และคอนซีลเลอร์ไปแล้ว ถ้าลงแป้งผสมรองพื้นอีก
หน้าจะหนักมาก และอาจทำให้เกิดการตกร่องได้ง่ายด้วยค่ะ
วันนี้พิมใช้
Three Ultimate Diaphanous Loose Powder (Colorless 01)
เป็นแป้งลูกรักของพิมเลย เรื่องคุมมันไม่สู้ลอร่าค่ะ แต่เค้าให้งานผิวที่สวยมาก
เบาสบาย ทาแล้วหน้าไม่รู้สึกว่าเป็นแป้งๆ
วิธีลง ลงให้ทั่วหน้าเลยค่ะ เพื่อเซตรองพื้นและคอนซีลเลอร์
สำหรับแป้งของ Three ตัวนี้ เค้าจะมีตาข่าย ตอนที่เราแตะแป้งขึ้นมา แป้งจะไม่ได้ติดมาเยอะเกินไปอยู่แล้ว แต่ถ้าใครใช้แป้งฝุ่นอื่นๆแนะนำว่า ตอนแตะแป้งให้ถูวนๆที่มือ หรือหลังมือก่อนนิดหน่อย เพื่อที่ตอนมาลงที่หน้าเนื้อแป้งจะได้ไม่มากเกินค่ะ และแป้งจะละเอียดขึ้น เนียนกับผิวมากขึ้นด้วยนะคะ ^_^
Three Ultimate Diaphanous Loose Powder (Colorless 01)
เป็นแป้งลูกรักของพิมเลย เรื่องคุมมันไม่สู้ลอร่าค่ะ แต่เค้าให้งานผิวที่สวยมาก
เบาสบาย ทาแล้วหน้าไม่รู้สึกว่าเป็นแป้งๆ
วิธีลง ลงให้ทั่วหน้าเลยค่ะ เพื่อเซตรองพื้นและคอนซีลเลอร์
สำหรับแป้งของ Three ตัวนี้ เค้าจะมีตาข่าย ตอนที่เราแตะแป้งขึ้นมา แป้งจะไม่ได้ติดมาเยอะเกินไปอยู่แล้ว แต่ถ้าใครใช้แป้งฝุ่นอื่นๆแนะนำว่า ตอนแตะแป้งให้ถูวนๆที่มือ หรือหลังมือก่อนนิดหน่อย เพื่อที่ตอนมาลงที่หน้าเนื้อแป้งจะได้ไม่มากเกินค่ะ และแป้งจะละเอียดขึ้น เนียนกับผิวมากขึ้นด้วยนะคะ ^_^
STEP 4: งานคิ้ว
สำหรับคิ้ว เบสิคสุดๆคือใช้ดินสอเขียนโครงคิ้วและหางคิ้วให้ชัดก่อน
แล้วก็ค่อยลงแบบฝุ่นทับเพื่อช่วยกลบช่องว่างนะคะ
สำหรับคิ้ว จริงๆข้อแนะนำเดียวเลยคือ ระหว่างวันอย่าเผลอถูก็พอค่ะ 5555
จริงๆพิมใช้ดินสอเขียนคิ้วได้หมดเลย ตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย จนถึงหลักพัน
ส่วนตัวยังไม่เคยเจอตัวไหนที่เหงื่อออกแล้วเลือนไปนะคะ เว้นแต่ถ้าเผลอเอามือไปถู
จะกี่บาทคือหายหมดเลยค่ะ >_< ถ้าเหงื่อออกก็เอาทิชชู่ซับๆเบาๆก็พอนะคะ
สำหรับคิ้ว เบสิคสุดๆคือใช้ดินสอเขียนโครงคิ้วและหางคิ้วให้ชัดก่อน
แล้วก็ค่อยลงแบบฝุ่นทับเพื่อช่วยกลบช่องว่างนะคะ
สำหรับคิ้ว จริงๆข้อแนะนำเดียวเลยคือ ระหว่างวันอย่าเผลอถูก็พอค่ะ 5555
จริงๆพิมใช้ดินสอเขียนคิ้วได้หมดเลย ตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย จนถึงหลักพัน
ส่วนตัวยังไม่เคยเจอตัวไหนที่เหงื่อออกแล้วเลือนไปนะคะ เว้นแต่ถ้าเผลอเอามือไปถู
จะกี่บาทคือหายหมดเลยค่ะ >_< ถ้าเหงื่อออกก็เอาทิชชู่ซับๆเบาๆก็พอนะคะ
วันนี้พิมใช้
Cosluxe Slimbrow Pencil สำหรับวาดโครงคิ้ว
Kate Designing Eyebrow 3D สำหรับกลบช่องว่างที่คิ้ว และสุดท้ายก็ Maybelline Fashion Brow 24h Coloring Mascara สำหรับปัดขนคิ้วค่ะ
วิธีลง วันรับปริญญานี้คือ แนะนำว่าให้วาดโครงคิ้วตามทรงคิ้วของเราเลยดีที่สุดค่ะ
อย่าเพิ่งอินแฟชั่นตอนนี้เลย ถ้าคิ้วรกก็กันคิ้วกันก่อนนะคะ ^_^ ค่อยๆกันออกดูว่าแบบไหนพอดีกับหน้าที่สุดค่ะ
สำหรับสี แนะนำให้ลงช่วงหางคิ้วเป็นสีเข้ม และ หัวคิ้วอ่อนๆ
เป็นไปได้ก็แนะนำว่า ตอนใช้ดินสอไม่ต้องวาดจนถึงหัวคิ้วนะคะ
เอาแค่วาดโครงจากกลางคิ้วไปที่ปลายคิ้วก็พอ แล้วก็เอาแบบฝุ่นลงซ้ำ
ส่วนหัวคิ้ว ก็ใช้แบบฝุ่นลงเบาๆก็พอค่ะ สุดท้ายก็ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดทับได้เลย
Cosluxe Slimbrow Pencil สำหรับวาดโครงคิ้ว
Kate Designing Eyebrow 3D สำหรับกลบช่องว่างที่คิ้ว และสุดท้ายก็ Maybelline Fashion Brow 24h Coloring Mascara สำหรับปัดขนคิ้วค่ะ
วิธีลง วันรับปริญญานี้คือ แนะนำว่าให้วาดโครงคิ้วตามทรงคิ้วของเราเลยดีที่สุดค่ะ
อย่าเพิ่งอินแฟชั่นตอนนี้เลย ถ้าคิ้วรกก็กันคิ้วกันก่อนนะคะ ^_^ ค่อยๆกันออกดูว่าแบบไหนพอดีกับหน้าที่สุดค่ะ
สำหรับสี แนะนำให้ลงช่วงหางคิ้วเป็นสีเข้ม และ หัวคิ้วอ่อนๆ
เป็นไปได้ก็แนะนำว่า ตอนใช้ดินสอไม่ต้องวาดจนถึงหัวคิ้วนะคะ
เอาแค่วาดโครงจากกลางคิ้วไปที่ปลายคิ้วก็พอ แล้วก็เอาแบบฝุ่นลงซ้ำ
ส่วนหัวคิ้ว ก็ใช้แบบฝุ่นลงเบาๆก็พอค่ะ สุดท้ายก็ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดทับได้เลย
STEP 5: แต่งตากันค่ะ >_<
สำหรับตา แนะนำให้เลือกสีที่คิดว่าตัวเองเอาอยู่นะคะ เบสิคที่สุดเลยคือสีโทนน้ำตาล-น้ำตาลเข้มค่ะ รอดแน่นอน แต่ว่าวันนี้พิมใช้สีโทนชมพู-ม่วง
เพื่อทำให้ดูว่า จริงๆโทนนี้ก็เป็นโทนที่แต่งให้ดูสุภาพได้นะคะ :)
สำหรับตา แนะนำให้เลือกสีที่คิดว่าตัวเองเอาอยู่นะคะ เบสิคที่สุดเลยคือสีโทนน้ำตาล-น้ำตาลเข้มค่ะ รอดแน่นอน แต่ว่าวันนี้พิมใช้สีโทนชมพู-ม่วง
เพื่อทำให้ดูว่า จริงๆโทนนี้ก็เป็นโทนที่แต่งให้ดูสุภาพได้นะคะ :)
วันนี้พิมใช้พาเลตของ Urban Decay Naked3 เป็นโทนชมพูเอิร์ธโทน - ม่วงตุ่นๆ
สำหรับวิธีลงไล่ดูสีตามรูปได้เลยนะคะ พิมไล่ให้เป็นสเต็ปเลยค่ะ ^_^ ง่ายมากกกจริงๆ
1. ใช้สี 1 และ 2 ลงให้ทั่วเปลือกตาเลยค่ะ เน้นช่วงกลางตาเป็นหลัก ใช้นิ้วมือลงเลยง่ายที่สุดค่ะ เกลี่ยๆให้ทั่วเปลือกตาก็พอ และใช้เบอร์ 3 ลงซ้ำช่วงกลางตานิดนึงค่ะ
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีที่เป็นสีชิมเมอร์ หรือสีอ่อนสุดสำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
2. ใช้สี 4 ลงคัดเบ้า แต่เน้นให้ฟุ้งๆหน่อย เพื่อช่วยขยายทำให้ตาดูมีขนาดใหญ่ขึ้น
เกลี่ยลงมาที่หัวตาด้วยนะคะ รวมไปถึงแถวโคนขนตาลงด้วยค่ะ
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีที่เป็นสีแมทที่อ่อนหน่อยสำหรับโทนตาของเราสำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
3. ใช้สี 5 ลงคัดเบ้าอีกที แต่เน้นให้แคบเข้ามาอีกค่ะ ไม่ต้องให้ฟุ้งมาก เพราะเราจะเน้นให้สีชัดขึ้น และรวมไปถึงจะทำให้ตาดูชัดขึ้นด้วยค่ะ เกลี่ยลงมาแถวโคนขนตาล่างด้วยนะคะ ให้สีทั้งบนและล่างเสมอกันค่า ^_^
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีแมทที่เข้มขึ้นมาจากสเต็ป2 สำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
4. ใช้สี 6 ลงที่หางตา ให้แคบเข้ามาอีกค่ะ ตามวงสีแดงข้างในภาพเลย เพื่อช่วยเน้นตาให้ชัดขึนอีกระดับนึงค่ะ
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีที่เข้มที่สุดสำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
สำหรับวิธีลงไล่ดูสีตามรูปได้เลยนะคะ พิมไล่ให้เป็นสเต็ปเลยค่ะ ^_^ ง่ายมากกกจริงๆ
1. ใช้สี 1 และ 2 ลงให้ทั่วเปลือกตาเลยค่ะ เน้นช่วงกลางตาเป็นหลัก ใช้นิ้วมือลงเลยง่ายที่สุดค่ะ เกลี่ยๆให้ทั่วเปลือกตาก็พอ และใช้เบอร์ 3 ลงซ้ำช่วงกลางตานิดนึงค่ะ
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีที่เป็นสีชิมเมอร์ หรือสีอ่อนสุดสำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
2. ใช้สี 4 ลงคัดเบ้า แต่เน้นให้ฟุ้งๆหน่อย เพื่อช่วยขยายทำให้ตาดูมีขนาดใหญ่ขึ้น
เกลี่ยลงมาที่หัวตาด้วยนะคะ รวมไปถึงแถวโคนขนตาลงด้วยค่ะ
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีที่เป็นสีแมทที่อ่อนหน่อยสำหรับโทนตาของเราสำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
3. ใช้สี 5 ลงคัดเบ้าอีกที แต่เน้นให้แคบเข้ามาอีกค่ะ ไม่ต้องให้ฟุ้งมาก เพราะเราจะเน้นให้สีชัดขึ้น และรวมไปถึงจะทำให้ตาดูชัดขึ้นด้วยค่ะ เกลี่ยลงมาแถวโคนขนตาล่างด้วยนะคะ ให้สีทั้งบนและล่างเสมอกันค่า ^_^
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีแมทที่เข้มขึ้นมาจากสเต็ป2 สำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
4. ใช้สี 6 ลงที่หางตา ให้แคบเข้ามาอีกค่ะ ตามวงสีแดงข้างในภาพเลย เพื่อช่วยเน้นตาให้ชัดขึนอีกระดับนึงค่ะ
(สำหรับคนที่ใช้สีอื่น ก็คือเลือกสีที่เข้มที่สุดสำหรับสเต็ปนี้ค่ะ)
STEP 6: เก็บรายละเอียดขอบตา และ Eyeliner
จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าระวังมากๆเลยสำหรับงานรับปริญญาค่ะ
เพราะถ้าเลือกใช้ของที่ไม่ดีกับเรา อาจจะเกิดแพนด้าได้นะคะ แนะนำว่าให้ลองใช้ตัวที่คิดว่าตัวเองจะใช้ในวันรับปริญญา ในวันทั่วๆไปก่อน ลองแต่งหน้าซัก 6-8 ชม. แล้วดูว่าอายไลเนอร์ไหลรึเปล่านะคะ
จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าระวังมากๆเลยสำหรับงานรับปริญญาค่ะ
เพราะถ้าเลือกใช้ของที่ไม่ดีกับเรา อาจจะเกิดแพนด้าได้นะคะ แนะนำว่าให้ลองใช้ตัวที่คิดว่าตัวเองจะใช้ในวันรับปริญญา ในวันทั่วๆไปก่อน ลองแต่งหน้าซัก 6-8 ชม. แล้วดูว่าอายไลเนอร์ไหลรึเปล่านะคะ
สำหรับอินไลเนอร์ทั้งบนและล่าง
พิมใช้ Mei Linda Quick Eyeliner Super Water Proof ค่ะ
และสำหรับอายไลเนอร์ พิมใช้ Lifeford Hi-Precise Eye Pen ค่ะ ดำสนิท ไม่แพนด้า ทนมากๆ ราคาถูกด้วยนะคะ >_<
วิธีลง ใช้อายไลเนอร์แบบดินสอของเมลินดา ลงที่ water line ทั้งตาบนและตาล่างเลยค่ะ แต่ช่วงขอบตาล่าง พิมลงแค่ช่วงหางตาจนเกือบถึงกลางตาก็พอค่ะ เพราะแค่อยากเน้นให้ตาชัดขึ้นนิดหน่อยเฉยๆ
และลายไลเนอร์ของไลฟ์ฟอร์ด พิมลงให้ชิดโคนขนตาที่สุดค่ะ กรีดบางๆก็พอ เพราะชั้นตาพิมค่อยข้างเล็กและไม่เท่ากัน ไม่งั้นเดี๋ยวชั้นตาจะหายไปเลยค่ะ ไม่โอเคสุดๆ >_<
พิมใช้ Mei Linda Quick Eyeliner Super Water Proof ค่ะ
และสำหรับอายไลเนอร์ พิมใช้ Lifeford Hi-Precise Eye Pen ค่ะ ดำสนิท ไม่แพนด้า ทนมากๆ ราคาถูกด้วยนะคะ >_<
วิธีลง ใช้อายไลเนอร์แบบดินสอของเมลินดา ลงที่ water line ทั้งตาบนและตาล่างเลยค่ะ แต่ช่วงขอบตาล่าง พิมลงแค่ช่วงหางตาจนเกือบถึงกลางตาก็พอค่ะ เพราะแค่อยากเน้นให้ตาชัดขึ้นนิดหน่อยเฉยๆ
และลายไลเนอร์ของไลฟ์ฟอร์ด พิมลงให้ชิดโคนขนตาที่สุดค่ะ กรีดบางๆก็พอ เพราะชั้นตาพิมค่อยข้างเล็กและไม่เท่ากัน ไม่งั้นเดี๋ยวชั้นตาจะหายไปเลยค่ะ ไม่โอเคสุดๆ >_<
STEP 7: งานขนตาต้องมา
จริงๆการมีขนตาคือไก่กากลายเป็นหงส์จริงๆ แต่งานรับปริญญาตามกฎคือไม่สามารถติดขนตาได้ งั้นเราควรจะเลือกมาสคาร่าที่ช่วยเรื่องความฟู ความเด้งของขนตา
แต่ก็ต้องดูดีๆนะคะ เพราะมาสคาร่าบางตัวให้งานสวย แต่แพนด้าก็มี
คำแนะนำเดิมๆเลยคือ ให้ลองใช้ในวันทั่วๆไปของเราก่อนนะคะ ^_^
จริงๆการมีขนตาคือไก่กากลายเป็นหงส์จริงๆ แต่งานรับปริญญาตามกฎคือไม่สามารถติดขนตาได้ งั้นเราควรจะเลือกมาสคาร่าที่ช่วยเรื่องความฟู ความเด้งของขนตา
แต่ก็ต้องดูดีๆนะคะ เพราะมาสคาร่าบางตัวให้งานสวย แต่แพนด้าก็มี
คำแนะนำเดิมๆเลยคือ ให้ลองใช้ในวันทั่วๆไปของเราก่อนนะคะ ^_^
สำหรับพิม พิมเลือกตัวนี้ค่ะ
Maybelline Push Up Drama ช่วยยกขนตาพิมได้ดีมาก ปัดแล้วขนตายาว เด้ง
และสำหรับพิมคือไม่แพนด้าเลยค่ะ (แต่ถ้าปัดขนตาล่างก็ต้องระวังนะคะ)
วิธีปัด แนะนำให้ปัดรอบนึงแล้วทิ้งให้แห้งก่อนนะคะ ถ้าดูแล้วอยากปัดซ้ำ ก็ค่อยปัดอีกทีค่ะ ส่วนตัวพิมปัดขนตาล่างด้วยนิดหน่อย แต่นิดเดียวจริงๆ ไม่งั้นถ้าเผื่อเหงื่อออกเยอะ อาจจะมีแพนด้าได้ค่ะ เซฟๆไว้ก่อนดีว่า ^_^
Maybelline Push Up Drama ช่วยยกขนตาพิมได้ดีมาก ปัดแล้วขนตายาว เด้ง
และสำหรับพิมคือไม่แพนด้าเลยค่ะ (แต่ถ้าปัดขนตาล่างก็ต้องระวังนะคะ)
วิธีปัด แนะนำให้ปัดรอบนึงแล้วทิ้งให้แห้งก่อนนะคะ ถ้าดูแล้วอยากปัดซ้ำ ก็ค่อยปัดอีกทีค่ะ ส่วนตัวพิมปัดขนตาล่างด้วยนิดหน่อย แต่นิดเดียวจริงๆ ไม่งั้นถ้าเผื่อเหงื่อออกเยอะ อาจจะมีแพนด้าได้ค่ะ เซฟๆไว้ก่อนดีว่า ^_^
STEP 8: คอนทัวร์และไฮไลท์
เชื่อว่าอันนี้คือขั้นตอนที่สาวๆทุกคนอยากจะให้ความสำคัญมากๆ 5555
เพราะวันรับปริญญาสิ่งที่ต้องทำแน่ๆคือการถ่ายรูปเนอะ เราก็อยากจะได้โครงหน้าที่ดีที่สุด สำหรับขั้นตอนนี้ไม่ยากเลยค่ะ ขอแค่เลือกสีคอนทัวร์ที่เข้ากับเรา
(สำหรับพิมผิวเหลือง พิมจะเลือกBronzerที่ติดโทนเหลือง ไม่ก็น้ำตาลเทาเลยค่ะ)
และไฮไลท์ ไม่ควรเลือกที่มีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์เม็ดใหญ่ๆนะคะ
เชื่อว่าอันนี้คือขั้นตอนที่สาวๆทุกคนอยากจะให้ความสำคัญมากๆ 5555
เพราะวันรับปริญญาสิ่งที่ต้องทำแน่ๆคือการถ่ายรูปเนอะ เราก็อยากจะได้โครงหน้าที่ดีที่สุด สำหรับขั้นตอนนี้ไม่ยากเลยค่ะ ขอแค่เลือกสีคอนทัวร์ที่เข้ากับเรา
(สำหรับพิมผิวเหลือง พิมจะเลือกBronzerที่ติดโทนเหลือง ไม่ก็น้ำตาลเทาเลยค่ะ)
และไฮไลท์ ไม่ควรเลือกที่มีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์เม็ดใหญ่ๆนะคะ
วันนี้พิมใช้ของ Beauty Cottage ทั้งสองอย่างเลยค่ะ
Luxury Matte Bronzer Powder และ Luxury Glow Highlighting Powder
วิธีลง สำหรับการคอนทัวร์หน้า แนะนำว่าง่ายสุดคือให้ดูดแก้มของเราไว้ค่ะ
แล้วลงตามแนวแก้มได้เลย มันจะอยู่ใต้ช่วงแก้มที่เราต้องปัดบลัชพอดีค่ะ
แล้วก็ปัดช่วงหน้าผากด้วยนะคะ อย่างพิมนี่พื้นที่หน้าผากเยอะมาก 55555
ต้องปัดช่วงไรผมทั้งข้างๆและตรงกลางด้วยค่ะ
แล้วก็อย่าลืมเฉดแถวจมูกด้วยนะคะ ปัดลงตั้งแต่คิ้วได้เลยค่ะ เบาๆมือนะคะ ถ้ารู้สึกว่าน้อยไป ถึงค่อยลงเพิ่มลงค่ะ ถ้าลงเยอะเลยแล้วพลาด เดี๋ยวจะแก้ยากนะคะ ^_^
และสำหรับไฮไลท์ พิมใช้ไฮไลท์ลงที่ใต้คิ้วด้วย เพื่อเพิ่มมิติให้ตาเรา
แล้วก็ปัดที่ส้นจมูก และโหนกแก้มค่ะ เบาๆมือเหมือนเดิมนะคะ ถ้ารู้สึกน้อยก็ค่อยเพิ่มเอาค่ะ
**สำหรับคนหน้าผากแบนแบบพิม พิมลงไฮไลท์ตรงกลางหน้าผากด้วยค่ะ ช่วยเพิ่มมิติให้หน้าดูไม่แบนเวลาถ่ายหน้าตรงๆนะคะ**
Luxury Matte Bronzer Powder และ Luxury Glow Highlighting Powder
วิธีลง สำหรับการคอนทัวร์หน้า แนะนำว่าง่ายสุดคือให้ดูดแก้มของเราไว้ค่ะ
แล้วลงตามแนวแก้มได้เลย มันจะอยู่ใต้ช่วงแก้มที่เราต้องปัดบลัชพอดีค่ะ
แล้วก็ปัดช่วงหน้าผากด้วยนะคะ อย่างพิมนี่พื้นที่หน้าผากเยอะมาก 55555
ต้องปัดช่วงไรผมทั้งข้างๆและตรงกลางด้วยค่ะ
แล้วก็อย่าลืมเฉดแถวจมูกด้วยนะคะ ปัดลงตั้งแต่คิ้วได้เลยค่ะ เบาๆมือนะคะ ถ้ารู้สึกว่าน้อยไป ถึงค่อยลงเพิ่มลงค่ะ ถ้าลงเยอะเลยแล้วพลาด เดี๋ยวจะแก้ยากนะคะ ^_^
และสำหรับไฮไลท์ พิมใช้ไฮไลท์ลงที่ใต้คิ้วด้วย เพื่อเพิ่มมิติให้ตาเรา
แล้วก็ปัดที่ส้นจมูก และโหนกแก้มค่ะ เบาๆมือเหมือนเดิมนะคะ ถ้ารู้สึกน้อยก็ค่อยเพิ่มเอาค่ะ
**สำหรับคนหน้าผากแบนแบบพิม พิมลงไฮไลท์ตรงกลางหน้าผากด้วยค่ะ ช่วยเพิ่มมิติให้หน้าดูไม่แบนเวลาถ่ายหน้าตรงๆนะคะ**
STEP 9: เพิ่มสีสันให้หน้า มาปัดแก้มกันค่า
สำหรับการปัดแก้มก็ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ เลือกสีที่ไปในแนวทางเดียวกันกับตากับปากก็จะง่ายที่สุดค่ะ ถ้าอย่างใครแต่งตาโทนน้ำตาล ก็สามารถเลือกได้ทั้งโทนชมพู พีท หรือออกส้มๆหน่อยก็ได้ค่ะ แต่งตาโทนน้ำตาลจะง่ายมากๆเลยในการเลือกปัดแก้ม
สำหรับการปัดแก้มก็ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ เลือกสีที่ไปในแนวทางเดียวกันกับตากับปากก็จะง่ายที่สุดค่ะ ถ้าอย่างใครแต่งตาโทนน้ำตาล ก็สามารถเลือกได้ทั้งโทนชมพู พีท หรือออกส้มๆหน่อยก็ได้ค่ะ แต่งตาโทนน้ำตาลจะง่ายมากๆเลยในการเลือกปัดแก้ม
วันนี้พิมใช้ Cute Press Nonstop Beauty 8 HR Blush สี Honey moon ค่ะ
เป็นสีชมพูตุ่นๆหน่อย ปัดง่าย โทนสีสุภาพ ใช้ได้บ่อยมากค่ะ
วิธีปัด ปัดช่วงหน้าแก้ม ไปขนถึงข้างแก้มเลยค่ะ ค่อยๆแตะสีเอา เพราะจะได้ดูไปด้วยค่ะว่า มันมากเกินไปมั้ย เพราะวันนี้เราแต่งตาค่อนข้างแน่นแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเอะอะจนเกินไป ^_^
เป็นสีชมพูตุ่นๆหน่อย ปัดง่าย โทนสีสุภาพ ใช้ได้บ่อยมากค่ะ
วิธีปัด ปัดช่วงหน้าแก้ม ไปขนถึงข้างแก้มเลยค่ะ ค่อยๆแตะสีเอา เพราะจะได้ดูไปด้วยค่ะว่า มันมากเกินไปมั้ย เพราะวันนี้เราแต่งตาค่อนข้างแน่นแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเอะอะจนเกินไป ^_^
STEP 10: ขั้นตอนสุดท้ายของเรา! ทาปากกันเลยค่ะ
วันรับปริญญา พิมคิดว่าถ้าเลือกลิปที่เป็น Liquid Matte Lipstick อาจจะแห้งเกินไป
ถ้าอยากลงลิปแมทจริงๆ พิมว่าใช้แบบ Stick ทั่วไปดีกว่าค่ะ
สีติดทนระดับนึงเลย ถ้ากินแล้วหลุดก็เติมได้ง่าย สบายปากมากกว่าด้วยค่ะ
วันรับปริญญา พิมคิดว่าถ้าเลือกลิปที่เป็น Liquid Matte Lipstick อาจจะแห้งเกินไป
ถ้าอยากลงลิปแมทจริงๆ พิมว่าใช้แบบ Stick ทั่วไปดีกว่าค่ะ
สีติดทนระดับนึงเลย ถ้ากินแล้วหลุดก็เติมได้ง่าย สบายปากมากกว่าด้วยค่ะ
วันนี้พิมใช้ลิป 2 ตัวนี้ค่ะ
4U2 You're Mine เบอร์ 09 สี My Angel และ
L'oreal Rouge Magique เบอร์ 933 สี Cashmere Delicat
วิธีลง พิมลง 4U2 ทั่วปากก่อนค่ะ ทารอบปาก 1 รอบ แล้วเม้มปากบนทิชชู่ออก แล้วแท็บลิปซ้ำอีกรอบนึง จากนั้นลง L'oreal ใช้วิธีแท็บๆลิปเอาค่ะ แล้วก็เม้มปากบนทิชชู่อีกที
แล้วก็แท็บลิปซ้ำอีก วิธีนี้จะช่วยให้ลิปอยู่ติดทนขึ้นนะคะ ^_^
4U2 You're Mine เบอร์ 09 สี My Angel และ
L'oreal Rouge Magique เบอร์ 933 สี Cashmere Delicat
วิธีลง พิมลง 4U2 ทั่วปากก่อนค่ะ ทารอบปาก 1 รอบ แล้วเม้มปากบนทิชชู่ออก แล้วแท็บลิปซ้ำอีกรอบนึง จากนั้นลง L'oreal ใช้วิธีแท็บๆลิปเอาค่ะ แล้วก็เม้มปากบนทิชชู่อีกที
แล้วก็แท็บลิปซ้ำอีก วิธีนี้จะช่วยให้ลิปอยู่ติดทนขึ้นนะคะ ^_^
เก็บผมขึ้นหน่อย ทีนี้ก็เสร็จแล้วค่า ! ^_^
ส่วนตัวเรียนจบมาแล้ว รับปริญญาไปแล้ว พอเอาชุดนิสิตมาใส่อีกที
ก็แอบเขินนะคะเนี่ย 55555 >////<
พิมพยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆ ไม่แน่ใจว่าจะมีตรงไหนที่ทำให้สับสนรึเปล่า
ถ้าใครสับสนตรงไหน ถามได้เลยนะคะ
และจริงๆกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่พิมทำ How To แบบเป็นภาพแล้วเขียนเอา
ไม่แน่ใจว่ามีจุดผิดพลาดตรงไหนรึเปล่า ขอคำแนะนำหน่อยนะค้า >_<