เปิดวาร์ป! ทริคดูแลหนังศีรษะดีขึ้นใน 2 เดือน หลังผ่านสมรภูมิเคมีหนักจนผมร่วง

เพราะช่วงวัยรุ่นไม่ได้ยาวนาน อยากทำอะไรได้ต้องรีบทำ! แต่สุดท้ายเป็นไงล่ะ หึหึ ทำจนผมพังพินาศ กลายเป็นคนผมร่วงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ เพราะสารเคมีสะสมอยู่ที่หนังศีรษะ ซึ่งจะขอสารภาพตั้งแต่ 4-5 ปี ที่ผ่านมา คือย้อมผมแบบเป็นบ้า เป็นบอ เพราะมันซื้อมาย้อมเองได้ง่ายๆ ไง  พอผมยาวหน่อย ก็ย้อมทับๆ คืออารมณ์รักสวย รักงามมากเว่อร์ เหมือนย้อมทับทุก 3 เดือน บางครั้งไปร้านทำผม ช่างยังไม่อยากทำให้ เพราะว่าทำถี่เกินไปแล้ว (ซึ่งจริงๆ อย่างน้อยเค้าต้องเว้น 6 เดือนย้อมที) และผ่านการกัดสีผม ฟอกสีผมมาแล้วนับไม่ถ้วน เพราะอยากตามเทรนด์อะเนอะ สีบลอนด์ทองก็ผ่านมาแล้ว และยังไม่จบแค่นั้น ผมเราผ่านทั้งดัดทั้งยืดแบบดิจิตอล เกิน 5 รอบ เพราะอยากมีโดนผมตรง ปลายผมสวยมีวอลลุ่มตั้งแต่ตื่น 

เราทำวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะเหมือนมันเสพติดการทำผมอะ จนเมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้ เราเริ่มรู้สึกว่าสภาพผมของตัวเองมันไม่ไหวแล้วอะ คือแห้งกรอบแบบเหมือนไม้กวาดมากๆ และปัญหาที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราคือ “ผมร่วง” คือเครียดมากกกกก เพราะผมเสียมันยังกู้กลับมาได้ไว แต่ผมร่วงเนี่ย ยากเลย แต่ก็รู้แหละว่าปัญหานี้มันเกิดมาจากที่หนังศีรษะเรามันรับสารเคมีมากเกินไปแล้ว รู้สึกผิดกับหัวตัวเองยังไงไม่รู้ จนเริ่มคิดได้ แล้วหยุดลูปพังๆ แบบนี้ไปเลย เพราะมันร่วงหนักมาก รู้สึกได้เลยว่าผมบางลง หนังศีรษะแสบๆ  จนมีช่วงนึงต้องซื้อแฮร์พีชมาติด T^T แถมมีสิวขึ้นที่กรอบหน้าและหลังอีก ทำให้ไม่มั่นใจในตัวเองสุดๆ และหลังจากนั้นก็เลิกทุกอย่างที่เป็นเคมีๆ และหันรักหนังศีรษะตัวเองมากขึ้น

จนตอนนี้สภาพโดยรวมของผมและหนังศีรษะเราดีขึ้นมากๆ แล้ว ซึ่งเราเริ่มหาตัวช่วยมาใช้เรื่อยๆ ตั้งแต่กลางปี (คือตอนที่รู้ว่าผมร่วงหนักมานั่นแหละ) มันก็มีทั้งดีบ้าง ไม่ดีบ้าง โยนทิ้งบ้าง หามาลองใช้สารพัด จนตอนนี้เหลือไม่กี่อย่างที่เราว่ามันช่วยแก้ปัญหาได้จริงๆ เราเลยจะขอเปิดวาร์ปสิ่งที่เราทำมาตลอด 2 เดือน ที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน กับทริคดูแลเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงในฉบับของเราเอง

เริ่มแรกเราปล่อยผมยาวพอประมาณนึง (แบบไม่ทำสีเพิ่ม) รอๆๆๆ เพื่อที่จะตัดส่วนที่ทำสีนั้นทิ้งไป และตัดสินใจย้อมผมดำครั้งสุดท้าย เพื่อที่จะไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องสีผมขึ้นใหม่ ยึด “ใหม่ ดาวิกา” เป็นแรงบันดาลใจค่ะ 55555555 พอตัดผมสั้นก็เหมือนได้ตัดผมเสียออกไป และผมร่วงก็เหมือนจะร่วงน้อยลงนิดนึง (เพราะผมไม่หนัก ไม่ค่อยพัน เลยไม่ต้องหวีผม หรือจัดแต่งทรงผมเยอะ) แต่อาการผมก็ยังไม่หายอยู่ดี

โละแชมพูที่เกี่ยวกับผมทำสี ผมแห้งเสีย ทรีทเม้นท์บำรุงผมแบบเข้มข้น สเปรย์ แว๊กจัดแต่งทรงผม ให้คนอื่นหมด เพราะอะไรที่เป็นเคมีๆ หรือไม่ธรรมชาติ เราจะไม่ใช้แล้วค่ะ และเปลี่ยนมาใช้ Smooth E Purifying Shampoo แทน ซึ่งใช้ควบคู่กับครีมนวดที่มันมาด้วยกัน ทั้ง 2 ตัวนี้ เหมือนเป็นตัวพระนางที่ช่วยทำให้รากผมเรากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยความตัวนี้เป็นแชมพูเวชสำอางธรรมชาติสูตรอ่อนโยน โดยมีส่วนผสมธรรมชาติจาก Organic Argan Oil, Sunflower Seed Oil และ D-Panthenol และไม่มีสาร SLS,Silicone และ Paraben ที่เป็นสาเหตุหลักทำให้หนังศีรษะของระคายเคือง อักเสบ อาการคัน รังแค และผมร่วง

ซึ่งหลังจากใช้ได้ไม่กี่ครั้ง ก็รู้สึกได้ว่าผมร่วงน้อยลง สังเกตจากเวลาสางผม หรือเวลาหวี เส้นผมจะติดออกมาน้อยลง และพอใช้ได้ประมาณสัก 1 เดือน ก็รู้สึกเหมือนลูกผมจะเยอะขึ้นด้วย สรุปคือเหมือนทั้งคู่ ช่วยลดการหลุดร่วง ทำให้ผมเรางอกใหม่ด้วย และผลพลอยได้คือสิวที่กรอบหน้าและหลังค่อยๆ ลดลงด้วย ดีใจที่สุดก็ตรงนี้

ในข้อนี้เหมาะกับคนที่มีสภาพผมแห้งมากกกกก ถ้าไม่แห้งมากแบบเรา หรือใครเคยทำแล้วผมร่วงก็ข้ามไปได้เลยค่ะ (อันนี้แล้วแต่สภาพหนังศีรษะและเส้นผมของแต่ละคนนะคะ) ซึ่งเราจะไปอบไอน้ำที่ร้าน 3 อาทิตย์ครั้ง (ถ้าทำมากกว่านี้จะกลายเป็นผมแห้งกรอบแทน) เพราะการอบไอน้ำคือการเปิดเกล็ดผมเพื่อให้ทรีทเม้นท์เข้าสู่แกนผมได้เต็มที่

แต่!!! เราจะไม่ใช้ทรีทเม้นท์ของทางร้านนะคะ เราจะเอาครีมนวดตัวข้างบนไปแทน เพราะมันช่วยเรื่องลดผมร่วงและฟื้นฟูผมให้แข็งแรง ซึ่งการอาบไอน้ำมันมีขั้นตอนมากมาย วุ่นวาย ต้องใส่ครีมนวด เอาแล๊ปห่ออาหารมาพันผมก่อนเพื่อให้อาหารผมทั้งหลายไม่ละลายไปกับไอน้ำ และถึงจะอบได้ เราเลยคิดว่าไปทำที่ร้านน่าจะสะดวกกว่า ซึ่งหลังจากทำผมมันก็ทำให้ผมเรานุ่ม มีวอลลุ่มมากขึ้นนะ

หลายคนก็น่ารู้อยู่แล้วเนอะว่ามะกรูดมันสารพัดประโยชน์มากๆ แต่คราวนี้เราใช้เป็นแบบสดๆ เลยจ้า โดยเอามะกรูดสดๆ ประมาณ 4 - 5 ลูก โดยเอานำมาต้มในน้ำร้อนจนนิ่ม แล้วใช้ผ้าขาวบางห่อไว้ บีบและคั้นเอาแต่น้ำของมัน และก็เอามาชโลมให้ทั่วเส้นผมและโคนผม และเราจะเน้นหมักที่กลางหัวตรงที่มีปัญหา หมักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วค่อยสระผมให้สะอาด (คือกลับไปทำตามขั้นที่ 1-3) สูตรนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งนะ แล้วแต่ความขยัน แต่เราทำอาทิตย์ละครั้งพอ เพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาต้ม และเราไม่อยากต้มเก็บไว้นานๆ ส่วนตัวคิดว่าทำสดๆ แล้วมันจะเวิร์คกว่า หลังจากทำติดต่อกันๆ ก็รู้สึกว่าผมหลุดร่วงน้อยลงจริงๆ

สุดท้ายต้องห้ามลืมเติมวิตามินให้ผมมมมมมมด้วย ซึ่งวิตามินตัวแรกเรากินเป็นแบบเม็ด ของ Blackmore Biotin H+ ตัวนี้เป็นวิตามินซีและอีรวมกัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทานวันละเม็ดหลังอาหารเย็น อาการผมหลุดร่วงมันค่อยๆ ดีขึ้น จากที่เราได้บำรุงๆ กันมาข้างต้นเนอะ

ซึ่งวิตามินตัวนี้มันจะช่วยทำให้เส้นผมเราหลุดร่วงน้อยลง และอีกตัวเป็นเซรั่มใส่ผม Smooth E Silk-E Multi-Vitamin hair Serum ที่ช่วยทำให้ผมแข็งแรงขึ้น ฟื้นฟูผมเสีย ลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนตอนไดร์ และ UV และมีช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้นด้วย และที่สำคัญกลิ่นมันหอมมากๆ ไม่เหนียว ไม่มัน พอบีบใส่ผมแล้วมันเงาๆ คือเลิฟมาก เราจะใส่ทุกครั้งหลังสระ หรือสามารถใส่ทุกวันก็ได้ เพราะชอบตรงกลิ่นนี่แหละ

อันนี้เอารูป ก่อน-หลัง มาให้ดูกัน หลังจากปรนนิบัติหนังศีรษะและเส้นผมอย่างจริงจัง คือสุขภาพผมดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ ผมหลุดร่วงน้อยลงเยอะมาก ท่อน้ำไม่ค่อยตันแล้ว 55555 ตอนนี้พอใจผลลัพธ์ที่มันดีขึ้นเรื่อยๆ และก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะใส่เสื้อขาวแล้วไม่เจอผมร่วง!