] HOW TO [ Flawless Romance Blur | 3 สเต็ปให้ผิวเนียน แต่งหน้าเบาๆ สไตล์สาวญี่ปุ่น โทนชมพูนัวๆ

24 3

ช่วงนี้ ตองยังคงอินกับ โทนแต่งหน้าสีชมพูอยู่ค่ะ


วันนี้เค้าเอาฮาวทู + เห่อของเล่นใหม่


มาแต่งหน้าสไตล์สาวญี่ปุ่น ผิวกริบ แต่ไม่หนา งานเบาๆ

ดูสดใสเป็นธรรมชาติ ให้ดูกันน๊าาาาาา

Before

ก็จะรอยเยอะๆ หน่อย


After

3 สเต็ป ได้ผิวกริบเบอร์นี้แต่เบาสุดๆเลย

ของที่ใช้ ก็จะประมาณนี้น๊าาาาาาา มีของเล่นใหม่ตรึมเลยยยย ~


มาเริ่มกันเลยดีกว่าน๊าาาา

หลังจากลงสกินแคร์ และกันแดดเรียบร้อยแล้วว

ฮาวทูภาพนิ่ง เลื่อนลงเลยน๊าาาา

STEP

: กลบรูขุมขนและเบลอผิว

เนื่องจากช่วงนี้พักผ่อนน้อย รูขุมขนกว้างสุดด เลยขอกลบรูขุมขนและเบลอผิวด้วย Primer แบบลิควิดของ Hourglass ก่อน และต่อด้วย Airlift wand ของ Three เก็บบริเวณที่รูขุมขนกว้างๆ และกังวลเป็นพิเศษ ด้วยการปาด และค่อยๆ ใช้นิ้วแท็ปๆ นะคะ

หลังจากนั้นมาต่อที่ ไอเท็ม ที่เห่อใหม่ล่าสุด ๕๕๕๕๕

Flawless Fit | #FN40

Covermark


เค้าเป็นรองพื้นเนื้อครีมอัดแข็งค่ะ ตอนแรกอยากลองเล่นแบบแป้ง


เจอพี่ๆ เค้าลงตัวนี้ให้ ก็เคลิ้มเลยจ้าาาา ~

มาแต่งหน้าก่อน เดี๋ยวมาเม้าส์มอยเพิ่มด้านล่างน๊าาาา

STEP

: ลงรองพื้นให้ผิวกริบง่ายๆ 3 สเต็ป

สเต็ปการลงรองพื้น ที่ปาดตามกล้ามเนื้อของหน้า เลเยอร์แรก เพื่อปกปิด

ใช้พัฟปาดเนื้อรองพื้น จากตลับ 1 ที ก็ลงได้ครึ่งหน้าค่ะ 

โดยการลงรองพื้นตัวนี้ ไม่ยากเลย แต่มีทริคที่เค้าแนะนำมาจ้าาา


STEP 1

เลเยอร์ที่ 1 คือการปกปิดผิวทั้งหมด

จับพัฟให้แนบไปกับหน้าค่ะ


( 1 )

ลงบริเวณหน้าแก้ม ปาดขึ้นตามกล้ามเนื้อหน้าค่ะ


( 2 & 3 )

แก้มส่วนล่างและคาง ให้ลากลงออกไปตามกรอบหน้าค่ะ


( 4 )

บริเวณหน้าผาก ใช้ตัวรองพื้นที่เหลือบนพัฟเลย ปาดขึ้นเป็นเหมือนใบพัด

ออกไปทางกรอบหน้า


ที่เหลือบนพัฟนิดหน่อย เค้าก็กดๆลงบริเวณจมูกค่ะ

เค้าจะไม่ลงบริเวณจมูกเยอะมากจ้าาาา


STEP 2

ต่อด้วยเลเยอร์ที่ 2


ตอนลองที่เคาร์เตอร์ เป็นสเต็ปที่ทำให้เปลี่ยนใจมาชอบตัวนี้แทน

STEP

: ลงสเต็ปที่ 2

เลเยอร์ที่ 2 ที่กดลงบริเวณที่ต้องการปกปิด กด และแท็ป ให้ความปกปิด แบบ Full แต่ไม่หนา ดีงามมากก

เลเยอร์ที่ 2

สำหรับ เก็บรายละเอียด กลบรอยทั้งหลาย และลงใต้ตา


จับพัฟให้เป็นมุม และแท็ปๆตัวรองพื้นขึ้นมา

หลังจากนั้น ก็กดลงบริเวณที่เป็นรอยที่ต้องการกลบนั่นเองค่ะ


และก็แท็ปๆ ให้เนียนไปกับผิว



STEP 3

สเต็ปสุดท้ายที่ มักทำเป็นปกติอยู่แล้ว

STEP

: สเต็ปสุดท้าย

คือการใช้พัฟแท็ปๆ ให้ทั่วทั้งหน้าให้รองพื้นเนียนไปกับผิวนั่นเองคร่าาาา ก็ได้ผิวกริบ บางเบา แบบธรรมชาติ

STEP

: งานแก้ม เบาๆ สดใส นัวๆ และเซทงานผิว

( 1 ) แตะตัวบรัชแบบน้ำ #95 เป็นแนวนอนคาดหน้า ให้อยู่ช่วงแก้มด้านบน ให้แก้มดูสดใส และชมพูจากด้านในค่ะ | ( 2 ) เซทผิวด้วยแป้งฝุ่น ให้ทั่วทั้งหน้า | ( 3 ) ลง Face Blush บนแป้งอีกทีค่ะ จะให้แก้มที่มีความวาว เป็นประกาย และสดใส จบปิ๊งงานแก้ม ไม่ต้องแตะไฮไลท์เลยจ้า

วันนี้เค้าเอาพาเลท NAKED Cherry มาใช้


สำหรับงานตาวันนี้ จะเป็นงานเบาๆ แต่ดูโรแมนติค ด้วยความเบลอๆ และฟุ้งค่ะ

จะไม่ได้เน้นให้สีดูชัดมาก แต่จะเบลนให้ฟุ้ง และลงสีให้ทับกันแบบฟุ้งๆนะคะ

STEP

: ลงอายแชโดว์งานตาแบบฟุ้งๆ ง่ายๆ

( 1 ) แตะสี A #CAUTION สีเบจเนื้อแมท เป็นเบสให้ทั่วทั้งเปลือกตา และเบลนให้ฟุ้ง เลยขึ้นไปเหนือรอยพับตาค่ะ | ( 2 & 3 ) B #FEELZ สีชมพูตุ่ม เนื้อแมท ลงให้ทั่วเปลือกตาบนเบลนให้ถึงแค่รอยพับตาค่ะ และขอบตาล่าง | ( 4 ) C #JUICY แตะสีพีชสว่าง ลงบริเวณกึ่งกลางเปลือกตา ให้ดูสว่างขึ้น เป็นอันจบงานอายแชโดว์แล้วจ้าาาา

STEP

: งานตา และ คิ้วใกล้เสร็จแล้วค่ะ

( 1 ) ใช้ 24/7 Glide-on Eye Pencil #Black Market | Urban Decay ถมบริเวณโคนขนตาบน ไม่ต้องขยี้หนัก แค่ให้โคนขนตาชัดขึ้นค่ะ | ( 2 ) ดัดขนตา | ( 3 ) ปัดขนตาทั้งบนและล่างได้เลยจ้าาา Killer Volume Mascara | ZA | ( 4 ) สำหรับงานคิ้ว Diamond Cut #Darkbrown | Crayon เค้าจะไม่เขียนโครงคิ้วนะคะ สำหรับลุคนี้ เพราะส่วนมากนางแบบสาวญี่ปุ่น จะมีคิ้วที่ดูบางปานกลาง เช่น Kiko เป็นต้น จะใช้ ดินสอ เขียนเส้นตามแนวคิ้ว และลากหางออกไปให้ชัด แค่นั้น วาดขนคิ้วเพิ่มบริเวณหัวคิ้ว นิดหน่อย แต่ไม่เบลนจ้าาา

ใกล้จะเสร็จแล้วจ้าาาาาาา


สำหรับงานปาก ให้ลุคดูสดใสและโรแมนติค

เลยเลือกใช้ สีชมพูจ้าาา

STEP

: งานปาก และ เติมกระเบาๆ เป็นอันจบ

( 1 ) MM Mineral Matter Lip Paint #02 | Babybright ลงสีให้ทั่วแต่ไม่ตัดขอบปากเช่นเคยจ้าาาาา และใช้หัวแปรงที่มาในลิป ให้การเบลนให้ลิปบริเวณขอบปากเบลอๆนิดหน่อยคร่า | ( 2 ) มาต่อที่สุดท้ายยยสำหรับลุคนี้คร่าาา แอบไปเห็นลุคของ KIKO มา แล้วเค้ามีกระ ก็แตะสีน้ำตาลในพาเลทตา และจุดๆ เป็นกระบางๆค่ะ | ( 3 ) หลังจากนั้นใช้พัฟรองพื้น ที่มีเนื้อรองพื้นเหลืออยู่ แท็ปๆ ทับด้านบนอีกที เป็นอันจบปิ๊งงงง สำหรับลุค Flawless Romance Blur ค่ะ

ขอมาเห่อของกันซักนิด มาป้ายยาให้เพื่อนๆ กันซักหน่อย


จริงๆต้องบอกก่อนเลย สำหรับแบรนด์

COVERMARK


เค้าได้ยินชื่อเสียงมานานมากกกก ตั้งแต่ตอนยังเรียนร่วมไปถึงช่วงกำลังจะรับปริญญา 

( ก็ย้อนไปหลายปีอยู่จ้าา )

ว่าเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ รองพื้น มากกกกกกก


หลังจากลังเลๆ อยู่นาน ก็เลยแวะไปที่เคาร์เตอร์เลยค่ะ

ตอนแรกแอบส่องๆ น้องรองพื้นที่เป็นตัวแป้ง


แต่ด้วยความที่ตัวนี้ น่าสนใจมากๆ และแพคเกจ คือ แนวเค้ามากกก

ความเงาวับ เหลือบโทนสีท่วง เลอค่า ก็เลยบอกพี่ๆเค้าว่า ขอลองเนื้อตัวนี้หน่อยค่ะ

FLAWLESS FIT | 2,600.-

(รีฟิล 1,900.- | ตลับพร้อมฟองน้ำ 700.-)


หลังจากพี่เค้าดูผิวให้ และลองให้ 3 เฉด ก็ได้เฉดที่กลืนไปเลยจ้าาา

ใกล้เคียงกับสีผิวจริงเค้ามากกกกกกกก #FN40 นั่นเองคร่าาา

สำหรับด้านในตลับ เค้าก็จะเป็นตัวรองพื้น และฟองน้ำนะคะ

ซึ่ง พกพาได้ง่ายมากๆ แน่นอน และที่สำคัญคือฝั่งรองพื้นมีฝาปิดล็อคแน่นเลย สบายใจ

ซูมเนื้อ เนียนๆ เป็นรองพื้นแบบครีมที่อัดแข็งแบบเนียนสุดๆ 


ตอนแรกแอบหวั่น เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบใช้รองพื้นแบบครีม

หนึ่งเลย หน้ามัน และกลัวว่าเนื้อเค้าจะหนาเกินไป เพราะอากาศบ้านเรานั้นช่างง ๕๕๕๕


แต่หลังจากที่บอกพี่เค้าว่า เป็นคนชอบปกปิด แต่ชอบงานผิว

พี่เค้าเลยบอก ตัวนี้ คือ ตอบโจทย์มากจ้าาาาา


มาๆ เดี๋ยวเค้ามาลองปาดโชว์ไปพร้อมๆกัน

พอใช้ตัวพัฟปาดออกมา

จะเห็นได้เลยว่า เค้าไม่ใช่ครีมแบบ หนืดดดดดดดด


แต่เค้าเปลี่ยนเป็นเนื้อครีมที่มีความเหลว เหมือนลิควิดแบบเข้มข้นๆเลยน๊าาา


สังเกตุได้จากพัฟเลย เพราะอันนี้ปาดปุ๊ป เค้าซึมลงพัฟปั๊ป

ไม่ใช่รองพื้นครีมเหนียวๆ หนืดๆ ที่เกลี่ยยากๆ แบบที่กลัวแน่นอนจ้าาาาา

ลองปาดลง บริเวณข้อมือให้ดู จะเห็นได้ว่า เนื้อเนียน สม่ำเสมอ

ปกปิด แต่ไม่ดูแมท คนชอบฟินิชแบบผิวๆ ต้องไปลองจ้าาาาาาา


ซึ่งถ้าเป็นคนผิวดีไม่มีรอยมาก อาจจะแค่อยากกลบความแดงของผิว แบบเบาๆ

เลเยอร์เดียวเอาอยู่ และสำหรับเค้าที่มีรอยสิว เลเยอร์ 1 ต่อด้วย 2 คือกริบบบ และไม่หนา

: ความรู้สึกโดยรวม :


เนื้อรองพื้นเป็นครีมที่มีความเหลวเวลาปาดลงผิว และไม่ได้รู้สึกเหนียวค่ะ

ยิ่งเวลาที่เหลือแค่บนพัฟ เวลาปาดลงบริเวณหน้าผาก เค้าให้ความรู้สึกเนื้อละเอียด

เหมือนเนื้อกำมะหยี่ ที่เบา และไม่เหนอะผิวเลย


อันนี้คือปาดรองพื้นเสร็จแล้ว ถ่ายเลย ไม่ได้ลงแป้ง ไม่ได้ลงไฮไลท์


เค้าชอบฟินิชลุคแบบนี้มากกกก เป็นการปกปิดที่กริบ แบบไม่ต้องทำหลายที

จุดนี้คือเลิฟมากกกกกกก และเนียนได้ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ

ไม่หนาเหมือนโบกอีกต่างหาก ที่สำคัญคือ ไม่ดรอปอีกด้วยนะคะ


คือการค้นพบ ที่แท้จริง บอกได้แค่ว่า ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เพราะวันที่ไปลองที่เคาร์เตอร์ เค้าต่อด้วยการไปกินหมูกระทะ และไปเที่ยวกับเพื่อนต่อ

เหงื่อออกเท่าไหร่ ก็ไม่ไหล ไม่เยิ้ม ไม่หนา ได้งานผิวที่สวยมากกกกก


อ่ะเค้าให้ดูความเหลือบม่วง ความเลอค่าของตลับจ้าาาา

สวยมากเน๊าะะะ ( ขออภัยในความเขรอะของมือ ตลับแอบเปรอะเลย ๕๕๕ )

สวยพี่สวยยยย ~ เค้าหมายถึงตลับน๊าาาา คิคิ


-



สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ขอเม้าส์เพิ่มอีกตัว ที่ไม่ได้ตำมา

แต่พี่ๆ เค้าลองให้ตอนไปลองสีที่เคาร์เตอร์นะคะ


เป็น Makeup Base ค่ะ ซึ่งเค้ามี 2 ตัว

Connecting Base ( SPF 38 )

( ราคาพันนิดๆ : 38 มล. )


แต่ตัวนี้คือตอบโจทย์ เพราะปรับสีผิวให้สว่างขึ้น และช่วยควบคุมความมัน

ส่วนตัวแล้วหลังจากลองวันนั้น เค้าชวนคุมความมันจริงๆจ้าาา ลากร่างไปกินหมูกระทะ

ก็ไม่ได้มันเกินนนนนนน ยังดูผิวๆ ดิวอี้ๆ งามๆ ตลอดการกิน ๕๕๕๕๕๕


-

สำหรับวันนี้เค้าเอา ฮาวทู และ รีวิว มาฝากเท่านี้นะคะ

แล้วเจอกันใหม่ น๊าาาา


xoxo


itst.tsunisa

itst.tsunisa

' Makeup is my Therapy '

สวัสดีค่ะ อิทซ์ที..นี่ตองเอง ♥
ชอบทำฮาวทูแต่งหน้าสไตล์แฟนซี ลุคฮาโลวีน เอฟเฟคแบบง่ายๆ และคอนเท้นต์สายบิ้วตี้ รีวิวสกินแคร์ การดูแลผิวสไตล์คนเป็นสิวแบบ Real User ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

FULL PROFILE