[In-depth] รีวิวเจาะลึก THREE Aiming Oil ดียังไง ที่นี่ที่เดียว

ออยล์ตัวนี้ไม่ใช่facial oilตัวแรกที่คิสใช้นะคะ แต่เป็น essense เนื้อออยล์ตัวแรก ถ้าใครเคยอ่านโพสเก่าคิสจะเห็นเรื่อง Oil Journey ที่คิสใช้น้ำมันหลากหลายประเภทมากๆในการดูแลตัวเอง ไม่ใช่แค่หน้านะคะ Head to toe คิสใช้หมดทุกส่วนเลย

สำหรับคิสแล้ว ออยล์เป็น King ของการดูแลผิวทุกส่วนของร่างกาย ร่วมถึงการกิน,การนวด ซึ่งคิสคงจะได้มาเล่าเรื่องนี้กันอีกหลายตอนแน่นอน

วันนี้ขอพูดถึง THREE Aiming Facial Essense Oil หรือสมาชิกตัวล่าสุดในตระกูล Aiming* แบบเจาะลึก ใครที่อยากใช้ออยล์ให้ได้ผลดีที่สุด คิสมีเทคนิคการใช้มาฝากด้วยค่ะ

*Aiming เป็นไลน์สินค้าตัวนึงของ THREE ที่เน้นเรื่องการฟื้นฟูดูแลสภาพผิวแบบ intensive คิสไปลองหน้าเคาทเตอร์มาแล้วทุกตัว มันดีมากจริงๆ กลิ่นดึงดูดวิญญาณมากๆ ถ้าไม่ตั้งสติดีๆอาจจะซื้อยกเซทได้แบบไม่รู้ตัว

ตัวนี้คิสก็ได้เทสก่อนใช้ตั้งแต่วันแรกที่ Landing มาขายที่ไทย ถ้าใครสนใจก็ไปที่เคาทเตอร์ทรีแล้วเทสได้เลยค่ะ คิสได้ขอคลีนผิวหน้าและลงออยล์กับผิวหน้าโดยตรง ลงเดี่ยวๆเลยไม่ใช่ตัวอื่นๆซ้ำ First Impression คือกลิ่นที่หอมมากกกกกกกก คือกลิ่นจะเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของตระกูล Aiming อยู่แล้ว แต่ intense กว่ามากๆ คิสเคยขอเทส Aiming ตัวอื่นๆมาก่อนหน้านี้แล้วนะคะ กลิ่นจะเข้มข้นกว่าค่ะ

((คิสว่ากลิ่นสุดยอดจริงๆ Sooth my soul มาก เทสไปน้องบีเอก็อธิบายเรื่องส่วนผสม essential oil ตัวหลักๆให้คิสฟังไป ฟังไปก็เคลิ้มไป ล่องลอยมากค่ะ เดี๋ยวคิสจะแปะรายละเอียดส่วนผสมให้ข้างล่างอีกที))

ตอนแรกคิสกะว่าจะรอสักพักจะค่อยตัดสินใจ เพราะมีเล็งตัวอื่นไว้ด้วย

ปรากฎว่าวันต่อมาต้องรีบกลับไปซื้อเลย คิสเห็นผลตั้งแต่คืนแรกที่ใช้แล้ว โดยที่คิสทาแบบไม่นวดด้วย ทาโดยใช้การตบๆเข้าที่ผิวหน้าเหมือนใช้พวกเอสเซนส์ทั่วไป เพราะเนื้อเบามากๆ เบาแบบอธิบายไม่ถูก ต้องไปลองกันเอง

ส่วนผลลัพธ์แค่ข้ามคืน?? มาค่ะ คิสจะมาตีแผ่ให้ได้รู้โดยทั่วกัน

Aiming Oil Essense  เป็นออยล์ หรือเอสเซนส์??

(คิสขอใช้ AOE มาเรียกย่อแทนนะคะ)

AOE ให้สัมผัสที่แตกต่างกับ Oil, Dry Oil หรือแม้แต่ Oil Serum ที่คิสเคยได้ใช้งานมาก่อนหน้านี้จากแบรนด์อื่น สัมผัสเบายิ่งกว่า Dry Oil คือรู้สึกเหมือนใช้พรีเอสเซนส์ในการบำรุงผิว แต่ให้ความสัมผัสที่รู้สึกถึงความ Bouncy ของผิวได้เลยในเช้าวันถัดมา คิสขอเปรียบเทียบว่า ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าผิวหน้าได้รับโอเอซิส ประมาณนั้นเลย มัน Absorb ลงผิวไวมากๆ 

....และให้ความรู้สึกกระจ่างใสแค่ข้ามคืน??...

เรื่องผิวดูขาวขึ้นคิสแปลกใจ เพราะมีเปิดใช้ Oil มาแล้วหลายตัว เป็นออยล์บำรุงผิวหน้าโดยเฉพาะ สกัดออแกนิค ใช้สารบำรุงมารวมกัน ได้ผลดีแต่ไม่เคยรู้สึกถึงความกระจ่างใสของผิวมาก่อน

คิสรู้สึกว่าผิวขาวขึ้นในตอนแรก แต่ก็ไม่ชัวร์ว่ามันขาวได้ยังไง

ส่วนผสมของ AOE มันมีเยอะมากๆค่ะ เรียกว่าสารบำรุงผิวอัดแน่นมาแบบล้นทะลักทุกหยด เนื้อบางจนคิสรู้สึกว่าตัวเอง underestimate ไปมากเลย มันสารสกัดจากลิโคริซที่ทุกคนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่ตัวนี้เห็นผลจริงๆ คงเป็นเพราะสารตัวอื่นๆด้วย

คิสขออธิบายผลการใช้เชิงเปรียบเทียบง่ายๆนะคะ พอเจอ AOE เข้าไปแล้วรู้เลยว่าที่ทาเซรั่มบำรุงมาก่อนหน้านี้ เหมือนดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ คือผิวรู้สึกตื่น ทำงานได้

แต่ AOE เหมือน Doppio คือเหมือนเอสเพรสโซ่มาบีบอัดให้เหลือในอัตราส่วนที่เล็กกว่ามากๆ กลายเป็นทาครีม ทาอะไรมาทั้งเดือนยังไม่ทันใจเท่าตัวนี้เลย มันเข้มข้นมากจริงๆ ตอนที่ซื้อคิสไม่ได้อ่านรีวิวของใครก่อนด้วย เพราะมันออกมาสดๆร้อนๆ คิสขอนิยามเองว่ามันคือ Super-food ของผิวชัดๆ

คือการที่ทำให้เห็นผลได้แบบ significant ว่าผิวฟูอิ่มน้ำ ทั้งๆล้างหน้าแล้วก็ยังฟูแน่นอยู่ คิสไม่เคยเจอมาก่อนเลย ย้ำ ไม่เคยเลย แม้จะใช้ต่อเนื่องก็ตาม ใช้แค่คืนแรก ตื่นมาผิวใสกริ๊งซะจนอยากจะเรียกว่าเป็น Miracle ในรูปแบบขวด เป็นออยล์เปลี่ยนชีวิตของคิสเลย เว่อร์ไปมั๊ย 55 ถ้าเจอกับตัวจะเข้าใจฟิลลิ่งค่ะ

ตอนแรกคิสสงสัยมากๆว่าทำไมชื่อAimingแต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว เพราะเป็นสกินแคร์ที่ตรงเข้าไปแก้ไขปัญหาผิวได้เลยทันที รู้สึกว่าผิวได้รับการฟื้นฟูขั้นสุด โดยเฉพาะปัญหาที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับริ้วรอย และปัญหาผิวเรื้อรังต่างๆ เรียกว่ารู้หน้าที่แล้วจัดการเลย ไม่ต้องรอ

และ First Impression สำหรับคิสก็ไม่พ้นเรื่องกลิ่น สัมผัสแรกให้หอมกลิ่นสารสกัด Essential Oils เข้มข้นทำให้รู้สึกผ่อนคลายให้ทันที คิสเป็นคนที่ชอบกลิ่นค่อนข้างยาก แต่กลิ่นตัวนี้ให้สัมผัสที่ดีมาก เหมือนได้ทำสปาในผิวหน้าทุกคืนและทุกครั้งที่ใช้    

Background ผิวคิส (อ่านข้ามได้ค่ะ)

คิสเป็นคนนึงที่มีปัญหาผิวหนักมาก หนักตั้งแต่ภายในคือฮอร์โมนผิดปรกติ ทำให้สภาพผิวมีรอยต่างๆที่ไม่ใช่แค่รอยแผล รอยสิว แต่เป็นรอยคล้ำจุดด่างดำที่ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ บวกเข้ากับมีปัญหาเรื่อง Inner Dry Skin ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้หญิงไทยหลายๆคนอาจจะไม่รู้ตัวเอง

Inner Dry Skin เป็นปัญหาท๊อปฮิตสำหรับคนเมืองที่อยู่ในสภาพอากาศแบบHumidอย่างประเทศไทย ทำให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาเยอะ ในขณะที่ผิวด้านในนั้นแห้งผาก ขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น ผลคือทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และมีผิวที่มัน โทรมง่าย ทาแป้งไม่ติดผิว เครื่องสำอางหลุดง่ายระหว่างวัน

สิ่งที่เราเข้าใจผิด หรือหลายคนอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่ยังไม่จัดการปัญหา เพราะยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงในระยะยาว คิสเป็นคนนึงเคยที่ปล่อยปะละเลยมาก่อน เพราะคิดว่าตัวเองผิวมัน ไม่ต้องใช้บำรุงผิวหน้ามาก ยิ่งออยล์ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องวิ่งหนีให้ไกลที่สุด





คิสใช้ออยล์บำรุงผิวหน้าต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มอายุ30จนถึงตอนนี้ก็34แล้ว จากเดิมที่มีปัญหา คนทักว่าทำไมผิวมัน แต่มีริ้วรอย ไปทำอะไรมา คิสใช้ออยล์จนรู้สึกได้ด้วยตัวเอง และคนรอบข้างก็ทักว่าผิวละเอียดขึ้น ดู inner glow ไม่ใช่ผิวหน้ามันๆเมือกๆแบบแต่ก่อน แต่แน่นอนว่าจะค่อยๆเปลี่ยนแปลง ให้อดทนในการดูแลผิวค่ะ คิสรับรองว่าผลลัพธ์หายเหนื่อยและคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน

FAQมือใหม่หัดใช้ออยล์

ใช้ออยล์ที่วางขายทั่วไปได้มั๊ย??

คิสมีคนรู้จักหลายๆคนที่ใช้น้ำมันบำรุงผิวแบบสกัดเย็น บางคนทะลึ่งถึงขั้นเอาน้ำมันมะกอกมาทาหน้ายังมี

ทำได้มั๊ย?? ทำได้ค่ะ แต่เสี่ยงมากที่ผิวจะอุดตัน เกิดปัญหาสิว และอาจจะลามไปทำให้ผิวเสียได้ในระยะยาว แทนทีจะเกิดผลดี กลายเป็นผิวรอวันพังแทน

แล้วออยล์ประเภทอื่นละ??

มีออยล์บำรุงหลายประเภทที่สามารถใช้บำรุงผิวเราได้ ซึ่งหลักๆจะเป็นการ”ปรุง”น้ำมันด้วยตัวเดี่ยวๆ และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งออยล์ที่ใช้ในการบำรุงผิวหน้าโดยเฉพาะจะมีอนุพันธ์ที่เล็กและมีเนื้อสัมผัสที่ละเอียดกว่า สามารถซึมเข้าไปบำรุงผิวได้ทันที ทำให้ผิวได้รับ ”สารอาหาร” แบบรวดเร็วและเห็นชัดเจน

ถ้าเป็นน้ำมันทั่วไป จะช่วยทำหน้าที่ในการ Hydrate และเคลือบผิว ทำให้ไม่สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงให้ผิว ช่วยทำให้ผิวไม่แห้งได้ตลอดทั้งคืน ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติตามประเภทต่างๆของออยล์ที่เราเลือกใช้ แต่ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการเข้าไปฟื้นฟูบำรุงผิวหน้า ซึ่งอันนี้ใครใช้ออยล์และเปลี่ยนมาใช้ออยล์แบบปรุง (ภาษาเทคนิคของการบำรุงผิวคือ Oil Cocktail) จะรู้สึกแน่นอนว่ามันให้ผลที่แตกต่างแบบรู้เลยได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ทั้งสัมผัส ทั้งผลลัพธ์

ซึ่งคิสเองถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะเริ่มใช้ออยล์ตั้งแต่ตอนยัง 20 แล้ว เพราะการ prevent ผิวมันดีและง่ายกว่าการแก้ไขปัญหาผิวเยอะ ส่วนตัวคิสนะ ออยล์นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดและรวดเร็วมากๆเมื่อเทียบกับผลที่เราได้รับ

ใช้แบบไหนถึงดี??

สำหรับ Oil Cocktail คิสเคยอ่านมาจากแมกกาซีน Sweet ของญี่ปุ่นมานานมากๆแล้ว เรียกว่าเป็นเคล็ดลับหน้าเด็กของสาวๆที่นั่น และคิสรู้ คุณรู้ โลกรู้ ญี่ปุ่นนับเป็นดินแดนเทพเจ้าแห่งความงาม การผสมออยล์เข้ากับกลุ่มเซรั่มหรืออาหารผิวอื่นๆ นับว่าเป็นเคล็ดลับง่ายๆที่คนไทยหลายคนนึกไม่ถึง

การใช้ออยล์ให้ได้วิธีสูงสุด สำหรับออยล์อื่นๆ สำคัญตั้งแต่การเลือก,การวอร์ม และการปรุงเพิ่ม

วิธีการใช้Aiming Oil

สำหรับ AOE ตัวนี้ความแตกต่างคือเป็นออยล์ที่ทำ Cocktail มาเสร็จแล้ว พร้อมลงได้ทันที เพราะอัดแน่นด้วยสารบำรุงล้วนๆแบบจัดเต็ม ทำหน้าที่เป็นทั้งเซรั่มบูสเตอร์,พรีเอสเซนส์ และเอสเซนส์ในตัวเดียวกัน

คนที่มีสภาพผิว Inner Dry Skin, Dry Skin คิสแนะนำให้ใช้ทั้งเช้าและเย็น

ส่วน Combination Skin, Oily Skin, Prone Skin ขอแนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนก็พอค่ะ*

*คิสตั้งใจจะใช้แค่ตอนกลางคืนนะคะ แต่สุดท้ายก็เอามาใช้ตอนเช้าด้วย ผิวinner glowสวยมากกก ไม่อยากแต่งหน้าต่อเลย

เวลาใช้ได้เลยทันทีหลังเช็ดโทนเนอร์เสร็จ ถ้ามีการใช้พรีเซรั่มอื่นๆร่วม สามารถลงที่หลังได้โดยที่ไม่ต้องวอร์ม ใช้ได้ทั้งแบบผสมและไม่ผสม

ทริคการใช้AOE

จากที่คิสใช้ AOE มาครึ่งเดือนทั้งเช้าเย็น สัมผัสเบาเหมือนเอสเซนส์บำรุงผิว จะใช้แบบ Layer ก็ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกับการผสมกับเซรั่ม / กด1-2ปั๊ม แล้วตบลงบนผิว และลงเซรั่ม Layer ต่อได้เลยทันทีโดยไม่ต้องรอ เพราะ texture จะเบามากซึมเข้าผิวค่อนข้างเร็ว เทียบกับที่เคยใช้มาทั้งชีวิต ตัวนี้เบาที่สุด ไม่ต้องนวดต่อเลย

สำหรับใครที่ชอบนวดผิว หรือนวดออยล์ คิสไม่แนะนำให้ใช้ AOE นวดสักเท่าไหร่ แต่ถ้าชอบจริงๆ ใช้ออยล์อื่นๆผสมก็ได้ในอัตราส่วน1:1หรือมากกว่านั้น เพราะเนื้อ AOE เบามากจริงๆ กว่าจะนวด เอสเซนส์ก็ซึมเข้าไปแล้วค่ะ

ทริคอีกข้อนึงเกี่ยวกับการใช้ “Oil” ทุกๆประเภทในการดูแลผิวหน้าและผิวตัวคือ “จังหวะ” ในการลง หลายคนไม่ชอบใช้ออยล์เพราะความเหนอะหนะ ถ้าลงให้ถูกจังหวะจะไม่รู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ

หลังจากล้างหน้าและเช็ดหน้าเสร็จใหม่ๆ ผิวเราจะ “หิวน้ำ” แบบสุดๆ คิสเรียกภาวะนี้ว่า thirst นะคะ ในช่วงเวลาที่ผิวเธิสมากๆ เราสามารถใช้น้ำเอสเซนส์และออยล์ลงในจังหวะนี้แบบเร็วที่สุด ห้ามทิ้งเอาไว้นาน หลายคนอาจจะเข้าใจว่าผิวหน้าที่แห้งจะทำให้ซึมได้ไวที่สุด ไม่จริงค่ะ ไม่ต้องรอให้ผิวแห้งสนิท ถ้ามีเอสเซนส์หรือโลชั่นน้ำตบให้ลงแล้วตามได้เลยทันที จะซึมไวมากๆ ถ้าเป็นออยล์ตัวอื่นอาจจะต้องผสมเซรั่มหรือเอสเซนส์เพื่อให้เกิดผลดีที่สุด แต่ถ้าเป็น AOE คือไม่ต้องแล้ว

...IMHO...

Texture: เนื้อออยล์มีความเป็น Dry Oil ชัดเจน และเนื้อบางที่สุดตั้งแต่คิสเคยใช้มา ใช้แล้วซึมเข้าผิวทันที รู้สึก Hydrate ทันทีแต่ไม่เหนอะเลย เป็นสัมผัสที่แปลกมากๆ เพราะต่อให้ Dry Oil แค่ไหนก็ไม่ได้ให้สัมผัสที่เหมือนกับผิวหน้ามีความ Thirst จนรับสารบำรุงไปได้แบบรวดเร็วขนาดนี้

Scent: พูดถึงแล้วก็อยากจะพูดถึงอีกรอบว่ามันหอมมากกกกก ผ่อนคลายเหมือนกับเข้าสปาผิว หอมจนต้องขอบีเอดูกล่องว่ามีส่วนผสมเป็นน้ำหอมรึป่าว แต่ไม่มีเลย เป็น essencial oil จากธรรมชาติล้วนๆจริงๆ สุดยอดมากเรื่องกลิ่น ไปทดสอบกันได้ค่ะ คิสว่าจะหลงรักตั้งแต่ยังไม่ได้ลงผิวหน้าเลย

Color: เป็นสีเหลืองอ่อนๆแบบเนื้ออยล์สกัดจากธรรมชาติ

Package: เรื่องรูปแบบมินิมอลของ THREE ที่คิสเชื่อว่าทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้ว ทั้ง Sturdy และหรูหราแบบไม่เอะอะ แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Dispenser ตั้งแต่ใช้ออยล์มาเกิน10ยี่ห้อ คิสสงสัยมาตลอดว่าทำไมถึงต้องเป็นขวดแบบ Dropper เพราะข้อเสียเยอะมากๆ ทั้งการกะปริมาณ การเก็บความสดใหม่ของน้ำมันบำรุง รวมถึงสิ่งที่สำคัญมากๆกับคิสคือ “กลิ่น” เพราะหลายๆขวด คิสต้องทิ้งไปทั้งๆที่ใช้ยังไม่ถึงครึ่งขวดดีเพราะกลิ่นเปลี่ยนจากการสัมผัสอากาศ

ตัวนี้เป็น Dispenser แบบหัวปั๊ม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการกะปริมาณ และไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บคุณภาพของออยล์ตั้งแต่หยดแรกไปจนหยดสุดท้าย

อันนี้เป็นข้อมูลของสินค้านะคะ ขอบคุณref.ค่ะ

ข้อดีและประสิทธิภาพ

· ช่วยบรรเทาริ้วรอยความเสียหายของผิวคืนความกระชับยืดหยุ่น

· เติมความชุ่มชื่นและคุณค่าบำรุงสู่ผิวได้อย่างดีเยี่ยมผิวนุ่มนวลไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ

· เนื้อออยล์โมเลกุลขนาดเดียวกันกับน้ำมันบนผิว ซึมซาบลึกล้ำ (ซึมเข้าสู่ผิวหนังชั้นhorny layer) ตรงเข้าดูแลความเสียหายของผิวได้ทันที ช่วยให้ผิวกลับสมดุล แลดูกระจ่างใส เปล่งประกายอย่างยั่งยืน

· เนื้อออยล์บางเบาช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกอย่างอ่อนโยนมุ่งเน้นรักษาสมดุลภายในเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

Essential Oilที่ผสมในสูตรเฉพาะของAiming

1.Licorice root extract สารสกัดจากรากของชะเอมหรือพืชที่เรียกว่า "Kanzo"ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งหมายถึง "หญ้าหวาน"ประกอบด้วย glycyrrhizin และ glabridin ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปลอบประโลมผิวและป้องกันปัญหาผิว

2.Althaea officinalis root extract สารสกัดจากรากของไม้ยืนต้นที่มีชื่อในญี่ปุ่น "Birodo aoi"  รากของมันมีกรด แอสพารติค เพคตินและแทนนิน นอกจากจะมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื่นนุ่มนวล แล้วยังช่วยลดอาการอักเสบ และป้องกันปัญหาผิวพรรณ

3.Fennel oil น้ำมันจากเมล็ดเฟนเนล ให้กลิ่นหอมแบบ "เผ็ดร้อน" สะท้อนความมั่นใจจากภายในสู่ผิวพรรณอันเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา

4.Geranium oil น้ำมันจากเจอเรเนียม หรือที่รู้จักกันว่าRose Geranium  มอบกลิ่นหอมคล้ายดอกกุหลาบ กลิ่นหอมหวาน และสดชื่นเหมือนผลเลมอนจะช่วยให้คุณรู้สึกสดใส

5. Rose oil น้ำมันจากกุหลาบDamaskซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม“ราชินีแห่งดอกกุหลาบ”กลิ่นหอมให้ความรู้สึกหรูหรา นำพาความสุข เป็นเอสเซนเชียลออยล์ที่ปลุกเสน่ห์แห่งความเป็นผู้หญิงในตัวคุณออกมา นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการลดเลือนริ้วรอยและดูแลปัญหาผิวพรรณได้มากมาย

อันนี้คือหลังจากใช้ไปแล้ว 3 วัน คิสเพิ่งคิดจะทำรีวิวค่ะ -  -"

ถัดมาอีก 3 วันค่ะ ไม่รู้คนอื่นจะเห็นว่ายังไง แต่คิสรู้สึกตัวเองว่าดีขึ้นมากๆค่ะ

ขอเอารูปตัวอื่นที่หมายหัวไว้มาลงด้วยนะคะ คิสขออนุญาตบีเอถ่ายแล้วค่ะ

โพสยาวมากกกก น่าจะยาวที่สุดเท่าที่คิสทำรีวิวมาเลย แต่เป็นตัวที่คิสตั้งตารอวันที่จะเข้ามาขายเมืองไทยเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ และพอได้ใช้ตัวนี้แล้วคิสรู้สึกดีกับการใช้ Cocktail oil มากๆ ไม่หยุดใช้แน่นอน (อาจจะต้องมีสลับไปใช้ตัวอื่นแล้วค่อยวนกลับมาใหม่ เพื่อให้ผิวมันตื่นเรื่อยๆ)

และก็ยิ่งทำให้อยากได้ตัวอื่นๆของAimingมาใช้ด้วยกัน แต่ขอคิสเคลียร์ของเก่าที่มีอยู่ให้พร่องไปก่อน รับรองว่าเราได้เจอกันแน่นอน ของเค้าดีจริงๆ