[My Best Skincare] ที่สุดของปี 2018 เพื่อผิวสดใสแข็งแรง

Garnier - Micellar Oil-Infused Cleansing Water
 

Garnier - Micellar Oil-Infused Cleansing Water เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดได้หมดจด ใช้ได้หมดทั้งหน้า ดวงตา และริมฝีปาก พวก make up ที่ติดทนๆและ make up กันน้ำ เทคโนโลยี Micellar ดูดจับเครื่องสำอางเสมือนแม่เหล็ก ไม่ต้องถูแรง แค่เช็ดเบา ๆ ก็จัดการคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกสะอาดหมดจดถึงรูขุมขน! แถมด้วยเป็นสูตรอ่อนโยนที่ผสม Argan Oil จากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ดูอ่อนเยาว์ ปรับสภาพผิวให้ดูมีสุขภาพดี ไม่ทำให้หน้าแห้ง ตัวนี้ตอบโจทย์การลบเมคอัพที่ยุ่งยากหลายขั้นตอนลงได้มากเลยค่า
เนื้อสัมผัส : ถ้าสังเกตชัด ๆ จะเห็นว่าคลีนซิ่งตัวนี้จะมี 2 ชั้น เป็นชั้นออยล์แยกกับน้ำที่เป็นคลีนซิ่งวอเตอร์ แต่ใช้แล้วก็ไม่ทำให้หน้ามัน เหนียวเหนอะหนะนะจ๊ะ ไม่ทิ้งคราบสกปรกตกค้างหลังเช็ด จึงช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวด้วย (ก่อนใช้ก็อย่าลืม sheck ๆ ให้เข้ากันแล้วเช็ดนะจ๊ะ)
กลิ่น : เปิดฝาเทออกมาได้กลิ่นละมุนมากกกก หอมอ่อนๆ จากกลิ่นของอาร์แกนออยล์นั่นเอง
เหมาะสำหรับ : ใช้ได้กับทุกสภาพผิว และอ่อนโยนต่อผิวหน้าที่เป็นสิวด้วย
ความรู้สึกหลังใช้ : จากที่ใช้มาติดใจก็ตรงที่นางเป็น Cleansing Water ที่ใช้เช็ดได้หมดจนทั้งเมคอัพที่กันน้ำ ไม่ว่าจะวันที่โบะหน้าหน้าหรือแต่งหน้าบาง ๆเช็ดหมด เช็ดตาดางไลน์เนอร์แน่นๆก็ออก ลิปแน่นๆก็หลุดค่ะ สะอาดมาก ส่วนตัวใช้ขวดนี้ก็ไม่ต้องไปพึ่งขวดไหนอีกแล้ว

Physiogel Hypoallergenic Daily Moisture Therapy Dermo Cleanser

ฟิสิโอเจล เป็นคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่มีค่า Ph สมดุลกับผิว ไม่มีสี ไม่มีสบู่ อ่อนโยนต่อผิวสุด ๆ เพราะผ่านการทดสอบในเด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปมาแล้ว ฉะนั้นสาวผิวบาง แพ้ง่าย หายห่วงได้เลยจ้า จะใช้แบบทำความสะอาดผิวแล้วเช็ดออกเลย (แบบ Makeup Remover) หรือใช้น้ำล้างก็ได้ แถมยังช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ได้หน้าเนียนนุ่ม ไม่ตึง ไม่เอี๊ยด หลังทำความสะอาดด้วยล่ะ
เนื้อสัมผัส : คลีนเซอร์เนื้อเนียน เหลว ๆ สีขาวขุ่น ขณะใช้ก็ไม่มีฟอง ถูหน้าไปก็ละมุนไป ไม่บาด รู้สึกเลยว่านิ่มขณะกำลังถู อ่อนโยนต่อผิวหน้าเรามาก
กลิ่น : แทบจะไม่มีกลิ่น คือเป็นกลิ่นหอมอ่อน ไม่ฉุน
เหมาะสำหรับ : .ใช้ได้ทุกคน โดยเฉพาะสำหรับผิวแห้งและแพ้ง่าย
ความรู้สึกหลังใช้ : ถ้าใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ให้ความรู้สึกหน้าละมุนขณะใช้นะ บอกเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์สุด จะรู้สึกว่าผิวหน้าเราบอบบางน่าทะนุถนอมขึ้น หลังล้างก็ได้ลุคหน้าใสกิ๊ง ไม่รู้สึกแห้งตึง หน้าดูชุ่มชื่นขึ้น ใครอยากปลุกผิวตัวเองก่อนลงเมคอัพต้องหยิบตัวนี้มาลองใช้กันดูนะคะ

Kiehl's Calendula Herbal Extract Toner Alcohol-Free

Calendula Herbal เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยปลุกผิว เติมความชุ่มชื้นให้กับหน้าที่เพิ่งจะล้างมาใหม่ ๆ ได้อย่างพอดีสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ใช้แล้วไม่แสบหน้า มีส่วนผสมหลักจากกลีบดอกคาเลนดูล่า (ดอกดาวเรือง) มาเป็นตัวช่วยปรับสภาพให้ผิวนุ่ม สดชื่น ได้ผิวฉ่ำกำลังดี รู้สึกช่วยให้หน้าสะอาด และดูละมุนกับผิวหน้าตัวเองด้วย อิอิ
เนื้อสัมผัส : เนื้อใสๆ สีออกเหลือง ๆ คล้ายกับน้ำเก๊กฮวยเลย ภายในขวดจะมีกลีบ ๆ ของดอกดาวเรืองลอยอยู่ด้วย พอเทใช้แล้วตบหน้าเบา ๆ ก็ซึมแห้งหายเข้าผิวไปไวมาก ไม่มีความเหนอะหนะใด ๆ ทั้งสิ้น
กลิ่น : ดมกลิ่นจากขวดได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกดาวเรือง ไม่ฉุนค่ะ พอใช้ลงผิวหน้ากลิ่นก็หาย ไม่มีกลิ่น
เหมาะสำหรับ : เหมาะกับผิวธรรมดา – ผิวมัน คนผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวก็ใช้ได้จ้า
ความรู้สึกหลังใช้ : ส่วนตัวคงจัดให้เป็นโทนเนอร์ที่ชอบสุดในปีนี้ เพราะชอบที่มันอ่อนโยนต่อผิวหน้านี่แหละ เหมือนกับการช่วยปรับผิว ใช้แล้วสบายต่อหน้าดี ถึงแม้ว่าจะเป็นโทนเนอร์ราคาแพงสุดที่เคยใช้มา ก็เลยใช้อย่างประหยัด แต่ก็ใช้มาได้เกือบทั้งปีเพิ่งจะใกล้หมดนี่แหละ

Sewa Insam Essence

เซวา เป็นพรีเอสเซนส์ที่ใช้บำรุงผิวเป็นประจำทุกวันในขั้นตอนแรกก่อนใช้สกินแคร์ตัวต่อไป มีนางเอกชูโรงคือ โสมที่เป็นส่วนผสมหลักและมีสมุนไพรเกาหลีตัวอื่น ๆ กว่าอีก 30 ชนิดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่ระคายเคืองต่อผิว อย่างพวกแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน และสีต่าง ๆ มีคุณสมบัติเน้น ๆ ในเรื่องลดริ้วรอย กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ทำให้ผิวแน่น กระชับขึ้น ฟื้นฟูผิวให้นุ่ม ชุ่มชื่น ผิวดูอิ่มน้ำ และลดการเกิดของฝ้ากระจุดด่างดำอีกด้วย (คุณสมบัติชุดใหญ่มาก)
เนื้อสัมผัส : เนื้อเป็นน้ำโสมและส่วนผสมของสมุนไพร จึงมีสีน้ำตาลแดง เข้มข้นแต่เบาจ้า ทาแล้วก็ไม่รู้สึกหนักผิว แถมซึมเร็วด้วย
กลิ่น : พอกดออกมาใช้กลิ่นโสมเด่นชัดมากกก ใครที่ชอบแนวนี้ก็จะบอกว่าหอม ใครที่เพิ่งลองใช้อาจจะต้องปรับจมูกให้คุ้นกับกลิ่นนิดหน่อย แต่ก็ทาลงหน้าไปซักพักกลิ่นก็จางหายไปนะคะ
เหมาะสำหรับ : ใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพราะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อันตรายต่อผิว ที่ทำเกิดอาการแพ้ และระคายเคือง
ความรู้สึกหลังใช้ : ขวดนี้เป็นขวดที่สองแล้วล่ะสำหรับปีนี้ ติดใจที่นางเป็นพรีเอสเซ้นส์หรือน้ำตบที่เราเอามาใช้เช้า-เย็นเลยจ้า คืนไหนใช้หน้าหนัก ๆ เอามาใช้กับเม็ดมาสก์เป็นมาสก์หน้า ตื่นมาก็หน้าใสได้ สิ่งที่ได้กลับมาหลังใช้ทุกวันคือความหน้าใสขึ้นจนมีคนทักเลยจ้า ออร่าลง มงลง อิอิ รูขมขนเล็กลง ผิวหน้าละเอียด นิ่มด้วย พูดถึงความคุ้มต่อปริมาณขวดเราว่าโอเลย ใครที่มองหาสกินแคร์ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสแบบธรรมชาติ ตัวนี้ช่วยได้ระดับนึงเลยล่ะ

K-Bright Crystal Bright Water Lock Gel Cream

ใครอยากได้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี คงหนีไม่พ้นผลิตภัณฑ์ค่ายแบรนด์จากเกาหลี อย่าง เค-ไบร์ท ที่มีสารสกัดแร่ธาตุจากเกาหลี  ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นล้ำลึกแบบไม่หนักผิว และปรับสภาพผิวให้นุ่มลื่นในที่สุดด้วยนวัตกรรม Icy-Lock Complex พีคจากความนุ่มผิวแล้วก็ยังช่วยในเรื่องผิวขาวกระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำอีกด้วยนะ
เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่นนะคะ แต่พอแตะลงผิวปุ๊บเนื้อเจลจะเปลี่ยนกลายเป็นหยดน้ำ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะพิเศษของทางแบรนด์เค้าล่ะ ลงผิวแล้วให้ผิวเย็น ๆ สดชื่นมาก ผิวหน้าดูฉ่ำวาว ๆ บอกเลยว่าชอบบบบ 
กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ละมุนติดหน้าเลย
เหมาะสำหรับ : เหมาะกับคนผิวมัน
ความรู้สึกหลังใช้ : อย่างที่บอกไปเลย พอทาลงผิวปุ๊บความอะเมซิ่งของเจล K-Bright ก็กลายเป็นหยดน้ำแตกตัว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ หน้าดูใสออร่าพุ่งออกมาทันที ใช้ไปแล้วก็หน้านุ่มลื่นด้วย จริง ๆ แล้วราคาก็ค่อนข้างแรงอยู่ แต่ส่วนตัวใช้แล้วชอบอ่ะ ปีหน้าก็จะเก็บตังค์ซื้ออีก

Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++

Biore ตัวนี้เป็นครีมกันแดดที่ใช้เป็นประจำทุกวัน ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยและมะเร็งผิวหนัง ด้วยค่า SPF 50+ ปิดท้ายด้วยสกินแคร์ก่อนลงเมคอัพด้วยกันแดดสำหรับผิวหน้าตัวนี้กันเลย
เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเอสเซ้นส์ สูตรน้ำ บางเบา เกลี่ยลงบนหน้าก็ซึมเข้าผิว ให้ความรู้สึกเย็น ๆ ไม่เหนอะหนะผิว ไม่เป็นคราบ ดีค่ะ
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่ะ นี่แหละกลิ่นแบบฉบับบิโอเร
ความรู้สึกหลังใช้ : เป็นกันแดดที่ใช้แล้วเหมือนเป็นสกินแคร์บำรุงผิว รู้สึกเหมือนผิวถูกเคลือบเอาไว้ ด้วยความที่มันเป็นสูตรน้ำก็ไม่ทำให้หน้าลอย แถมยังทาทับเมคอัพระหว่างวันก็ช่วยทำให้ลุคแน่นเหมือนเดิม แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อได้ ดีงามไปอี๊กกก
มาดูหมวดสกินแคร์เซทที่เราจัดมาใช้ก่อนนอน ฟื้นฟูผิวข้ามคืน ให้ตื่นมาหน้าไบรท์ใสกิ๊งกันบ้าง

Clarins double serum

คลาแรงส์ขวดนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัว เป็นมากกว่าซีรั่มธรรมดาทั่วไป คือเป็นเซรั่มสูตรน้ำและน้ำมันด้วยส่วนผสมสกัดจากพืชธรรมชาติกว่า 20 ชนิด ที่ช่วยต่อต้านความเหี่ยว อิอิ ช่วยฟื้นฟูปรับสภาพผิว ให้ผิวหน้าดูอ่อนวัยลงแบบโกงอายุกันไปเลย ถ้าใช้อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น ผิวแน่น รูขุมขนกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง แบบที่มองเห็นออร่าความใสได้ 
เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเซรั่ม+น้ำมัน ครั้งแรกที่ได้ลองใช้ก็คิดว่า เอาละเหวยยย หน้ามันแน่ แต่ที่ไหนซักพักเซรั่มก็ซึมลงผิว หน้าแห้ง เนียน ใสขึ้นซะงั้น ไม่เหนียวไม่เยิ้มอย่างที่คิดไว้เลย
กลิ่น : มีกลิ่นหอมเทอราปีแบบน้ำมันหอมระเหย
เหมาะสำหรับ : เป็นเซรั่มที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยใช้ทาเช้า-กลางคืนก็ได้
ความรู้สึกหลังใช้ : ความชอบแรกที่ใช้ชื่อชอบกลิ่นหอมก่อนเลย ชอบกลิ่นแบบนี้ใช้แล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนผลลัพธ์กับหน้าที่ได้คือความกระจ่างใสของผิวที่เห็นผลเลยค่ะ ราคาค่อนข้างแพง ขวดนึงใช้ได้นานอยู่นะ ถ้าเราใช้อย่างประหยัดหน่อย ใช้หมดแล้วปีหน้าจัดไว้เป็นสกินแคร์ในลิสต์ที่ซื้อใช้ต่ออีกแน่นอน

Blackmores Skin Health Natural Vitamin E Cream

พูดถึงชื่อแบลคมอร์สแทบทุกคนต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชัวร์ แต่เดี๋ยวก่อนตอนนี้ แบลคมอร์ส มีสกินแคร์ดูแลผิวด้วยนะจ้า เป็นแบรนด์ที่จัดให้สาว ๆ ได้สวยทั้งภายในภายนอกกันเลยทีเดียวเชียว Blackmores Natural Vitamin E Cream + Lanolin ไม่ได้ใช้แค่ผิวหน้าอย่างเดียวด้วย แค่ใช้ได้ทั้งผิวตัวเลย มีส่วนผสมด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากอโวคาโด เมล็ดแอพลิคอล และเมล็ดทานตะวัน ที่เป็นตัวช้วยบำรุงผิวแห้ง ๆ ให้ชุ่มชื่นได้ดี แน่นอนไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะความเนเจอรัลที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม และปราศจากพาราเบนค่า
เนื้อสัมผัส :เนื้อครีมสีขาว เนียน เกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับผิว ปรับสภาพผิวให้ดูชุ่มชื่นขึ้นทันทีหลังทา
กลิ่น : แทบจะไม่ได้กลิ่นของเนื้อครีมเลยค่ะ 
เหมาะสำหรับ : สาว ๆ ที่มีผิวแห้งโดยเฉพาะ
ความรู้สึกหลังใช้ : ถือว่าเป็นสกินแคร์น่าใสที่มีขนาดกระทัดรัดไม่เล็กไม่ใหญ่กำลังพอดีสำหรับพกพกเลยล่ะ แถมยังใช้ได้ทั้งหน้า+ผิว วันไหนที่อยากประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าก็แค่พกหลอดนี้ตัวเดียวไปใช้เพิ่มความชุ่มชื่นกับผิวได้เป็นอย่างดีเลย

The Ordinary Vitamin C Suspension 23% + HA Spheres 2%

 

ครีมเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นของ The Ordinary สูตรนี้มีคุณสมบัติเด่น ๆ ช่วยปรับสีผิวให้หน้าสาว ๆ ดูกระจ่างใส ไบรท์ขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นใให้ผิวอิ่มน้ำสุขภาพดี และให้ผิวดูเรียบเนียน และถูกใจสุดสำหรับสาวๆที่เห็นริ้วรอยทั้งตื่นและลึก เพราะตัวช่วยคือ L-ascorbic acid สกัดมาจาก Vitamin C เข้มข้นบริสุทธิ์ และ Sodium Hyaluronate ที่เป็น Hyaluronic acid เตรียมตัวปรับลุคให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้เลยเพื่อนนนนน
เนื้อสัมผัส : เซรั่มเป็นเนื้อผงละเอียด เข้มสีขาวขุ่น ทาแล้วก็รู้สึกได้ว่ามันมีผง ๆ แตกต่างจากเซรั่มตัวอื่นมาก ๆ 
กลิ่น : คล้าย ๆ พวกยาเวชภัณฑ์
เหมาะสำหรับ :เหมาะกับผิวหน้ามัน หรือหน้าที่มีรอยดำรอยแดงต่างๆ และไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายเพราะอาจจะทำให้เกิดระคายเคืองได้
ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าตอนแรกแอบซื้อตามรีวิวตามคนอื่น เลือกสูตรนี้มาใช้เพื่อปรับผิวหน้าตัวเองให้ดูใสขึ้น เวลาใช้บีบออกมาเท่าเมล็ดถั่วนิดเดียว ไม่ต้องเยอะ เอาไว้ทาหลังพวกโทนเนอร์หรือสกินแคร์สูตรมีน้ำ แนะนำให้ใช้กลางคืนแล้วตื่นมาล้างออกตอนเช้าจะได้ประสิทธิภาพขึ้นค่ะ (ต้องบอกไว้ก่อนสำหรับคนที่ตัดสินใจใช้ ในช่วง 1-2 วีคแรกที่ใช้อาจมีอาการคันเล็ก ๆ ซึ่งเป็นอาการปกติของการใช้วิตามินซีเข้มข้น) ใครอยากแก้ปัญหาตรงจุดเรื่องผิวหมอง เน้นหน้าใส ช่วยทำให้หน้าขาวใสและทำให้จุดด่างดำจางลง สำหรับแบรนด์สกินแคร์หลักร้อยตัวนี้เราว่าตอบโจทย์เลยจ้า

B-Blanc Youth Lifting Eye Cream

ใครที่มีปัญหาตาแพนด้า มาทางนี้จ้า อายครีมที่ช่วยบำรุงและลดรอยคล้ำใต้ตาได้ดีมากอยู่ตรงนี้ การันตีด้วย รางวัลจากนิตยสาร Cosmopolitan ประเทศญี่ปุ่นว่าเป็น The Best Eye Cream For Dark Circleห เลยนะ B-Blanc Youth Lifting Eye Cream จัดเป็นครีมบำรุงผิวรอบดวงตา ที่ช่วยบำรุงและยกกระชับผิวรอบดวงตา ลดรอยคล้ำใต้ตา และริ้วรอยดูลดเลือนลง ไม่ทำให้รอบดวงตาดูเป็นแพนด้า อิอิ
อายครีมเข้มข้นไม่แพ้ครีม บีบมาเท่าเม็ดถั่วเขียวก็ทาได้ 2 ข้าง อายครีมตัวนี้เพิ่มความชุ่มชิ้นให้ใต้ตาได้ดีมาก เห็นผลเรื่องริ้วรอยชัดเพราะริ้วรอยใต้ตาดูตื้นขึ้น ผิวเต่งขึ้นใช้มาเดือนนึงเห็นชัดว่าใต้ตาดูอ่อนล้าน้อยลงมากๆ
เนื้อสัมผัส : เป็นอายครีมเนื้อเข้มข้นไม่แพ้ครีมบำรุงผิวเลย บีบออกจากหลอด (ที่คล้าย ๆ กับเข้มฉีดยา) ออกมานิดเดียวก็ทารอบดวงตาได้ทั้งสองข้าง
ให้ความรู้สึกมัน ๆ ชุ่มชื่น เคลือบผิวรอบดวงตามากอ่ะ
กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ 
ความรู้สึกหลังใช้ : พอซื้อมาลองใช้ดูก็สังเกตุว่าตาไม่คล้ำขึ้น รอยคล้ำก็จางลง ให้ความชุ่มชื้นใต้ตาได้ดี ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่บริเวณตาก็ดูไม่เห็นเด่นชัด ได้ดวงตาคู่กระจ่างใส ใช้เป็นประจำคู่กับสกินแคร์ตัวโปรดนี่เดินหน้าสดตัวปลิวออกจากบ้านได้เลย ไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์เลย อิอิ เขียนเองก็เขินเองอีกละ ><

Laneige Lip Sleeping Mask

ขอปิดท้ายเซทสกินแคร์ที่สุดของปี 2018 ด้วยงานเกาอีกตัว เพราะว่าเราเป็นคนที่ปากแห้ง (แถมอดอยากบ้างบางเดือน) พอได้ Laneige Lip Sleeping Mask ขนาดทดลองมาลองใช้ (ไซส์จริงจะขนาด 20 กรัม แล้วก็มีที่ตักให้ด้วย) เห้ยยย.. คือดีย์อะ นางเป็นลิปทรีทเมนต์มาสก์สูตรเข้มข้น ที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับริมฝีปากที่เอาไว้มาสก์ปากข้ามคืนกันไปเลย ตื่นเช้ามาได้สีปากระเรือ ๆ ชุ่มชื่นขึ้น หรือสำหรับคนที่ปากแห้งจริงจังจะเอาไว้ใช้เป็นลิปบาล์มทากันปากแห้งระหว่างวันก็ได้
เนื้อสัมผัส : เนื้อลิปมาส์กเป็นเนื้อเจลบางเบาคล้าย ๆ กับเยลลี่ สีชมพู้ ชมพู หวาน ๆ พาสเทล
กลิ่น : กลิ่นหวาน น่ากิน กลิ่นเบอรรี่ ทาลงปากแล้วรู้สึกปากชุ่ม ๆ ซ่า ๆ เย็นปากนิดหน่อย
เหมาะสำหรับ : ผิวปากแห้ง ลอก เป็นขุย
ความรู้สึกหลังใช้ : คือได้เห็นรีวิวตัวนี้จากหลายเค้าว่าดีมากกก เลยลองไปสอยขนาดทดลองมาใช้ ก็ได้ผลดีเกินคาดแหะ เน้นเอาไว้ทาก่อนนอนข้ามคืนนี่แหละ ตื่นเช้ามาปากไม่แห้ง ชุ่มชื่น จะได้ทาลิปแดง ๆ ได้ปากเด้ง ๆ สวยไปทำงาน พอหมดกระปุกทดลองจิ๋วนี่แล้วจะไปสอยของจริงมาใช้ต่อ เห็นเข้าว่าใช้ได้นานอยู่นะ