NickyOkawa มาเปิดกรุโต๊ะเครื่องแป้ง

48 14
เคยสัญญากับน้องฟริ้งเอาไว้ค่ะ ว่าจะเปิดกรุเมคอัพสกินแคร์ที่มีทั้งหมดให้ดู
หลังจากนั้นก็หายไปเลย เพราะงานค่อนข้างยุ่ง วันนี้พร้อมแล้ว
แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าโต๊ะเครื่องแป้งนิกกี้เป็นชั้นวางของ 6 ช่อง
ที่หาได้ตามห้างขายปลีกและร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป
ไม่มีชั้นวางของ Alex 9 Drawers จาก IKEA
ไม่มีลิ้นชักอะคริลิกของ Muji
ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งสีขาวสวยๆ ของ INDEX
เน้นรียูสของเก่าล้วนๆ เช่น ชั้นของเก่าในบ้าน กล่องขนม กระป๋องคุกกี้
คิดซะว่าเผื่อเป็นไอเดียสำหรับคนที่งบน้อยนะคะ

อีกเรื่องคือแสงในภาพส่วนมากไม่ค่อยดี ส่วนนึงเพราะฝีมือถ่ายรูปห่วย
และอีกอย่างคือ นิกกี้วางชั้นเหล่านี้ไกลจากหน้าต่าง
ป้องกันเรื่องเมคอัพสกินแคร์น้ำหอมเสื่อมสภาพเร็ว
เวลาถ่ายรูปเลยลำบากมากๆ จะมีบางรูปที่เอาของออกจากชั้นมาถ่าย
เพื่อให้เห็นข้าวของชัดกว่าการวางไว้ในช่องในชั้นนะคะ
ไปดูกันดีกว่า ว่าของที่นิกกี้มีเยอะอย่างที่คิดกันไว้รึเปล่า
ชั้น 6 ช่องนี้มีตำนาน นิกกี้กับพี่สาวซื้อมาจากโลตัสอ่อนนุช
เพราะมันลดเหลือเพียง 199 บาท!!!
และยอมแบกขึ้นรถไฟฟ้ามาที่หอพักแถวทองหล่อ โคตะระหนัก
และพบว่า ต่อเองไม่ได้ ต้องจ้างช่างเสียเงินอีกร้อยนึง
พอย้ายกลับมาอยู่บ้านนอก ตัดใจทิ้งไม่ได้ค่ะ เพราะรักมากจริงๆ
เลยเอามาประยุกต์เป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบยืนแต่งหน้าเอา
ส่วนชั้นวางของ 3 ชั้นสีชมพู เป็นของเก่าของน้องสาวตั้งแต่สมัยมัธยม
ถูกวางทิ้งไว้ฝุ่นจับอยู่มุมหนึ่งของบ้าน นิกกี้เลยเอามาใช้
ตรงขามันไม่ค่อยแข็งแรง เคลื่อนย้ายแล้วถล่มค่ะ
แต่ถ้าอยู่กับที่เฉยๆ จะใส่ของได้เยอะมาก ไม่ล้มแน่นอน
มาเริ่มกันที่ด้านบนสุดนะคะ

1. มีลิ้นชัก 12 ช่อง ใส่พวกเมคอัพชิ้นเล็กชิ้นน้อย

2. ราวเหล็กสำหรับที่คาดผม สายคาดผมสำหรับไปออกกำลังกาย
อันนี้เป็นของเก่าในบ้าน เอามาทาสีใหม่ และติดสติกเกอร์ปิดความถลอก

3. กระดาษเช็ดหน้า ทิชชู่เปียก และมาส์คโคลนของ Fresh

4. กระจกทรงกลมส่องได้ 2 ด้าน

5 ด้านหลังเป็นกระปุกแก้ว แม่ได้มาเป็นของขวัญปีใหม่และยกให้
นิกกี้เลยเอามาใส่สำลีแผ่นและคอตตอนบัดค่ะ

6. สีดำๆ คือที่วางมือถือ เอาไว้ดูคลิปตอนทาครีมแต่หน้าเช้าเย็น

7. ที่ว่างๆ ด้านซ้ายสุด ก่อนนอนจะวางแว่นตาไว้ที่นี่
และของระเกะระกะแล้วแต่วันไหนจะวางอะไร เช่น น้ำตาเทียม
ฟองน้ำซับหน้ามันที่ซักแล้ว ลิปที่อยากใช้พรุ่งนี้ และที่วางโทรศัพท์มือถือ
มาดูลิ้นชัก 12 ช่องกันดีกว่า อันนี้ของฟรีเช่นกันค่ะ พี่สาวสั่งมาไม่เคยใช้
ทิ้งไว้อยู่มุมๆ ในบ้านเช่นกัน เราก็ไปดอยมาซะเลย
วัสดุเป็นพลาสติกธรรมดาค่ะ ข้อเสียคือใช้ไปนานๆ 
พอมันเลอะแล้วเช็ดไม่ออกค่ะ
ด้านหน้ามันเลยขุ่นๆ มองไม่เห็นข้างด้านในซะงั้น
แถวบน จะเปิดยากนิดนึงเพราะขาของราวเก็บที่คาดผมมาบังไว้นิดๆ 
เลยจะใส่ของที่ไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ

ช่องที่ 1 สติกเกอร์ติดตาสองชั้น แผ่นปิดสิว

ช่องที่ 2 ปกติจะใส่แต่กรรไกร แต่คุชชั่นตัวนี้ไม่มีที่ไว้แล้วเอามาใส่ในนี้

ช่องที่ 3 ของกระจุกกระจิก เช่น แหนบ ที่ตัดเล็บ ที่กดสิว ยางวง สายวัดตัว

ช่องที่ 4 แว่นสายตาค่ะ มีหลายอันไว้เปลี่ยน
แถวกลาง จะเป็นของที่ใช้บ่อยค่ะ

ช่องที่ 5 ปกติลิ้นชักอันนี้จะมีแผ่นพลาสติกมาให้ใช้กั้นเป็นช่องๆ ได้
ช่องนี้เราเลยกั้นเป็น 3 ช่อง เอาไว้ใส่ลิปสติกแท่งสั้นๆ กับลิปมัน

ช่องที่ 6 ช่องนี้ใส่ลิปสติกเหมือนกัน เน้นแท่งยาวๆ
แต่ลิปมันของ Fresh เอาไว้ในนี้เพราะเป็นตัวโปรด จะได้หยิบใช้ง่ายๆ

ช่องที่ 7 อายไพรเมอร์ ลิปจิ้มจุ่มของ MTI แต่นิกกี้เอามาทำเป็นอายแชโดว์แบบน้ำ
มีพาเลตต์เล็กๆ อีก 2 อัน และผงพิกเมนต์ค่ะ

ช่องที่ 8 งานแท่งๆ ทั้งหลาย เช่น ดินสอเขียนคิ้ว คอนซีลเลอร์ คอเรคเตอร์
อายไลเนอร์ทั้งแบบเมจิคกับดินสอ และไฮไลท์ใต้ตา
แถวสุดท้าย เปิดยาก แอบฝืดๆ แต่ก็ใส่ของที่ใช้บ่อยกว่าแถวบนสุด

ช่องที่ 9 สกินแคร์หลอดเล็กๆ เช่น อายครีม ยาแต้มสิว และไพรเมอร์หน้า

ช่องที่ 10 แป้งฝุ่น แป้งตลับ และพัฟซึ่งต้องซักเปลี่ยนทุกอาทิตย์

ช่องที่ 11 งานแก้ม มีทั้งบลัชออน บรอนเซอร์ และไฮไลท์
แต่เป็นคนรูขุมขนกว้าง เลยจะไม่ค่อยปัดแก้มเท่าไหร่ เหลาหน้าแล้วก็จบ

ช่องที่ 12 งานที่ดัดขนตา มาสคาร่า และกบเหลาดินสอต่างๆ
จากนั้นก็มาพูดชั้นสีชมพูก่อนละกัน เพราะเจ้า 6 ช่องมันต้องใช้พลังงานเยอะ
ชั้นสีชมพูจริงๆ มันขวางหน้าประตูตู้เสื้อผ้า แต่ตู้นั้น นิกกี้เอาไว้ใส่ชุดไปงานแต่งงาน
เลยไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ จึงไม่ถึงกับเกะกะมากนัก
 
และถ้าใครสงสัยว่ากระดาษทิชชู่สำลีไปไหนหมด
เฉลยว่า ไม่มีที่เก็บแล้วค่า แต่ก่อนก็อยู่ชั้นสีชมพูนี่แหละ
แต่บ้าไง ตุนไว้เยอะไง เหมือนร้านของชำเลยไง
สรุป เลยต้องย้ายไปเก็บไว้ด้านบนตู้เสื้อผ้าข้างๆ
ว่าแต่คนเราจำเป็นต้องมีทิชชู่กับทิชชู่เปียกเยอะขนาดนี้เลยเหรอ
ชั้นบนสุด แบ่งเป็น 3 ส่วน

ฝั่งซ้าย งานผมต่างๆ มีทั้งสเปรย์ฉีดผมให้อยู่ทรง ดรายแชมพู สเปรย์ย้อมผม
น้ำมันบำรุง สเปรย์ฉีดผมหอม แปรงหวีผม Tangle Teezer และหวีอื่นๆ
แอบมีคอตตอนบัดชนิดแข็งมากเลยไม่ค่อยใช้ กับแป้งฝุ่นทานาคาอยู่ด้วย
แป้งเราเอาไว้โรยเวลาผมมัน หลังๆ ใช้ดรายแชมพูแล้วชอบคันศีรษะค่ะ

ฝั่งขวา เป็นโซนทำเล็บ มีทั้งยาทาเล็บ ล้างเล็บ ตะไบ และอื่นๆ
มีขวดแอลกอฮอล์วางไว้ตรงนี้ด้วย นิกกี้เอาไว้ใช้เช็ดกรรไกร แหนบ
ที่กดสิว และต่างหูที่ใส่เสร็จแล้ว เพื่อฆ่าเชื้อค่ะ

ฝั่งด้านหน้า เป็นน้ำหอมที่ใช้อยู่ตอนที่ถ่ายรูปค่ะ เบื่อๆ ก็เปลี่ยนกลิ่น
เอาขวดอื่นมาวางแทนบ้าง แต่หลักๆ ที่ต้องอยู่บนนี้คือ J.Lo Still
กับ Elizabeth Arden Green Tea ค่ะ
และมีที่เก็บฟองน้ำไข่ของ Beauty Blender ที่ซื้อมาแต่เพิ่งแกะใช้ด้วย
ชั้นที่ 2 แบ่งเป็น 4 ส่วน

กล่องสีชมพู อยู่ด้านในและล่างสุด มองจากด้านหน้าไม่เห็นค่ะ
มันแถมมากับของใช้ในบ้านซักอย่าง ใส่น้ำหอมขวดที่ยังไม่ใช้
เอาไว้สลับกับน้ำหอมที่อยู่ชั้นบนสุดที่พูดถึงไปแล้ว

กล่องด้านบน (ถาดกระดาษใส่โค้กกระป๋อง) ใส่พวกคอนแทคเลนส์เป็นหลัก
อย่างอื่นๆ มาเสริมไม่ให้ของมันล้มแค่นั้นเอง เช่น สเปรย์น้ำแร่

กล่องใหญ่ด้านหน้าสุด อดีตเคยใส่พวกตุ๊กตาหรืออะไรที่ได้มาเป็นของขวัญ
ปัจจุบันหลักๆ จะใส่พวกคลีนซิ่งเช็ดหน้ากับโฟมล้างหน้าค่ะ

ฝั่งซ้าย จะเป็นมาส์คชีท ที่ดึงออกมาจากกรุ สำหรับหยิบใช้ได้สะดวก
ปกติจะเอาไว้ประมาณ 10-15 แผ่น ใช้หมดแล้วค่อยไปรื้อในกรุออกมาเติม
ชั้นที่ 3 แบ่งเป็น 2 ส่วน
ด้านหลัง กล่องพลาสติกของแถมห้าง ใส่พวกขวดใหญ่ๆ ทั้งแชมพู สบู่ โลชั่น กันแดดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน คือของใช้ในห้องน้ำทั้งหลายแหล่

ด้านหน้า เป็นเจลล้างมือ ครีมมะขามขัดตัว สบู่ ของจุ๊กจิ๊ก
และของชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้สำหรับใช้ตอนเดินทางค่ะ
ปิดท้ายด้วยชั้นวางของ 6 ช่องกัน (ปาดเหงื่อเพราะเยอะมาก)

ช่องที่ 1

ฝั่งขวา อยู่ในกล่องกระดาษที่เคยใส่กาวร้อน เอามาติดสติกเกอร์นิดหน่อย
หลักๆ จะเป็นสกินแคร์ รวมทั้งกันแดดแล้วก็รองพื้นค่ะ

ฝั่งขวาเป็นบอดี้แคร์ โลชั่น ครีมทามือทาเท้า ที่ล้างแปรง
รวมทั้งโรลออน เพราะบางทีก็ลืมทามาจากในห้องน้ำ
ขี้เกียจเดินกลับไปทาใหม่ ถึงระยะห่างจะแค่ 5 ก้าวก็เถอะ
ช่องที่ 2

ฝั่งซ้ายเป็นพาเลตต์ยาวๆ ที่ใส่ในลิ้นชัก 12 ช่องด้านบนไม่ได้
ตอนนี้มี UD Naked 3, Too Faced Sweet Peach
แล้วก็ Hourglass Ambient Lighting Edit
สามอันนี้สลับกันใช้แทบทุกวัน ใช้ยังไงก็ไม่ฮิตแพนสักหลุม

ถัดมา เป็นลิปจิ้มจุ่มในกล่องกระดาษสีทอง
มีแปรงปัดแก้มเดี่ยว Bisous Bisous ที่วางโดดๆ เพราะหาที่วางไม่ได้

กล่องสีเหลืองๆ คือกล่องกระปุก Laneige Sleeping Mask
ตัดฝาออกเอามาห่อกระดาษห่อของขวัญเหลือๆ
ใส่แปรงเล็กๆ พวกแปรงแต่งตาทาปากเขียนคิ้วค่ะ
 
ฝากล่องขนมใสๆ เล็กๆ ใส่พวกยางมัดผม กิ๊บดำ เข็มกลัด หยิบง่ายดีค่ะ
ด้านข้างคือแปรงปัดแป้งแบบพกพาของ Catrice
เห็นซองเลอะๆ แบบนี้ เพราะเอาแอลกอฮอล์เช็ดยังไม่ออกเลยค่ะ
แต่กระเป๋ามันดีนะคะ ยังไม่พังเลย แปรงก็ทนมากๆ เช่นกัน

และแปรงแต่งหน้าทั้งหมด อยู่ในที่ใส่ช้อนส้อมจากร้าน 20 บาท
มันมี 3 ช่อง ช่องแรกสุดเลยจะเป็นแปรงที่ใช้อยู่ และพอเอาไปซัก
เราจะวนแปรงช่องที่ 2 และที่ 3 มาใช้งาน แปรงที่ซักแล้วจะไปอยู่ช่องหลังสุดค่ะ
ช่องที่ 3

ชั้นตรงกลางจะหยิบของยากสุด เพราะยืนก็หยิบไม่ได้ นั่งก็หยิบไม่ถนัด ต้องย่อเข่า
เลยจะเอาไว้ใส่ของที่ไม่ค่อยได้ใช้ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน

ตะกร้าไม้ เป็นของขวัญปีใหม่ ใส่ผลิตภัณฑ์ของดอยคำ
หลังจากที่แยกของกินออก นิกกี้เห็นมันนั่งหงอยอยู่ในบ้านเลยเอามาใช้งาน
ข้างในจะเป็นแว่นกันแดด ขนตาปลอมที่ใช้อยู่และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กรรไกร
ใช่ค่ะ นิกกี้ใช้กรรไกรแยกกัน  ระหว่างกรรไกรตัดของทั่วไปที่อยู่ในลิ้นชัก
และกรรไกรตัดขนตาปลอมพร้อมที่ปิดสำหรับพกไปไหนมาไหนด้วย
แหนบปากโค้ง กล่องพลาสติกแบ่งเป็นช่องๆ ของ Muji
กล่องสีชมพูคือขนตาปลอมยี่ห้อ Pieces Please
พาเลตต์แม่เหล็กสำหรับคนที่อยากแกะอายแชโดว์มาแปะทำ DIY Palette เอง
แว่นกันแดดที่ใช้กันแดดจริงจัง เช่น Rayban
แปรงแบบพกพาของ Cute Press กับ Bisous Bisous
ซึ่งก่อนเก็บเข้ามาในนี้ นิกกี้จะซักก่อน เวลารีบๆ ก็หยิบใช้ได้เลย

ช่องที่ 3 (ต่อ)

กล่องสีชมพู คือกล่องคุกกี้ของขวัญปีใหม่ ใส่ขนตาปลอมสต็อก
มีของ Meilinda กล่องดำ, Miche Bloomin สีม่วง และของญี่ปุ่น

กล่องกระดาษสีน้ำตาลด้านขวา คืออดีตกล่องใส่กล้องวงจรปิด
ปัจจุบัน กล่องนึงใส่แว่นกันแดดแฟชั่นที่ซื้อมาอันละร้อยสองร้อย

อีกกล่องใส่ขนตาปลอม Pieces Please กล่องชมพูเพราะมันล้นจากกล่องคุกกี้
ข้างนอกก็ยังมีสกินแคร์ของ Fresh กระเป๋า Innisfree Snoopy
แล้วก็กระป๋องแปรงพกพา Cute Press x My Melody
ช่องที่ 4

ด้านนี้เป็นเครื่องประดับทั้งหมดค่ะ ต่างหู แหวน สร้อย ที่ติดผมต่างๆ
ชั้นต่างหูพลาสติกสีขาว ซื้อมา 20 ไม่ก็ 50 บาท
ใส่แต่ต่างหูยาวๆ ที่ใส่กล่องแบนไม่ได้ โละอันพังๆ ทิ้งไปเยอะ เลยเหลือเท่านี้

และด้านขวา กล่องสีน้ำตาลด้านในสุดจะใส่โรลหนาม
สีขาวขนๆ คือที่คาดผมที่ได้มาจาก Innisfree x Snoopy
กระป๋องคิทแคทลายธงชาติเยอรมนีมีพวกกิ๊บดำ
ยางรัดผมสีดำในถุงเอาไว้สำรอง ถ้าชั้นบนหมดก็เอาตรงนี้ไปเติม

ในกล่องใสทรงกระบอกกลมเป็นยางมัดผม ซื้อจาก Flynow Outlet หัวหิน
จำได้เพราะกลับบ้านมานั่งคิดในใจว่าทำไมไปซื้อยางมัดผมไกลบ้านเหลือเกิน
แถมมันโคตรแน่น มัดแล้วปวดหัวอีกต่างหาก หลายปีเลยยังใช้ไม่หมดซักที

และสุดท้ายคือสเปรย์ดับกลิ่นผ้าอับจาก Miniso ค่ะ ขวดนี้เป็นกลิ่น Ocean
ช่องที่ 4 (ต่อ)

กล่องใสๆ ด้านล่าง แบ่งเป็นช่องๆ พร้อมฟองน้ำรอง
ซื้อมาไม่แพง แต่จำราคาแน่นอนไม่ได้แล้ว
ใส่ต่างหู 2 กล่อง เป็นต่างหูแบบติดหูเป็นหลัก
นิกกี้มีแบบนี้เยอะ ส่วนใหญ่เป็นพวกคู่ละ 20 บาท
เพราะชอบใส่แล้วทำหายทุกงาน เลยเข็ด ใส่อันถูกๆ นี่แหละ จบ

อีกกล่องใส่เครื่องประดับอื่นๆ เช่น แหวน สร้อยคอ ส่วนมากมีแต่ของถูกๆ
เพราะถ้าทำหายจะได้ไม่ร้องไห้ด้วยความเสียดาย

ด้านหลัง เป็นกล่องกระดาษ เอา MT Tape มาพันรอบ
ใส่ต่างหูรุ่นโปรดทั้งแผงของ H&M
กล่องสตรอว์เบอร์รี่ ซื้อมาจาก Daiso ได้ 2 กล่องในราคา 60 บาท
เอาไว้ใส่ต่างหูยามพกพา เพราะมันเด่นและหาในกระเป๋าง่ายดี

ส่วนกล่องใสๆ ที่มีนาฬิกา (ซึ่งพังหมดแล้วแต่ยังตัดใจทิ้งไม่ลง)
เป็นกล่องช็อกโกแลต Ferraro Rocher ของขวัญปีใหม่เช่นกัน

ด้านหลังสุดเป็นกล่องพลาสติกสีขาวๆ 2 กล่อง ซื้อจากร้าน 20 บาท
กล่องแรกเอามาใส่สร้อยคอกับกำไลข้อมือ
อีกกล่องใส่ต่างหูบางคู่ที่ล้นจากกล่องด้านหน้า หรือไม่ก็ใหญ่เกิน
และงานผมอีกจำนวนหนึ่ง
ช่องที่ 5 

ชั้นล่างสุดคือชั้นที่....หนักใจที่สุด ของเยอะที่สุด และจัดบ่อยที่สุด
มีกล่องเล็กกล่องน้อยอัดแน่นไปหมด เวลาหยิบทีต้องค่อยๆ หยิบออกมา
หลักๆ จะเป็นสกินแคร์ที่ตุนไว้รอการใช้

กล่องพลาสติกใสๆ มาจากกล่องใส่มาส์คชีทของ Innisfree
ตอนนั้นบ้าซื้อ ได้มาหลายกล่อง พอมาส์คหมด เราก็เอามาใส่มาส์คตัวอื่นบ้าง
ใส่แฮนด์ครีมบ้าง ส่วนกระเป๋านั่นเป็นของ The Face Shop รุ่น Dr. Belmeur ค่ะ
ช่องที่ 5 (ต่อ)

เริ่มต้นด้วย 5 กล่อง เป็นมาส์คชีทยี่ห้อต่างๆ My Beauty Diary, Oguma
และ For Beloved One และเซ็ตไพรเมอร์ของ Benefit ตัวโปรดของนิกกี้

ต่อมาเป็นสกินแคร์ไซส์ใหญ่ ใส่กล่องไหนก็ไม่ได้ เลยวางไว้เดี่ยวๆ ด้านนอกสุด

ปิดท้ายด้วยกล่องสีชมพูของขวัญจาก Innisfree
กล่องใส่สบู่จาก Innisfree เช่นกัน เอาใส่อย่างอื่นด้วย
เซ็ตของขวัญ Beauty Blender ปีที่แล้วซื้อ 2 กล่องเลยใช้ยังไม่หมด
และกล่องเซ็ต Yaewadum ของขวัญจาก The Face Shop ค่ะ
ช่องที่ 5 (ต่อ)

กล่องเหล็กสีน้ำเงิน เป็นกล่องขนมไหว้พระจันทร์จาก Starbucks
กินหมดแล้ว เอามาใส่แป้งตลับที่ล้นมาจากช่องที่ 6 (ซึ่งยังไม่ได้พูดถึง)
และสกินแคร์ขนาดทดลองที่ได้แถมมา ส่วนมากเป็นแบรนด์เกาหลีค่ะ
Innisfree กับ The Face Shop นี่ขยันแจกเทสเตอร์มากจริงๆ

กล่องพลาสติกสีน้ำเงินอีก 4 กล่อง เอามาจากที่ใส่สินค้าที่บ้านขาย
พอขายหมดแล้วไม่ทิ้งนะคะ นิกกี้จะใส่สกินแคร์ทั้งเล็กและใหญ่ค่ะ
มีกล่องเดียวที่ไม่เหมือนใคร จะเป็นแพ็คเก็จ M.A.C ที่หมดแล้ว
เพื่อเอาไปแลกลิปสติกค่ะ ตอนนี้ครบ 6 ชิ้นแล้วแต่ยังไม่ได้ไปแลกสักที
ช่องที่ 6

ช่องสุดท้าย มีลิ้นชักพลาสติก 2 อัน หาซื้อได้ทั่วไปตามโลตัสบิ๊กซีเลยค่า
พูดถึงลิ้นชักสี่สีด้านซ้ายก่อนนะคะ แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ดังนี้

ชั้นที่ 1 แปะป้ายไว้ว่า Tester
แต่ปัจจุบัน เทสเตอร์เยอะจนได้ไปอยู่กับสกินแคร์ในช่องที่ 5 แล้วค่ะ
ชั้นนี้เลยเอาไว้ใส่กระดาษซับมัน กับบรรดาสติกเกอร์น้องฟริ้งแทน

ชั้นที่ 2 แปะป้ายไว้ว่า ฟองน้ำ
นิกกี้เอาไว้ใส่พัฟกับฟองน้ำจริงค่ะ มีสบู่ล้างแปรงด้วย

ชั้นที่ 3 แปะป้ายไว้ว่า กันแดด
เอาไว้ใส่กันแดดหน้าค่ะ แต่ช่วงนี้ของล้นมากกกก

ชั้นที่ 4 แปะป้ายไว้ว่า รองพื้น + Primer
ตอนนี้ไม่มีรองพื้นสำรองหรือตุนไว้ เลยเอากันแดดมีสีแนว BB CC มาใส่แทน
มาที่ฝั่งขวากันบ้างค่ะ นี่คือลิ้นชักของรักของหวงของนิกกี้เลย
ชั้นที่ 1 แปะป้ายรูปปาก เพราะมันคือชั้นใส่ลิปสติกทั้งหมดทั้งมวล
ล้นจนแทบดึงลิ้นชักเข้าออกไม่ได้แล้วค่ะ ต้องงดซื้อก่อน

ชั้นที่ 2 แปะป้ายว่า Blush on & Eyeshadow
เชื่อไหมคะว่า ของในนี้มี 2 ชิ้นที่ซื้อมาเอง นอกนั้นฟรีหมด
นั่นคืออายแชโดว์ของ Zoeva กับ Benfit Hoola Lite ค่ะ

ชั้นที่ 3 แปะป้ายว่า Eyes ส่วนใหญ่จะเป็นงานแท่งๆ
เช่น อายไลเนอร์ ที่เขียนคิ้ว คอนซีลเลอร์ กาวติดขนตาปลอม มาสคาร่า

ชั้นที่ 4 แปะป้ายว่า Powder แป้งเยอะมากกกกกกกค่ะ
ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรนักหนา ถึงจะใช้แป้งหมดเก่งก็เหอะ ใช้ไม่ทันการซื้อแล้ว
พองดซื้อลิป ก็มาซื้อกันแดดกับแป้งแทน คนบ้า!!!!
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการเปิดกรุเมคอัพสกินแคร์ข้าวของทั้งหมดของนิกกี้
รูปเยอะมากกกกกกกกก เป็นกระทู้ที่จัดเต็มที่สุดแล้วค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
และขอบคุณน้องฟริ้งที่ให้ไอเดียในการทำกระทู้นี้นะคะ
วันนี้ไปนอนแล้ว ง่วงมาก บ๊ายบายค่ะ


NickyOkawa

NickyOkawa

ชื่อนิกกี้ อายุ 30 กว่าๆ บ้าช็อปปิ้ง เขียนเก่ง ถ่ายรูปห่วย

FULL PROFILE